รีวิว HUAWEI MatePad Pro 13.2″ แท็บเล็ตเรือธงรุ่นล่าสุดของ HUAWEI ที่อัปขนาดให้ใหญ่ที่สุด และดีที่สุดด้วยจอ Flexible OLED ขนาด 13.2″ ลื่นไหลระดับ 144Hz, ใช้ชิปเซ็ต Kirin 9000W ที่กลับมาอย่างเต็มรูปแบบ, มีลำโพงจัดเต็มถึง 6 ตัว และที่ขาดไม่ได้คืออุปกรณ์เสริมอย่าง M-Pencil รุ่นที่ 3 รองรับแรงกดถึง 10,000 ระดับ พร้อม Smart Magnetic Keyboard ใหม่ที่ใช้งานได้ครอบคลุมมากขึ้น แค่ไฮไลท์สเปคก็น่าสนใจแล้วใช่ไหมล่ะ งั้นเรามาติดตาม รีวิว HUAWEI MatePad Pro 13.2″ ไปพร้อม ๆ กันเลยครับ!
สรุปสเปค HUAWEI MatePad Pro 13.2″
- หน้าจอ : Flexible OLED ขนาด 13.2”, อัตราส่วน 3:2
- ความละเอียด : 2.8K (2880 x 1920 พิกเซล), ความสว่างสูงสุด 1000nits
- แสดงผลสีสัน : 10-Bit (1.07 พันล้านสี), ความเที่ยงตรงของสี ΔE＜1
- refresh rate : 144Hz
- ชิปเซ็ต : Kirin 9000W Octa-Core
- RAM : 12GB
- ROM : 512GB
- แบตเตอรี่ : 10,100mAh
- ระบบชาร์จ : HUAWEI SuperCharge 66W
- กล้องหลัง : 2 ตัว
- 13MP กล้องหลัก f/1.8
- 8MP กล้อง Ultra Wide angle มุมกว้าง 120° f/2.2
- กล้องหน้า : 16MP f/2.2 + ToF
- การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.2, NearLink และพอร์ต USB-C (USB 3.1 Gen 1)
- ลำโพง : Stereo Speaker 6 ตัวพร้อมระบบเสียง HUAWEI Spund
- ระบบปฏิบัติการ : HarmonyOS 4
- ขนาดตัวเครื่อง : 289.1 x 196.1 x 5.5 มม.
- น้ำหนัก : 580 กรัม
- สีสัน : สีเขียว
หน้าจอ 13.2″ ใหญ่เบิ้มที่สุดจาก HUAWEI
เริ่มต้นกันที่หน้าจอก่อนเลย HUAWEI MatePad Pro 13.2″ มาพร้อมจอ Flexible OLED ขนาด 13.2″ ตามชื่อรุ่น บนอัตราส่วน 3:2 ซึ่งนี่ถือเป็นแท็บเล็ตขนาดที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่ HUAWEI เคยทำมาเลยครับ ความใหญ่โตอลังการนี้ทำเราทึ่งไม่น้อย เพราะนอกจากจะใหญ่สุด ๆ แล้วยังมีขอบหน้าจอที่บางเฉียบแบบสุด ๆ
คิดเป็นเปอร์เซนต์ HUAWEI MatePad Pro 13.2″ นั้นใช้พื้นที่หน้าจอด้านหน้าไปได้มากถึง 94% เลยทีเดียวครับ ถือว่าสูงที่สุดเครื่องหนึ่งในอุตสาหกรรมแท็บเล็ตเลยก็ว่าได้ครับ
และด้วยความที่หน้าจอเต็มขนาดนี้ ขอบจอบางเฉียบสุด ๆ จึงทำให้กล้องหน้าที่มีเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ร่วมกับเซ็นเซอร์ ToF นั้นต้องยื่นออกมาเป็นรอยบากเลยเลยครับ
ส่วนเรื่องการแสดงผลไม่ใช่แค่ใหญ่อย่างเดียว แต่ยังคมชัดและสมจริงอีกด้วย HUAWEI MatePad Pro 13.2″ มาพร้อมความละเอียดหน้าจอระดับ 2.8K (2880 x 1920 พิกเซล) แสดงผลสีสันได้ถึง 1.07 พันล้านสี มีมาตรฐาน P3 Premium Color Management อีกทั้งยังมีค่าความเที่ยงตรงของสีที่ ΔE＜1 อีก จึงทำให้สีสันนั้นสวยงามและสมจริงสุด ๆ เลย
นอกจากนี้ตัวหน้าจอยังเคลือบ Magnetron nano-optics ที่ลดแสงสะท้อนได้เป็นอย่างดี บวกกับความสว่างหน้าจอที่เร่งได้สูงสุดถึง 1000nits ทำให้เราใช้งานได้อย่างสบายตาแม้อยู่ในที่แสงมาก ๆ หรือในที่แสงน้อยก็มีมาตรฐาน TÜV Rheinland Eye Comfort 3.0 มั่นใจได้เลยว่าจอของ MatePad Pro 13.2″ นั้นจะลดแสงสีฟ้าที่เป็นอันตรายต่อตัวตาเราได้อย่างดีอีก!
ลื่นไหลระดับ 144Hz
แต่ความสวยงามของจอยังไม่ใช่จุดเด่นเดียวของ HUAWEI MatePad Pro 13.2″ หรอก เพราะการตอบสนองก็ทำได้ดีมากเช่นกัน รุ่นนี้ได้ Refresh rate สูงถึง 144Hz เรียกว่าไวติดนิ้วเอามาก ๆ ยิ่งในการเลื่อนหน้าจอไป-มา หรือแตะเข้าแอป สลับแอปนี่สมูทสุด ๆ ไปเลย
บอดี้เรียบหรู งานประกอบยอดเยี่ยมสมกับเป็น HUAWEI
พลิกมาดูรอบ ๆ ตัวเครื่องกันบ้าง HUAWEI MatePad Pro 13.2″ จะใช้ดีไซน์เรียบหรูตามสไตล์เรือธงของ HUAWEI สีที่วางจำหน่ายในบ้านเราจะมีแค่สีเดียวเลยคือสีเขียว ที่มีความพาสเทลไม่จัดจ้านจนเกินไป ถ้าโดนแสงกระทบมาก ๆ ก็เป็นสีเงินโทนเย็นที่ดูลงตัวไม่น้อย
ส่วนผิวสัมผัสก็เป็นแบบด้านช่วยลดรอยนิ้วมือเวลาถือใช้งานนาน ๆ แถมยังจับถือได้สัมผัสที่เนียนมือ ไม่รู้สึกว่าต้องคอยมาทำความสะอาดบ่อย ๆ ด้วยครับ
ส่วนกล้องหลังก็จะให้มา 2 ตัว ใช้ดีไซน์โมดูลกล้องวงกลม วางไว้ที่มุมเครื่อง กล้องก็แบ่งเป็นกล้องหลัก 13MP + กล้อง Ultra Wide 8MP พร้อมไฟแฟลชอีก 1 ดวงครับ
เพรียวบาง น้ำหนักเบาแม้จอใหญ่ยักษ์
ส่วนเรื่องความบางก็ต้องบอกว่า HUAWEI MatePad Pro 13.2″ นั้นทำได้ดีมาก ๆ เช่นกัน เพราะแม้จอจะใหญ่ถึง 13.2″ แต่ตัวเครื่องบางแค่ 5.5 มม. และน้ำหนักตัวเครื่องก็อยู่ที่ 580 กรัมเท่านั้น กระจายน้ำหนักได้ดี ไม่ได้รู้สึกว่าหนักเทอะทะตามขนาดจอที่ได้เลย
ตำแหน่งปุ่มกดที่วางไว้ดี
ตำแหน่งปุ่มกดของรุ่นนี้ก็วางตำแหน่งได้ดีเลยครับ วางปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงไว้ที่ด้านบนของตัวเครื่องเมื่อใช้งานแนวตั้ง ส่วนปุ่ม Power ก็จะอยู่ที่ฝั่งซ้ายให้เราได้กดควบคุมได้ง่ายแม้ใช้งานร่วมกับเคสเสริมครับ
ด้านบนตัวเครื่องจะมีช่องลำโพงขนาดใหญ่ 2 ชุด และปุ่ม Power ที่มีแถบสีแดงเพิ่มความเด่น ส่วนด้านล่างก็จะมีลำโพงอีก 2 ชุดรวมกันเป็นลำโพง Stereo บน-ล่าง หรือ ซ้าย-ขวาได้เลย พอร์ตการเชื่อมต่อของรุ่นนี้ก็จะเป็น USB-C อยู่ตรงกลางเด่น ๆ นั่นแหละครับ
ลำโพง 6 ตัวเสียง Stereo พร้อมระบบเสียง HUAWEI Sound
ไหน ๆ ก็พูดถึงลำโพงแล้ว ขอชมเรื่องพลังเสียงสักหน่อย เพราะ HUAWEI MatePad Pro 13.2″ นั้นได้ลำโพงมาทั้งหมด 6 ตัวแบ่งเป็น Woofer 4 ตัว + Tweeters 2 ตัว ในเรื่องพลังเสียงไม่ต้องห่วงเลยครับ พร้อมกับมีเทคโนโลยี HUAWEI SOUND แบบฟูลสแตก อัลกอริทึมแบบจําลองเชิงพื้นที่ความละเอียดสูง อัลกอริทึมการปรับปรุง SMARTBass เสียงที่ได้หนำใจทุกการใช้งานแน่นอน!
โดยรวมในเรื่องดีไซน์ HUAWEI MatePad Pro 13.2″ ก็ทำได้ดีสมกับเป็นรุ่นเรือธงของ HUAWEI เลยครับ หน้าจอที่ให้เพิ่มขนาดมาได้เต็มตามากจริง ๆ แถมเป็นจอคุณภาพสูงแบบสุด ๆ เป็นหนึ่งในแท็บเล็ตที่มีจอดีที่สุดเท่าที่เราเคยทดสอบมาเลย ตัวเครื่องที่บางเฉียบและน้ำหนักดี ลำโพงที่จัดเต็มแบบอิ่มเอมทุกการใช้งานอีก เรียกว่าลงตัวมาก ๆ สำหรับแท็บเล็ตหน้าจอใหญ่สุด ๆ แบบนี้ครับ
อุปกรณ์เสริมที่มีรองรับครบ มอบประสบการณ์ระดับ Pro
กลายเป็นธรรมเนียมของแท็บเล็ตยุคนี้ไปแล้วที่ต้องมีอุปกรณ์อีกสักอย่าง 2 อย่างเพื่อเพิ่มความสามารถในการใช้งานให้ครบคลุมมากขึ้น ซึ่ง HUAWEI MatePad Pro 13.2″ นั้นก็มีมาให้ใช้คู่กัน 2 อย่างคือ M-Pencil 3 และ HUAWEI Smart Magnetic Keyboard ที่พอรวมร่างกันแล้วบอกเลยว่ายกระดับความเป็น Pro จนถึงขีดสุดเลยจริง ๆ ครับ
HUAWEI Smart Magnetic Keyboard ใหม่ มี TouchPad และโหมดการทำงานหลากหลาย
เริ่มที่เคสคีย์บอร์ดก่อนเลยดีกว่า HUAWEI Smart Magnetic Keyboard ของ MatePad Pro 13.2″ นั้นจะปรับดีไซน์ใหม่ให้ใช้งานได้อย่างโปรมากขึ้น ใช้แม่เหล็กในการประกบตัวเคสเข้ากับฝาหลังของเครื่องได้เลยทำให้ตัวเคสไม่หนาจนเกินไป
ตัวปุ่มคีย์บอร์ดก็เป็นปุ่มจริง ๆ ที่ให้ความรู้สึกเวลาพิมพ์ไม่ต่างจากบนแล็ปท็อปดี ๆ สักเครื่องเลย และที่ขาดไม่ได้คือรอบนี้มี TouchPad เข้ามาแล้วนะ! ยิ่งเสริมการใช้งานให้เหมือนแล็ปท็อปเข้าไปอีกล่ะว่าไหม ?
ตัวเคสจะเป็นแบบ 2 ชิ้นที่เราแปะตัวคีย์บอร์ดเข้ากับตัวเครื่องและอีกชิ้นจะเป็นส่วนฝาหลังที่เป็นขาตั้งตัวเครื่องพร้อมปกป้องฝาหลังในเวลาเดียวกัน ซึ่งตัวเคสรอบนี้ก็ออกแบบมาดีเลย ให้เราใช้งานได้ใน 3 โหมดหลัก ๆ ดังนี้
1.Laptop Form โหมดแล็ปท็อป
โหมดแรกก็มาตรฐานเลยคือโหมดแล็ปท็อปเมื่อประกบเคสเข้ากับ MatePad Pro 13.2″ เราก็จะได้คีย์บอร์ดและตัวเคสที่ช่วยตั้งเครื่องให้ได้มุมองศากำลังดีในการพิมพ์ซึ่งทุกอย่างประกอบเข้าหากันด้วยแม่เหล็ก ไม่ต้องสวมเข้าไปในเคสให้ยุ่งยาก
2.Split Form แยกร่างกันได้
หรือถ้าใช้งานแบบติดกันแล้วมันใกล้จอไป อยากแยกส่วน HUAWEI Smart Magnetic Keyboard ตัวนี้ก็ทำได้ เพราะตัวคีย์บอร์ดจะเชื่อมต่อกับเครื่องผ่านระบบ Bluetooth อยู่แล้ว เผื่อจะตั้งจอไว้สูงหน่อยหรือปรับองศาให้เหมาะกว่าแบบจำกัดตอนรวมกันก็ได้
หรือถ้าอยากแค่ใช้งานเป็นขาตั้งเอาไว้ดูคอนเทนต์อย่างเดียวเลยก็ได้ ตัวขาตั้งปรับองศาได้เยอะมากด้วยอย่างที่บอกไป
3.Studio Form กดลงต่ำเพื่อใช้งานเขียนก็ได้
และโหมดสุดท้ายก็คือ Studio Form อย่างที่บอกว่าขาตั้งนั้นสามารถปรับได้หลายระดับ ถ้าเรากดลงสุดที่ 160º ก็สามารถใช้งานเป็นโหมดสำหรับวาดเขียนได้ด้วย องศาจะสูงขึ้นแบบพอดี ใช้งานคู่กับ M-Pencil ก็สะดวกเลย
ถือว่าเป็นเคสที่เอนกประสงค์มาก ๆ เพราะเราสามารถประยุกต์ใช้กับหลายสถานการณ์จริง เท่าที่เราลองใช้งานมา ไม่ว่าจะเป็นการพิมพ์งานที่มีคีย์บอร์ดจริง ๆ ให้ความรู้สึกที่ดีกว่าพิมพ์บนหน้าจอเป็นไหน ๆ ตัว TouchPad ที่สามารถใช้งาน Gesture 2 นิ้ว 3 นิ้วเพื่อสั่งงานอื่น ๆ ได้เต็มรูปแบบไม่แพ้บนแล็ปท็อปเลย ทำให้เราไม่จำเป็นต้องมาแตะหน้าจอเพื่อเข้า-ออกแอปเวลาใช้งานแบบต่อเนื่องด้วย
หรือจะใช้ประโยชน์จากหน้าจอที่ใหญ่ในการแบ่ง 2 หน้าจอทำงานไปพร้อมกัน พิมพ์งานในจอหนึ่งและอีกจอหาข้อมูลเพิ่มเติมก็ได้ เพราะพอมีคีย์บอร์ดแบบปุ่มกด เวลาเราจะพิมพ์อะไรก็ไม่มีปุ่มมาบดบังหน้าจอแล้วเนาะ
และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือพอมาในรูปแบบเคสเราก็สามารถพับเก็บแบบเป็นชิ้นเดียวกันได้ด้วย ทำให้ช่วยในเรื่องการพกพาเป็นอย่างดี ใช้งานเสร็จก็พับเก็บไปทั้งชุดใส่ลงกระเป๋าได้เลย ไม่ต้องมาคอยเก็บเคสทีหนึ่ง คีย์บอร์ดช่องหนึ่งอีกต่อไป
M-Pencil รุ่นที่ 3 พร้อมเทคโนโลยี NearLink ที่โปรที่สุด!
พิมพ์คล่องแล้ว จะเขียนหรือวาดแบบฟิน ๆ ด้วยก็ต้องมี Stylus มาใช้ด้วยล่ะเนาะ ซึ่ง MatePad Pro 13.2″ รองรับ M-Pencil รุ่นที่ 3 ล่าสุดที่มาพร้อมเทคโนโลยี NearLink ที่รองรับแรงกดมากถึง 10,000 ระดับ (Stylus ทั่วไปสูงสุดแค่ 4096 ระดับ) เป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรม เพื่อการระบายสีหรือการเขียนด้วยลายมือที่ละเอียดอ่อนยิ่งขึ้น
ซึ่งตัว M-Pencil รุ่นที่ 3 นั้นก็จะมีรูปทรงและขนาดที่ถนัดมือเหมือนรุ่นก่อน มีความสามารถแตะสั่งงานที่ตัวด้าม หัวปากกาที่แหลมกำลังดี แต่จุดที่เพิ่มเข้ามาก็คือโลโก้ NearLink ที่อยู่ปลายด้ามนั่นเอง เห็นแล้วจะได้รู้เนาะว่านี่รุ่นใหม่แล้ว
ในเรื่องการเชื่อมต่อก็แปะที่มุมบนของ MatePad Pro 13.2″ ได้เลย ครั้งแรกจะมี Pop-Up ให้กดเชื่อมต่อได้ง่าย ๆ และเราก็สามารถแปะชาร์จแบตฯได้เลยในครั้งต่อ ๆ ไปด้วย
มีแอป HUAWEI Notes มาให้ใช้งานเลยตั้งแต่แกะกล่อง
ส่วนเรื่องแอปแน่นอนว่าเราสามารถโหลดเพิ่มเติมตามความถนัดได้อยู่แล้ว แต่แอปพื้นฐาน HUAWEI ก็มี HUAWEI Notes ติดตั้งมาในกล่อง เพื่อใช้งานกับ M-Pencil รุ่นที่ 3 ได้ดีพออยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเขียน, วาด, เปิดไฟล์, แก้ไขงานแบบมือโปร ทำได้หมดในแอปเดียวเลย
ซึ่งการที่ M-Pencil รุ่นที่ 3 นั้นรองรับแรงกดมากกว่าเดิม เวลาเราลองลากเส้นหรือลงน้ำหนักที่แตกต่างกันก็จะเห็นความแตกต่างอยู่เหมือนกัน ให้ความรู้สึกที่เข้าใกล้ความเป็นปากกาเขียนลงบนกระดาษเข้าไปอีกครับ
หรือถ้ายังไม่พออยากลองกับแอป 3rd Party ทาง HUAWEI ก็มีแอป M-Pen Zone ที่คอยคัดแอปสำหรับการใช้งานร่วมกับ M-Pencil รุ่นที่ 3 ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมาให้เราเลือกใช้งานด้วย
อย่างในที่นี้เราโหลดแอป MediBang Paint มาวาดรูปก็รู้สึกได้เลยว่าการลงน้ำหนักทำได้ดีขึ้น โดยเฉพาะเวลาลงสีน้ำที่ต้องใช้แรงกดหลาย ๆ ระดับเพื่อไล่เฉดสีด้วยแล้ว ตรงนี้ถูกใจเรามาก ๆ เลยล่ะครับ!
ส่วนฟีเจอร์เสริมอื่น ๆ ที่ HUAWEI มีมาให้ก็อย่างฟีเจอร์จดด่วนที่เพียงแค่เราใช้ M-Pencil ปาดจากมุมขวาบนลงมาก็จะมีทั้งแคปหน้าจอหรือจดโน้ตแบบด่วน ๆ ได้ทันทีเลย
หรือฟีเจอร์ Free Script ที่สามารถเปลี่ยนลายมือเป็นตัวพิมพ์ก็ยังมีอยู่เหมือนเดิม จะใช้ผ่าน Browser หรือแอปจดบันทึกต่าง ๆ ก็ทำได้ ช่วยให้สะดวกในการทำงานมากขึ้นไปอีก เวลาจดอยู่เพลิน ๆ ก็ไม่ต้องมาหาคีย์บอร์ดหรือแตะที่หน้าจอหากอยากจะค้นหาอะไรก็เขียนและแปลงลายมือกันไปเลย
M-Pencil รุ่นที่ 3 นี้ถือว่าเป็นการอัปเกรดอีกอย่างที่ช่วยยกระดับการทำงานสายยจด สายวาดได้ดีจริง ๆ เพราะใช้งานได้ถนัดขึ้น ละเอียดอ่อนมากขึ้นแบบชัดเจนครับ
โดยรวมในเรื่องประสิทธิภาพในการทำงานร่วมกับอุปกรณ์เสริมของ HUAWEI MatePad Pro 13.2″ ก็ยกระดับให้การใช้งานเป็น Pro-Level ได้อย่างชัดเจน ใครที่เป็นสายพิมพ์งานหรือด้านเอกสารตัว Smart Magnetic Keyboard ก็ช่วยให้คล่องตัวขึ้นอีกเยอะ รอบนี้มีทั้ง TouchPad แถมถอดแยกชิ้นได้ หรือจะเป็นสายจด สายวาดก็มี M-Pencil รุ่นที่ 3 ที่สเปคสูง ตอบสนองดีขึ้นมาก ซึ่งทีเด็ดก็คือใครที่สั่งซื้อในช่วงโปรโมชั่นก็จะได้ 2 อุปกรณ์นี้ไปฟรี ๆ คุณภาพแบบนี้แถมให้ฟรี ไม่คุ้มก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้วครับ!
ระบบปฏิบัติการ HarmonyOS 4 เวอร์ชั่นล่าสุด!
มาต่อในเรื่องซอฟต์แวร์ HUAWEI MatePad Pro 13.2″ มาพร้อมระบบ HarmonyOS 4 เวอร์ชั่นล่าสุด การใช้งานยังลื่นไหลและ UI ปรับแต่งมาได้ยอดเยี่ยมเข้ากับความเป็นแท็บเล็ตเหมือนเคย
Multi-Windows แบบใหม่ มืออาชีพยิ่งขึ้น
บน HarmonyOS 4 จะมีรูปแบบ Multi-Window แบบใหม่ทั้งหมดช่วยให้ใช้งาน 2 แอปได้อย่างอิสระมากกว่าก่อน โดยเราสามารถเปิดแอปแบบจอเล็กลอย ๆ บนหน้าจอหลักได้พร้อมกัน 2 แอป ซึ่งแต่ละแอปก็สามารถปรับขนาดได้ตามอัตราส่วนทั้ง 18:9, 3:2 หรือ 3:4 เราสามารถใช้ประโยชน์จากอัตราส่วน 3:2 ของจอ MatePad 13.2″ได้อย่างเต็มที่เพื่อทํางานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออ่านหรือแก้ไขเอกสาร
HUAWEI Super Device เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ HUAWEI ได้อย่างไร้รอยต่อ
เรื่องการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นในเครือ HUAWEI ก็มี Super Device มาให้ผู้ใช้งานอุปกรณ์ HUAWEI ได้เชื่อมต่อกับระหว่างอุปกรณ์ได้อย่างไร้รอยต่อ ซึ่งทำให้ทุกอย่างง่ายและสะดวกขึ้นเยอะจริง ๆ ครับ จะเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน หูฟัง ก็แค่คลิกเดียวเท่านั้น
ใช้งานผ่าน HUAWEI Mobile Services เต็มรูปแบบ
ส่วนเรื่องบริการ MatePad Pro 13.2″ ก็ใช้ผ่าน HMS (HUAWEI Mobile Services) เหมือนแท็บเล็ตใหม่ ๆ ของ HUAWEI นั่นแหละ เพราะใช้ HarmonyOS แล้วนี่เนาะ ซึ่งเราสามารถดาวน์โหลดแอปผ่าน HUAWEI AppGallery ได้ ดาวน์โหลดไฟล์ APK มาติดตั้งเองผ่าน Petal Search ก็ได้เช่นกัน มาถึงตรงนี้ทั้งแอปบน AppGallery เองหรือเราจะหามาติดตั้งเองจากช่องทางอื่น ๆ ก็ทำได้ง่ายและลงตัวขึ้นเยอะแล้วจริง ๆ ครับ
หรือถ้าอยากใช้บริการของ GMS (Google Mobile Services) จริง ๆ ก็มีทางเลือกด้วยแอป GBox ที่ให้เราสามารถโหลดแอปอย่าง YouTube, Google Drive, Photos, Maps ผ่าน HUAWEI AppGallery ได้โดยตรง แม้การใช้งานจะเสียเวลาโหลดตอนเข้าแอปนิดหน่อย แต่ก็ใช้งานได้ครบถ้วน ไม่ติดขัดครับ ใครที่สมัคร YouTube Premium ไว้ก็ใช้งานได้ด้วย จะมีจุดสังเกตอยู่บ้างคือบางแอปก็ยังไม่รองรับ อย่าง Gmail หรือ Chrome น่ะนะ
การกลับมาของชิป Kirin และประสิทธิภาพจัดเต็ม
มาต่อที่เรื่องประสิทธิภาพ HUAWEI MatePad Pro 13.2″ นั้นมาพร้อมกับชิปเซ็ต Kirin 9000W รหัสใหม่หลังจากห่างหายไปนาน รอบนี้กลับมาพร้อมประสิทธิภาพที่ครบเครื่อง เป็น Kirin ที่ทำให้หลายคนหายคิดถึงแน่นอนครับ เท่าที่เราลองใช้งานในหลาย ๆ สถานการณ์บอกเลยว่าชิปตัวนี้ทำงานได้คล่องตัวมาก ไม่ว่าจะทำงานเอกสารขนาดใหญ่ วาดรูป หรือจัดการไฟล์ทีละเยอะ ๆ ก็ไม่ติดขัดเลย
เราลองทดสอบกับแอปยอดฮิตอย่าง AnTuTu Benchmark v10 ก็ได้คะแนนออกมาที่ 645065 คะแนน อาจจะไม่ได้สูงปรี๊ดมาก แต่สังเกตว่าคะแนนของ GPU ยังเป็น 0 อยู่ คงเพราะตัวชิปยังใหม่มาก ๆ อยู่ ถ้ารวมกับคะแนน GPU ก็คงสูงแตะ 7 – 8 แสนแต้มได้สบาย ๆ ครับ
ฝั่ง Geekbench 6 ก็ไม่ธรรมดาเช่นกันได้ Single-Core ไปที่ 1175 คะแนน และ Multi-Core อีก 3982 คะแนน สูงกว่าแท็บเล็ตรุ่นกลาง ๆ แน่นอน นี่เป็นชิประดับเรือธงแล้วเนอะ
เล่นเกมก็จัดเต็ม ปรับสุดได้!
ส่วนการเล่นเกม HUAWEI MatePad Pro 13.2″ ก็หายห่วงได้ชิประดับเรือธงแบบนี้ เกมที่เราจะทดสอบรอบนี้คือ PUBG Mobile ซึ่งดาวน์โหลดจาก HUAWEI AppGallery เลยครับ เพราะฉะนั้นรองรับการปรับจูนสเปคแน่นอน เราสามารถปรับกราฟิกได้ที่ Ultra HD พร้อมเฟรมเรต Ultra เลย เรียกว่าท็อป ๆ ล่ะครับระดับนี้ เล่นได้ในระดับ 45fps แบบนิ่ง ๆ พอเล่นบนหน้าจออัตราส่วน 3:2 ก็ได้เปรียบในมุมมองที่กว้างกว่า อีกทั้งยังมีลำโพง 6 ตัวให้ความ Stereo เต็มอิ่ม ได้เปรียบในเรื่องทิศทางเสียงของศัตรูด้วย
แบตเตอรี่สะใจ 10,100mAh
ปิดท้ายที่แบตเตอรี่ HUAWEI MatePad Pro 13.2″ ได้แบตเตอรี่เยอะถึง 10,100mAh มาเลย ถือว่าเยอะเพียงพอต่อการใช้งานมาก ๆ เท่าที่เราลองใช้งานแบบเต็มที่ ก็บอกเลยว่าไม่ต้องห่วง จะทำงานต่อเนื่องหรือพักเล่นเกมบ้าง พ้นวันได้สบาย ๆ
ส่วนระบบชาร์จไว HUAWEI MatePad Pro 13.2″ ก็รองรับระบบชาร์จไว 66W HUAWEI SuperCharge ที่ทั้งเร็วและเชื่อถือได้ ช่วยชาร์จแบตฯเยอะ ๆ ระดับนี้คืนมาได้อย่างรวดเร็ว
ราคาและโปรโมชั่น
HUAWEI MatePad Pro 13.2″ (12 + 512GB WiFi) เปิดราคามาที่ 39,990 บาท มีโปรโมชั่นสำหรับผู้ที่สั่งซื้อตั้งแต่วันที่ 8 – 14 กุมภาพันธ์นี้ รับของสมนาคุณมูลค่าสูงสุด 25,969 บาท ประกอบด้วย…
- HUAWEI Smart Magnetic Keyboard (เคสคีย์บอร์ดสีขาว) มูลค่า 12,990 บาท
- HUAWEI M-Pencil รุ่นที่ 3 มูลค่า 4,990 บาท
- HUAWEI FreeBuds Pro 2 มูลค่า 6,499 บาท
- HUAWEI Bluetooth Mouse มูลค่า 1,490 บาท
สั่งซื้อได้ที่ Lazada : https://bit.ly/3OhSsri
สรุปแล้ว “นี่คือแท็บเล็ตเรือธงจอใหญ่สุด ดีที่สุดจาก HUAWEI”
สรุปแล้ว HUAWEI MatePad Pro 13.2″ ก็ถือเป็นแท็บเล็ตเรือธงรุ่นล่าสุดจาก HUAWEI ที่รอบนี้อัปเกรดในเรื่องขนาดมาได้ถึงใจกับจอ Flexible OLED 13.2″ ที่ไม่ใช่แค่ใหญ่ แต่ยังคุณภาพสูงในทุกด้านตั้งแต่ความละเอียด ความลื่นไหล หรือความปลอดภัยต่อสายตา มีสเปคที่ครอบคลุมพร้อมการกลับมาของชิป Kirin 9000W ให้หายคิดถึง มีความจุเยอะ 12GB + 512GB แบตเตอรี่ 10100mAh ใช้งานได้ตลอดวันสบาย ๆ และที่สำคัญคือมีอุปกรณ์เสริมที่เพิ่มการทำงานได้เป็นระดับ Pro ของจริง ทั้ง HUAWEI Smart Magnetic Keyboard ที่ออกแบบใหม่หมดเข้าใกล้ความเป็นแล็ปท็อปอีกขั้นหรือจะเป็น M-Pencil รุ่นที่ 3 ที่เปลี่ยนการใช้งาน Stylus แบบเดิม ๆ ไปได้เลย ใครที่รอรุ่นท็อปที่สุดทุกด้านจาก HUAWEI อยู่ MatePad Pro 13.2″ รุ่นนี้แหละครับคือที่ตามหากันอยู่!
