รีวิว HUAWEI MatePad SE 11″ แท็บเล็ตสุดคุ้มที่ค่าตัวแค่ 7,990 บาท แต่ได้หน้าจอถนอมสายตาที่ผ่านการรับรองจาก TUV, รองรับปากกา M-Pen Lite, ดีไซน์สวยแข็งแรงด้วย Unibody, ชิปเซ็ต Kirin 710A, ลำโพง 4 ตัวจัดเต็ม รวมถึงฟีเจอร์สำหรับเด็กและผู้ใหญ่ครบถ้วน อีกหนึ่งตัวเลือกเป็นแท็บเล็ตสำหรับทุกคนในครอบครัวเลยล่ะ ส่วนการใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร ติดตามได้จากรีวิวนี้เลยครับ!
สรุปสเปค HUAWEI MatePad SE 11″
- หน้าจอ : IPS LCD ขนาด 11”
- ความละเอียด : 1920 × 1200 พิกเซล
- Refresh rate : 60Hz
- ชิปเซ็ต : Kirin 710A Octa-Core
- RAM : 6GB (WiFi) | 8GB (LTE)
- ROM : 128GB
- แบตเตอรี่ : 7700mAh
- ระบบชาร์จ : ชาร์จเร็ว 22.5W HUAWEI SuperCharge
- กล้องหน้า : 5MP f/2.2
- กล้องหลัง : 8MP f/2.0
- การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/ax, 2.4G/5G, Bluetooth 5.1, และพอร์ต USB-C (USB 2.0)
- ลำโพง : 4 ตัว Stereo Speaker
- ระบบปฏิบัติการ : HarmonyOS 2.0
- สีสัน : เทา Nebula Gray
บอดี้แข็งแรงแบบ Unibody
เริ่มต้นที่ดีไซน์รอบ ๆ ตัวเครื่องก่อนเลยดีกว่า เพราะอย่างที่บอกไปว่ารุ่นนี้ได้บอดี้ Metal Unibody สุดแข็งแรงมาเลย แม้ค่าตัวจะไม่ถึง 8,000 บาทแบบนี้ ซึ่งงานประกอบก็ยอดเยี่ยมตามสไตล์ HUAWEI ครับ มีความแน่นหนาและรู้สึกถึงความพรีเมี่ยมได้จริง ๆ เลยล่ะ
กรอบเครื่องจะเป็นแบบเหลี่ยมไปเลย มีความบางอยู่ที่ 6.9 มม.ซึ่งเป็นความบางที่กำลังดีครับ เวลาเราจับถือจะรู้สึกถึงความกระชับมือ ไม่บางจนถึงยากหรือหนาจะดูเทอะทะ
ส่วนสีสันของ HUAWEI MatePad SE 11″ จะมีให้เลือกสีเดียวเลยคือสีเทา Nebula Gray ซึ่งเป็นสีที่ดูเรียบง่ายและคลาสสิกดีไม่น้อย บวกเข้ากับผิวสัมผัสแบบด้านได้อย่างลงตัว แถมพอเป็นสีที่สว่างหน่อยก็หมดปัญหาเรื่องเก็บคราบรอยนิ้วมือ จนเราต้องมาคอยทำความสะอาดกันบ่อย ๆ ด้วย
หน้าจอถนอมดวงตาขนาดใหญ่ 11″
ต่อกันที่หน้าจอกันก่อนเลยดีกว่า HUAWEI MatePad SE 11″ มาพร้อมหน้าจอ IPS LCD ขนาด 11″ ตามชื่อรุ่น โดยความละเอียดหน้าจอจะอยู่ที่ 1920 x 1200 พิกเซล ได้ความคมชัดและสีสันที่สวยงามกำลังดี
และตัวหน้าจอของ MatePad SE 11″ ก็ยังเป็นจอถนอมสายตาแบบ Low Blue Light และ Flicker Free ที่ได้รับการรับรองจาก TÜV Rheinland ความสว่างจะเปลี่ยนไปตามเวลาจริงตามสภาพแสงโดยรอบ ตั้งแต่ห้องนั่งเล่นที่มีแดดจัดไปจนถึงห้องนอนที่สลัว ให้ความสบายตาสําหรับทุกคนในครอบครัวอย่างไร้กังวล
ทีนี้ถ้าเอามาดูคอนเทนต์หรือภาพถ่ายก็ใช้ได้ดีเลย สวยชัด สบายตา แถมอัตราส่วนของหน้าจอยังเป็น 16:10 เหมาะสำหรับพวกความบันเทิงทั่วไป ดูได้เต็มจอเหลือขอบดำมารบกวนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ปุ่มกดวางตำแหน่งเดิม กดง่ายทั้งแนวตั้ง-แนวนอน
ตำแหน่งปุ่มกดของรุ่นนี้ก็วางตำแหน่งได้ดีเลยครับ วางปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงไว้ที่ด้านขวามือของตัวเครื่องเมื่อใช้งานแนวตั้ง และจะอยู่ด้านบนถ้าเราใช้งานในแนวนอน พลิกไป-มาก็ใช้งานได้สะดวก ไม่สับสนครับ
ด้านบนตัวเครื่องจะมีช่องลำโพงขนาดใหญ่ 2 ชุด และปุ่ม Power ที่แตะกดได้ง่ายเหมือนกัน ส่วนด้านล่างก็จะมีลำโพงอีก 2 ชุดรวมกันเป็นลำโพง Stereo บน-ล่าง หรือ ซ้าย-ขวาได้เลย พอร์ตการเชื่อมต่อของรุ่นนี้ก็จะเป็น USB-C อยู่ตรงกลางเด่น ๆ นั่นแหละครับ
ลำโพง 4 ตัวพร้อมระบบเสียง HUAWEI Histen 9.0
HUAWEI MatePad SE 11″ มาพร้อมลําโพงแบบสมมาตร 4 ตัว (ฝั่งละ 2) อย่างที่บอกไป มีการปรับแต่งโดยเทคโนโลยี HUAWEI Histen 9.0 จึงเข้าได้กับเหตุการณ์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการสตรีมเพลงและภาพยนตร์ การเล่นเกม หรือคลาสออนไลน์ ซึ่งให้ประสิทธิภาพโดยรวมของเสียงทำได้ดีเลยครับ
กล้องหน้า 5MP | กล้องหลัง 8MP
ส่วนกล้องของ HUAWEI MatePad SE 11″ นั้นจะได้กล้องหน้าความละเอียด 5MP f/2.2 วางตำแหน่งไว้ตรงกลางทำให้ใช้งาน Video Call ได้ง่าย สายตามองตรงไปที่หน้าจอ
ที่ด้านหลังก็จะมีกล้องหลัง 1 ตัวความละเอียด 8MP f/2.0 ดีไซน์ตัวกล้องดูเรียบง่ายดี วางนูนขึ้นจากตัวเครื่องนิดหน่อยครับ
โดยรวมในเรื่องดีไซน์ของ HUAWEI MatePad SE 11″ ก็ถือว่าทำได้ดีเลยครับ เพราะทั้งบอดี้ Metal Unibody แข็งแกร่งและหรูหรา มีขนาดและน้ำหนักกำลังดีเบา 475 กรัม ได้หน้าจอ LCD ขนาดใหญ่ 11″ ที่เต็มตาพร้อมคุณสมบัติถนอมสายตาได้เป็นอย่างดี แถมมีลำโพง 4 ตัวระบบเสียง Stereo ไม่น่าเชื่อว่าทั้งหมดนี้อยู่ในงบ 8,000 บาทมีทอน!
ปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ไปกับ M-Pen Lite
เห็นราคาเบา ๆ แบบนี้ แต่บอกเลยว่า HUAWEI MatePad SE 11″ นั้นรองรับปากกา Stylus อย่าง M-Pen Lite ด้วย ซึ่งจะเข้ามาเติมเต็มการใช้งานมากกว่าการใช้นิ้วมืออย่างเดียว อย่างการสร้างสรรค์ผลงานสำหรับสายวาด หรือสายจดงานด้วยนะ
โดยตัว M-Pencil Lite จะมีขนาดที่ใหญ่ใกล้เคียงกับปากกาปกติเลย วัสดุเป็นโลหะมีผิวสัมผัสแบบเมทัลลิกด้านหรูหราและดูดีทีเดียว ที่ตัวด้ามจะไม่มีแถบชาร์จหรือพอร์ต USB ให้ชาร์จแต่อย่างใด เพราะรุ่นนี้จะใช้แหล่งพลังงานจากถ่าน AAAA 1 ก้อน ซึ่ง HUAWEI เคลมว่าถ่านก้อนเดียวนี้สามารถใช้งานเขียนได้ต่อเนื่องถึง 150 ชม.เลยทีเดียว หรือถ้าไม่ได้ใช้งานบ่อยก็แสตนบายด์ได้ถึง 10 เดือนเลยล่ะครับ
ส่วนในเรื่องฟีเจอร์ M-Pen Lite อาจจะไม่ได้หวือหวานัก ไม่สามารถแตะสั่งงานหรือแปะชาร์จที่ตัวเครื่องได้ แต่ข้อดีของรูปทรงปากกาจริง ๆ ก็คือเราสามารถจับถือได้อย่างพอดิบพอดี หัวปากกาแหลมให้ความรู้สึกเหมือนใช้งานปากกาลูกลื่น แถมปากกาตัวนี้ยังมีคลิปให้เราได้เหน็บกับกระเป๋าเสื้อหรือใส่ในช่องปากกาในกระเป๋าได้เลยนี่แหละ
ใช้งานกับแอปได้หลากหลาย!
ส่วนเรื่องแอป M-Pen Lite สามารถใช้งานร่วมกับแอปพื้นฐานทั้ง Microsoft Office, WPS PDF หรือจะวาดรูปแนว Sketchbook ก็ได้ แต่ถ้าไม่อยากโหลดเพิ่มแค่จดงานอย่างเดียว HUAWEI ก็มี HUAWEI Notes ติดตั้งมาตั้งแต่แกะกล่องเลยด้วย
ในนี้จะมีฟีเจอร์อัจฉริยะของแอปนี้จะตรวจจับรูปแบบการเขียนของเรา ทําให้เขียนแบบร่างยาว ๆ และทํางานมอบหมายการเรียนรู้ได้ง่ายขึ้น รองรับทั้งการเขียน, วาด, เปิดไฟล์, แก้ไขงานแบบมือโปร ทำได้หมดในแอปเดียวเลย
ระบบปฏิบัติการ HarmonyOS 2.0
มาต่อในเรื่องซอฟต์แวร์ HUAWEI MatePad SE 11″ มาพร้อมระบบ HarmonyOS 2.0 อาจจะไม่ไช่เวอร์ชั่นล่าสุดนัก (ปัจจุบันถึง HarmonyOS 4.2 แล้ว) แต่ประสบการณ์การใช้งานก็ยังลื่นไหล และคุ้นเคยได้ง่ายเหมือนกันครับ
อย่างฟีเจอร์ Multi-Window ที่ดึงเอาข้อได้เปรียบในเรื่องจอที่ใหญ่ของแท็บเล็ต เราสามารถลากนิ้วจากมุมซ้าย-ขวาของหน้าจอเพื่อเรียกทางลัดแอป และนำมาวางร่วมกับแอปที่ใช้อยู่เพื่อแบ่งหน้าจอได้ง่าย ๆ ขยายเต็ม 2 หน้าต่างแล้วจะเลื่อนปรับขนาดทีหลังก็ได้อีกด้วย
มี Kids Corner มุมพิเศษสำหรับเด็ก
และถ้าใครที่ต้องแบ่งแท็บเล็ตเครื่องนี้กับเด็ก ๆ แต่ก็อยากควบคุมไม่ให้เล่นนานจนเกินไป หรือเนื้อหาที่เหมาะสม HUAWEI MatePad SE 11″ ก็จะมีแอป Kids Corner ให้เราเลือกเปิดให้เด็ก ๆ ด้วย ด้วยความครอบคลุม 7 ประเด็นสําคัญเพื่อช่วยในการพัฒนาความรู้ความเข้าใจของเด็ก ๆ
อย่างเนื้อหาเกี่ยวกับการอ่าน การสะกดคํา การเรียนรู้คําศัพท์ การจดจําสัตว์ การสวมบทบาทตามจินตนาการ และศิลปะช่วยให้เด็กเข้าใจโลกผ่านวิธีการโต้ตอบ Baby Bus ที่อัปเกรดใหม่จะเพิ่มเกมใหม่ต่อสัปดาห์และโซนธีมใหม่ทุกเดือนสําหรับเด็กวัยต่าง ๆ ไม่ว่าลูกหลานของเราชอบสร้างภาพประกอบบนแท็บเล็ตหรือต้องการอ่านนิทานมัลติมีเดียทางออนไลน์ HUAWEI MatePad รุ่น SE 11″ จะช่วยให้เด็ก ๆมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างปลอดภัย
ใช้บริการ HUAWEI Mobile Services แต่ทุกอย่างก็ง่ายขึ้นแล้ว
ส่วนเรื่องบริการ MatePad SE 11″ ก็ยังใช้ผ่าน HMS (HUAWEI Mobile Services) เหมือนแท็บเล็ตใหม่ ๆ ของ HUAWEI นั่นแหละ เพราะใช้ HarmonyOS แล้วเนาะ ซึ่งเราสามารถดาวน์โหลดแอปผ่าน HUAWEI AppGallery ได้ ดาวน์โหลดไฟล์ APK มาติดตั้งเองผ่าน Petal Search ก็ได้เช่นกัน มาถึงตรงนี้ทั้งแอปบน AppGallery เองหรือเราจะหามาติดตั้งเองจากช่องทางอื่น ๆ ก็ทำได้ง่ายและลงตัวขึ้นเยอะแล้วจริง ๆ ครับ
แต่ถ้ายังต้องใช้บริการของ Google จริง ๆ ก็มีทางเลือกใหม่กับแอป microG Service ที่สามารถดาวน์โหลดผ่าน HUAWEI AppGallery ได้เลย เมื่อติดตั้งแล้ว เราจะสามารถล็อกอินบัญชี Google ได้ผ่านตัวเครื่องเลย
ทำให้เราใช้งานแอปที่ต้องเรียก GMS ได้ทันที อาทิ YouTube, Google Drive, Google Maps, Google Photos หรือ Chrome เป็นต้น ซึ่งการดาวน์โหลดก็สามารถค้นหาได้จาก HUAWEI Gallery เช่นกัน จะมีตัวเลือกให้เรากด Install ได้ทันที อันนี้เป็นทางเลือกใหม่ที่เราว่าสะดวกขึ้นเยอะเลยจริง ๆ
ชิปเซ็ต Kirin 710A รุ่นกลาง ประสิทธิภาพดี
เข้าเรื่องสเปค HUAWEI MatePad SE 11″ รุ่นนี้มาพร้อมชิปเซ็ต Kirin 710A รุ่นกลาง มาพร้อมประสิทธิภาพที่น่าสนใจ จากที่เราลองใช้งานหลาย ๆ ฟีเจอร์มา ก็ถือว่าตอบสนองได้ดีเลย นอกจากนี้ตัวเครื่องยังมาพร้อมความจุเยอะ 8GB+128GB เพียงพอต่อการทำงานและความบันเทิงสำหรับทุกคนแล้วล่ะครับ
เพื่อให้เห็นภาพคร่าว ๆ ของชิปตัวนี้ เราลองทดสอบกับแอปยอดฮิตอย่าง AnTuTu Benchmark v10 ก็ได้คะแนนออกมาที่ 221365 คะแนน อยู่ในระดับแท็บเล็ตราคาเบา ๆ แบบนี้แหละ
ฝั่ง Geekbench 6 ก็ไม่ธรรมดาเช่นกันได้ Single-Core ไปที่ 319 คะแนน และ Multi-Core อีก 944 คะแนน
ส่วนการเล่นเกมก็กำลังดีครับ เราลองเล่น Asphalt 9 Unite ที่ดาวน์โหลดจาก HUAWEI AppGallery โดยตรง ตัวเกมเล่นได้ดี ปรับได้ที่ระดับกราฟิก High Quality ร่วมกับเฟรมเรต 60fps ก็ลื่นไหลใช้ได้ แถมหน้าจอใหญ่อัตราส่วน 16:10 ก็มาตรฐานดี และยังได้ลำโพง Stereo ถึง 4 ตัวมาช่วยเพิ่มความแน่นของเสียงเอฟเฟกต์ด้วย
แบตเตอรี่ 7700mAh ใช้งานได้ดี พร้อมชาร์จเร็ว 22.5W
HUAWEI MatePad SE 11″ ได้แบตเตอรี่มา 7700mAh ถือว่ากำลังดีกับขนาดหน้าจอที่ใหญ่และชิปเซ็ตที่ใช้พลังงานไม่เยอะนัก เท่าที่เราลองใช้งานจริงควบคู่กับการใส่ซิม เล่นเน็ตผ่าน 4G ทั้งหมด ก็ถือว่าอึดใช้ได้เลยครับ
นอกจากนี้ระบบชาร์จของ HUAWEI MatePad SE 11″ ยังรองรับสูงสุด 22.5W SuperCharge เพื่อเพิ่มความเร็วในการชาร์จ ใช้งานหนักแค่ไหน ขอเวลาชาร์จกลับสักหน่อยก็ได้เล่นต่อแล้วล่ะครับ
ราคาและโปรโมชั่น HUAWEI MatePad SE 11″
HUAWEI MatePad SE 11″ จะมีให้เลือก 2 รุ่นคือรุ่น WiFi ความจุ 6GB+128GB และ LTE (รุ่นที่เรารีวิว) ความจุ 8GB+128GB มีราคาและโปรโมชั่นดังนี้เลย
- HUAWEI MatePad SE 11” เวอร์ชัน LTE 8+128GB วางจำหน่ายในราคา 7,990 บาท พร้อมฟรีปากกา HUAWEI M-Pen Lite มูลค่า 1,990 บาท ลูกค้าสามารถสั่งซื้อตั้งแต่วันที่ 8 สิงหาคม 2567 เป็นต้นไปที่หน้าร้าน HUAWEI Experience Store และ ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ
- HUAWEI MatePad SE 11” เวอร์ชัน WiFi 6+128GB วางจำหน่ายเฉพาะช่องทางออนไลน์ในพิเศษเพียง 5,990 บาท จากราคาปกติ 6,990 บาท ตั้งแต่วันที่ 8 สิงหาคม 2567 นอกจากนี้ยังรับฟรีของสมนาคุณ สำหรับลูกค้า 120 ออเดอร์แรกที่สั่งซื้อช่องทาง Lazada รับฟรี จานร่อน มูลค่า 890 บาท สำหรับลูกค้า 150 ออเดอร์แรกที่สั่งซื้อช่องทาง Shopee รับฟรี กระบอกน้ำ มูลค่า 790 บาท และสำหรับลูกค้า 150 ออเดอร์แรกที่สั่งซื้อช่องทาง TikTok รับฟรี กระโดดเชือก มูลค่า 1,100 บาท
สรุปแล้ว “นี่คือแท็บเล็ตราคาเบา ๆ สำหรับทุกคนในครอบครัว”
สรุปแล้ว HUAWEI MatePad SE 11″ ก็ถือเป็นแท็บเล็ตราคาประหยัดที่มีเหมาะสำหรับทุกคนในครัว เพราะได้ทั้งหน้าจอ LCD ขนาดใหญ่ 11″ สีสันสวยกำลังดี มีเทคโนโลยีถนอมสายตา พร้อมรองรับปากกา M-Pen Lite เสริมสร้างจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ งานประกอบแข็งแกร่งหรูหราแบบ Metal Unibody ขนาดและน้ำหนักที่ไม่สูงจนเกินไป พกพาสะดวก อีกทั้งยังมีสเปคที่ครอบคลุมต่อการใช้งานทั่วไปจนถึงความบันเทิงได้อย่างไม่มีสะดุด ส่วนเรื่องซอฟต์แวร์ของ HarmonyOS ก็รองรับได้มากขึ้นเยอะแล้วในตอนนี้ มีทางเลือกสำหรับคนต้องการใช้งาน Google ได้คล่องตัว ใครที่อยากได้แท็บเล็ตที่ใช้งานได้ครบแบบนี้ในราคาไม่ถึง 8,000 บาท ลองมองมาที่ HUAWEI MatePad SE 11″ รุ่นนี้ดูครับ น่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลย!
