ข่าวประชาสัมพันธ์
หัวเว่ยประเทศไทยแต่งตั้ง เฉียง หัว เป็นกรรมการผู้จัดการคนใหม่
หัวเว่ย ผู้จัดหาโซลูชั่นไอซีทีชั้นนำระดับโลก ประกาศแต่งตั้ง มร. เฉียง หัว ให้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ
คนใหม่ของหัวเว่ย ประเทศไทย ด้วยประสบการณ์ที่คลุกคลีอยู่ในแวดวงไอซีทีมายาวนาน มร. เฉียง หัว เข้าร่วมงานกับหัวเว่ย ณ สำนักงานใหญ่ ในเมืองเซิ่นเจิ้น เมื่อปีพ.ศ. 2541 ในตำแหน่งวิศวกรอาวุโส ฝ่ายธุรกิจใหม่ ภายหลังจากจบการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านวิทยาศาสตร์การวัด จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีเหอเฝย
ก่อนที่จะก้าวมารับตำแหน่งในประเทศไทย มร. เฉียง หัว ดำรงตำแหน่งประธานบริหาร ดูแลตลาดภูมิภาคตะวันออกของจีน โดยประจำอยู่ที่สำนักงานในกรุงปักกิ่ง ต่อมาในปีพ.ศ. 2555 เขาจึงได้รับมอบหมายให้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการของหัวเว่ย ประจำสำนักงานสาขาเจ้อเจียง โดยประจำอยู่ที่เมืองหางโจว
มร. เฉียง มีประสบการณ์การทำงานบริหารระดับสูงในต่างประเทศเป็นเวลาหลายปีในแอฟริกา อาทิ รับผิดชอบดูแลฝ่ายผลิตภัณฑ์ซอฟท์แวร์ ประจำอยู่ที่เมืองเคป ทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้ ระหว่างปี 2549 – 2551 และฝ่ายผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นของแอฟริกาตะวันออก ในเมืองไนโรบี ประเทศเคนยา ระหว่างปี 2551 – 2553 ตลอดจนตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ประจำสำนักงานของหัวเว่ยในประเทศคองโก แอฟริกากลางด้วย
“หัวเว่ยกำลังเติบโตขึ้นอย่างมากในประเทศไทย และผมก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้นำประเทศไทย ซึ่งเป็นตลาดที่มีความสำคัญมากที่สุดตลาดหนึ่งของหัวเว่ย ให้ก้าวไปสู่เป้าหมายการเป็นศูนย์กลางไอซีทีของภูมิภาค เราจะยังคงลงทุนอย่างต่อเนื่องและให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่เพื่อให้คนไทยได้ใช้เทคโนโลยีไอซีที ผลิตภัณฑ์ และโซลูชั่นที่ล้ำหน้าที่สุด เรามีความตั้งมั่นที่จะทำงานร่วมกับพันธมิตรของเราอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานรัฐบาล บริษัทต่าง ๆ และทุกภาคส่วนของสังคม เพื่อช่วยประเทศไทยพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและขับเคลื่อนนโยบายไทยแลนด์ 4.0” มร. เฉียง กล่าว
หัวเว่ยได้ต้อนรับนิสิตนักศึกษาด้านไอซีทีและเจ้าของธุรกิจมากมาย ที่มาเยือนศูนย์นวัตกรรมและการเรียนรู้ CSIC และศูนย์ฝึกอบรมในกรุงเทพฯ นับตั้งแต่เปิดตัวไปเมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2559 ศูนย์อันทันสมัยทั้งสองแห่งนี้เป็นสถานที่อันยอดเยี่ยมสำหรับสอนและอบรมให้คนรุ่นใหม่ได้รู้จักการประดิษฐ์ ทดสอบ และสร้างโซลูชั่นและแอพพลิเคชั่นใหม่ ๆ นอกจากนี้ หัวเว่ยยังเตรียมที่จะเปิดตัวโอเพ่นแล็บแห่งแรกของบริษัทในเร็ว ๆ นี้ เพื่อช่วยผลักดันประเทศไทยให้ก้าวไปสู่ยุคดิจิทัล รวมถึงสนับสนุนกลุ่มธุรกิจ SME และ Startup ของไทย ซึ่งจะมีส่วนช่วยพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศต่อไป