Smart Review
รีวิว HUAWEI P50 Pro การกลับมาของเรือธงที่ว่ากันว่า “กล้องดีที่สุด”
รีวิว HUAWEI P50 Pro สมาร์ทโฟนเรือธงกล้องเทพที่หลายคนรอคอย พร้อมเสิร์ฟแล้วครับ ถือว่าเป็นการกลับมาที่หลายคนคิดถึงอย่างมาก รอบนี้ HUAWEI จัดเต็มแบบจุก ๆ ด้วยเทคโนโลยีกล้องมากมายทั้ง HUAWEI XD Optics, XD Fusion Pro True-Chroma Image Engine หรือสเปคที่จัดเต็มทั้งชิป Snapdragon 888, ชาร์จไว 66W หน้าจอ 120Hz แบบ 10-bit อีก
ทั้งหมดนี้จะสมการรอคอยไหม การใช้งานซอฟต์แวร์ที่เป็น HMS มีอะไรมาทดแทนหรือใช้งานร่วมกับแอป Google ได้หรือยัง เรารีวิวให้ชมกันเต็ม ๆ ที่นี่เลยครับ!
สรุปสเปค HUAWEI P50 Pro
- ขนาดตัวเครื่อง : 158.8 x 72.8 x 8.5 มม.
- น้ำหนัก : 195 กรัม
- หน้าจอ : OLED 10-Bit 10.7 พันล้านสี ขนาด 6.6” ความละเอียด 2700 x 1228 พิกเซล refresh rate 120Hz, Touch Sampling rate 300Hz
- CPU : Snapdragon 888 4G Octa-core 2.84GHz (5nm)
- GPU : Adreno 660
- RAM : 8GB
- ROM : 256GB
- แบตเตอรี่ : 4360mAh
- ระบบชาร์จ : HUAWEI SuperCharge 66W
- กล้องหลัง : 4 ตัว
- 50MP กล้องหลัก True-Colour f/1.8, OIS
- 40MP กล้อง Mono True-Colour f/1.6
- 13MP กล้อง Ultra-Wide Angle f/2.2
- 64MP กล้อง SuperZoom f/3.5, OIS รองรับ AF
- กล้องหน้า : 13MP f/2.4 มุมกว้าง 100º
- ระบบปฏิบัติการ : EMUI 12
แกะกล่อง HUAWEI P50 Pro
ก่อนจะไปเข้าเรื่องเราขอมาแกะกล่องเช็กอุปกรณ์กันก่อนดีกว่า รีวิว HUAWEI P50 Pro เครื่องที่ขายในไทยจะมาพร้อมแพ็กเกจแบบเต็ม กล่องเป็นขนาดมาตรฐานไม่ใช่กล่องเล็กบาง ๆ แบบที่ขายในจีนนะครับ ที่ด้านหน้ากล่องมีภาพประกอบเป็นวงกลม 2 ลงสื่อถึงดีไซน์กล้องของรุ่นนี้ และระบุไว้ชัดเจนว่าดาวน์โหลดแอปได้ผ่าน HUAWEI AppGallery หรือก็คือใช้ระบบ HMS นั่นเองครับ
เปิดกล่องออกมาเราจะเจอกับตัวเครื่องอยู่ในซองอย่างดี สีที่เราได้มาเป็นสีทอง Cocoa Gold นะครับ เดี๋ยวไว้ค่อยมาดูหน้าตาตัวเครื่องกันอีกทีเนาะ
อย่างที่บอกว่าแพ็กเกจที่ขายในไทยจะเป็นแบบเต็ม อุปกรณ์ภายในกล่องให้มาครบเลยมีเคสซิลิโคนใสมาให้ เข็มจิ้มถาดซิม พร้อมที่ชาร์จและสายชาร์จด้วย เรียกว่าพร้อมใช้ตั้งแต่แกะกล่องล่ะครับแบบนี้
เบ็ดเสร็จแล้วอุปกรณ์ที่ให้มาในกล่องจะมีทั้งหมด 5 อย่างประกอบด้วย
- ตัวเครื่อง HUAWEI P50 Pro
- เคสซิลิโคนใส
- เข็มจิ้มถาดซิม
- สายชาร์จ
- อะแดปเตอร์ชาร์จไว 66W
ดีไซน์พรีเมี่ยม เข้ามือในทุกมิติ
ได้เวลายลโฉมตัวเครื่องกันแล้ว HUAWEI P50 Pro มาพร้อมดีไซน์สุดพรีเมี่ยมยิ่งสีทอง Cocoa Gold ยิ่งให้อารมณ์แบบทองคำสุดเลอค่าเข้าไปอีก ฝาหลังจะมีความมันวาวที่สะท้อนและกระทบกับแสงได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะถือในมุมไหนก็เห็นถึงความหรูหราไปหมด ขนาดและน้ำหนักของตัวเครื่องก็ทำได้ดีไม่หนักเบาจนเกินไป ตัวเครื่องมาพร้อมความบางเพียง 8.5 มม. และหนัก 195 กรัม เป็นขนาดที่กำลังเหมาะมือเลยครับ
ความโค้งของตัวเครื่องทั้งหน้า-หลังช่วยให้เราจับถือได้อย่างสะดวกสบายบนมือไม่ให้ความรู้สึกว่าบาดมือหรือจับยากแม้จะไม่ได้ใส่เคสก็ตามครับ แต่จุดสังเกตก็มีอยู่บ้างด้วยความที่ตัวเครื่องเผ็นผิวสัมผัสแบบมันวาว เวลาจับถือก็จะเก็บคราบรอยนิ้วมือได้ง่ายหน่อย ต้องทำความสะอาดอยู่บ่อย ๆ เพื่อให้ตัวเครื่องดูดีอยู่เสมอ แต่…ปัญหาเหล่านี้คงจะแก้ได้ง่าย ๆ ด้วยการใส่เคสล่ะเนาะ
กล้องหลัง 2 วงขนาดใหญ่โชว์ความทรงพลัง
ดีไซน์กล้องหลังของ HUAWEI P50 Pro จะเป็นวงกลมสีดำ 2 วงวางอยู่เด่น ๆ ที่มุมซ้ายบนตัดกับสีตัวเครื่องได้เป็นอย่างดี โชว์ให้เห็นถึงความทรงพลังในเรื่องการถ่ายภาพอย่างมาก ตรงนี้ HUAWEI ใช้ชื่อเรียกทางการว่า Dual Matrix Camera Design ครับ ซึ่งดีไซน์ตรงนี้ก็อิงมาจากกล้องทรงคลาสสิคที่จะมีวงกลม 2 วงแบบนี้อยู่นั่นเองครับ
โดยที่ 2 วงนี้จะแบ่งเป็น กล้อง 3 ตัวอยู่ที่วงบนเรียงกันเป็น 3 เหลี่ยม มีไฟแฟลชอยู่ตรงกลางระหว่าง 2 วงแหวนนี้ และวงล่างจะมีเลนส์ Periscope สำหรับซูมภาพระยะไกลมาให้อีก 1 รวมกันแล้ว HUAWEI P50 Pro จะมีกล้องหลังทั้งหมด 4 ตัวกันเลย ส่วนสเปคและความสามารถเดี๋ยวไว้อธิบายในหัวข้อถัดไปละกันเนาะ
หน้าจอ True-Colour Display โค้งสวย สีสันเที่ยงตรง
พลิกกลับมาดูด้านหน้ากันบ้าง รีวิว HUAWEI P50 Pro มาพร้อมหน้าจอ OLED ขนาด 6.6″ รองรับการแสดงผลที่ 10-Bit 1.07 พันล้านสี รองรับค่าสี DCI-P3 100% แม่นยำสมจริง หรือที่ HUAWEI เรียกว่า True-Colour Display กันเลยทีเดียว เปิดจอขึ้นมาเราก็รู้สึกได้เลยว่ารุ่นนี้ใช้จอคุณภาพสูงจริง ๆ ความคมชัด สีสัน ความสว่าง อยู่ในระดับสูงของสมาร์ทโฟนเรือธงในปัจจุบันครับ
เอามาดูหนัง วิดีโอความละเอียดสูง หรือจะเป็นไฟล์ภาพที่ถ่ายมาได้จากเครื่องนี้บอกเลยว่าไม่ผิดหวังครับ ความสดและความคมชัดอยู่ในเกณฑ์สมจริง รุ่นนี้ไม่ได้เน้นความสดจนเว่อเกินจริงแล้ว เน้นไปที่ความเรียล สีขาวเป็นขาวจริง ๆ ไม่อมเหลือง หรือสีดำก็สนิทไปเลย
หน้าจอของ HUAWEI P50 Pro เป็นแบบโค้ง 2 ด้าน (ซ้าย-ขวา) ทำให้จับถือใช้งานได้อย่างถนัดมือและน่าสัมผัส ยิ่งใช้งานร่วมกับคำสั่ง Navigation Gesture ด้วยแล้วยิ่งลงตัว เวลาเราจะปาดจากมุมจอเพื่อย้อนกลับก็ให้ความสมูทที่มากกว่าหน้าจอแบบแบนทั่วไป แถมรุ่นนี้ยังรองรับ refresh rate สูงถึง 120Hz อีกต่างหาก ยิ่งทำให้อยากสัมผัสขอบหน้าจอ ถู ๆ ไถไถไปอีก
ดีไซน์แบบโค้งมนที่เข้าได้กับความเหลี่ยมของมุมเครื่อง
มาดูรอบ ๆ ตัวเครื่องกันบ้าง อย่างที่บอกว่า HUAWEI P50 Pro นั้นใช้ดีไซน์โค้งทั้งด้านหน้า-หลัง ทำให้จับถือได้อย่างง่ายดาย การวางตำแหน่งของปุ่มกดก็ทำได้ดีเลยครับวางไว้ที่มุมขวาของตัวเครื่องทั้งหมด ปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงจะเป็นปุ่มยาว ส่วนปุ่ม Power จะเป็นปุ่มสั้นพร้อมมีลายเส้นสีแดงคาดที่เป็นเอกลักษณ์ของ HUAWEI P Series มาตั้งแต่ P9 นูนเลย แฝงความเป็น Leica อยู่เล็ก ๆ
ด้านบน-ล่างของตัวเครื่องจะมีดีไซน์แบบตัดเหลี่ยมเพิ่มความแตกต่างให้กับดีไซน์ไม่มนจนเกินไป ด้านบนมีลำโพง 1 ตัว ไมโครโฟนคู่สำหรับบันทึกเสียงและตัดเสียงรบกวน พร้อม IR Blaster ที่ใช้งานเป็นรีโมทสั่งงานเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ ได้ครับ
ส่วนด้านล่างจะมีพอร์ตการเชื่อมต่อแบบ USB type-C ไมโครโฟนสนทนา ช่องใส่ซิมการ์ดและลำโพงหลักของตัวเครื่องซึ่งจะใช้งานร่วมกับลำโพงด้านบนได้ด้วย ทำให้เสียงที่ได้ออกมาเป็น Stereo ชัดเจนมาก
เท่าที่เราลองฟังเพลงหรือดูวิดีโอผ่านเครื่องนี้ ก็บอกเลยว่าคุณภาพเสียงอยู่ในระดับยอดเยี่ยม ไม่ใช่แค่ทิศทางของเสียงที่ออกมา 2 ด้านชัดเจน แต่มิติของเสียงก็ขับออกมาได้อย่างน่าสนใจด้วยครับ ใครที่ชอบฟังเพลง ดูวิดีโอ หรือเล่นเกมผ่านลำโพงของตัวเครื่อง ไม่ผิดหวังแน่นอนครับ
ถาดใส่ซิมของรุ่นนี้จะเป็นแบบ Dual-SIM เลือกใส่ได้ทั้ง 2 ช่องเลย แต่รองรับแค่ 4G ทั้งคู่นะครับ
กันน้ำกันฝุ่นมาตรฐาน IP68
อีกเรื่องที่เรือธงควรมีก็คือความสามารถกันน้ำครับ รีวิว HUAWEI P50 Pro มาพร้อมคุณสมบัติกันน้ำตามมาตรฐาน IP68 ลงน้ำลึกได้ 1.5 เมตรเป็นเวลา 30 นาที ช่วยให้ใช้งานได้อย่างมั่นใจ ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุทางน้ำ น้ำหกใส่ ฝนตก หรือกระทั่งเผลอทำหล่นน้ำไป ก็ไม่ต้องกังวลว่าเครื่องจะพังเอาง่าย ๆ แค่ทำความสะอาดและทำให้เครื่องแห้งก็ใช้งานต่อได้แล้วครับ
สรุปในเรื่องของดีไซน์ต้องบอกว่า HUAWEI P50 Pro ออกแบบมาได้สวยและลงตัวดีมาก ทั้งฝาหลังที่สวยหรู การออกแบบกล้องที่มีเอกลักษณ์ หน้าจอที่โค้งสวยและสีสันสวยงามเอามาก ๆ รวมถึงความสามารถกันน้ำกันฝุ่นที่เสริมให้เรือธงรุ่นนี้ครบเครื่องขึ้นไปอีก แต่จะมีจุดสังเกตอยู่บ้างก็คือเรื่องของรอยนิ้วมือที่จะติดค่อนข้างเยอะเลยในการใช้งานแบบไม่ใส่เคส แต่สุดท้ายแล้วถ้าใส่เคสก็จบปัญหานี้ไปได้สบาย ๆ ครับ
กล้องหลัง Dual-Matrix พร้อมเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพียบ
มาต่อเรื่องไฮไลท์อย่าง กล้อง กันเลยครับ แน่นอนว่า HUAWEI P Series นั้นชูจุดเด่นเรื่องกล้องมาหลายต่อหลายรุ่น และตั้งแต่ P9 ที่พัฒนาร่วมกับ Leica มาก็มีเทคโนโลยีใหม่ ๆ ใส่มาให้ตลอด มาถึงรุ่น P50 Pro นี้ ก็ไม่น้อยหน้าจัดทั้งฮาร์ดแวร์ขั้นเทพและซอฟต์แวร์สุดเก่งกาจเข้ามาด้วย ตัวฮาร์ดแวร์รุ่นนี้มาพร้อมกล้องหลัง 4 ตัวประกอบด้วย
- 50MP กล้องหลัก True-Colour f/1.8, OIS
- 40MP กล้อง Mono True-Colour f/1.6
- 13MP กล้อง Ultra-Wide Angle f/2.2
- 64MP กล้อง SuperZoom f/3.5, OIS รองรับ AF
แค่เห็นตัวเลขและช่วงเลนส์ก็คงต้องยอมแล้ว ให้มาแบบสุด ๆ ครบทุกช่วงเลยตั้งแต่มุมกว้างรอบนี้กลับมาใช้เป็น 120° ที่กว้างถูกใจ กล้องหลัก 50MP ที่ไม่ต้องห่วงเรื่องคุณภาพ มีกล้อง Periscope มาให้ซูมได้แบบ Optical 3.5x และการกลับมาของกล้อง Mono อีกครั้งช่วยเพิ่มให้โหมด Monochrome ขาว-ดำน่าใช้ยิ่งขึ้น
เทคโนโลยี HUAWEI image ใหม่ให้ภาพคมชัด สมจริง
ในเรื่องของซอฟต์แวร์ HUAWEI พัฒนาไปอีกขั้นด้วย HUAWEI XD Optics และ HUAWEI XD Fusion Pro ที่จะมาประมวลผลให้ภาพสวยงามยิ่งขึ้น ด้วยเทคนิคมากมาย ซึ่งรอบนี้ HUAWEI เน้นย้ำไปที่ความเที่ยงตรงของสี แก้ Pain Point หลักกับเรื่องสีเพี้ยน กล้องเหลืองได้อย่างตรงจุดหรือพูดง่าย ๆ ก็คือเทคโนโลยีใหม่นี้ช่วยให้ภาพที่ได้คมชัดและสีสันตรงมากที่สุดนั่นเองครับ
ในเรื่องการทำงานทั่วไปยังมี AI มาคอยปรับภาพอยู่ เลือกซีนของภาพได้อย่างฉลาดและรวดเร็ว ผลลัพธ์ที่ได้ก็อย่างที่เห็นครับกล้องหลัก 50MP ทำได้ดีมากจริง ๆ ทั้งรายละเอียดและความคมชัดของภาพ รอบนี้ HUAWEI ไม่เน้น Sharpness เว่อ ๆ เหมือนแต่ก่อนแล้ว อยู่ในเกณฑ์ที่กำลังพอเหมาะ สีสันอย่างที่คุยไว้จริง ๆ รอบนี้ไม่เหลืองจนเพี้ยนแล้วครับ สีค่อนข้างตรงเลย White Balance ก็แม่นยำ ที่ชอบอีกอย่างก็คือ Dynamic Range ที่ทำได้ดีมาก จะย้อนแสงจะแสงจ้า ความสว่างหลังถ่ายเสร็จก็เกลี่ยมาให้เท่า ๆ กัน ไม่ฟุ้งหรือมืดจนเกินไป
กล้อง Ultra Wide มุมกว้างแล้ว รายละเอียดดีด้วย
มาต่อที่กล้อง Ultra Wide บนรุ่นก่อน ๆ HUAWEI ไปเน้นที่โหมดวิดีโอและความละเอียดระดับสูงมากไปหน่อย จนหลายคนติดเรื่องมุมมองที่แอบแคบว่าคู่แข่ง แต่บน HUAWEI P50 Pro กลับมาใช้มุมกว้าง 120° แล้ว แถมยังได้ระบบ Autofocus ใช้งาน macro ได้อีกด้วย ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จากกล้องตัวนี้บอกเลยว่าถูกใจสาย Landscape แน่นอนครับ กว้างได้ที่แถมความละเอียดและคุณภาพระดับ 13MP ก็น่าประทับใจ ได้ AI ที่เก่งกาจปรับภาพอีกหน่อยก็ใช้งานได้ทันทีหลังกล้อง
กล้องหลัก กล้อง Ultra Wide
ส่วนระยะ macro ก็ใกล้ได้สูงสุด 2 ซม.เลย แถมด้วยความที่เป็นกล้อง Ultra Wide มาเลย คุณภาพก็ดีกว่ากล้อง macro ความละเอียดต่ำอยู่แล้วด้วย แสงน้อยก็ยังเอาอยู่ครับ
มีกล้อง Periscope ซูมไกลสุด 100x
มาพูดถึงระยะไกลกันบ้าง HUAWEI P50 Pro มีกล้อง Periscope ความละเอียด 64MP มาให้มีระยะ Optical ที่ 3.5x และสามารถซูมแบบดิจิทัลได้สูงสุดที่ 100x เลยด้วย ใครที่ชอบซูมระดับกลางไปถึงสูง ๆ ถูกใจแน่นอน เท่าที่เราทดสอบมาจริง ๆ ในระยะ 3.5x – 10x บอกเลยว่าใช้งานได้จริง รายละเอียดดีมาก มี AI คอยปรับภาพหลังจากถ่ายเพิ่มเติมด้วย แต่ก็มีจุดสังเกตอยู่บ้างในกล้องตัวนี้คือระยะโฟกัสที่เป็น 95 มม.ไกลกว่าปกติ บางครั้งเรากดซูม 3.5x แล้วจะมัว ต้องถอยไปอีกหน่อยแล้วแตะโฟกัสเพื่อให้ได้ภาพที่คมชัด
และอีกเรื่องที่ยังเป็นจุดสังเกตนิดหน่อยก็คือโทนสีของภาพที่แตกต่างกันเยอะในแต่ละกล้อง อย่างในกล้องหลักเราจะได้ภาพที่สดและเคลียร์ แต่ถ้าซูมเข้าไป 3.5x – 10x หรือ 100x จะตุ่นขึ้นมาชัดเจน ก็คงเป็นข้อจำกัดของฮาร์ดแวร์ด้วยล่ะครับ
Ultra Wide 1x
3.5x 10x 100x
Monochrome ของจริง! ส่งท้ายความเป็น Leica
เรือธงของ HUAWEI รุ่นหลัง ๆ จะใช้ความสามารถของ ISP จำลองภาพขาว-ดำแทน ไม่มีกล้องจริง ๆ บนรุ่นนี้ก็ให้กล้อง Mono ความละเอียด 40MP กลับมาอีกครั้ง ทำงานร่วมกับกล้องตัวอื่นเพื่อเพิ่มระยะได้ด้วย ภาพที่ได้ก็จะออกมาเป็นขาว-ดำ สไตล์ Leica จริง ๆ ซี่งชวนให้เราคิดถึง HUAWEI P รุ่นแรก ๆ ที่มีกล้อง Mono แบบนี้จนสร้างกระแสภาพขาว-ดำได้ระยะหนึ่งเลยทีเดียว
โหมด Portrait ระยะครบ แต่…
ต่อมาเป็นเรื่องการถ่ายคนหรือโหมด Portrait เรื่องถ่ายคนรอบนี้ HUAWEI ทำได้ดีขึ้นเยอะในเรื่องโทนสี อย่างที่บอกครับว่าพอมีเทคโนโลยีอย่าง XD Fusion Pro เข้ามา ภาพที่ได้สีสันตรงมากขึ้นถ่ายคนได้สวยไม่อมเหลืองแล้ว แถมในโหมดนี้เรายังสามารถเลือกระยะได้ 3 ระดับ 1x 2x 3x เพื่อมิติภาพที่ดีขึ้นอีกด้วย
แต่…จุดสังเกตใหญ่ของโหมดนี้ก็คือการตัดขอบภาพที่แอบไม่เนียนตาเอาซะเลย แถมการเบลอฉากหลังยังเบลอเยอะจนเหตุ เลยทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมาแอบหลอกตาไปมาก ไม่รู้ว่านี่ยังเป็นซอฟต์แวร์ตัวทดสอบอยู่รึเปล่า ซึ่งวิธีการแก้ก็อาจจะต้องสลับไปใช้โหมด Aperture หน้าชัดหลังเบลออีกแบบที่เราสามารถมาปรับลดความเบลอทีหลังแก้ขัดได้อยู่ครับ
Portrait mode Aperture mode (f/4.0)
กลางคืนเก่งตั้งแต่ Auto ถ้า Night mode ยิ่งสุดเข้าไปใหญ่
อีกเรื่องที่ HUAWEI ทำได้ดีมาตลอดก็คือการถ่ายภาพกลางคืน รอบนี้ดีตั้งแต่โหมด Auto เลย มืดแค่ไหน แค่กดถ่าย AI จะประมวลผลภาพกลางคืนให้สวยโดยที่เราไม่ต้องรอหรือปรับแต่งเยอะ ทั้งสีสันและรายละเอียดทำได้ดีมากในทุกกล้องทุกระยะเลยทีเดียว
ถ้าอยากได้รายละเอียดหรือ Dynamic Range ที่ดีขึ้นก็สลับไปใช้ Night mode ได้ ตรงนี้อาจต้องใช้เวลารอการจับภาพหน่อยสัก 1 – 2 วินาที แต่ผลลัพธ์ออกมาสวยคมขึ้นอีก พวกแสงไฟที่อาจจะจ้า ๆ ในบางจุด ก็จะสมดุลขึ้นครับ
Auto Night Mode
วิดีโอสูงสุดที่ 4K
ส่วนงานวิดีโอ HUAWEI P50 Pro ก็รองรับความละเอียดสูงสุดที่ 4K 60fps พร้อมระบบกันสั่น OIS และ AIS ด้วย ช่วยให้วิดีโอนั่นนิ่งขึ้น คุณภาพก็ยอดเยี่ยมเหมือนเดิม เราสามารถสลับเลนส์ขณะถ่ายได้ด้วย
กล้องหน้ามุมกว้าง 100° เซลฟี่ถูกใจ
สำหรับกล้องหน้าของ HUAWEI P50 Pro มาพร้อมความละเอียด 13MP และได้มุมกว้างถึง 100° ช่วยให้เราได้ภาพที่กว้างกว่าที่เคย ในแอปกล้องจะมีให้เราเลือก 3 ระยะเลยคือ 1x, 0.8x หรือ Wide ซึ่งคุณภาพก็ถือว่ายอดเยี่ยมครับ มุมกว้างแบบถูกใจมาก ๆ ใครที่ชอบเซลฟี่กลุ่มหรือเก็บภาพวิวไปด้วย ไม่ผิดหวังแน่นอน แถมรายละเอียดของภาพและ Dynamic Range ก็ไม่น้อยหน้ากล้องหลังเลยด้วย
1x 0.8x Wide
ปัญหาที่เจอจากกล้องของ HUAWEI P50 Pro
เรียกว่าทั้งหมดที่ให้มาในรอบนี้ยังคงยอดเยี่ยมสมชื่อ HUAWEI จริง ๆ แต่ก็ใช่ว่าไม่มีปัญหาเลย เพราะเท่าที่ลองใช้งานมานอกจากเรื่อง Portrait ที่ตัดขอบได้ขัดใจ ก็ยังมีเรื่องความร้อนให้เห็นบ้าง ซึ่งเท่าที่ลองใช้งานจริง ถ่ายภาพกลางแจ้งสักระยะ จะเกิดความร้อนแบบชัดเจน และฟีเจอร์บางอย่างที่เคยทำได้ดีจะค่อย ๆ ถูกตัดออกไปเช่นพวก HDR หรือการปรับภาพที่เคยถ่ายแล้วปรับความสว่างให้เข้ากันก็หายไป หรืออย่างชัดเจนเลยคือโหมด Portrait ถ้าร้อนแล้วจะตัดฟีเจอร์ละลายฉากหลังออกไป เครื่องจะเตือนว่าให้ทำให้เครื่องเย็นก่อน ซึ่งหากจำเป็นต้องใช้งานจริง ๆ ก็แอบเสียอารมณ์เหมือนกัน
แต่โดยรวม HUAWEI P50 Pro ยังคงเป็นหนึ่งในกล้องเรือธงที่ไว้ใจได้มากที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะถ้าทำงานได้เต็มประสิทธิภาพจริง ๆ ทั้งภาพวิว ภาพคน การซูม หรือวิดีโอ ไม่ผิดหวังเลยจริง ๆ ครับ เชื่อว่าในเวอร์ชั่นขายจริงคงมีการอัปเดตซอฟต์แวร์แก้ปัญหาเหล่านั้นออกมาแน่นอน
ใช้ EMUI 12 บนบริการ HMS
มาเข้าสู่เรื่องที่หลายคนสนใจกับเรื่องซอฟต์แวร์ HUAWEI P50 Pro มาพร้อมระบบ EMUI 12 ที่ครอบทับอยู่บน Android 11 ซึ่งรุ่นนี้ยังคงใช้บริการต่าง ๆ ผ่าน HMS ก็คือไม่มี GMS ให้ใช้แล้ว แอปต่าง ๆ ก็ดาวน์โหลดผ่าน HUAWEI AppGallery ได้เลย
หรือจะเป็นแอป Petal Search ก็เป็นทางเลือกที่ดีที่ HUAWEI นำเสนอให้ผู้ใช้ครับ ซึ่งเท่าที่เราลองใช้งานจริง ๆ ก็ใช้ทดแทนได้หลายส่วนเลย ทั้งแอปหรือเกมที่เราหาไม่ได้ใน HUAWEI AppGallery ก็ค้นหาเป็นไฟล์ APK มาติดตั้งได้เกือบหมด ถือว่าค่อนข้างตอบโจทย์เลยทีเดียวครับ
G Space ทางเลือกสำหรับคนต้องการใช้งาน Google
ถึงแม้จะบอกว่ารุ่นนี้ทำงานผ่าน HMS แต่ทาง HUAWEI ก็ยังมีแอปที่ให้เราใช้งานแอป Google ได้อยู่กับแอป G Space ที่เราสามารถดาวน์โหลดได้โดยตรงผ่าน HUAWEI AppGallery ด้วย ซึ่งในแอปนี้จะเป็นการจำลองพื้นที่ส่วนหนึ่งของตัวเครื่องให้เป็นพื้นที่ของ GMS เข้ามาได้ เราจึงสามารถล็อกอินเข้าใช้ Play Store รวมถึงโหลดแอปของ Google ทั้ง YouTube, Gmail, Google Drive, Maps และอีกสารพัดได้ในนี้ครับ
เท่าที่ลองมาจริง ๆ ก็ถือว่าทดแทนได้อยู่ แม้จะไม่สะดวกเท่าแบบปกติ แต่ก็ช่วยได้มาก อย่าง YouTube ที่ปกติเราต้องทำงานผ่านเว็บ พอเป็นแอปจริง ๆ ก็สะดวกขึ้น หรือจะเป็นพวก Google Drive ก็ง่ายกว่า แต่แอปนี้ก็ยังมีข้อจำกัดในเรื่องโฆษณา เพราะก่อนเราเข้าใช้จะมีโฆษณาขึ้นมาตลอด ซึ่งถ้าจะใช้งานแบบไม่มีโฆษณาขั้นเลย ก็มีแบบ VIP ให้เลือกซื้อเพิ่มแบบรายเดือนหรือปลดล็อคตลอดชีพในราคา 599.66 บาทแทนครับ
เท่าที่ลองมาจริง ๆ ก็ถือว่าทดแทนได้อยู่ แม้จะไม่สะดวกเท่าแบบปกติ แต่ก็ช่วยได้มาก อย่าง YouTube ที่ปกติเราต้องทำงานผ่านเว็บ พอเป็นแอปจริง ๆ ก็สะดวกขึ้น หรือจะเป็นพวก Google Drive ก็ง่ายกว่า แต่แอปนี้ก็ยังมีข้อจำกัดในเรื่องโฆษณา เพราะก่อนเราเข้าใช้จะมีโฆษณาขึ้นมาตลอด ซึ่งถ้าจะใช้งานแบบไม่มีโฆษณาขั้นเลย ก็มีแบบ VIP ให้เลือกซื้อเพิ่มแบบรายเดือนหรือปลดล็อคตลอดชีพในราคา 599.66 บาทแทนครับ
การใช้งานที่ลื่นไหล การจัดการซอฟต์แวร์ที่ดี
ถ้าไม่นับเรื่องบริการ HMS ตัว EMUI 12 ก็ถือว่าออกแบบมาได้ดีทีเดียว ทั้งความลื่นไหลของระบบ ความสวยงามของ UI ทำได้ดีมาก ๆ ตอบรับกับหน้าจอโค้งและ refresh rate 120Hz ได้ดีสุด ๆ
มีหน้า Control Panel ที่แบ่งสัดส่วนได้ดี ใช้งานร่วมกับพวก Device+ ได้แบบสมบูรณ์ ถ้ามี ecosystem ของ HUAWEI ด้วยแล้วจะยิ่งสะดวกมาก ๆ ครับ
มีหน้า AOD ที่ออกแบบมาอย่างดี รวมถึง Wallpaper สวย ๆ ให้เลือกเพียบ มี Magazine Unlock ที่คัด Wallpaper สวย ๆ มาให้ในหน้า Lock screen รวมถึงพวก Dark mode, โหมด Eye Comfort ครบครับ
ประสิทธิภาพระดับเรือธง แต่…
มาเข้าเรื่องประสิทธิภาพกันต่อ HUAWEI P50 Pro รุ่นที่วางจำหน่ายในบ้านเราจะใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 888 นะครับ มาพร้อมความจุ 8GB + 256GB ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานอย่างมากแล้วในปัจจุบัน แต่ที่น่าเสียดายคงเป็นเรื่องการเชื่อมต่อ เพราะรุ่นนี้จะรองรับการเชื่อมต่อแค่ 4G เท่านั้น ไม่มี 5G ให้ใช้งานครับ
ในเรื่องความแรงก็ให้มาสูงไม่แพ้รุ่น 5G เราทดสอบผ่านแอป AnTuTu Benchmark ออกมาสูงถึง 663202 คะแนนเลย อยู่ในเกณฑ์ตัวท็อป สเปคเหลือ ๆ ครับ
หรือจะเป็นฝั่ง GeekBench 5 ก็ได้คะแนน Single-Core ที่ 919 คะแนน และ Multi-Core ที่ 3536 คะแนนครับ
เล่นเกมกันเลย!
มาต่อในเรื่องการเล่นเกม ซึ่งเกมที่เราจะใช้ทดสอบเครื่อง HUAWEI P50 Pro นี้จะมี 3 เกมฮิต ๆ อย่าง Asphalt 9, ROV และ PUBG NEW STATE ครับ
เล่น Asphalt 9 บน HUAWEI P50 Pro
เริ่มที่ Asphalt 9 ก่อนเลย เกมนี้เราโหลดโดยตรงผ่าน HUAWEI AppGallery การซิงค์ข้อมูลก็ทำได้ผ่าน Facebook หรือ HUAWEI ID ด้วย ตัวเกมปรับกราฟิกได้ที่ “High Quality” และยังเปิด 60fps ได้ด้วย เท่าที่เล่นจริงจังบอกเลยว่าทำได้ยอดเยี่ยมครับ ทั้งความลื่นไหลและการควบคุมตอบสนองได้ดีมาก ๆ
เล่น ROV บน HUAWEI P50 Pro
ต่อมาเป็น ROV เกมนี้เราโหลดจาก Petal Search เป็นไฟล์ XAPK มา ติดตั้งง่าย ๆ และเล่นได้จริง จะซิงค์ข้อมูลจาก Facebook ก็ได้ข้อมูลต่าง ๆ มาครบ เราทดสอบด้วยระดับกราฟิกสูงสุด เปิด 60fps เล่นได้อย่างลื่นไหล เฟรมเรตไม่มีตกเลย แม้จะเป็นจังหวะที่ตีกันนัว ๆ ขนาดหน้าจอที่ใหญ่ถึง 6.6” ก็ช่วยให้เราเล่นได้อย่างสนุกและตอบสนองได้ไวครับ
เล่น PUBG NEW STATE บน HUAWEI P50 Pro
และเกมสุดท้ายกับ PUBG NEW STATE เกมใหม่ล่าสุดที่เราก็โหลดจาก Petal Search เหมือนกัน ติดตั้งง่ายเล่นได้เหมือนโหลดจาก Store ปกติครับ และซิงค์ข้อมูลผ่าน Facebook ได้เหมือนเดิม ตัวเกมให้เราปรับเฟรมเรตได้ถึง Max และกราฟิกระดับ Ultra ในเกมเราเล่นได้อย่างลื่นไหลมาก เฟรมไม่มีดรอปเลย และการได้ลำโพงคู่มากับเกมแนวนี้ก็เหมาะเลย ได้ยินเสียศัตรูมาแบบรอบทิศ จับสัมผัสได้ดี
โดยรวมในเรื่องประสิทธิภาพต้องบอกเลยว่า HUAWEI P50 Pro ทำได้ดีหายห่วง จะเล่นเกมหรือทำงานหนัก ๆ ก็ทำได้อย่างราบรื่น เล่นเกมใหม่ ๆ ก็ทำได้ แต่อาจจะต้องหาโหลดจาก Petal Search แทน ไม่ใช่ปัญหาใหญ่โหลดและติดตั้งได้ง่ายครับ การทำงานโดยรวมลื่นไหลดี ความร้อนมีบ้างแต่ถ้าร้อนหนัก ๆ ตัวเครื่องจะจัดการปรับลดพวก refresh rate ลงเพื่อให้เราทำงานได้อย่างดียิ่งขึ้นครับ จุดสังเกตหลักในเรื่องประสิทธิภาพคงเป็นเรื่อง 5G ที่ไม่มีมาให้ใช้บนรุ่นนี้ ใครที่ต้องการความเร็วระดับสูง ๆ อาจต้องไปใช้งาน WiFi แทนเนาะ
แบตเตอรี่ใช้งานได้ดีกับความจุ 4360mAh
มาปิดท้ายที่เรื่องแบตเตอรี่ HUAWEI P50 Pro มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 4360mAh อาจจะดูไม่เยอะมากในระดับเรือธงด้วยกัน แต่เท่าที่เราลองใช้งานจริงมา ยังไม่รู้สึกว่าแบตฯหมดไว หรือต้องคอยชาร์จบ่อย ๆ เลย ถือว่าเป็นรุ่นที่แบตเตอรี่ใช้ได้ แม้จะไม่ได้อึดมากมายก็ตามครับ
มีระบบชาร์จไว HUAWEI SuperCharge ทั้งแบบสายและไร้สาย
ส่วนเรื่องระบบชาร์จ HUAWEI P50 Pro ได้ระบบชาร์จไว HUAWEI SuperCharge 66W มาให้ ช่วยให้เราชาร์จแบตฯกลับมาได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังรองรับระบบชาร์จไร้สายสูงสุดถึง 50W Wireless HUAWEI SuperCharge อีกต่างหาก ใช้งานหนัก ๆ มาก็กลับมาชาร์จไม่นานได้แบตฯคืนมาเยอะแล้วครับ
ราคาเปิดตัว 33,990 บาท
HUAWEI P50 Pro เปิดราคาทางการที่ 33,990 บาท มีให้เลือก 2 สีคือสีทอง Cocoa Gold (สีที่รีวิว) และสีดำ Golden Black สั่งซื้อตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม – 11 กุมภาพันธ์รับของแถมเป็น HUAWEI WATCH GT 2 Pro Classic (Nebula Gray) และ P50 Pro 3 Month Broken Screen Warranty
สรุปแล้ว “นี่คือหนึ่งในเรือธงที่มีกล้องไว้ใจได้ที่สุด”
สรุปแล้ว HUAWEI P50 Pro ก็เป็นอีกหนึ่งเรือธงที่ชูเรื่องกล้องมาเป็นที่ 1 และก็ทำได้ดีตามมาตรฐานครับ ทั้งภาพนิ่งที่ยังเก่งเหมือนเดิม มีเทคโนโลยีใหม่ ๆ มากมายที่ทำให้ภาพสวยและสมจริงขึ้น การกลับมาของกล้อง Mono ก็ช่วยให้เราสนุกไปกับการถ่ายภาพขาว-ดำอีกครั้ง ระยะต่าง ๆ ของเลนส์ก็ให้มาครบแม้ช่วงซูมจะไม่หวือหวาเท่ารุ่นก่อน ๆ แต่ก็ยังทำได้น่าประทับใจ จะมีเรื่องที่ยังติดใจอยู่บ้างก็คือเรื่องของ Portrait mode และความร้อนอยู่บ้างที่ถ้าปรับแก้ตรงนี้ได้จะเป็นรุ่นที่เพอร์เฟ็กต์สุด ๆ เลยล่ะครับ และเรื่องสำคัญอย่างซอฟต์แวร์ที่ต้องทำงานผ่าน HMS ก็ดูจะค่อย ๆ ปรับแก้ให้ดีขึ้นได้ด้วย Petal Search และ G Space จนเพียงพอต่อการใช้งานได้เยอะแล้ว อีกทั้งฮาร์ดแวร์งานประกอบตัวเครื่องที่หรูหรา หน้าจอ OLED ที่สวยสมจริง แบตเตอรี่ใช้งานได้ดีพร้อมชาร์จไว 66W ก็ยังเป็นรุ่นที่เราเชื่อว่าแฟน ๆ HUAWEI หลายคนคงตกหลุมรักได้ไม่ยากจริง ๆ ครับ
จุดเด่น
- กล้องไว้ใจได้ในหลายสถานการณ์ ทุกเลนส์คุณภาพยอดเยี่ยม
- กล้องหน้ามุมกว้าง 100° ดีงามจริง ๆ
- บอดี้งานประกอบสุดหรู ขนาดและน้ำหนักพอดีมือ
- หน้าจอ OLED แบบ True-Colour Display สวยลงตัวมาก
- แบตเตอรี่เพียงพอต่อการใช้งาน พร้อมชาร์จไว 66W
- EMUI 12 ปรับแต่งมาดี การทำงานลื่นไหล
จุดสังเกต
- ความร้อนที่เห็นค่อนข้างชัดเมื่อทำงานหนัก
- เมื่อเครื่องร้อนฟีเจอร์กล้องจะถูกปิดการทำงานไปด้วย
- ไม่รองรับ 5G