รีวิว Huawei P8 สมาร์ทโฟนดีไซน์หรูสุดบาง พร้อมกล้องวาดภาพด้วยแสง

Huawei P8 สมาร์ทโฟนดีไซน์เรียบหรูด้วยตัวเครื่องโลหะชิ้นเดียวสุดบาง ต่อยอดความสำเร็จจากรุ่น Huawei Ascend P7 และมาพร้อมกล้องชูจุดเด่นการวาดภาพด้วยแสงด้วยการเปิดหน้ากล้องได้นานขึ้น

สรุปข้อมูลและสเปค Huawei P8 (UL00)

• ราคาเปิดตัว 15,990 บาท (มิถุนายน 2558)
• ขนาดตัวเครื่อง 144.9 x 72.1 x 6.4 มม.
• น้ำหนัก 144 กรัม
• 2G : GSM 900 / 1800 / 1900 MHz
• 3G : HSDPA 850 / 900 / 1700 / 1900 / 2100 MHz
• 4G : LTE band 1(2100), 3(1800), 4(1700/2100), 7(2600), 38(2600), 39(1900), 40(2300), 41(2500)
• รองรับ 2 ซิม (Nano SIM + Nano SIM)
• หน้าจอแสดงผลขนาด 5.2 นิ้ว IPS-NEO LCD ความคมชัด Full HD 1080p
• ระบบปฏิบัติการ Android 5.0 Lollipop
• ชิปเซ็ต Hisilicon Kirin 930
• ซีพียู 64 บิต Octa-core 2.0 GHz (Quad-core 2.0 GHz Cortex-A53 & Quad-core 1.5 GHz Cortex-A53)
• กราฟิก (GPU) Mali-T624
• หน่วยความจำ RAM 3 GB
• หน่วยความจำ ROM 16 GB เพิ่มความจำภายนอกได้ด้วย microSD สูงสุด 128 GB
• กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล แฟลช Dual LED (Dual tone) และระบบกันภาพสั่นไหว OIS
• กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล
• รองรับ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n, Bluetooth 4.1
• GPS/ A-GPS, GLONASS/Beidou
• วิทยุ FM
• แบตเตอรี่ Li-Po 2680 mAh (ถอดเปลี่ยนเองไม่ได้)

แกะกล่องและอุปกรณ์ในกล่อง

• ตัวเครื่อง Huawei P8 และแบตตอรี่ในตัว
• สาย micro USB
• อะแดปเตอร์ชาร์จไฟ
• หูฟัง
• เข็มจิ้มถาดใส่ซิม
• คู่มือใช้งานและใบรับประกัน
• บัตร VIP สำหรับส่งซ่อมเสร็จเร็ว รับเครื่องคืนภายใน 1 วัน

ตัวเครื่อง ดีไซน์ และหน้าจอแสดงผล

Huawei P8 มาพร้อมการดีไซน์ระดับพรีเมียมและหรูหราด้วยตัวเครื่องโลหะทั้งตัวไร้รอยต่อ (All-metal unibody) มีความบางอยู่ที่ 6.4 มม. ขอบตัวเครื่องมีความโค้งมนช่วยให้จับกระชับมือและขัดเงามุมขอบให้สวยงาม น้ำหนัก 144 กรัม และด้านหน้าบริเวณด้านล่างหน้าจอไม่มีโลโก้ Huawei แล้ว

หน้าจอแสดงผลมีขนาด 5.2 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 1920 พิกเซล ความหนาแน่นของพิกเซลอยู่ที่ประมาณ 424 พิกเซลต่อนิ้ว เป็นหน้าจอแบบ IPS-NEO LCD ให้ระดับสีดำที่ลึกหรือสีดำก็ดำสนิท ป้องกันหน้าจอด้วยกระจก Gorilla Glass 3 และให้ส่วนหน้าจอประมาณ 71.4% ของพื้นที่ตัวเครื่อง

เหนือหน้าจอมีเลนส์กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, ลำโพงเสียงสนทนา และมีไฟ LED แจ้งเตือนสถานะต่าง ๆ อยู่บริเวณมุมขวาบน

ด้านล่างหน้าจอไม่มีปุ่มใด ๆ และโลโก้ Huawei ก็ไม่มีอยู่ตรงนี้แล้ว ส่วนปุ่มนำทางจะอยู่บนหน้าจอแสดงผล

ขอบด้านบนตัวเครื่องมีช่องเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม. และรูเล็ก ๆ ที่เห็นนั้นคือไมโครโฟนตัวที่สองสำหรับตัดเสียงรบกวน

ขอบด้านล่างตัวเครื่องเริ่มจากทางด้านซ้ายเป็นช่องเสียงลำโพง, พอร์ตเชื่อมต่อขนาด micro USB และขวาสุดเป็นช่องสำหรับไมโครโฟน

ขอบด้านซ้ายตัวเครื่องไม่มีปุ่มใด ๆ

ขอบทางด้านขวามีปุ่มปรับระดับเสียง, ปุ่มปิด/เปิดเครื่องหรือปิด/เปิดหน้าจอ, ช่องใส่ซิมการ์ดกับช่องใส่ microSD card

ด้านหลังตัวเครื่องเป็นโลหะทั้งตัวไร้รอยต่อ (All-metal unibody) ไม่สามารถแกะฝาหลังออกได้ พื้นผิวเรียบ และมีโลโก้ Huawei โดยภายในมีแบตเตอรี่ชนิด Li-Po ขนาด 2,680 mAh

เลนส์กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล มีระบบกันภาพสั่นไหว OIS และแฟลช Dual LED ซึ่งเป็นแฟลช 2 สี (Dual tone) ช่วยถ่ายภาพในที่แสงน้อยหรือในที่มืดและทำให้ได้ภาพที่สวยสมจริงขึ้น

ตำแหน่งของกล้องหลังค่อนข้างอยู่ชิดมุมตัวเครื่อง ซึ่งทำให้นิ้วมือของเราจับโดนได้ง่ายและเป็นรอยนิ้วมือหน้าเลนส์ได้ง่าย

Huawei P8 (UL00) รุ่นที่วางจำหน่ายในไทยจะรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด โดยช่องใส่ซิม 2 ต้องเลือกว่าจะใส่ซิมขนาด Nano SIM หรือ microSD card ความจุสูงสุด 128GB และทุกครั้งที่มีการถอดถาดใส่ซิม ระบบจะบังคับให้รีสตาร์ทเครื่องทุกครั้ง

อินเตอร์เฟซและฟังก์ชั่นการใช้งาน

Huawei P8 รันระบบปฏิบัติการ Android 5.0 Lollipop ครอบทับด้วย EMUI เวอร์ชั่น 3.1 ที่มีหน้าตาแบบเรียบ ๆ เฉดสีไอคอนต่าง ๆ ไร้แสงเงา โดยในหน้าล็อคสกรีนสามารถปลดล็อกเข้าใช้งานกล้องถ่ายรูปได้ด้วย นอกจากนี้ขณะปลดล็อคหน้าจอยังเพิ่มความสวยงามด้วยการจางหน้าจอล็อคตามนิ้วที่ลาก

การปรับแต่งภาพในหน้าล็อกสกรีนก็สามารถทำได้ง่าย ๆ โดยการปัดขอบด้านล่างขึ้นในหน้าล็อคสกรีนจะมี Lockscreen quick โผล่ขึ้นมา แล้วเลือกเมนู “หน้าปก” ซึ่งสามารถเพิ่มรูปภาพได้เอง และไม่เพียงแต่สามารถตั้งค่าภาพล็อคสกรีนได้ ยังสามารถเรียกใช้งานเครื่องบันทึกเสียง, เครื่องคิดเลข, ไฟฉาย และกล้องถ่ายรูปได้

การจัดการหน้าจอหลักหรือหน้าโฮมสามารถเพิ่มหน้าโฮม, เปลี่ยนวอลเปเปอร์, เพิ่มวิตเจ็ด, เปลี่ยนเอฟเฟ็กการเลื่อนหน้าจอ และจัดเรียงไอคอนแอพพลิเคชั่นได้ 4 x 6 แถว โดยหลังจากดาวน์โหลดหรือติดตั้งแอพพลิเคชั่นเพิ่มเติม ไอคอนจะถูกเรียงไว้ที่หน้าโฮมอัตโนมัติ และเมื่อปัดหน้าจอลงจะมีเมนูค้นหา และแสดงรายการแอพพลิเคชั่นที่ใช้งานล่าสุด

สามารถลากไอคอนแอพพลิเคชั่นเพื่อรวมกันเป็นโฟลเดอร์ได้ เหมาะกับการรวมแอพไว้เป็นกลุ่มและตั้งชื่อโฟลเดอร์ได้ด้วย หรือจะแตะค้างที่ไอคอนแอพแล้วลากเพื่อลบการติดตั้งก็ได้เช่นกัน ทำได้เฉพาะแอพที่ติดตั้งเพิ่มเติมเอง ส่วนแอพที่มากับระบบไม่สามารถลบออกได้

Huawei มีระบบธีมให้เลือกเปลี่ยนหลากหลายแบบ เผื่อใครเบื่อหน้าตาเดิม ๆ ก็สามารถเข้าไปดาวน์โหลดและเปลี่ยนใช้งาน ธีมดาวน์โหลดฟรีครับ

การแจ้งเตือนจะแสดงรายการแบบไทม์ไลน์ เลือกแตะที่รายการเพื่อเปิดู หรือปัดซ้าย/ขวาเพื่อลบกาาแจ้งเตือน และส่วนของ Controal Panel มีเมนูสำหรับจับภาพหน้าจอให้ด้วย

ในส่วนของ Task switcher แสดงรายการแอพพลิเคชั่นที่เปิดใช้งานอยู่ สามารถปัดที่รายการแต่ละอันเพื่อปัดหรือปัดด้านล่างขึ้นเพื่อปิดการใช้งานทั้งหมด

หน้าจอมีเลือกใช้งาน 2 แบบคือแบบมาตรฐาน และแบบเรียบง่าย ซึ่งแบบเรียบง่ายจะมีไอคอนขนาดใหญ่ คล้าย ๆ กับไทล์ของ Windows Phone และตัวหนังสือเมนูต่าง ๆ ก็ใหญ่ตามไปด้วย

การแสดงชื่อเครือข่าย, แสดงความเร็วของอินเตอร์เน็ต และไฟแสดงสถานะต่าง ๆ สามารถเข้าไปปิดหรือเปิดใช้งานได้ในเมนู “การตั้งค่าการแสดงผล”

ฟีเจอร์คำสั่งเสียง สำหรับค้นหามือถือหากลืมว่าวางมือถือไว้ตรงไหน และสั่งโทรออกด้วยเสียง ซึ่งเริ่มต้นเรียกใช้งานโดยการใช้คำว่า “Okay emy” หน้าจอก็จะเปิดขึ้นมา หากต้องการค้นหาเครื่องก็ใช้คำสั่ง “Where are you?” หรือหากต้องการโทรออก ก็ใช้คำสั่ง “Call ตามด้วยชื่อ”

การค้นหามือถือด้วยเสียง หลังจากรับคำสั่งแล้ว มือถือจะส่งเสียงร้อง พร้อมกับไฟแฟลชด้านหลังจะเปิดเป็นจังหวะด้วย

ฟังก์ชั่นเพิ่มการสัมผัส เป็นการใช้ฟิล์มกันรอยหน้าจอแบบพิเศษ (น่าจะมีขายเพิ่มเติม) ที่สามารถใช้เป็นปุ่มสัมผัสสั่งงานได้ ไม่ว่าจะเป็นปุ่มนำทาง 3 ปุ่มด้านล่างหน้าจอ และปุ่มสั่งงานที่มุมซ้ายบนกับมุมขวาบน

การควบคุมการเคลื่อนไหว ได้แก่

• คว่ำหน้าจอเพื่อปิดเสียงเรียกเข้า หรือเสียงปลุก
• ยกมือถือขึ้นเพื่อลดความดังของเสียงเรียกเข้า หรือเสียงปลุก
• ยกมือถือแนบหูเพื่อรับสาย หรือโทรออก
• เขย่าเพื่อจัดเรียงไอคอนหน้าโฮมใหม่
• แตะค้างที่ไอคอนหรือวิดเจ็ตแล้วเอียงหน้าจอเพื่อเลื่อนไปวางไว้ในหน้าถัดไป

ปุ่มนำทางด้านล่างสามารถปรับสลับตำแหน่งหรือเพิ่มเมนูเรียกดูการแจ้งเตือนได้

การใช้งานมือเดียว เป็นการลดขนาดการแสดงผลให้เป็นหน้าต่างขนาดเล็กลง สามารถใช้งานมือเดียวได้

แผงปุ่มไอคอนลัด เป็นการเปิดใช้งานไอคอนที่รวมไอคอนปุ่มนำทางไว้ในปุ่มเดียวและปุ่มนี้จะลอยอยู่บนหน้าจอทุกหน้า

Knuckle Gestures เป็นการใช้ข้อนิ้วด้านหลังเคาะบนหน้าจอหนัก ๆ ติดกัน 2 ครั้งเพื่อจับภาพหรือวาดลายเส้นรอบพื้นที่ที่ต้องการเพื่อจับภาพหน้าจอบางส่วน ซึ่งฟีเจอร์นี้ต้องเคาะนิ้วลงหนัก ๆ นะครับถึงจะใช้งานฟังก์ชั่นนี้ได้ ^^

การเชื่อมต่อ

Huawei P8 รุ่นโมเดล UL00 รองรับการเชื่อมต่อเครือข่ายไร้สายทั้ง 2G/GPRS/EDGE, 3G HSDPA 850 / 900 / 1700 / 1900 / 2100 MHz ที่ความเร็วดาวน์โหลดสูงสุด 42.2 Mbps และอัปโหลดสูงสุด 5.76 Mbps

การเชื่อมต่อเครือข่าย 4G LTE รองรับ LTE Cat. 6 ความเร็วดาวน์โหลดสูงสุด 300 Mbps ซึ่งใช้งาน 4G ในไทยได้ โดยช่องใส่ซิมทั้ง 2 ช่องรองรับเครือข่ายทั้ง 3G และ 4G แต่ต้องเลือกเปิดใช้งานว่าจะให้ใช้งานที่ซิมตัวใดตัวหนึ่งแล้วอีกซิมจะเป็น 2G อัตโนมัติ สามารถสับเปลี่ยนได้จากเมนูตัวเครื่อง

Huawei P8 รองรับ Dual-band Wi-Fi 802.11 a/b/g/n ไม่รองรับ Wi-Fi 802.11ac และรุ่นโมเดล UL00 ที่วางจำหน่ายในไทยไม่มี NFC โดยมีฟังก์ชั่นที่น่าสนใจของรุ่น P8 คือฟังก์ชั่นที่เรียกว่า LINK+ ซึ่งจะมีในส่วนของ Wi-Fi+ เป็นการสับเปลี่ยนระหว่างเครือข่าย Wi-Fi และเครือข่ายมือถืออย่างอัจฉริยะและเปิด Wi-Fi อัตโนมัติเมื่ออยู่ในตำแหน่งที่รู้จัก อีกส่วนก็คือ Signal+ เป็นการเปิดรับสัญญาณจากทุกทิศทางเพื่อเพิ่มความเสถียรของสัญญาณ

การเชื่อมต่อ Bluetooth เป็นเวอร์ชั่น 4.1 กับ A2DP, EDR และประหยัดพลังงาน ส่วนการเชื่อมต่อผ่านสายรองรับ microUSB 2.0 และมี GPS/GLONASS

แบตเตอรี่และการจัดการพลังงาน

Huawei P8 มีแบตเตอรี่ชนิด Li-Po ขนาดความจุ 2,680 mAh ฝังมากับตัวเครื่อง มีโหมดสำหรับจัดการพลังงานให้เลือกใช้งานด้วย ได้แก่ โหมดปกติ/โหมดอัจฉริยะ จะมีการปรับการทำงานของซีพียูและจัดการรวมถึงปิดการทำงานเบื้องหลังด้วย ซึ่งก็ใช้งานฟังก์ชั่นได้ปกติทุกผังก์ชั่นแต่จะช่วยยืดระยะการใช้งานได้ยาวนานขึ้น

โหมดประหยัดพลังงานขึ้นสูง จะใช้งานได้เฉพาะฟังก์ชั่นพื้นฐาน เช่น การโทร ข้อความ เป็นต้น และหน้าจอแสดงผลจะเปลี่ยนเป็นขาวดำเพื่อแลกกับการยืดระยะเวลาให้ใช้งานได้นานขึ้น เหมาะสำหรับยามฉุกเฉินที่ไม่สามารถหาที่ชาร์จแบตได้

ตรวจสอบเซ็นเซอร์ด้วย Android Sensor Box และมัลติทัช

• Accelerometer Sensor ช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้
• Light Sensor สำหรับตรวจวัดระดับความสว่างของสภาพแวดล้อม เพื่อปรับความสว่างของหน้าจอและแผงปุ่มกดให้เหมาะสม
• Orientation Sensor ระบบปรับมุมมองการแสดงผลหน้าจออัตโนมัติ
• Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน
• Gyro Sensor ระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวแบบ 3 แกน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และความยืดหยุ่นหลากหลายในการควบคุม
• Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
• Magnetic Sensor ตรวจวัดความเข้มสนามแม่เหล็ก
• รองรับมัลติทัชสูงสุด 10 จุด

ผลทดสอบคะแนน Benchmark และประสิทธิภาพการทำงาน

Huawei P8 ใช้ชิปเซ็ต HiSilicon Kirin 930 ซีพียู Octa-core Coretex-A53 แบ่งเป็น Quad-core 2.0 GHz กับ Quad-core 1.5 GHz กับจีพียู Mali-T624 ผลการทดสอบ AnTuTu ในโหมด 64 บิต ทำคะแนนรวมได้ 36,170 คะแนน และ Quadrant Standard ได้ 9,131 คะแนน

ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมด้วย BaseMark OS ได้ 977 คะแนน และผลการทดสอบประสิทธิภาพกราฟิกด้วย NenaMark 2 ได้ 59.8 เฟรมต่อวินาที จากการทดสอบเล่นเกมที่มีภาพกราฟิกสวย ๆ จะมีอาการกระตุกบ้าง

กล้องถ่ายรูป

Huawei P8 มีกล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล ความละเอียดสูงสุด 4160 x 3120 พิกเซล ระบบออโต้โฟกัส, ระบบกันภาพสั่นไหว OIS พร้อมแฟลช Dual tone LED โดยดวงหนึ่งให้แสงโทนเย็นและอีกดวงหนึ่งจะให้แสงโทนอุ่น เมื่อถ่ายภาพด้วยแฟลชชนิดนี้จะทำให้ภาพที่ได้จะให้ความรู้สึกที่มีความเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น ไม่ขาววอกเหมือนแฟลชแสงขาวดวงเดียว

ค่ารูรับแสง F/2.0 และใช้เซ็นเซอร์ RGBW ซึ่งเพิ่มส่วนของ White pixels มาช่วยปรับปรุงความคมชัดของภาพ ทำให้ภาพที่ได้นั้นคมชัดขึ้น เก็บรายละเอียดของภาพได้ดีกว่า และสว่างกว่าระบบ RGB แบบเดิม

ส่วนฟีเจอร์หลัก ๆ ได้แก่ แนบแผนที่ลงบนภาพถ่าย, แตะหน้าจอเพื่อโฟกัส, ตรวจจับใบหน้าและรอยยิ้ม, โหมดพาโนรามา และ HDR โดยกล้องหลังรองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียด Full HD 1080p และมีโหมด Time-lapse สำหรับถ่ายวิดีโอแบบเร่งความเร็ว ซึ่งตอนนี้ Huawe P8 สามารถทำได้แล้ว และกล้องหน้ามีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล สำหรับเซลฟี่

โหมดถ่ายภาพที่เป็นจุดเด่นของ P8 ก็คือ Light Painting เป็นการเปิดหน้ากล้องได้นานขึ้น ใช้เป็นลูกเล่นในการจับภาพแสงไฟตามทิศทางของแสง เหมาะกับการถ่ายภาพแสงไฟรถยนต์ตามท้องถนน หรือวาดสัญลักษณ์ ตัวหนังสือต่าง ๆ ด้วยแสงไฟ เป็นต้น โหมดนี้ต้องถือเครื่องมือถือให้นิ่ง ๆ หรือใช้ขาตั้งกล้องช่วยจะได้ภาพที่สวยครับ

ตัวอย่างภาพถ่าย

โหมด Auto

โหมด Auto

โหมด Auto

โหมด Auto

โหมดถ่ายภาพแสงไฟ

สรุปจุดเด่น

• หน้าจอ 5.2 นิ้ว IPS-NEO LCD ความคมชัด Full HD 1080p
• ตัวเครื่องดีไซน์สวย โลหะทั้งตัวไร้รอยต่อ (All-metal unibody) บาง 6.4 มม.
• ระบบปฏิบัติการ Android 5.0 Lollipop
• ซีพียู 64 บิต Octa-core 2.0 GHz
• แรม 3GB
• กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซลมีระบบกันภาพสั่นไหว, แฟลช Dual tone LED พร้อมโหมดลูกเล่นถ่ายแสงไฟ
• กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล
• รองรับการใช้งาน 2 ซิม และใช้งาน 4G LTE ในไทยได้
• เพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้ด้วย microSD สูงสุด 128GB

จุดสังเกตเพิ่มเติม

• การเล่นเกมยังไม่ลื่นไหล
• ยังไม่รองรับ Wi-Fi ac
• แบตเตอรี่แกะถอดเปลี่ยนเองไม่ได้
• ไม่รองรับเทคโนโลยีการชาร์จแบตแบบรวดเร็ว

ขอขอบคุณ หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย)