ผนึกกำลังเพื่อยุคดิจิทัลที่เท่าเทียม: หัวเว่ย, มูลนิธิอาเซียน, และซีมีโอ ผลักดันบุคลากรดิจิทัลรุ่นใหม่ของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในงาน Seeds for the Future Summit 2023

โดย Surin Khiewsart (Editor)
เผยแพร่เมื่อ: อัปเดทเมื่อ:

หัวเว่ย, มูลนิธิอาเซียน, และองค์การรัฐมนตรีศึกษาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ ซีมีโอ (SEAMEO) ร่วมผนึกกำลังเพื่อเสริมศักยภาพบุคลากรด้านดิจิทัล เปิดฉากโครงการ Seeds for the Future Summit 2023ภายใต้แนวคิด เชื่อมต่อปลูกฝัง, ผลักดันการเติบโตอย่างครอบคลุม ให้แก่บุคลากรดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก’ โดยมีเยาวชนมากความสามารถจากโครงการ Seeds for the Futureเข้าร่วมการประชุมถึง 91คน จาก 19ประเทศในภูมิภาค ซึ่งโครงการ Seeds for the Future นับเป็นโครงการสำคัญของหัวเว่ย ตอกย้ำถึงบทบาทของเยาวชนในการพลิกโฉมอนาคตดิจิทัลให้แก่เอเชียแปซิฟิก

เจ้าหน้าที่รัฐและตัวแทนจากนานาประเทศในอาเซียนและองค์กรระหว่างประเทศ ร่วมเฉลิมฉลองการเติบโตของบุคลากรผู้มีศักยภาพด้านดิจิทัลในภูมิภาคร่วมกับนักศึกษา 91 คนจาก 19 ประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

โครงการ Seeds for the Futureได้รับการเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2551โดยมีเป้าหมายเพื่อบ่มเพาะผู้มีศักยภาพด้านไอซีทีในประเทศไทย และมอบโอกาสด้านการเรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีขั้นสูง สัมผัสความหลากหลายด้านวัฒนธรรม และต่อยอดด้วยการขยายครอบคลุมถึง 137ประเทศในหลายประเทศและภูมิภาค โดยในโครงการ Seeds for the Future2023บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จํากัดได้เฟ้นหานักศึกษาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำในสาขาเทคโนโลยีสื่อสารและวิศวกรรมไฟฟ้า ตลอดจนคณะด้านภาษาและการบริหารธุรกิจ เพื่อบ่มเพาะผู้มีศักยภาพด้านไอซีทีที่มีทักษะรอบด้านสำหรับรองรับอนาคต นอกจากนี้ หัวเว่ย ประเทศไทย ยังผลักดันและสนับสนุนนักศึกษาที่สนใจฝึกงานหรือร่วมงานกับหัวเว่ยในอนาคต รวมถึงดำเนินโครงการอบรมพัฒนาผู้มีความสามารถด้านไอซีทีอีกมากมายตลอดทั้งปี ซึ่งรวมถึงโครงการ ICT Cloud Developerโดยปัจจุบัน หัวเว่ยได้จัดหลักสูตรฝึกอบรมให้กับบุคลากรด้านดิจิทัลไปแล้วกว่า 70,000รายในประเทศไทย และวางแผนที่จะฝึกอบรมนักพัฒนาซอฟต์แวร์ด้านคลาวด์เพิ่มเติมอีก 20,000ราย มุ่งหนุนศักยภาพบุคลากรเพื่อเป็นแรงผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่ความเป็นผู้นำด้านดิจิทัลของเอเชียแปซิฟิกในอนาคต

นายไซมอน หลิน ประธานกรรมการบริหาร ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก หัวเว่ย ได้เน้นย้ำถึงแนวคิดของการประชุมสุดยอดในครั้งนี้ว่า ปีนี้ นับเป็นปีที่สามที่หัวเว่ยได้ร่วมเป็นเจ้าภาพในการจัดงาน Asia Pacific Seeds for the Future Summit และทุกปีเราจะเห็นพัฒนาการและการเติบโตของโครงการ ทั้งยังมีเครือข่ายพาร์ทเนอร์ที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น แต่สามสิ่งหลักที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปคือ ความร่วมมือ ความมุ่งมั่น และการร่วมผลักดันศักยภาพเยาวชน

ขบวนพาเหรดหลากหลายวัฒนธรรมจากตัวแทน Seeds for the Futureในภูมิภาคอาเซียน

การประชุมสุดยอดครั้งนี้เปิดฉากด้วยขบวนพาเหรดหลากหลายวัฒนธรรม โดยมีตัวแทนจาก 19 ประเทศสวมชุดประจำชาติเข้าทักทายผู้ร่วมงาน และนำเสนอจุดเด่นของวัฒนธรรมประจำชาติอย่างภาคภูมิใจ ระหว่างพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการ นายเกา กิม ฮวน เลขาธิการสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้กล่าวว่า “ผมสนับสนุนโครงการที่ริเริ่มโดยภาคเอกชนที่มีวิสัยทัศน์ในการดึงดูดและมุ่งบ่มเพาะบุคลากรผู้ที่มีความสามารถด้านดิจิทัล เช่นโครงการ Seeds for the Futureผมหวังว่าโครงการนี้จะมอบโอกาสเติบโตแก่เยาวชน และให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้หญิง ผู้ทุพพลภาพ และผู้อาศัยในพื้นที่ห่างไกล เพื่อสร้างสังคมแห่งการมีส่วนร่วมและกลมกลืนกันอย่างสมดุล”

นาง หู ยาน ชี เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำอาเซียน กล่าวชื่นชมว่า “โครงการนี้ไม่เพียงแต่ปลูกฝัง เมล็ดพันธุ์’ แห่งการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลของนานาประเทศในภูมิภาคอาเซียน แต่ยังสร้างแรงผลักดันในการยกระดับความร่วมมือระหว่างประเทศจีนและอาเซียนอีกด้วย” นอกจากนี้ นายแอม เฮง สาริธ ผู้แทนแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาประจำภูมิภาคอาเซียน และประธานคณะกรรมการมูลนิธิอาเซียน ยังได้แสดงความขอบคุณต่อหัวเว่ยสำหรับความร่วมมือกับมูลนิธิอาเซียน ในการผลักดันเวทีเสริมศักยภาพเยาวชนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เพื่อต่อยอดพัฒนาทักษะดิจิทัลและขยายเครือข่ายของเหล่าเยาวชนมากความสามารถในระดับนานาชาติ

ดร. กฤษฎ์ชัย สมสมาน ผู้อำนวยการศูนย์ภูมิภาคว่าด้วยสะเต็มศึกษา (STEM Education) ขององค์การรัฐมนตรีศึกษาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เน้นย้ำถึงความเร่งด่วนในการบ่มเพาะบุคลากรผู้มีทักษะดิจิทัลว่า ในภูมิทัศน์ดิจิทัลที่พัฒนาอย่างก้าวกระโดด การพัฒนาบุคลากรด้านดิจิทัลจึงมีความสำคัญยิ่งกว่าที่เคย และจะเป็นกุญแจสำคัญในการเร่งการเติบโต เพิ่มขีดความสามารถในการปรับตัว รวมถึงเพิ่มอำนาจต่อรองในการพลิกโฉมอุตสาหกรรม เศรษฐกิจและสังคม โดยหัวใจสำคัญของโครงการ Seeds for the Futureออกแบบมาเพื่อสร้างแรงบันดาลใจและบ่มเพาะผู้นำรุ่นใหม่ต่อไป

ในการประชุมสุดยอดครั้งนี้ หัวเว่ยและสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (International Telecommunication Union -ITU) ประกาศความร่วมมือที่มุ่งเน้นความร่วมมือทางดิจิทัล 6 ประการในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งรวมถึงนโยบายและหลักปฏิบัติด้านไอซีที, ความร่วมมือด้านการวิจัย, โครงสร้างพื้นฐานที่ครอบคลุม, การเพิ่มขีดความสามารถด้านดิจิทัล, การเสริมศักยภาพเยาวชนและเด็กผู้หญิง และการแบ่งปันความรู้ด้านดิจิทัล

นายไซมอน หลิน ประธานบริษัทหัวเว่ย เอเชียแปซิฟิก (ที่ 4 จากซ้าย) และนางสาวอัตสึโกะ โอคุดะ ผู้อำนวยการสำนักงาน ITU ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (ที่ 4 จากขวา) ร่วมเป็นสักขีพยานในการประกาศความร่วมมือระหว่างสององค์กร

งานประชุมสุดยอดครั้งนี้ปิดฉากด้วยการเสวนา ซึ่งนำโดย ดร.ปิติ ศรีแสงนาม ผู้อำนวยการบริหารมูลนิธิอาเซียน คณะผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ (NUS)ตัวแทนจากหัวเว่ยและผู้เข้าร่วมโครงการ Seeds for the Futureโดยเจาะลึกความซับซ้อนในการบ่มเพาะผู้นำแห่งโลกอนาคตด้วยการลดช่องว่างทางดิจิทัล ตลอดจนบริหารควบคุมและบ่มเพาะทักษะด้านดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง

ผู้ร่วมเสวนา: ดร. ปิติ ศรีแสงนาม ผู้อำนวยการบริหารมูลนิธิอาเซียนดร. โก๊ะ ป๋วย กวน รองศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยธุรกิจ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์, นางสาวจีซีล ไอเจเลธ รามอส แอมบาสเดอร์ระดับโลกของโครงการ Seeds for the Futureนางสาวธัญญ์ฐิตา อนันต์จารุเลิศ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด 5Gและแอมบาสเดอร์ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของหัวเว่ยนายเกล็นน์ โชว, ผู้คว้ารางวัลผู้นำ Seeds for the Future 2023 (จากซ้ายไปขวา)

ก่อนการประชุมครั้งนี้ เหล่านักศึกษาทั้ง 91 คนยังได้เข้าศึกษาดูงานที่บริษัทหัวเว่ย ในเมืองเซินเจิ้นและตงกวนสาธารณรัฐประชาชนจีน รวมทั้งได้สัมผัสประสบการณ์และเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกอันเป็นเอกลักษณ์ในด้านต่าง ๆ เช่น ทฤษฎีข้อมูล, พลังงานดิจิทัลเทคโนโลยียานยนต์, และความปลอดภัยทางไซเบอร์ โดยหัวเว่ยได้ร่วมกับมูลนิธิอาเซียนและ ITU เพื่อคัดเลือกกลุ่มนักศึกษาระดับหัวกะทิจากหลายประเทศ ได้แก่เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น บังกลาเทศ, เนปาล, ศรีลังกา, มัลดีฟส์, ฟิจิ, และหมู่เกาะโซโลมอน

ในก้าวต่อไป หัวเว่ย ประเทศไทย จะร่วมมือกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (MDES)กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (MHESI)และกระทรวงแรงงาน ตลอดจนมหาวิทยาลัยและพันธมิตรชั้นนำหลายแห่ง เพื่อจัดงาน Talent Summitในประเทศไทยในเดือนพฤศจิกายนนี้ นับเป็นโอกาสสำคัญสำหรับหัวเว่ยและหน่วยงานภาครัฐในการผสานความร่วมมือเพื่อส่งเสริมการศึกษาและขยายโอกาสการจ้างงานสำหรับบัณฑิตใหม่ สอดคล้องกับพันธกิจของหัวเว่ยในการสร้างคุณค่าใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ยุคดิจิทัล ที่เชื่อมต่อถึงกันอย่างครอบคลุม และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในอนาคตต่อไป

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More