รีวิว HUAWEI Vision S Beyond TV 65 นิ้ว หลังใช้งาน 3 สัปดาห์กว่าๆ หรือเกือบเดือน ต้องบอกเลยว่าเป็นมากกว่าทีวี ตอบโจทย์ทั้งความบันเทิงและการทำงานที่หลากหลาย ประทับใจรุ่นนี้ตรงไหนและมีจุดสังเกตอะไรบ้าง ไปดูรีวิวนี้กันเลยครับ
สรุปสเปคและข้อมูล HUAWEI Vision S Beyond TV 65 นิ้ว
- ขนาดไม่รวมฐาน : กว้าง 1449.3 มม. สูง 837.2 มม. หนา 72.1 มม.
- ขนาดรวมฐาน : กว้าง 1449.3 มม. สูง 876.4 มม. หนา 336.7 มม.
- น้ำหนัก : 19.5 กก. (ไม่รวมฐาน), 20 กก. (รวมฐาน)
- หน้าจอ : 65 นิ้ว LCD UHD ความละเอียด 4K, อัตราส่วนภาพ 16:9, ขอบเขตสี 92% DCI-P3 และอัตรารีเฟรช 120Hz
- ระบบปฏิบัติการ : HarmonyOS
- หน่วยความจำ : RAM 3GB + 32GB
- ลำโพง : 4 ตัว HUAWEI Sound
- กล้อง : 13 MP Magnetic Camera
- ไมโครโฟน : 6 ไมโครโฟน
- รีโมทคอนโทรล : สั่งงานด้วยเสียงผ่าน Bluetooth และ OneHop Projection ผ่าน NFC
- Wi-Fi : 2.4GHz และ 5GHz
- พอร์ตเชื่อมต่อ : HDMI 2.0 x 3, AV In x 1, USB 3.0 x 1, SPDIF (coaxial) x 1
- กำลังไฟ : 230W
ดีไซน์ตัวเครื่องและหน้าจอแสดงผล
หลายคนอาจมองว่าสมาร์ททีวีทั่วไปส่วนใหญ่ก็ออกแบบมาเพื่อเน้นความบันเทิงเป็นหลัก แต่หลังจากได้ใช้งาน HUAWEI Vision S Beyond TV 65 นิ้ว ทำส่ิงต่างๆ ได้มากขึ้น ด้วยการติดตั้งกล้องความละเอียด 13 ล้านพิกเซล เพื่อการทำงานและวิดีโอคอลผ่าน MeeTime Video Call ที่ให้ภาพและเสียงคมชัดมากๆ เชื่อมต่อแบบเห็นหน้ากันได้ง่ายมากขึ้น
ดีไซน์ของทีวีรุ่นนี้มีขอบจอที่บางมากๆ มีความเป็นมินิมอล ลงตัวกับผนังห้องและเฟอร์นิเจอร์ในบ้าน เมื่อมองไปยังทีวีก็จะเหมือนกับกรอบรูปขนาดใหญ่ภายในบ้าน สวยงามมากๆ ครับ
สำหรับฐานวางตั้งตัวทีวี HUAWEI Vision S Beyond TV ถูกออกแบบมาให้ประกอบยึดได้ง่าย วางขาตั้งและขันน็อตให้แน่นทั้ง 2 ขา ก็เรียบร้อย แต่ก็มีจุดสังเกตอย่างหนึ่งคือขาตั้งถูกออกแบบมาให้อยู่ที่ขอบมากเกินไป ความยาวจากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่งอยู่ที่ 118 เซนติเมตร โต๊ะสำหรับวางต้องก็ต้องมีความยาวมากพอสมควรครับ
โต๊ะที่ใช้วางทีวีในรีวิวนี้มีขนาดความยาว 150 เซนติเมตร ซึ่งขนาดกำลังดีสำหรับใช้วาง HUAWEI Vision S เผื่อใช้เป็นข้อมูลให้กับเพื่อนๆ ที่กำลังสนใจทีวีรุ่นนี้อยู่ครับ
ความยาวฐานวางตั้งจะยื่นออกมากินพื้นที่โต๊ะไม่มาก ทำให้ไม่เปลืองเนื้อที่ในการวาง เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่มีพื้นที่จำกัด และตัวฐานเป็นโลหะที่มีความแข็งแรง
ตัวกล้องที่ให้มาเป็น Magnetic Camera สามารปรับหมุนได้ 180 องศา และมีความละเอียด 13 ล้านพิกเซล เอาไว้ถ่ายรูป และ MeeTime Video Call ได้
ถ้าไม่ใช้งานกล้อง ก็สามารถถอดเก็บได้ โดยจะมีฝาครอบสำหรับปิดจุดเชื่อมต่อเพื่อป้องกันฝุ่นมาให้ในชุดทีวี และเมื่อต้องการใช้งานก็ง่ายด้วยการเชื่อมต่อแบบแม่เหล็ก
ด้านหลังจะรวมพอร์ตเชื่อมต่อไว้ฝั่งเดียวกันทั้งหมด ประกอบด้วย
- HDMI 2.0 x 3
- AV In x 1
- USB 3.0 x 1
- SPDIF (coaxial) x 1
ด้านหลังอีกฝั่งจะเป็นที่เสียบปลั๊กไฟ
ขอบด้านล่างจะมีโลโก้แบรด์ HUAWEI และไมโครโฟนทั้ง 6 ตัว
หน้าจอมีความละเอียดระดับ 4K และด้วยขอบจอที่บาง ทำให้ภาพบนหน้าจอได้แบบจนแทบจะไร้ขอบ และเป็นครั้งแรกที่อัปเกรดมาใช้ทีวีขนาด 65 นิ้ว ก็จะได้ประสบการณ์ใหม่ที่ภาพใหญ่เต็มตามากขึ้น เสมือนมีโรงภาพยนตร์ส่วนตัวอยู่ในบ้าน
อีกหนึ่งเทคโนโลยีที่สำคัญที่มาพร้อมกับ Vision S Beyond คือหน้าจอที่ช่วยลดแสงสีฟ้าผ่านการรับรองโดย TÜV Rheinland Certified Low Blue Light เมื่อเปิดโหมดถนอมสายตา และลดการกระพริบของภาพได้ดีอีกด้วย
หน้าจอรองรับอัตรารีเฟรช 120Hz มีอัลกอริธึม Smart MEMC ช่วยปรับให้วิดีโอเฟรมเรทต่ำเป็น 120fps ได้ ทำให้ภาพมีความลื่นไหลนุ่มนวลมากขึ้น
HUAWEI Vision S Beyond TV มี 4 ลำโพง 10W ประกอบด้วยลำโพงความถี่แบบ Full Frequency 2 ตัว, ลำโพงทวีต 2 ตัว พร้อมตู้ลำโพง 1L ขนาดใหญ่
ด้วยลำโพงที่ให้มาแบบจัดเต็มและเทคโนโลยีเสียง HUAWEI Sound ให้เสียงที่ดังกระหึ่มสะใจมากๆ เปิดระดับเสียงแค่ 40-50 ก็กระหึ่มดังทั่วทั้งห้องแล้ว เรียกได้ว่าลืม Soundbar กันไปเลย ถ้าเปิดดังกว่านี้มีสะเทือนไปห้องข้างๆ แน่นอนครับ
มาดูตัวรีโมทคอนโทรลกันหน่อย มาพร้อมดีไซน์ขนาดเล็กพอดีมือ มีปุ่มสั่งงานหลักๆ สามารถสั่งงานได้ด้วยเสียง (รองรับภาษาอังกฤษ) และพื้นที่ตรวจจับ HUAWEI Share
ซอฟต์แวร์และฟังก์ชั่นการใช้งาน
HUAWEI Vision S Beyond TV มาพร้อมระบบปฏิบัติการ HarmonyOS รองรับการทำงานร่วมกับสมาร์ทโฟน HUAWEI ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และเชื่อมต่อกันได้แบบไร้รอยต่อ
ฟีเจอร์แรกที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลย MeeTime Video Call ความละเอียด 1080P เชื่อมต่อกับคนในครอบครัว ประชุมงาน หรือแฮงเอาท์กับเพื่อนๆ และผู้ใช้งานสมาร์ทโฟน HUAWEI ระบบปฏิบัติการ EMUI 10.0 ขึ้นไป สามารถส่งต่อการวิดีโอคอลไปบนทีวีได้ง่ายๆ ด้วยฟีเจอร์ MeeTime Video Call Transfer เพียงเชื่อมต่อเครือข่าย Wi-Fi เดียวกัน
สำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ของ HUAWEI และสมาร์ทโฟน Android 8.0 ขึ้นไปแบรนด์อื่นๆ สามารถใช้งานฟีเจอร์ต่างๆ และควบคุมทีวีได้เช่นกัน เพียงติดตั้งแอปพลิเคชั่น HUAWEI Vision สามารถดาวน์โหลดได้ที่นี่
การใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนยังสามารถเลือกเปลี่ยนไปใช้โหมดเดสก์ท็อป (Desktop mode) ได้ หน้าตาก็จะเหมือนกับพีซีเพื่อการทำงานได้คล่องตัวมากขึ้น และใช้สมาร์ทโฟนในการควบคุมแทนเม้าส์และเป็นคีย์บอร์ด รวมไปถึงสั่งงานต่างๆ ได้อีกด้วย
ตัวกล้องที่มาพร้อมกับทีวี สามารถใช้งานเป็น Home Camera ถ่ายภาพความสนุกของสมาชิกในบ้านได้ ความละเอียดของภาพอยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล
HUAWEI Vision รองรับการส่งภาพแบบไร้สายมาจากสมาร์ทโฟนได้ทันทีโดยใช้ OneHop Projection เพียงวางสมาร์ทโฟนที่ไอคอน HUAWEI Share ที่รีโมทคอนโทรลและหน้าจอสมาร์ทโฟนจะถูกฉายไปยังหน้าจอทีวีทันที อีกทั้งระหว่างการใช้งานยังช่วยซ่อนข้อความส่วนตัวและการแจ้งเตือนได้อีกด้วย
เราสามารถส่งหน้าจอสมาร์ทโฟนไปบนหน้าจอทีวี HUAWEI Vision เพื่อเล่นเกมที่ได้มุมมองภาพแบบเต็มตา สะใจมากขึ้น แล้วใช้สมาร์ทโฟนเหมือนเป็นจอยเพื่อควบคุมการเล่น และต้องบอกว่าความหน่วงของภาพแทบไม่มีเลย คือความหน่วงต่ำมากๆ ถูกใจสายเกมมิ่งแน่นอน
แชร์ภาพถ่าย วิดีโอ เพลง และแอปพลิเคชันระหว่างสมาร์ทโฟนกับ HUAWEI Vision S ได้สะดวกสบาย พร้อมตั้งช็อตที่ชื่นชอบเป็นสกรีนเซฟเวอร์ได้
รองรับการสั่งงานได้ด้วยเสียง HUAWEI AI Voice ซึ่งการสั่งงานผ่านซีเลีย (Celia) สามารถโต้ตอบได้แม้ในขณะที่หน้าจอปิดการใช้งานอยู่ ด้วยระบบเสียง 6 Mic Far-Field สามารถจดจำเสียงได้อย่างแม่นยำภายในรัศมี 5 เมตร
พูดถึงการปิดหน้าจอทีวีกันต่อเลยแล้วกัน เมื่อกดปิดผ่านตัวรีโมทคอนโทรล ผู้ใช้ต้องเลือกอีกขั้นตอนว่าต้องการปิดแบบใด ได้แก่ ปิดหน้าจอ (Screen off), สแตนด์บาย (Standby) หรือรีสตาร์ท (Restart) ถ้าเลือกปิดหน้าจอจะใช้งานบางอย่างในขณะหน้าจอปิดได้นั่นเอง เช่น ใช้ลำโพงทีวีเพื่อเปิดเพลงฟัง ไม่อยากเปิดหน้าจอ เป็นต้น ซึ่งแรกๆ อาจจะไม่ชินกับระบบการปิดทีวีแบบนี้ เพราะทีวีทั่วไป เมื่อเรากดปิดก็คือปิดไปเลย
สำหรับการรับชมความบันเทิงผ่านบริการต่างๆ เช่น Netlix, Disney+ หรือ YouTube รวมไปถึงคอนเทนท์ต่างๆ ได้เต็มที่ผ่านกล่องทีวีที่ทาง HUAWEI มีให้ ไม่ว่าจะเป็น TrueID หรือ AIS Play Box ลูกค้าสามารถเลือกรับกล่องทีวีที่ต้องการได้
สรุปจากการใช้งาน รีวิว HUAWEI Vision S Beyond TV
HUAWEI Vision S Beyond TV ต้องบอกว่าเป็นมากกว่าสมาร์ททีวีที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าะเป็นด้านความบันเทิง ดีไซน์สวย ขอบหน้าจอบางสุดๆ และภาพบนหน้าจอสีสันสดใสสวยงาม รวมไปถึงอินเตอร์เฟซที่ใช้งานง่าย ระบบลำโพงที่ดังกระหึ่มสะใจ และตอบโจทย์ด้านการทำงานหรือการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ ได้สะดวก แถมมีกล้อง MeeTime Video Call ใกล้กันมากขึ้นด้วยการวิดีโอคอล ส่วนจุดสังเกตเพิ่มเติมจะอยู่ที่ขาตั้งทั้งสอง 2 ค่อนข้างที่อยู่เกือบชิดขอบ ต้องใช้พื้นที่โต๊ะที่ยาวพอสมควร
พิเศษสุดสำหรับผู้ที่สนใจ HUAWEI Vision S สามารถลงทะเบียนเพื่อรับคูปองส่วนลดสูงสุด 3,000 บาท ได้ก่อนใครผ่านทางเว็บไซต์ HUAWEI Store และร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ย ภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 ลงทะเบียนรับคูปอง 3,000 บาท ที่นี่ >> https://consumer.huawei.com/th/offer/event/
และสำหรับราคาอย่างเป็นทางการจะประกาศในวันที่ 1 ธันวาคม 2564 โดยจะพร้อมจำหน่ายวันที่ 19 ธันวาคม 2564
สำหรับผู้ที่สนใจก็สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://consumer.huawei.com/th/visions/s/