Smart Review
รีวิว HUAWEI WATCH D2 สมาร์ทวอทช์รุ่นแรกของโลกที่มาพร้อม ABPM และมีดีไซน์ที่บาง-เบา น่าใช้กว่าที่เคย!
รีวิว HUAWEI WATCH D2 สมาร์ทวอทช์สายสุขภาพรุ่นล่าสุด ที่รอบนี้อัปเกรดขึ้นแบบจัดเต็มมาก แก้ปัญหาจากรุ่นเดิมได้อย่างหมดจด ตั้งแต่การรองรับมาตรฐาน ABPM เป็นรุ่นแรกของโลก ขนาดตัวเรือนที่บางและเบาลง พร้อมดีไซน์ที่เข้าใกล้ความเป็นสมาร์ทวอทช์แฟชั่นมากขึ้นชัดเจน และที่ขาดไม่ได้เลยคือความสามารถด้านสุขภาพรอบด้านอีกต่างหาก ใครที่อยากได้ตั้งแต่ HUAWEI WATCH D รุ่นแรกเพราะความสามารถแต่ยังติดใจในเรื่องดีไซน์ ลองมาดูตัวนี้ได้เลย มามะ เดี๋ยวรีวิวให้ชมครับ!
สรุปสเปค HUAWEI WATCH D2
- ขนาดตัวเครื่อง : 48 x 38 x 13.3 มม.
- น้ำหนัก : ประมาณ 40 กรัม (ไม่รวมสาย)
- หน้าจอ : AMOLED ขนาด 1.82″ (480 x 408 พิกเซล)
- วัสดุตัวเรือน : กรอบอลูมิเนียม | ฝาหลังพลาสติก + แซฟไฟร์
- วัสดุสาย : สายยางฟลูออโร/หนังคอมโพสิต
- แบตเตอรี่ : ใช้งานได้สูงสุด 6 วัน
- การเชื่อมต่อ : Bluetooth 5.2, NFC, GPS
- แอปพลิเคชั่นเชื่อมต่อ : HUAWEI Health (รองรับ HarmonyOS, iOS 9 ขึ้นไป และ Android 6.0 ขึ้นไป)
- มาตรฐานกันน้ำ : IP68
- สีสัน : ดำ/ทอง
แกะกล่อง HUAWEI WATCH D2
ก่อนอื่นเรามาแกะกล่องเช็กอุปกรณ์กันก่อนเนาะ HUAWEI WATCH D2 มาพร้อมกล่องสีขาวตามมาตรฐานของอุปกรณ์สวมใส่ของ HUAWEI เนาะ ที่ด้านหน้าจะมีภาพประกอบของ WATCH D2 สวย ๆ อยู่ด้วย ซึ่งสีที่เราได้มารีวิวนี้จะเป็นสีทอง ดูแฟชั่นและสวยลงตัวขึ้นใช่ไหมล่ะ
สำหรับอุปกรณ์ภายในกล่องก็ให้มาเยอะสมกับเป็นสมาร์ทวอทช์สายสุขภาพ ด้วยกัน 5 อย่างประกอบด้วย
- สมาร์ทวอทช์ HUAWEI WATCH D2
- ที่ชาร์จหัว USB-type-A
- สายนาฬิกาขนาด M
- สายถุงลมขนาด M
- เอกสารคู่มือและใบรับประกัน
ดีไซน์ที่แฟชั่นขึ้น เหมาะกับสวมใส่ในชีวิตประจำวันกว่าที่เคย
มาเริ่มกันที่ดีไซน์ก่อนเลย อย่างที่บอกไปว่า HUAWEI WATCH D2 นั้นมีการปรับดีไซน์ครั้งใหญ่ให้มีความเป็นสมาร์ทวอทช์ไลฟ์สไตล์มากขึ้น ไม่ดูทางการจนเกินไป มี Watch Face ที่ทันสมัยและไม่เน้นข้อมูลแบบหนัก ๆ ให้เลือกใช้ตั้งแต่แกะกล่องมาเลยด้วย
ตัวหน้าจอจะใช้เป็นจอ AMOLED ที่มีขนาดที่ใหญ่ขึ้นเป็น 1.82″ เต็มตากว่าเดิม เพราะแสดงผลได้เต็มส่วนด้านหน้า และยังมีกระจกเป็นแบบโค้ง 2.5D ที่สวยงามเอามาก ๆ เรียกว่าให้อารมณ์เหมือนสมาร์ทวอทช์สายแฟชั่นสักรุ่นเลยจริง ๆ ถ้าไม่ได้บอกว่ารุ่นนี้เน้นฟีเจอร์ด้านสุขภาพจ๋า ๆ ก็คงเดาไม่ออกแน่นอน
ในสีทองที่เราได้มารีวิวนั้น จะมีกรอบหน้าปัดเป็นสีทองมันวาว และกรอบรอบ ๆ ตัวเรือนจะเป็นสีทองผิวด้าน ที่ตัดกันอย่างสวยหรูและลงตัวขึ้นมากจริง ๆ สีนี้น่าจะเหมาะกับสาว ๆ ที่ต้องการความเรียบหรูที่ไม่ดูทางการจนเกินไปแหละเนอะ
ปุ่มกดที่ตัวเรือนก็มีการปรับรูปลักษณ์ใหม่ มีปุ่ม Digital Crown แบบหมุนได้เป็นปุ่มโฮมมีสลักคำว่า HUAWEI WATCH D อยู่ที่ปุ่มด้วย และปุ่มลัดที่ 2 จะอยู่ด้านล่างเป็นแบบสี่เหลี่ยมแบน ๆ เหมือนเดิมครับ
ตัวสายนาฬิกาในสีทองจะเป็นสายหนังคอมโพสิตซึ่งมีความหรูหราและแฟชั่นขึ้นอีกเช่นกัน และสีขาวที่มีลวดลายตะเข็บอยู่ก็ทำให้นักถึงพวก HUAWEI WATCH GT รุ่นผู้หญิงที่มักจะมีสายหนังมาให้เลือกอยู่ไม่น้อยเช่นกัน
ตัวขนาดของสายเองก็เหมาะกับผู้ใช้หลายกลุ่มมากขึ้น เพราะมีสายขนาด M มาให้ในกล่องเลย อย่างข้อมือผู้ชายทั่วไปก็อาจจะใส่ที่ L แต่ถ้าผู้หญิงที่ข้อมือเล็กกว่าก็เปลี่ยนมาใช้ขนาด M ได้เลย เข้ากับผู้ใช้หลายประเภทมากขึ้นจริง ๆ ว่าไหมล่ะ
แต่ความพิเศษของ HUAWEI WATCH D2 นี้ก็คือสามารถวัดความดันได้นี่เนอะ ที่ตัวสายจึงมีถุงลมติดมาให้ด้วย ซึ่งวัสดุก็จะนุ่มและรับกับข้อมือได้เป็นอย่างดี ซึ่งแน่นอนว่าถ้าเราไม่ได้ใช้งานตัวถุงลมนี้ก็ยังสามารถถอดออกได้เหมือนเดิมครับ
ที่ตัวสายหลักจะมีตัวเลขเพื่อบ่งบอกถึงขนาดข้อมือเราด้วย โดยสายขนาด L จะมีให้ปรับมากถึง 23 ระดับเลย หรือถ้าเป็นสายขนาด M ก็จะมีให้เลือก 15 ระดับตามในภาพด้านล่างเลยครับ
ตัวล็อกของสาย HUAWEI WATCH D2 จะล็อกได้อย่างแข็งแรงเมื่อเราเลือกขนาดได้พอเหมาะ ไม่ต้องกลัวว่าจะหลุดหรือหลวมเอาง่าย ๆ เพราะแต่ละขนาดที่มีให้เลือกเราว่าพอดีกับข้อมือผู้ใช้หลายคนแน่นอน ส่วนตอนแกะออกก็ง่าย ๆ ใช้แรงดึงนิดหน่อยเท่านั้นเอง
ที่ด้านหลังจะมีเซ็นเซอร์ HUAWEI TruSense ใหม่ ที่ช่วยให้การตรวจจับต่าง ๆ แม่นยำขึ้นไปอีก ดูจากรูปร่างของเซ็นเซอร์แล้วก็รู้สึกได้เลยว่าเราจะต้องได้ข้อมูลที่มากมายเมื่อสวมใส่แน่นอน
เปรียบเทียบ HUAWEI WATCH D vs HUAWEI WATCH D2
เห็นพูดถึงความเปลี่ยนแปลงของดีไซน์มาเยอะ ว่าดูแฟชั่นขึ้นกว่ารุ่นก่อนบ้างแหละ จอใหญ่ขึ้นบ้างล่ะ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว เรามี HUAWEI WATCH D รุ่นแรกมาเปรียบเทียบให้ชมกันชัด ๆ ซะเลย มองแว้บแรกก็จะรู้ได้เลยใช่ไหมล่ะว่า HUAWEI WATCH D2 นั้นดูเข้าถึงได้มากขึ้นอย่างชัดเจน
ตัว Watch Face แบบใหม่และการแสดงผลที่เต็มตาขึ้น ทำให้ดูน่าใช้งานขึ้นไปอีก รวมถึงตัวปุ่มที่บอกว่าปรับมาใหม่ด้วยปุ่ม Digital Crown เมื่อเทียบกับปุ่มกดแบบแบนพร้อมข้อความ HOME กับ HEALTH ที่ดูเป็นอุปกรณ์สวมใส่ทางการแล้ว แบบใหม่ดูลงตัวขึ้นเยอะจริง ๆ ว่าไหมล่ะ
และไม่ใช่แค่ดูสวยดูไลฟ์สไตล์มากขึ้นเท่านั้น ที่เซ็นเซอร์ด้านหลังก็จะเห็นว่าอัปเกรดขึ้นมาให้ตรวจจับได้มากกว่าเดิมอีกด้วยนะ
โดยรวมในเรื่องดีไซน์ก็อย่างที่บอกไปว่า HUAWEI WATCH D2 นั้นปรับรูปโฉมให้น่าใช้ขึ้นจริง ๆ ทั้งภายนอกที่มองแว้บแรกแทบไม่รู้เลยว่ารุ่นนี้เป็นสมาร์ทวอทช์สายสุขภาพแบบเต็มขั้น เพราะทั้งสวยและลงตัวไม่ต่างจากตระกูล WATCH GT ที่เน้นความหรูหราและคล่องตัว เข้าได้กับไลฟ์สไตล์ทั่วไปได้ด้วย ว่าไหมล่ะครับ!
เชื่อมต่อได้กับทุกระบบ
ถ้าพูดถึงเรื่องการเชื่อมต่อ HUAWEI WATCH D2 นั้นทำได้ดีเหมือนรุ่นก่อน ๆ คือเชื่อมต่อได้กับทุกระบบ ไม่ว่าจะเป็น สมาร์ทโฟน EMUI, Android หรือกระทั่ง iOS ผ่านแอป HUAWEI Health นั่นเองครับ
ซึ่งในตัวแอปเราสามารถดูข้อมูลต่าง ๆ ของ HUAWEI WATCH D2 ทั้งสถานะแบตเตอรี่, รูปแบบ Watch Face, รวมถึงการตั้งค่าอื่น ๆ เพิ่มเติม
Watch Faces มีให้เลือกมากมาย และเป็นแนวไลฟ์สไตล์มากขึ้น
ในเรื่องการปรับแต่งหน้าปัดหรือ Watch Faces ก็อย่างที่บอกว่ารอบนี้มีความเป็นไลฟ์สไตล์มากขึ้น ไม่ได้มีแค่หน้าปัดที่เน้นข้อมูลอย่างเดียว ค่าเริ่มต้นก็จะมีมาให้เลือกถึง 12 แบบแล้ว หรือถ้าไม่พอก็เหมือนเดิมครับ เราสามารถดาวน์โหลดเพิ่มได้จากแอป HUAWEI Health บนสมาร์ทโฟนได้เลย มีทั้งแบบฟรีและเสียตังค์ให้เลือกอีกเพียบ!
จุดเด่นหลักคือวัดความดันโลหิตได้ตลอดเวลา!
เห็นดีไซน์กันไปซะเยอะแล้ว ทีนี้มาต่อที่เรื่องฟีเจอร์หลักของ HUAWEI WATCH D2 อย่างเรื่องการตรวจจับสุขภาพกันเลยดีกว่า อย่างที่ทราบว่า HUAWEI WATCH D รุ่นแรกนั้นเกิดมาเพื่อเป็นสมาร์ทวอทช์ที่สามารถวัดความดันโลหิตได้ โดยเราเพียงแค่เอามือข้างที่ใส่ WATCH D มาวางที่บริเวณเหนือหน้าอกและเอามือีกข้างมารองลักษณ์เดียวกับในภาพด้านล่างขณะที่ระบบกำลังตรวจวัดเท่านั้น
ซึ่งตัวถุงลมที่อยู่ตรงสายนาฬิกาจะทำการบีบและคลายออกคล้ายกับเครื่องวัดความดันเลยครับ หลังจากวัดเสร็จก็จะมีบอกตัวเลขขึ้นมาเลยว่าเป็นระดับไหน อีกทั้งยังมีสีที่บ่งบอกถึงเกณฑ์ว่าปกติหรือเกินค่าให้เห็นด้วย เข้าใจง่ายใช่ไหมล่ะครับ
สมาร์ทวอทช์รุ่นแรกที่รองรับมาตรฐาน ABPM
และแน่นอนว่าความเป็นรุ่นที่ 2 แบบนี้ นอกจากเรื่องความแม่นยำที่มากขึ้นแล้ว HUAWEI ยังอัปเกรดเรื่องการวัดความดันด้วยมาตรฐาน ABPM (Ambulatory Blood Pressure Monitoring) หรือการวัดความดันโลหิตในช่วงเวลาที่กำหนดไว้ล่วงหน้าตลอด 24 ชม.ซึ่งเคลมว่าเป็นสมาร์ทวอทช์รุ่นแรกของโลกที่รองรับกันเลยนะ!
ซึ่งตัวแอปจะมีการแจ้งเตือนเป็นช่วงเวลาให้เราคอยวัดความดันไปเรื่อย ๆ เพื่อเก็บข้อมูลตลอดทั้งตอนกลางวันและตอนกลางคืน (นอนอยู่ก็วัดให้อัตโนมัติ) ซึ่งการวัดก็อย่างที่บอกครับ สะดวกมาก ๆ เพราะเราแค่ใช้เวลาสักครู่อยู่นิ่ง ๆ ในท่าที่บอกไป ระบบก็จะเก็บข้อมูลเราไว้หมด และสามารถย้อนดูได้ผ่านข้อมือหรือจะเปิดผ่านแอป HUAWEI Health บนสมาร์ทโฟนเลยก็ได้เช่นกัน
นอกจากเรื่องการวัดความดันที่ HUAWEI WATCH D2 นั้นเก่งมาก ๆ แล้ว การตรวจวัดสุขภาพอื่น ๆ ก็ยังคงรองรับครบเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ (Heart Rate), การวัดออกซิเจนในเลือด (SpO2) หรือการวัดอุณหภูมิผิวหนัง (Skin Temperature) และพอได้เซ็นเซอร์ HUAWEI TruSense ใหม่แล้วก็ช่วยให้ความแม่นยำนั้นสูงขึ้นไปอีก
นอกจากนี้ HUAWEI WATCH D2 ยังรองรับการอ่านค่า ECG ที่สร้างด้วยอิเล็กโทรด ซึ่งช่วยให้อ่านค่า ECG ได้ทุกที่ทุกเวลา เพียงแค่แตะที่ปุ่มด้านล่างค้างไว้ เราสามารถรับการอ่านค่าสุขภาพหัวใจได้ทันที
หรือจะเป็นการติดตามการนอนหลับก็แม่นยำและครอบคลุมเช่นกัน เพราะ HUAWEI WATCH D2 มาพร้อมกับเทคโนโลยีติดตามการนอนล่าสุด HUAWEI TruSleep ที่เก็บค่าการนอนหลับมาอย่างละเอียด และเราสามารถกดดูรายละเอียดได้จากบนข้อมือเลยด้วย
มี Health Glance กดเพียงครั้งเดียว วัดสัญญาณร่างกายได้ถึง 9 ตัว
แต่ถ้าอยากทราบข้อมูลสุขภาพแบบครบ ๆ เลย HUAWEI WATCH D2 ก็มีฟีเจอร์ Health Glance ที่วัดทีเดียวให้เราได้รู้สัญญาณร่างกายได้มากถึง 9 ตัว และรับรายงานสุขภาพเพื่อตรวจหาความเสี่ยงของสุขภาพเราประกอบไปด้วย
- อัตราการเต้นของหัวใจ
- ความดันโลหิต
- ออกซิเจนในเลือด
- ความเครียด
- อุณหภูมิผิวหนัง
- ECG
- การตรวจจับการหายใจขณะหลับ
ซึ่งใช้เวลาในการตรวจจับแค่ 60 – 90 วินาทีเท่านั้น เรียกว่ากดเข้าแอปเดียวก็ได้รายงานสุขภาพครบ ๆ เลยล่ะครับ
ออกกำลังกาย ก็รองรับถึง 80+ โหมดนะ
แม้จะบอกว่า HUAWEI WATCH D2 เป็นสมาร์ทวอทช์ที่เน้นเรื่องฟีเจอร์สุขภาพ แต่ด้านการออกกำลังกายก็ไม่ทิ้งเหมือนกัน เพราะรองรับโหมดการออกกำลังกายมากถึง 80+ และยังสามารถตรวจจับโหมดการออกกำลังกายหลัก ๆ ได้อัตโนมัติถึง 6 แบบ ประกอบด้วย วิ่ง, ปั่นจักรยาน, เครื่องเดินวงรี, เครื่องกรรเชียงบก, ปีนเขา และกระโดดเชือกครับ
ฟีเจอร์ไลฟ์สไตล์ทั่วไปก็รองรับครบ
นอกจากสายสุขภาพและออกกำลังกายแล้ว การใช้งานเป็นสมาร์ทวอทช์สายไลฟ์สไตล์ HUAWEI WATCH D2 ก็ทำได้ครบคลุมเช่นกัน เพราะมีฟีเจอร์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกหลายอย่าง ตั้งแต่ ควบคุมเครื่องเล่นเพลง, รับการแจ้งเตือน, หรือรับสายโทรเข้าจากข้อมือได้ทันทีเหมือนตระกูล HUAWEI WATCH GT เลยล่ะครับ
ใช้งานได้นานสูงสุด 7 วันเลย
ปิดท้ายที่เรื่องแบตเตอรี่ HUAWEI WATCH D2 นั้นมีแบตเตอรี่มาให้เราได้ใช้งานกันยาวนาน อย่างถ้าใส่พร้อมวัดความดันแบบ ABPM ไปด้วยตลอด ก็สามารถใช้งานได้ถึง 5 วัน แต่ถ้าไม่ได้วัดตลอดมีใช้งานทั่ว ๆ ไปรับแจ้งเตือนหรือดูรายละเอียดนิดหน่อย ก็ลากได้ถึง 7 วันเลยทีเดียว ถือว่าดีงามครับ
ราคาและโปรโมชั่น HUAWEI WATCH D2
HUAWEI WATCH D2 เปิดราคามาที่ 13,990 บาท มีให้เลือก 2 สีคือสีดำและสีทอง (สีที่รีวิว) เริ่มวางจำหน่าย 29 พฤศจิกายนนี้ โดยมีโปรโมชั่นสุดพิเศษ 3 ต่อดังนี้
- ต่อที่ 1 รับของแถม HUAWEI Smart Scale และ HUAWEI Care+ มูลค่ารวม 2,798.-
- ต่อที่ 2 เข้าปรึกษาแพทย์สมิติเวชฟรี มูลค่า 800.-
- ต่อที่ 3 รับส่วนลดใน My HUAWEI เพิ่ม 300.-
สรุปแล้ว “นี่คือสมาร์ทวอทช์สำหรับคนรักสุขภาพตัวจริงที่แฝงไปด้วยดีไซน์น่าใช้งานแบบสุด ๆ”
สรุปแล้ว HUAWEI WATCH D2 ก็ถือเป็นสมาร์ทวอทช์สายสุขภาพที่อัปเกรดขึ้นมาอย่างมากทั้งในด้านฟีเจอร์สุขภาพด้วยเซ็นเซอร์ HUAWEI TruSense ใหม่ พร้อมการรองรับ ABPM วัดความดันโลหิตได้แบบต่อเนื่องครั้งแรกของ HUAWEI อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ Health Glance ที่วัดสุขภาพได้ถึง 9 รายการในการกดเพียงครั้งเดียวอีก ซึ่งทั้งหมดนี้ถูกจัดสรรอยู่ในดีไซน์ที่สวยหรูนำแฟชั่น สไตล์ HUAWEI ที่ลงตัวน่าใช้มาก ๆ ทำให้รอบนี้ HUAWEI WATCH D2 นั้นเป็นได้มากกว่าแค่เครื่องมือสำหรับคนรักสุขภาพแล้วจริง ๆ ใครที่รักสุขภาพอยากได้สมาร์ทวอทช์ดี ๆ ติดข้อมือแบบเรือนเดียวจบ เราว่านี่คือคำตอบของคุณแล้วล่ะครับ!