Smart Review
รีวิว HUAWEI Watch Fit สมาร์ทวอทช์สุดตอบโจทย์การออกกำลังกายและดูแลสุขภาพ พร้อมดีไซน์สวยงามและน้ำหนักเบา ในราคา 3,499 บาท
HUAWEI Watch Fit สมาร์ทวอทช์สุดคุ้ม ฟีเจอร์เพียบทั้งการออกกำลังกาย หรือด้านสุขภาพที่มีให้ครบทั้งการวัดออกซิเจนในเลือดหรืออัตราการเต้นของหัวใจ ทั้งยังมีดีไซน์ที่สวยงาม ดูพรีเมี่ยม และแสดงผลบนหน้าจอสุดสวย
สรุปสเปค HUAWEI Watch Fit
- ขนาดตัวเรือน : 46 x 30 x 10.7 มม.
- น้ำหนัก : 21 กรัม (ไม่รวมสาย)
- หน้าจอแสดงผล Vivid AMOLED Display ขนาด 1.64 นิ้ว ความละเอียด 456 x 280 พิกเซล รองรับการใช้งาน Always-On
- RAM 1GB
- ความจุ 4GB
- ระบบการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.0 BLE และ Wi-Fi 2.4G
- กันน้ำระดับ 5ATM
- แบตเตอรี่รองรับการใช้นงานทั่วไปสูงสุด 10 วัน หรือใช้งานหนักสูงสุด 7 วัน
อุปกรณ์ภายในกล่อง
ตัวกล่องของ HUAWEI Watch Fit มาในขนาดที่เล็ก พอกับขนาดตัวตัวเรือนครับ เมื่อเปิดออกมาก็จะเจอกับอุปกรณ์ต่างๆ ดังนี้
- นาฬิกา HUAWEI Watch Fit
- แท่นชาร์จ
- สายชาร์จ
- คู่มือเริ่มต้นใช้งาน
- ข้อมูลความปลอดภัย
- ใบรับประกัน
ดีไซน์สวยงามพร้อมน้ำหนักเบาใส่สบาย
ดีไซน์ของ HUAWEI Watch Fit ต้องบอกว่าดูมีความพรีเมี่ยมอย่างมาก ด้วยการใช้วัสดุไฟเบอร์โพลีเมอร์ที่มีผิวด้านทำให้ดูแข็งแรง ทนต่อรอยขีดข่วน ที่สำคัญยังมีน้ำหนักเบาทำให้ใส่ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชายโดยไม่รู้สึกหนักจนเกินไปครับ
สีของสายรัดข้อมือก็มีให้เลือกหลากหลายมาก โดยสีในรีวิวนี้เป็นสีเขียว Mint Green ซึ่งยังมีอีก 3 สี ได้แก่ ดำ Graphite Black, ส้ม Cantaloupe Orange และชมพู Sakura Pink
หน้าจอแสดงผลของสมาร์ทวอทช์รุ่นนี้ สดใสพอตัวเลยทีเดียว เพราะใช้หน้าจอ Vivid AMOLED Display ความละเอียดแบบ HD (280 x 456 พิกเซล) พร้อมความหนาแน่นพิกเซลที่ 326 PPI และแสดงผลได้กว้างด้วยขนาด 1.64 นิ้ว และมีอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องถึง 70%
ตัวหน้าจอจะมีความโค้งบนเล็กน้อย ซึ่งตรงนี้เป็นการใช้กระจกแบบ 2.5D
ทั้งนี้ ตัวเรือนยังมีมาตรฐานป้องกันน้ำแบบ 5ATM หรือป้องกันได้ลึกสูงสุดถึง 50 เมตร ทำให้ใช้งานออกกำลังกายว่ายน้ำได้แบบไม่ต้องกังวล
รอบตัวเรือนจะมีปุ่มสำหรับเข้าเมนูต่างๆ และกลับหน้าที่ด้านขวา พร้อมด้วยไมโครโฟนที่ด้านบน
และที่ด้านหลังมีระบบเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นหัวใจตรงกลาง โดยมีแถบแม่เหล็ก 2 จุดสำหรัชารืจแบตเตอรี่กับแท่นชาร์จ และ 2 ฝั่งบนและล่างจะมีช่องเสียบสายรัดข้อมือ
วิธีการเชื่อมต่อ
สำหรับการเชื่อมต่อก็ง่ายมากๆ ครับ เพียงแค่โหลดแอปพลิเคชั่น Huawei Health (สุขภาพ) แล้วทำตามขั้นตอนก็ใช้งานได้ทันทีครับ ซึ่งใช้งานได้ทั้ง Android และ iOS
หน้าปัดมีให้เลือกเพียบ (เฉพาะ Android)
หน้าปัดนาฬิกาของ HUAWEI Watch Fit ต้องบอกว่ามีให้เลือกเพียบผ่านทาง Watch Face Store ในแอปสุขภาพ แถมมีให้เลือกมากกว่า 100 แบบเลยทีเดียว
นอกจากนี้ เราสามารถปรับแต่งฟังก์ชันบนหน้าปัดให้เป็นไปตามที่เราต้องการได้ เช่น เปลี่ยนจากนับก้าวเป็นการแสดงอัตราการเต้นของหัวใจแทนหรืออื่นๆ เป็นต้น
รองรับใช้งาน Always-on Display
HUAWEI Watch Fit ยังรองรับการใช้งาน Always-on Display (AOD) ที่จะแสดงผลตลอดเวลาได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งหน้าจอ AOD จะมีให้เลือก 6 แบบ ได้แก่ ลายหมอก, วงล้อหมุน, ทางการ, แหวนสายรุ้ง, ดอกไม้ในเลข และเวลาปาร์ตี้
การอออกกำลังกาย
ในด้านการออกกำลังกาย ในตัวระบบจะมีให้เราใช้งานได้ทันที 12 แบบที่จะแสดงผลเป็นรูปท่าทางแบบแอนิเมชันทำให้เราทำตามได้ง่ายๆ ไม่ต้องไปเปิดหน้าจออื่นให้เสียเวลา
ซึ่งในการออกกำลังกายจะมีเซ็นเซอร์ GPS พร้อมด้วยการวัดอัตราการเต้นของหัวใจไปในตัวครับ ทำให้เรารู้ถึงข้อมูลต่างๆ ระหว่างออกกำลังกายได้ดีขึ้น
นอกจากนี้ก็ยังมีโหมดการออกกำลังกายทั้งหมดถึง 96 ชนิดกีฬา ซึ่ง HUAWEI Watch Fit จะรองรับการตรวจจับแบบเรียลไทม์ 11 ชนิดกีฬา และอีก 85 ชนิดที่มีการควบคุมแบบอิสระตามใจเราเลย
ด้านสุขภาพ
ในด้านสุขภาพ บอกเลยว่า HUAWEI Watch Fit จัดให้มาครบทุกฟังก์ชันที่สมาร์ทวอทช์ต้องมี ดังนี้
การตรวจวัดคุณภาพการนอนหลับ HUAWEI TruSleep 2.0 ที่จะบอกถึงคุณภาพการนอนหลับของเราในแต่ละวัน โดยจะมีการสรุปผ่านแอปสุขภาพว่าเรานอนทั้งหมดกี่ชั่วโมง และแบ่งด้วยว่าเราหลับลึก, หลับตื้น, หลับฝัน (REM) และตื่นไปอย่างละกี่นาทีหรือกี่ชั่วโมง
ออกซิเจนในเลือด (SpO2) ก็ยังสามารถวัดได้เช่นกันครับ ทำได้ทันทีผ่านตัวเรือน ซึ่งขณะวัดเราต้องนั่งนิ่งๆ ประมาณ 1 นาที และระบบจะวัดผลและแสดงผลให้เรา
วัดอัตราการเต้นของหัวใจ ก็ทำได้แบบเรียลไทม์เมื่อเราได้ตั้งค่าเอาไว้ ซึ่งจะมีการบอกอัตราเรื่อยๆ บนหน้าจอ และก็จะมีการเตือนขึ้นทันทีหากมีอัตราการเต้นที่สูงหรือต่ำกว่าที่เรากำหนดหรือค่าปกติครับ
ทดสอบความเครียด ก็สามารถทดสอบได้ผ่านแอปพลิเคชั่นสุขภาพครับ เมื่อวัดเสร็จเรียบร้อย จะมีระดับมาให้เราดูครับ โดยระหว่าง 1-29 คือผ่อนคลาย, 30-59 คือปกติ, 60-79 คือปานกลาง และ 80-99 คือสูง
การหายใจเพื่อผ่อนคลายความเครียด โดยจะเป็นการฝึกหายใจตามที่ระบบแนะนำตั้งแต่ 1 – 3 นาที เพื่อให้เรารู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น
การใช้งานในชีวิตประจำวัน
ดูการแจ้งเตือนไม่ต้องหยิบสมาร์ทโฟน
เมื่อเราเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเอาไว้ เราสามารถดูการแจ้งเตือนของแอปพลิเคชั่นต่างๆ ได้ทันทีครับ ซึ่งเราสามารถกำหนดแอปที่จะให้แจ้งเตือนได้ด้วยเช่นกัน
ค้นหามือถือ
เมื่อเราลืมว่าวางสมาร์ทโฟนไว้ที่ไหน เราก็สามารถกด ‘การค้นหาโทรศัพท์’ บน HUAWEI Watch Fit ได้ทันครับ ซึ่งจะให้สมาร์ทโฟนส่งเสียงออกมาเพื่อให้เราได้ยิน
แบตเตอรี่อึดใช้งานสูงสุดถึง 10 วัน
HUAWEI Watch Fit นั้นมีหน่วยประมวลผลแบบคู่และ AI ที่มีความอัจฉริยะ ทำให้เราใช้งานทั่วไปได้สูงสุดถึง 10 วันครับ แต่ถ้าใครใช้งานเน้นออกกำลังกายไปด้วยก็จะลดลงมาเล็กน้อยอยู่ที่สูงสุด 7 วันต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
นอกจากนี้ หากแบตเตอรี่ใกล้หมดแล้ว HUAWEI Watch Fit ยังรองรับการชาร์จเร็วหรือ Fast Charge ช่วยเป็นการยืดระยะการใช้งานทั่วไป (ไม่ได้ออกกำลังกาย) ได้อีกตลอดวันจากการชาร์จ 5 นาทีครับ
สำหรับ HUAWEI Watch Fit มีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ Graphite Black, Mint Green, Cantaloupe Orange และ Sakura Pink สนนราคาอยู่ที่ 3,499 บาท โดยสามารถรับชมและเลือกซื้อได้ที่ Huawei Store