Featured
Huawei Watch GT Series และ Huawei Band 3 Pro / 3e ครบทุกฟีเจอร์การออกกำลังกาย ในราคาที่จับต้องได้
ปัจจุบันทุกคนเริ่มหันมาดูแลสุขภาพกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย เลือกกินอาหารที่เป็นประโยชน์ และจะดีมากขึ้นขนาดไหนหากเรามีตัวช่วยในการออกกำลังกายอย่างสมาร์ทวอชและสายรัดข้อมือ ที่จะคอยจัดเก็บข้อมูลกิจกรรมต่างๆ ของเราได้ตลอดทั้งวัน
Huawei ได้เปิดตัวนาฬิกาอัจฉริยะหรือสมาร์ทวอชที่ตอบโจทย์การออกกำลังกายในทุกรูปแบบ นั่นก็คือ Watch GT Series และสายรัดข้อมือติดตามการออกกำลังกายที่มีขนาดเล็ก Huawei Band 3 Pro และ 3e ที่มีฟีเจอร์ครบ ในราคาที่จับต้องได้
Huawei Watch GT
Huawei Watch GT สมาร์ทวอชเพื่อการออกกำลังกายได้อย่างเต็มที่และเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งมาพร้อมกับวัสดุที่มีความแข็งแรง ดีไซน์ที่สวยงาม และมีหน้าจอแสดงผล AMOLED สีสันสดใส เหมาะกับการใช้งานกลางแจ้งได้อย่างชัดเจนในทุกมุมมอง
สำหรับ Watch GT จะแบ่งออกเป็น 2 สไตล์ คือ Sport และ Classic มีขนาดเท่ากันคือ 46 มิลลิเมตร โดยจุดแตกต่างเพียงจุดเดียวคือวัสดุของตัว Sport ตัวเรือนทำจากสแตนเลสคุณภาพสูง (316L) ทนทานต่อการเกิดสนิม สามารถขัดเงาโดยไม่ทำให้ดำ
สำหรับ Active Edition มีขนาดเท่ากับรุ่น Sport และ Classic คือ 46 มิลลิเมตร หน้าจอ 1.39 นิ้ว ความละเอียด 454 x 454 HD เป็นหน้าจอแบบทัชสกรีน มีแบตเตอรี่สามารถแสตนบายได้นานถึง 2 สัปดาห์ ในโหมดใช้งานทั่วไป โดยจุดแตกต่างของ Active Edition คือสามารถเปลี่ยนสายนาฬิกาได้ และมีโหมดไตรกีฬา
สมาร์ทวอชอีกรุ่นจาก Huawei คือ Watch GT Elegant Edition จะมีขนาดเล็กกว่าคือ 42 มิลลิเมตร จอแสดงผลเป็น AMOLED เช่นกันโดยมีขนาด 1.2 นิ้ว ความละเอียด 390 × 390 พิกเซล
แบตเตอรี่นั้นสามารถแสตนบายได้นานประมาณ 1 สัปดาห์หากใช้งานในรูปแบบสมาร์ซวอซที่มีกิจกรรมเหมือนกับ Active edition แต่หากใช้งานในโหมดนาฬิกาเพียงอย่างเดียวสามารถสแตนบายได้อย่างน้อยๆ 30 วันเลยทีเดียว
Watch GT Active Edition มาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ในโหมดไตรกีฬา ไม่ว่าจะเป็นการว่ายน้ำ,การขี่จักรยานและการวิ่งกลางแจ้ง โดยจะทำการบันทึกเวลาตั้งแต่เริ่มต้นจนจบการออกกำลัง รวมถึงระยะเวลาในการเปลี่ยนประเภทในการออกกำลังกายพร้อมประมวลผลให้ทราบด้วย
นอกจากนี้แล้วทั้ง 2 รุ่นก็มีระบบ GPS ในตัว รองรับการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth และมีเซ็นเซอร์ที่จำเป็นในการตรวจจับการเคลื่อนไหวครบ ไม่ว่าจะเป็น Accelerometer, Gyroscope, Magnetometer, Ambient light sensor, Barometer และ Heart rate sensor
สามารถกันน้ำลึกระดับ 5ATM หรือ 50 เมตร ใช้ได้กับมือถือ Android เวอร์ชั่น 4.4 ขึ้นไป รวมถึงระบบปฏิบัติการ iOS 9 ขึ้นไป
Huawei Band 3 Pro
Huawei Band 3 Pro สายรัดข้อมือสำหรับผู้ที่ชื่นความคล่องตัว หน้าจอทัชสกรีนสีสันสดใส AMOLED และมีน้ำหนักเบา ใส่สบายได้ทั้งวัน และมาพร้อมระบบ GPS ในตัว สำหรับการออกกำลังกลายกลางแจ้ง
Huawei Band 3 Pro มีดีไซน์ที่สวยงาม โดยเฉพาะหน้าจอแสดงผลแบบสีที่เป็นแผงหน้าจอ AMOLED ขนาด 0.95 นิ้ว เห็นข้อมูลต่างๆ บนหน้าจอได้อย่างชัดเจนในทุกครั้งที่หันข้อมือขึ้นมาดู และตัวนาฬิกาก็มีความโค้งแบบ 2.5D สวมใส่ได้พอดีกับข้อมือของเรา
ด้วยดีไซน์ที่สวยงาม จึงทำให้ Huawei Band 3 Pro ไม่เพียงแต่สวมใส่เพื่อการออกกำลังกายเท่านั้น แต่ยังใส่คู่กับชุดแต่งกายในสไตล์อื่นๆ ได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นชุดทำงาน หรือชุดเสื้อยืดใส่สบายๆ ในวันหยุดสำหรับการพักผ่อน เป็นต้น
ฟีเจอร์ด้านสุขภาพที่น่าสนใจของ Huawei Band 3 Pro คือเทคโนโลยี Huawei TrueSeen 3.0 ระบบตรวจยวัดอัตราการเต้นของหัวใจที่แม่นย้ำด้วยการใช้แสงอินฟาเรด และมี AI ในการวิเคราะห์การเต้นของหัวได้แบบเรียลไทม์
ระบบ GPS สามารถเปิดใช้งานระหว่างการออกกำลังกายได้ยาวนานสูงสุดถึง 7 ชั่วโมง และสามารถแสดงผลการออกกำลังกายได้แบบเรียลไทม์ รวมถึงการวัดค่า VO2 max ซึ่งเป็นการคำนวณปริมาณก๊าซออกซิเจนสูงสุดที่ร่างกายใช้ไปในเวลา 1 นาทีในภาวะที่ร่างกายออกกำลังกายจนถึงจุดที่อัตราการใช้ออกซิเจนสูงสุด หรือจะเรียกว่าเป็นการวัดความอึดของร่างกายเราก็ได้ และสามารถใส่ว่ายน้ำได้อีกด้วย โดยสามารถกันน้ำได้ลึกสูงสุด 50 เมตร และข้อมูลการว่ายน้ำที่หลายหลาย จำนวนรอบที่ว่าย แคลอรี่ และค่าเฉลี่ย Swolf
นอกจากสวมใส่ระหว่างการออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมระหว่างวันแล้ว Huawei Band 3 Pro ยังสามารถติดตามและบันทึกข้อมูลการนอนหลับพักผ่อนของเราได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นระยะเวลาในการนอน ระดับความลึกความตื่นของการนอนหลับ แล้ววัดผลออกมาเป็นคะแนน เพื่อให้ผู้ใช้งานทราบถึงระดับการนอนหลับว่าอยู่ในช่วงที่ดีหรือควรปรับปรุง
Huawei Band 3e
Huawei Band 3e เป็นสายรัดข้อมือขนาดจิ๋ว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการอุปกรณ์ติดตามการวิ่งที่มีขนาดเล็ก สวมใส่สบาย และสามารถกันน้ำได้ลึกถึง 50 เมตร นั่นหมายความว่าสามารถใส่ว่ายน้ำได้ด้วย
จะเห็นว่าขนาดของ Band 3e นั้นเล็กมากๆ ใกล้เคียงกับนิ้วของเราเลย ทำให้น้ำหนักนั้นเบามากๆ เวลาสวมใส่ให้ความรู้สึกเหมือนไม่ได้ใส่อะไรที่ข้อมือเลย
จุดเด่นของ Huawei Band 3e คือการเปลี่ยนสวมใส่จากข้อมือปกติ มาเป็นสวมใส่ไว้ที่รองเท้าแทน เพื่อใช้นับจำนวนก้าววิ่งที่แม่นยำมากยิ่งขึ้น และตรวจวัดข้อมูลจากรูปแบบการวิ่งที่แตกต่างกันด้วย
ข้อมูลที่ได้จากการติด Huawei Band 3e ไว้ที่รองเท้าเวลาวิ่ง จะได้ข้อมูลเวลาที่สัมผัสพื้น ช่วงเวลาที่เท้าเบี่ยงออก จังหวะก้าวเท้า ความยาวของการก้าวเท้า มุมในการเหวี่ยงเท้า และแรงแระทบขณะสัมผัสพื้น ทำให้วัดผลออกมาได้แม่นยำ แล้วนำไปปรับปรุงการวิ่งให้ดีขึ้นได้
นอกจากการติดตามข้อมูลการวิ่งบนพื้นปกติแล้ว การวิ่งบนลู่วิ่งยังมีความแม่นยำอีกด้วย โดยการใช้เซ็นเซอร์แบบไจโรสโคป 6 แกนที่มีอยู่ในตัวเครื่องของ Huawei Band 3e เมื่อใช้งานในโหมดการสวมใส่คู่กับรองเท้า
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่หลายคนน่าจะชื่นชอบคือแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานสูงสุด 14 วัน หรือใช้งานในโหมดวิ่งได้นาน 40 ชั่วโมงต่อการชาร์จเพียงครั้งเดียว เรียกได้ว่าออกกำลังกายแบบไม่ต้องกังวลว่าแบตจะหมดระหว่างทางอีกต่อไป
สรุปจุดเด่น Huawei Wearable ตัวไหนที่เหมาะกับการใช้งานของเรา
- Huawei Watch GT เหมาะกับการออกกำลังกายทั่วไปทุกรูปแบบ และได้ความรู้สึกที่เป็นนาฬิกาจริงๆ ตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวัน เพราะตัวนาฬิกาถูกออกแบบให้เข้ากับทุกสไตล์การแต่งตัว ไม่ว่าจะเป็นรุ่น Sport ที่ดูเท่ๆ และรุ่น Classic ที่ดูเรียบหรู
- Huawei Watch GT Active Edition เหมาะสำหรับการออกกำลังทั้งในร่มและกลางแจ้ง โดยเพิ่มฟีเจอร์สำหรับไตรกีฬาด้วย ตัวเรือนมีขนาด 46 มม. จึงเหมาะกับข้อมือที่ค่อนข้างใหญ่ของผู้ชาย
- Huawei Watch GT Elegant Edition ตัวเรือนขนาด 42 มม. เหมาะกับข้อมือที่เล็กของผู้หญิง และมีดีไซน์ที่ดูสวยงาม โดยรองรับการออกกำลังกายทุกรูปแบบเหมือนกับ Watch GT Sport และ Classic
- Huawei Band 3 Pro สายรัดข้อมือสำหรับติดตามข้อมูลกิจกรรมระหว่างวันและการออกกำลังกาย กันน้ำได้ด้วย มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา และมีหน้าจอแสดงผลสีสันสดใส
- Huawei Band 3e แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานมากยิ่งขึ้นด้วยหน้าจอขาวดำ ติดตามการวิ่งได้แม่นยำมากขึ้นโดยโหมดใส่กับรองเท้า ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการข้อมูลการวิ่งแบบละเอียด
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับ Huawei Watch GT Series และ Huawei Band 3 Pro / 3e ที่มีดีไซน์สวยงาม ติดตามข้อมูลสุขภาพ และการออกกำลังกายได้อย่างครบถ้วน สำหรับผู้ที่สนใจสามารถหาซื้อได้แล้ววันนี้ที่ Huawei Brand Shop และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/HuaweimobileTH/