Connect with us

Apple News

พรีวิว iMac รุ่น 24″ ขุมพลัง M1 พร้อมดีไซน์โฉมใหม่หมดที่มีให้เลือกถึง 7 สี

Published

on

iMac รุ่น 24″ วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการเรียบร้อยในประเทศไทย รอบนี้ถือว่าเป็นการปรับโฉมครั้งใหญ่ของ iMac ด้วยสีสันที่ซอฟต์ลงและสีสันที่มีให้เลือกถึง 7 สีตามโลโก้ Apple สมัยก่อนเลย วันนี้ทีมงาน iphone-droid.net จะพามาพรีวิวแบบครบ 7 สีกันเลย ถ้าพร้อมแล้วมาชมกันเลยครับ

พาสเทลไปหมด

เริ่มต้นที่สีสันกันก่อนเลยดีกว่า เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ Apple ใช้สีสันแบบพาสเทลบนผลิตภัณฑ์ iMac ทุกอย่างจึงดูนวลตาไปหมด อย่างที่บอกไปว่า 7 สีของ iMac นี้จะเป็นสีของโลโก้ Apple เดิม ได้แก่สี เขียว, เหลือง, ส้ม, ชมพู, ม่วง, ฟ้า และสีเงินมาตรฐาน

สีสันของตัวเครื่องเองก็จะมีการตัดกันที่ลงตัวแบบสุด ๆ ที่ตัวฝาหลังจะเป็นสีหลักส่วนที่ขาตั้งและ Chin ด้านหน้าจะเป็นสีที่อ่อนลงเป็นโทนพาสเทล ยิ่งทำให้สวยเข้าไปอีก

ทั้ง 7 สีนี้จะมาพร้อมกับขอบหน้าจอ (Bezel) เป็นสีขาวทั้งหมด ชวนให้นึกถึงความเรียบง่ายเหมือนเฟอร์นิเจอร์ที่วางไว้มุมไหนของบ้านก็ได้ ตัวหน้าจอจะเป็นผิวแบบมันวาวให้ความสะท้อนนิด ๆ ดึงให้ตัวหน้าจอภายในนั้นโดดเด่นขึ้นมาอีกด้วยนะ

บางเฉียบในทุกมิติ

อีกเรื่องที่เห็นตัวจริงแล้วต้องว้าวเลยก็คือความบางเฉียบของตัวเครื่องครับ เพราะ iMac รุ่น 24″ นั้นมาพร้อมความบางแค่ 11.5 มม. เท่านั้นเทียบกับ iPhone 12 Pro Max ที่ใส่เคสก็เรียกว่าสูสีเลยล่ะครับ คือบางเฉียบไปซะทั้งหมดจริง ๆ มองจากมุมข้างก็จะเห็นเลยว่าความบางมันเสมอไปทั้งหมด ไม่มีส่วนนูนออกมาเลย

ตัวหน้าจอจะยึดติดกับขาตั้งแบบแข็งแรงมาก ต่างจากที่คิดไว้เยอะเลย เวลาเราจะปรับมุมมองก็ทำได้โดยที่ไม่ต้องกลัวจะหลุดเอาง่าย ๆ ครับตัวแกนที่ใช้ยึดจอกับขาตั้งเขาทำมาดีจริง ๆ

หน้าจอสวยระดับ 4.5K

iMac รุ่น 24″ มีหน้าจอที่แสดงผลได้ดีมากครับด้วยความละเอียดระดับ 4.5K คือรายละเอียดต่าง ๆ สวยคมชัดเอามาก ๆ ตัว Chin หรือคางที่เป็นเอกลักษณ์ของ iMac ยังคงอยู่แต่รอบนี้ตัดโลโก้ Apple ที่เคยวางเด่น ๆ ตรงกลางออกไปแล้ว ทิ้งพื้นที่ให้เราสร้างสรรค์ iMac ของเราตามสไตล์ของตัวเองเลย

ซึ่งตัวพื้นที่ Chin นี้จะเป็นพื้นที่สำหรับบอร์ดของตัวเครื่องทั้งหมด ออกแบบมาได้น่าทึ่งมากเพราะด้วยขุมพลังที่ให้มาภายในกับพื้นที่ที่ใช้แค่ส่วนล่างตรงนี้ แถมยังได้ลำโพงมามากถึง 6 ตัวอีก ชิปเซ็ต Apple M1 นี่ช่วยให้ลงตัวไปหมดจริง ๆ

พอร์ตเหลือแค่นี้

พอร์ตการเชื่อมต่อของ iMac รุ่น 24″ นั้นถูกตัดออกไปเกือบหมด รอบนี้เหลือเป็นพอร์ต USB 4 กับ Thunderbolt เท่านั้น พอร์ต USB A หรือ SD Card Reader หายเกลี้ยง แถมถ้ารุ่นเริ่มต้นจะเหลือพอร์ตแค่ Thunderbolt 2 ตัวเท่านั้นเองด้วยนะ

ส่วนช่องหูฟัง 3.5 มม. นั้นจะถูกย้ายตำแหน่งมาไว้ด้านข้างของตัวเครื่องแทนเพราะตัวความบางของตัวเครื่อง (ที่บางกว่าความลึกของแจ็ค 3.5 มม.ซะอีก)

กล้องหน้าของ iMac รุ่น 24″ นั้นจะอัปเกรดขึ้นมาเป็น 1080p พร้อม ISP ที่ฉลาดมากขึ้นจากชิป Apple M1 ด้วย ทำให้เราได้ภาพที่สว่างและสีสันสวยงามจากกล้องในตัวนี้เลย

อุปกรณ์เสริมทั้งหมดสีเข้ากับตัวเครื่อง

อีกหนึ่งไฮไลท์ของ iMac รุ่น 24″ ก็คืออุปกรณ์เสริมทั้งหมดที่ให้มาจะมีความเข้ากันกับสีตัวเครื่องด้วย ทั้ง Magic Mouse, Magic TrackPad, Magic Mouse เป็นสีขาว + สีของตัวเครื่องทั้งหมด ถึงแม้ตัว Magic Mouse กับ Magic TrackPad จะเป็นโมเดลเดิมแต่การที่มีสีสวย ๆ เข้ามาเสริมที่ด้านล่างก็ต้องยอมรับว่าสวยขึ้นเยอะจริง ๆ

ส่วน Magic Keyboard ของ iMac รุ่น 24″ นั้นจะปรับดีไซน์ใหม่หมดเลย มาพร้อมสีสันสวย ๆ ตามตัวเครื่องและมีตัวที่มีเซ็นเซอร์ Touch ID เข้ามาที่มุมขวาด้วย ช่วยให้เราใช้งานระบบสแกนนิ้วในการปลดล็อค iMac ได้เหมือนพวก MacBook แล้วครับ สะดวกสุด ๆ

ขุมพลัง Apple M1 ครั้งแรกใน iMac

ส่วนเรื่องประสิทธิภาพก็จัดเต็มด้วยชิปเซ็ต Apple M1 ที่เคยสร้างความฮือฮามาแล้วบน Mac mini, MacBook Air หรือ MacBook Pro เมื่อปลายปีที่แล้ว รอบนี้ iMac ก็ใช้ชุดเดียวกันเลย ประสิทธิภาพสูง ตอบโจทย์ทุกการใช้งานอย่างแน่นอนครับ

สรุปหลังลองจับ

ต้องบอกเลยว่าหลังจากที่ได้ลองสัมผัส iMac รุ่น 24″ ใหม่นี้รู้สึกประทับใจมาก ถือว่าเป็นการรีเฟรช iMac ใหม่ได้อย่างน่าสนใจ ทั้งดีไซน์ที่สวยขึ้น มีความพาสเทลและเข้าถึงผู้ใช้ได้หลายกลุ่มกว่าเดิม แต่ละสีคือละมุนไปหมด ความบางที่เฉียบจนต้องร้องว้าว และจุดเด่นที่ครบเครื่องอย่างความ All-in-One มีครบ เป็นอะไรที่ผมต้องบอกว่าลงตัวขึ้นมากจริง ๆ ครับ

ตามคอนเซ็ปต์ที่ Apple ตั้งใจไว้ก็คือ iMac รุ่น 24″ นี้ถูกออกแบบมาเพื่อทุกคนในครอบครัว หรือจะเรียกว่าคอมพิวเตอร์ประจำบ้านก็ได้ คือไม่ว่าจะเป็นใครก็สามารถใช้งานได้อย่างครอบคลุมนั่นเองครับ

ราคา iMac รุ่น 24”

ตอนนี้ iMac รุ่น 24” ก็เริ่มวางจำหน่ายเรียบร้อย มีราคาคร่าว ๆ ดังนี้

  • รุ่นชิป M1 (CPU 8-core + GPU 7-core) 256GB, พอร์ต Thunderbolt / USB 4 จำนวน 2 พอร์ต, Magic Keyboard ราคา 42,900 บาท
  • รุ่นชิป M1 (CPU 8-core + GPU 8-core) 256GB, พอร์ต Thunderbolt / USB 4 จำนวน 2 พอร์ต, พอร์ต USB 3 จำนวน 2 พอร์ต, Gigabit Ethernet Magic, Keyboard พร้อม Touch ID ราคา 49,900 บาท
  • รุ่นชิป M1 (CPU 8-core + GPU 8-core) 256GB, พอร์ต Thunderbolt / USB 4 จำนวน 2 พอร์ต, พอร์ต USB 3 จำนวน 2 พอร์ต, Gigabit Ethernet Magic, Keyboard พร้อม Touch ID ราคา 56,900 บาท
Android News8 นาที ago

รอชม ! One UI 7 Beta อาจปล่อยตัวทดสอบภายในสัปดาห์หน้า

หลังจากที่รอคอยกันมา...

Apple News38 นาที ago

ยังไม่ 120Hz !! Apple กำลังพัฒนา iPad Air, Studio Display และ iMac จอ 90Hz อยู่

หลังจากที่มีข่าวลือข...

Android News53 นาที ago

มาอีก…ภาพเคส Galaxy S25 Series ยืนยันดีไซน์มุมเครื่องโค้งทุกรุ่น พร้อมหน้าจอแบนราบทั้งหมด!

เราน่าจะได้เห็นดีไซน...

Android News1 ชั่วโมง ago

ผลทดสอบแรกชิป Tensor G5 ของ Pixel 10 Series มาแล้ว คะแนนยังตามหลังคู่แข่งอยู่เยอะ!?

Pixel 10 Series เรือ...

HarmonyOS2 ชั่วโมง ago

ลือ !! HUAWEI Mate 70 Series อาจเปิดตัววันที่ 19 พ.ย. นี้

เมื่อวานนี้ Yu Cheng...

Android News2 ชั่วโมง ago

ลือ OPPO Reno13 Series เปิดตัววันที่ 25 พ.ย.นี้ พร้อมสเปคเบื้องต้น ที่น่าสนใจไม่แพ้รุ่นเรือธง!

OPPO เปิดตัวเรือธง F...

Apple News2 ชั่วโมง ago

Apple ปิดกั้นการกาวน์เกรด (Stops Signing) ลงมาเป็น iOS 18.0.1

วันนี้ Apple ได้ปิดก...

Apple News3 ชั่วโมง ago

Apple ออกอัปเดต iOS 18.2 Developer Beta 2 เพิ่มการจำกัด Siri กับ ChatGPT พร้อมตัวเลือกหมวด Plus

ในวันนี้ Apple ได้ออ...

Copyright © 2012 iphone-droid.net.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ ดูเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และจัดการได้ที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึก