Smart Review
รีวิว iMac 24” ประสิทธิภาพและดีไซน์ที่ลงตัวของคอมพิวเตอร์สำหรับทุกคน
รีวิว iMac 24″ รุ่นใหม่พร้อมชิป Apple M1 รอบนี้อัปเกรดใหม่ยกชุด ตั้งแต่ชิปเซ็ตที่เปลี่ยนมาใช้ Apple Silicon ครั้งแรกของ iMac ดีไซน์ใหม่หมดที่เรียบง่ายมากขึ้นพร้อมสีสันที่หลากหลายกว่าเดิม
วันนี้ทีมงาน iphone-droid.net ขอมารีวิวแบบจัดเต็มให้ชมกันว่า iMac รุ่นใหม่นี้จะน่าสนใจแค่ไหน ติดตามกันครับ
สรุปสเปค iMac 24”
- หน้าจอ : Retina 4.5K ขนาด 23.5”
- CPU : ชิป Apple M1
- RAM : 8GB/16GB
- ความจุ : SSD 256GB/512GB/1TB/2TB
- กล้องหน้า : FaceTime HD ความละเอียด 1080p
- ระบบเสียง : ลำโพง 6 ตัว รองรับ Dolby Atmos
- พอร์ต : USB 4 x 2, Thunderbolt x 2, ช่องหูฟัง 3.5 มม.
- การเชื่อมต่อ : Wi‑Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax ใช้ได้กับ IEEE 802.11a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.0
- ระบบปฏิบัติการ : macOS Big Sur
ดีไซน์เรียบง่าย เข้าได้กับทุกมุมในบ้าน
เริ่มต้นที่ดีไซน์กันก่อนละกันครับ iMac รุ่น 24” มาพร้อมดีไซน์ที่เรียบง่าย minimal สุด ๆ ด้วยสีสันที่คลีนขึ้น สีที่เราได้มาเป็นสีเงินยิ่งให้ความรู้สึกสะอาดตาเข้าไปใหญ่
ตัวขอบหน้าจอจะเป็นสีขาวแล้ว ต่างจาก iMac รุ่นก่อน ๆ ที่เป็นสีดำ ทำให้ดูเป็นมิตรมากขึ้นและสามารถวางไว้อย่างกลมกลืนกับทุกส่วนในบ้าน อย่างในที่นี้เราวางเครื่องไว้ในห้องทำงานที่มีผนังเป็นสีขาว ก็จะเนียนตา กรอบหน้าจอไม่เด่นจนเกินไป
หรือจะวางไว้ที่ห้องนั่งเล่นที่มีผ้าม่านสีเข้ม ก็ไม่สะดุดตาจนเกิน เป็นคอมพิวเตอร์ที่จัดวางได้ง่ายและเหมาะกับทุกโซนจริง ๆ ครับ
ตัวเครื่องสีเงินที่ด้านหลังจะเป็นสีเทาแบบอ่อน ๆ โทนสีเป็นสีเดียวไม่มีการไล่เฉดแบบสีสันอื่น ๆ แต่ก็ให้ความรู้สึกสุภาพและทางการดีไม่น้อย
บางเฉียบในทุกมิติ
พอมาดูที่มุมข้างของตัวเครื่อง เราจะเห็นความบางเฉียบและความเท่ากันในทุกมิติ ความบางของ iMac รุ่น 24” จะอยู่ที่ 11.5 มม.เท่านั้น หากเทียบกับ iPhone 12 Pro Max หรือ iPad Pro แล้วใกล้เคียงกันมาก ๆ
ตัวขาตั้งจะเป็นแกนที่ยื่นขึ้นมายึดกับตัวหน้าจอได้เป็นอย่างดี พร้อมปรับองศาได้หลากหลาย ที่เราชอบก็คือความแน่นหนาของขาตั้งกับจอที่ยึดกันได้อย่างดี แม้แต่ละส่วนจะบางเฉียบขนาดนี้
นอกจากความบางแล้วน้ำหนักตัวเครื่องก็ทำได้ดีด้วยทำน้ำหนักได้น่าทึ่งเพราะหนักไม่ถึง 5 กก. เลยทีเดียวเป็นสัดส่วนที่ลงตัวเอามาก ๆ สำหรับคอมพิวเตอร์ที่จอใหญ่และจัดเต็มแบบนี้
หน้าจอ 24”ความละเอียด 4.5K
รีวิว iMac รุ่น 24” จะมาพร้อมขนาด 23.5” อ๊ะ…อ่านไม่ผิดครับ ถึงแม้ชื่อรุ่นจะระบุว่ารุ่น 24” แต่ในเว็บไซต์Apple เองจะมีระบุไว้ตัวเลข ๆ ว่าขนาดวัดตามแนวทะแยง 23.5” อันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงตั้งชื่อรุ่นว่า 24” อะเนาะ
ในเรื่องการแสดงผลก็สวยงามด้วยความละเอียดสูงถึง 4.5K คมชัดเอามาก ๆ มาพร้อมขอบเขตสีกว้างแบบ P3 แถมยังแสดงผลสีสันได้แบบ 10-bit มากกว่า 1 พันล้านสีเลย เหมาะสำหรับการดูคอนเทนต์ความละเอียดสูงมาก ๆ
จอสวยสดพร้อมความสว่างที่สูงถึง 500 nit และยังมีการเคลือบผิวป้องกันแสงสะท้อนระดับชั้นแนวหน้าของอุตสาหกรรมที่ช่วยให้การอ่านอะไรต่อมิอะไรง่ายสบายตายิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี True Tone ที่คอยปรับอุณหภูมิสีของจอภาพให้เข้ากับแสงรอบ ๆ ตัวคุณโดยอัตโนมัติเพื่อมอบประสบการณ์การดูที่เป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น
จะใช้งานทำงานที่เน้นเรื่องการปรับแต่งรูปภาพ ทำงานนำเสนอหรือดูซีรีส์ดูหนังเรื่องโปรด ก็ลงตัวไปหมดบนจอของ iMac นี้
ขอบหน้าจอด้านล่างของ iMac รุ่น 24” ยังคงมีอยู่ แต่รอบนี้จะไม่มีโลโก้ Apple อยู่ที่ด้านหน้าแล้ว เป็นการเพิ่มทางเลือกในการปรับแต่งมากขึ้น จะเอาสติกเกอร์หรือ Post it มาแปะก็เหลือที่ว่างอีกเยอะ และการที่เว้นขอบจอตรงนี้อยู่ก็ช่วยคงเอกลักษณ์ของ iMac ไว้ได้อยู่ แถมยังเสริมให้หน้าจอมีระดับพอดีกับสายตาอีกด้วย
และถ้ามองว่าการเว้นขอบหน้าจอด้านล่างนี้เพื่อใส่บอร์ดและลำโพงของตัวเครื่องไว้ด้านล่างนี้ทั้งหมด ก็ยิ่งชวนให้ทึ่งไปกันใหญ่ว่าดีไซน์นั้นถูกออกแบบมาดีมาก ๆ ทุกส่วนที่เคยอยู่ด้านหลังขยับลงมาด้านล่างหน้าจอและส่งเสริมให้ตัวเครื่องบางลงได้ในทุกมิติ
รีวิว iMac 24″ ลำโพง 6 ตัวเสียงแน่น ๆ
ตัวลำโพงของ iMac นั้นได้มาถึง 6 ตัวให้พลังเสียงที่ยอดเยี่ยมมาก ๆ เข้ากับหน้าจอได้เป็นอย่างเป็นดี เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เหมาะกับการดูหนังฟังเพลงไม่น้อยเลยจริง ๆ ครับ
พอร์ตการเชื่อมต่อที่เปลี่ยนไปหมด
มาดูเรื่องพอร์ตการเชื่อมต่อกันบ้าง iMac รุ่น 24” นั้นตัดเปลี่ยนพอร์ตไปหมดเริ่มจากพอร์ตเชื่อมต่อไฟ จะเปลี่ยนมาเป็นแม่เหล็กดูดเข้ากับตัวเครื่องได้ง่าย ไม่ต้องมาคอยหาเวลาเราเชื่อมต่อครั้งแรก ก็ค่อย ๆ ขยับจนแม่เหล็กดูดเข้าหากันก็พอ
ตัวอะแดปเตอร์ของ iMac รุ่น 24” นั้นจะออกแบบมาใหม่ด้วย สำหรับรุ่นที่เราได้มาตัวอะแดปเตอร์จะมีพอร์ต Ethernet หรือพอร์ต LAN มาให้ด้วย ตรงนี้ดีเลยเพราะเราสามารถเสียบสาย LAN โดยตรงเข้าที่อะแดปเตอร์แทนและซ่อนสายได้อย่างแนบเนียน ทำให้เวลาจัดโต๊ะก็จะได้คลีน ๆ แบบ minimal เลย
พอร์ตการเชื่อมอื่น ๆ ของ iMac รุ่น 24” จะเหลือเพียง USB 4 กับ Thunderbolt อย่างละ 2 พอร์ตเท่านั้น (ถ้าเป็นรุ่นเริ่มต้นจะมีแค่ Thunderbolt 2 พอร์ต) ใครที่ต้องการพอร์ตแบบ SD Card Reader หรือ USB type-A ในการทำงานอาจจะต้องหาอุปกรณ์เสริมมาเชื่อมต่ออีก
ช่องหูฟัง 3.5 มม.ของ iMac รุ่น 24” จะถูกย้ายมาอยู่ที่ด้านข้างแทน เพราะด้วยขนาดตัวเครื่องที่บางเฉียบขนาดนี้ (บางกว่าแจ็คหูฟังซะอีก) เลยต้องย้ายตำแหน่งมาไว้ที่มุมข้างแทน ก็สะดวกในการใช้งานดีครับไม่ต้องอ้อมไปที่ด้านหลังแล้ว
ปุ่ม Power ของ iMac รุ่น 24” จะอยู่ที่มุมซ้ายมือมีการทำมุมเว้าลงไปให้พอดีกับนิ้วมือเวลาเราลูบคลำใช้งานก็สามารถทำได้ง่าย ๆ
กล้องหน้าที่เก่งขึ้น
กล้องหน้าของ iMac รุ่น 24” ยังคงอยู่ที่มุมบนของหน้าจอ รอบนี้อัปเกรดกล้องเป็นความละเอียด Full-HD 1080p แล้วแถมยังได้พลังของชิป Apple M1 ช่วยให้เราได้ภาพที่คมชัดกว่าเดิมในทุกสภาพแสงเลยด้วยครับ
ไมโครโฟนของ iMac รุ่น 24” ก็มีด้วยกัน 3 ตัว ช่วยให้เราใช้งานวิดีโอคอลได้อย่างยอดเยี่ยมแบบที่ไม่ต้องต่ออุปกรณ์เสริมเลย ในยุคที่เราต้องอยู่บ้านวิดีโอคอลแบบ WFH บ่อย ๆ การมีกล้องและไมค์ที่ดีนั้นช่วยได้เยอะจริง ๆ ครับ
อุปกรณ์เสริมที่เข้าชุดไปหมด
มาเข้าเรื่องอุปกรณ์เสริมของ iMac รุ่น 24” กันต่อครับ อุปกรณ์ทุกชิ้นของ iMac จะมีความเข้ากันกับสีสันตัวเครื่องไปหมด ทั้ง Magic Keyboard Magic Mouse สายชาร์จต่าง ๆ รวมถึงสติกเกอร์ที่แถมมาในกล่องด้วย แม้เครื่อง iMac สีเงินที่เราได้มารีวิวจะไม่ได้มีสีที่โดดเด่นกว่าของมาตรฐานเท่าไหร่ แต่พอวางคู่กับตัวเครื่องแล้วก็ดูลงตัวไปหมดครับ
Magic Keyboard ใหม่พร้อม Touch ID
Magic Keyboard ของ iMac รุ่น 24” มีการปรับดีไซน์ใหม่ เพิ่มปุ่ม Touch ID สำหรับสแกนลายนิ้วมือเข้ามาแล้ว ทำให้การใช้งานนั้นสะดวกมากขึ้นเยอะ เวลาเราจะล็อคอินเข้าเครื่องหรือโหลดแอปก็แตะได้ทันที ไม่ต้องคอยมาใส่รหัส แต่ตรงนี้ต้องบอกไว้ก่อนว่า Magic Keyboard ใหม่ที่มี Touch ID นี้จะไม่มีมาให้ในรุ่นเริ่มต้นนะครับ ถ้าอยากได้ต้องจ่ายเงินเพิ่ม 1,700 บาท
ความรู้สึกในการพิมพ์ของ Magic Keyboard ให้ความรู้สึกกำลังดี อาจจะไม่ได้เด้งรับนิ้วมากนักหรือพิมพ์ได้สนุกมากแต่ก็ให้ความรู้สึกในการทำงานที่ดีครับ แต่น่าเสียดายที่ Magic Keyboard ตัวนี้ไม่มีไฟ Backlit มาให้ด้วย เวลาทำงานตอนกลางคืนหรือที่มืดก็อาจจะไม่สะดวกนัก
แต่ Magic Mouse เดิม
ส่วน Magic Mouse ก็ใช้เป็นตัวเดิม ยิ่งเป็นสีเงินก็ยิ่งเหมือนเดิมเข้าไปใหญ่ การทำงานก็เหมือนเดิมครับ เลื่อน ๆ ได้อย่างลื่นไหล รองรับ Multitouch จะใช้งาน 2 นิ้วเลื่อนสลับแอปก็ได้
และใช่ครับด้วยความที่เป็นตัวเดิม การชาร์จเราก็ยังต้องหงายท้องชาร์จเหมือนเดิมทำให้ไม่สามารถใช้ไปชาร์จไปได้อยู่ดี
รีวิว iMac 24″ ชิป Apple M1 สุดทรงพลัง
ถึงเวลาทดสอบการใช้งานกันแล้วครับ อย่างที่บอกว่า iMac รุ่น 24” นั้นมาพร้อมขุมพลัง Apple M1 ครั้งแรกของชิป Apple Silicon บน iMac ประสิทธิภาพการทำงานสูงมาก แบบเดียวกับ MacBook Air, MacBook Pro 13” และ Mac mini ที่เปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่แล้วเลยครับ
ซึ่ง Apple เคลมว่าตัว CPU เร็วขึ้นสูงสุด 85% ตัว GPU แรงกว่า 2 เท่าเมื่อเทียบกับ iMac รุ่น 21.5” ทำงานทุกอย่างได้ราบรื่นไปหมด จะเล่นเว็บ เปิด Safari เป็นสิบ ๆ แท็บก็ไม่เจออาการหน่วง ทำงานเอกสารรวมถึงกราฟิกหนัก ๆ ก็สบาย ๆ
รวมถึงการเล่นเกมเอาเข้าจริงสเปคของ Apple M1 ก็เล่นได้อยู่ครับ เกมบางเกมบน Steam ก็สามารถเล่นได้ในระดับกราฟิกกลาง-สูงเลยทีเดียว
หรืออย่างคนที่มีสมัคร Apple Arcade ไว้เราก็สามารถเล่นได้บน iMac รุ่น 24” ได้แบบลื่น ๆ เชื่อมต่อกับจอยคอนโทรลเลอร์ก็เปลี่ยนเป็นเครื่องเกมได้เลย
ในเรื่องแอปอื่น ๆ ด้วยความที่ชิป Apple M1 นั้นเราสามารถดาวน์โหลดแอปของ iPhone และ iPad มาใช้งานด้วยกันได้ด้วย
ระบบปฏิบัติ macOS Big Sur
ในเรื่องซอฟต์แวร์ iMac รุ่น 24” ใช้ macOS Big Sur เวอร์ชั่นล่าสุดที่มีการปรับจูนระบบให้เข้ากับชิป Apple M1 อย่างดี ทำให้ใช้งานได้อย่างลื่นไหล จะเปิดแอป สลับแอป ก็ทำงานได้อย่างลื่นไหล และด้วยสเปคระดับนี้แน่นอนว่ารองรับการอัปเดตเป็น macOS Monterey ที่มีความสามารถใหม่ ๆ อีกเพียบในอนาคตอีกด้วย
รีวิว iMac รุ่น 24” สรุปแล้ว “นี่คือคอมพิวเตอร์ที่ครบจบสำหรับทุกคน”
รีวิว iMac รุ่น 24” ก็ถือเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เหมาะสำหรับทุกคน ลงตัวทั้งดีไซน์และประสิทธิภาพ ใช้งานได้หลากหลายและราบรื่นด้วยชิป Apple M1 จะใช้เป็นคอมทำงานหนัก ๆ ก็ถูกใจ จะใช้เป็นเครื่องความบันเทิง ดูหนังเล่นเกมก็ไม่ติด ในด้านดีไซน์ก็สวยและ minimal ขึ้น เหมาะจะวางไว้ในทุกมุมของบ้านได้แบบไม่ฝืนเกินไป และปิดท้ายก็คือ macOS ที่เสถียรและตอบโจทย์ ใครที่กำลังมองคอมพิวเตอร์ระบบ macOS อยู่ในช่วงนี้อยากได้แบบตัวเดียวจบ ก็จัดได้เลยครับ ไม่ผิดหวัง
ราคา iMac รุ่น 24” ชิปเซ็ต Apple M1
- รุ่นชิป M1 (CPU 8-core + GPU 7-core) 256GB, พอร์ต Thunderbolt / USB 4 จำนวน 2 พอร์ต, Magic Keyboard ราคา 42,900 บาท
- รุ่นชิป M1 (CPU 8-core + GPU 8-core) 256GB, พอร์ต Thunderbolt / USB 4 จำนวน 2 พอร์ต, พอร์ต USB 3 จำนวน 2 พอร์ต, Gigabit Ethernet Magic, Keyboard พร้อม Touch ID ราคา 49,900 บาท
- รุ่นชิป M1 (CPU 8-core + GPU 8-core) 256GB, พอร์ต Thunderbolt / USB 4 จำนวน 2 พอร์ต, พอร์ต USB 3 จำนวน 2 พอร์ต, Gigabit Ethernet Magic, Keyboard พร้อม Touch ID ราคา 56,900 บาท
หาซื้อได้แล้ววันนี้ที่ Apple Store และ Apple Online Store