รีวิว Infinix Hot 11S สมาร์ทโฟนเร็วสุด สนุก เต็มสปีด จัดเต็มด้วยขุมพลังเกมมิ่ง Helio G88 และหน้าจอขนาดยักษ์ 6.78 นิ้ว คมชัดระดับ Full HD+ และกล้องคมชัดสูงสุด 50 ล้านพิกเซล ควบคู่กับความฉลาดของ AI ให้ภาพถ่ายคมชัดและสดใสกว่าที่เคย
สรุปสเปค Infinix Hot 11S
- ขนาดตัวเครื่อง : 168.9 x 77 x 8.82 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก : 205 กรัม
- หน้าจอแสดงผล IPS แบบ Punch Hole Display กว้าง 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2460 x 1080 พิกเซล) อัตราส่วน 20.5:9 รองรับ Refresh Rate 90Hz, 180HZ Touch Sampling Rate และความสว่างสูงสุด 500 นิต
- หน่วยประมวลผล : MediaTek Helio G88 Octa Core ความเร็ว 2.0GHz
- GPU: ARM Mali-G52 MC2
- RAM 6GB
- ROM 128GB UFS 2.2 เพิ่ม MicroSD Card สูงสุด 512GB
- ระบบปฎิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย XOS 7.6
- กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 3 เลนส์ แบ่งเป็น
- เลนส์หลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.6
- เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- เลนส์ AI
- กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0
- รองรับการใช้งานซิมการ์ดแบบ NanoSIM 2 ซิม
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 2.4GHz + 5GHz, Bluetooth 5.0 และพอร์ต USB Type-C
- แบตเตอรี่ความจุ 5000mAh รองรับ 18W Fast Charge
แกะกล่อง ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล
อุปกรณ์ภายในกล่อง
- ตัวเครื่อง Infinix Hot 11S พร้อมติดฟิล์มกันรอย
- อะแดปเตอร์ 18W
- สาย USB Type-C
- เคสใส
- อุปกรณ์เปิดถาดซิม
ดีไซน์ลายคลื่นสะดุดตา
Infinix Hot 11S สีเขียว Green Wave มาพร้อมดีไซน์ที่สะดุดตามากๆ ด้วยลวดลายที่เป็นลายคลื่นดูมีความเคลื่อนไหวทุกครั้งเวลาขยับ แถมยังมีการไล่เฉดสีเขียวเข้มและเขียวอ่อนเพิ่มมิติอีกขั้น
สำหรับฝาหลังของรุ่นนี้มีความหนืดๆ เล็กน้อยเพื่อให้รู้สึกถือได้มั่นคงมากขึ้น และไม่ให้รู้สึกลื่นมือเวลาใช้งานครับ
ทั้งนี้หน้าจอแสดงผลยังเป็นตัวชูโรงของรุ่นนี้ด้วยจอยักษ์ 6.78 นิ้ว อัตราส่วน 20.5:9 คมชัดระดับ FHD+ พร้อมใช้พาเนล IPS ที่ให้เรื่องความสีสันสดใสแบบจัดเเต็มแน่นอน ใครชอบดูวิดีโอหรือดู Netflix บ่อย น่าจะชอบกันมากแน่ๆ
ที่สำคัญเมื่อออกแนวสมาร์ทโฟนเกมมิ่งก็ยังรองรับ Refresh Rate 90Hz ควบคู่กับ 180Hz Touch Sampling Rate ทำให้เวลาเล่นเกม การเคลื่อนไหวต่างๆ ทำได้ติดนิ้วมากขึ้น แถมได้ความไหลลื่นและภาพไม่เบลอด้วยเวลาขยับเร็วๆ ครับ
มาดูรอบเครื่องกันต่อครับ เหนือหน้าจอแสดงผลจะมีกล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล และลำโพงตัวที่ 2 ที่เป็นลำโพงคู่อีกด้วย
ทางซ้ายตัวเครื่องมีช่องสำหรับซิมการ์ดแบบ nanoSIM 2 ช่อง พร้อม MicroSD Card ให้อีก 1 ช่อง รวมเป็นทั้งหมด 3 ช่องครบถ้วนครับ
ส่วนทางขวามีทั้งปุ่ม Power และปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงครับ
ด้านล่างตัวเครื่องจะยีงมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. ให้อยู่เหมือนเดิม, ไมโครโฟนตัวที่ 1, พอร์ต USB Type-C และลำโพงตัวที่ 1
และที่ด้านหลังจะมีโมดูลกล้องหลังแบบวงรีแนวตั้ง ที่เลนส์หลักจะอยู่ด้านบนสุดแบบชัดเจน ถัดลงมาจะเป็นเลนส์ Depth และ AI ครับ ส่วนอีก 2 อย่างด้านล่างสุดจะเป็นไฟแฟลช LED 4 ตัว และสัญลักษณ์ 50MP Ultra Night Camera
ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน
ระบบปฏิบัติการ
Infinix Hot 11S แกะกล่องมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 11 ที่ครอบทับด้วย XOS 7.6 ที่เป็น UI ของตัวเองที่มีฟีเจอร์ให้เราได้ใช้งานกันเพียบ โดยเฉพาะฟีเจอร์ที่เน้นการใช้งานในชีวิตประจำวัน
ระบบความปลอดภัย
รุ่นนี้มาพร้อมกับระบบการสแกนลายนิ้วมือที่อยู่ด้านหลังเครื่อง ถือว่าสะดวกมากๆ เวลาใช้นิ้วชี้ของทั้ง 2 มือหยิบขึ้นมาครับ เพราะนิ้วจะอยู่ใกล้เคียงกับตัวเซ็นเซอร์พอดี
ส่วนระบบความปลอดภัยอีกอย่างคือการสแกนใบหน้าที่จดจำใบหน้าได้แม่นยำครับ
ลำโพงคู่ DTS กระหึ่มระดับภาพยนตร์
จัดมาให้กับความบันเทิงเต็มขั้นที่รองรับลำโพงคู่ระบบเสียง DTS ที่เสียงค่อนข้างกระหึ่มเลยทีเดียว แถมยังปล่อยเสียงออกมาของ 2 ฝั่งตัวเครื่อง แยกซ้าย-ขวาชัดเจน ทำให้เพิ่มอรรถรสของการรับชมสิ่งต่างๆ ได้มากขึ้น
Xclone เพิ่ม 2 บัญชีได้ในเครื่อง
ฟีเจอร์นี้เอาไว้สำหรับคนที่มีแอปโซเชียล 2 บัญชี เช่น Facebook, IG หรือ Messenger เป็นต้น ใครอยากใช้แอปไหน 2 แอปแบบแยกกันโดนสมบูรณ์ก็เลือกได้ทันทีครับ
ล็อกแอปเพิ่มความปลอดภัยของการใช้งาน
ใครที่มีแอปบัญชีธนาคารหรือแอปอะไรก็ตามที่สำคัญมากๆ เราก็สามารถเปิดให้ล็อกแอปนั้นได้อีกชั้นหนึ่ง โดยจะใช้เป็นรูปแบบวาดเพื่อเข้าใช้งานครับ ซึ่งตัวรหัสจะเป็นคนละชุดกับที่ล็อกหน้าจอครับ
แถบข้างจอเพิ่มความสะดวกด้วย Smart Panel
ใครที่มีแอปพลิเคชั่นเยอะๆ และไม่อยากเสียเวลาหา ใน XOS 7.6 ก็จะมีฟีเจอร์ Smart Panel ที่เป็นแถบด้านข้างเพื่อใช้งานแอปหรือเครื่องมือด่วนได้ทันทีครับ เพียงแค่เราปัดซ้ายหรือขวาจากขอบหน้าจอค้างไว้สักครู่ จากนั้นก้จะมีปรากฏแถบดังกล่าวขึ้นมาครับ ซึ่งใครจะเลือกใช้เครื่องมือหรือแอปไหนบ่อยๆ ก็ปรับได้ด้วยเหมือนกัน
โหมดถนอมดวงตา
ในโหมดนี้ก็จะเป็นการตัดแสงสีฟ้าออกไปเพื่อให้เราใช้งานได้ไม่ล้าดวงตามากเกินไปครับ ซึ่งสามารถปรับความเข้มของแสงได้เช่นกันนะ
มีธีมมืดให้ใช้ด้วย
ถ้าใครไม่อยากใช้โหมดถนอมดวงตาก็เปิดธีมสีมืดได้ครับ ซึ่งจะเปลี่ยนพื้นหลังทั้งหมดเป็นสีดำทำให้ไม่แสบตาจนเกินไปเวลาใช้ในที่แสงน้อยหรือตอนกลางคืนในห้องนอน
ประสิทธิภาพ การเล่นเกม และแบตเตอรี่
Infinix Hot 11S ขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผลเกมมิ่งอย่าง MediaTek Helio G88 Octa Core ความเร็ว Clock สูงสุด 2.0GHz ซึ่งตระกูล Helio G Series จะเน้นเรื่องประสิทธิภาพด้านกราฟิกให้ประมวลผลได้เร็วและแรงครับ ใครจะเน้นเล่นเกมก็ทำได้แน่นอน
เพิ่มประสิทธิภาพเล่นเกมด้วย Game Zone
ใครที่โหลดเกมมาแล้ว เช่นอย่างเราโหมด ROV และ Call of Duty : Mobile มา ก็จะรวมไว้ที่แอป Game Zone ทั้งหมดครับ ซึ่งตัว Game Zone จะเป็นเหมือนตัวช่วยในระหว่างเล่นเกม ไม่าว่าจะเป็นการปิดกั้นการเตือนข้อความหรือการโทรเข้ามา
ทั้งยังมีฟีเจอร์เสริมอย่าง Dar-Link Engine เพื่อเพิ่มความแรงของ CPU, GPU และ RAM ให้ขับเคลื่อนเต็มประสิทธิภาพแบบเต็มสูบครับ
ทดสอบการเล่นเกม
ROV
ในเกม ROV รุ่นนี้สามารถปรับภาพ HD ได้สูงสุด พร้อมการแสดงผลระดับสูง ซึ่งเราก็ลองเล่นไปประมาณ 2-3 รอบ ตัวเครื่องก็ยังคงทำงานได้ไหลลื่น ไม่เจอการกระตุก เฟรมเรทก็วิ่งนิ่งๆ ได้ที่ 30fps
Call of Duty : Mobile
ส่วน COD ก็เปิดภาพได้กลางๆ และเฟรมเรท High ครับ ซึ่งก็เล่นได้สบายๆ โดยเราลองทั้งโหมด Battle Royale 100 คน และโหมด Frontline ก็ทำได้ดีทั้งหมดครับ รวมถึงการทัชหน้าจอก็ทำได้ติดนิ้วดีมาก
แบตเตอรี่สุดอึด 5000mAh พร้อมรองรับ 18W Fast Charge
สำหรับแบตเตอรี่ที่ให้มาถึง 5000mAh ทำให้รุ่นนี้ใช้งานทั่วไปได้ครบวันแบบสบายๆ ครับ (ถ้าไม่เกมหนักๆ เนาะ) สามารถเล่นเกมได้นานสุดถึง 13 ชั่วโมง, ฟังเพลงได้นานสุด 142 ชั่วโมง หรือสแตนบายด์ทิ้งไว้ได้นานถึง 60 วันเลยครับ
ส่วนใครที่เล่นเกมทั้งวันแบตเตอรี่อาจเหลือน้อยแล้วครับ แต่รุ่นนี้ก็ให้เราได้ชาร์จเร็วด้วยกำลังไฟ 18W ซึ่งเราลองชาร์จจากประมาณ 20% ไปถึงเต็ม 100% ในเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ซึ่งถือว่าเร็วแล้วสำหรับรุ่นที่ให้แบตมาถึง 5000mAh
กล้องถ่ายรูป
นอกจากความแรงในการใช้งานด้านต่างๆ แล้ว Infinix Hot 11S ก็ยังจัดกล้องคมชัดขั้นสุดถึง 50 ล้านพิกเซลมาให้พร้อมความฉลาดของเลนส์ AI โดยเฉพาะ ทั้งยังมีฟีเจอร์ต่างๆ เพียบ
คมชัด 50 ล้านพิกเซล พร้อม AI แยะแยะฉากต่างๆ
สำหรับ Infinix Hot 11S จะมีโหมดให้เราถ่ายที่ความละเอียดสูงสุดได้ที่ 50 ล้านพิกเซลครับ ซึ่งจะได้พิกเซลที่สูงเพื่อให้เห็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ได้ชัดเจนมากขึ้น
ทั้งนี้ ด้วยเลนส์ AI ที่แยกออกกมาเฉพาะตัวทำให้มีความฉลาดในการแยกแยะหมวดหมู่ของวัตถุต่างๆ และปรับแต่งสีสันได้อย่างสวยงามและเหมาะสมกับแต่ละวัตถุมากขึ้นครับ
ถ่าย Portrait เบลอหลังได้เนียนตา
ในรุ่นนี้ก็รองรับการถ่ายภาพบุคคล (Portrait) เหมือนกันครับ โดยการเบลอหลังถือว่าทำได้เนียนเลยทีเดียว ตัดขอบได้ค่อนข้างเป๊ะมากๆ แต่โทนสีในโหมดนี้จะอกมาสีเหลืองเล็กๆ ครับ
หากใครที่หากปรับบิวตี้จะต้องใช้งานอีกโหมดหนึ่งแยกออกมาครับ ซึ่งสามารถปรับได้ทั้งความเนียนบนใบหน้า ได้แก่ ผิวเนียน, สีผิว, ตาโต หรือใบหน้าเรียว และสามารถปรับความเพรียวของร่างกายได้ด้วยนะ โดยทั้ง 2 แบบนี้จะเลือกปรับเองตามใจชอบหรือให้ AI ปรับแต่งให้ก็ได้ทั้งหมดครับ
Night Mode ถ่ายกลางคืนได้คมชัดขึ้น
ในที่แสงน้อยหรือในที่กลางคืนเราก็ปรับมาให้โหมด “โหมดประสิทธิภาพในที่มืด” ได้ครับ ภาพที่ได้ออกมาจะมีความคมชัดและสว่างมากขึ้นเมื่อเทียบกับโหมดปกติ แถมมีแอบเพิ่มคอนทราสต์เล็กๆ ด้วย โดยระบบจะใช้เวลาประมวลผลประมาณ 3-4 วินาที
โหมดปกติ / โหมดกลางคืน 
ถ่ายภาพได้สนุกขึ้นด้วย AR Stickter
AR Stickter เพิ่มความสนุกสนานของการถ่ายภาพมากขึ้น จะมีตัวการ์ตูนและสัตว์น่ารักๆ ให้เลือกเพียบครับ โดยจะมีทั้งแบบเปลี่ยนหัวของเราเป็นสัตว์ไปเลย (กระพริบตาตามเราได้ด้วยนะเออ) และแบบเป็นสติ๊กเกอรืติดบนใบหน้าเสริมความน่ารักขึ้นไปอีก
กล้องหน้า AI 8 ล้านพิกเซล
ในกล้องหน้าจะมีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ถ่ายเซลฟี่ออกมาได้ค่อนข้างสวยงามครับ มีความคมชัดพอสมควรโดยเฉพาะในที่แสงกลางแจ้ง โดยกล้องหน้าจะถ่ายแบบ Portrait หรือโหมดบิวจี้ก็ทำได้ทั้งหมด
ทั้งนี้ หากในที่แสงน้อยก็สามารถเปิดไฟแฟลช Dual-star Light เพิ่มความสว่างได้เยอะมากๆ โดยแสงไฟแฟลช LED จะอยู่ทางขวาของกล้องหน้าครับ
สรุปการใช้งาน
จากที่ได้ทดสอบใช้งาน รีวิว Infinix Hot 11S มาประมาณ 1 สัปดาห์ สิ่งที่ชอบมากที่สุดคงจะเป็นเรื่องหน้าจอแสดงผล 6.78 นิ้ว ที่ใหญ่แบบสะใจมาก จะเล่นเกม โซเชียล หรือดูวิดีโอก็เต็มตาสุดๆ รวมถึงการใช้งานทำได้เป็นอย่างดีผ่านชิปเซ็ต Helio G88 ที่เน้นการเล่นเกมอยู่แล้ว ส่งผลให้การใช้ทั่วไปก็ไหลลื่นไม่ต่างกัน และเรื่องกล้องก็ถือว่าให้มาแบบคุ้มราคาถึง 50MP ใครที่ชอบถ่ายภาพบรรยากาศหรือวิวเวลาไปเที่ยวก็ทำได้สวยงามและจบในเครื่องเลย
ราคาอย่างเป็นทางการ
Infinix Hot 11S วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้วในราคาเพียง 5,199 บาท ผ่านช่องทางออนไลน์ Shopee ครับ