รีวิว Infinix HOT 30 สมาร์ทโฟนเกมมิ่งในราคาไม่ถึง 5,000 บาท แต่สเปคจัดมาคุ้มค่า รองรับชาร์จไว 33W พร้อมให้ RAM มาถึง 8GB เพิ่มได้อีก 8GB (รวม 16GB) เยอะที่สุดในราคาระดับเดียวกัน และเป็นอีกรุ่นที่ตอบโจทย์มากๆ สำหรับกลุ่มวัยเรียนหรือคนรุ่นใหม่ที่ต้องการหาสมาร์ทโฟนสักรุ่นที่เล่นเกมได้ดีและราคาสบายกระเป๋าครับ
สรุปสเปค Infinix HOT 30
- ขนาดตัวเครื่อง : 168.66 x 76.61 x 8.4 มม.
- น้ำหนัก : 196 กรัม
- หน้าจอแสดงผลหลัก IPS LTPS (LCD) ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2460 x 1080 พิกเซล) รองรับ Refresh Rate 90Hz, 270Hz Touch Sampling Rate, ความสว่างสูงสุด 600 นิต และมีสัดส่วนพื้นที่ต่อหน้าจอ 90.7%
- หน่วยประมวลผล : MediaTek Helio G88 Octa Core ความเร็ว 2.0GHz
- GPU : ARM Mali-G52 MC2
- RAM : 8GB
- ROM : 128GB รองรับ MicroSD Card สูงสุด 1TB
- กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 2 เลนส์ ดังนี้
- เลนส์หลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.6 เซ็นเซอร์ Hynix Hi5021Q ขนาด 1/2.55″
- เลนส์ AI
- กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.45
- ระบบปฏิบัติการ Android 13 ครอบทับด้วย XOS 12.6
- การเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.1, NFC และพอร์ต USB Type-C
- แบตเตอรี่ความจุ 5000mAh ชาร์จเร็ว 33W Super Charge
แกะกล่อง ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล
ตัวกล่องสวยงามไม่เหมือนใคร
กล่องของ Infinix HOT 30 จะมาในสีเขียวอ่อนตามเอกลักษณ์ของ Infinix พร้อมมีโลโก้แสดงชัดเจนที่ด้านบน พร้อมด้วยชื่อรุ่น HOT 30 ที่ด้านข้าง และมีสเปคหลักอย่าง Helio G88 Octa-Core ที่ระบุไว้ทางด้านล่างกล่องด้านหน้าครับ
เมื่อเปิดออกมาก็จะเจอกับตัวเครื่อง Infinix HOT 30 (ติดฟิล์มกันรอยที่หน้าจอมาให้แล้วครับ) ถัดมาในชั้นที่ 2 จะเป็นเคสซิลิโคนสีดำสวยงามที่เป็นลวดลายของเกม Free Fire ที่น่าจะถูกใจวัยรุ่นแน่ๆ และในชั้นสุดท้ายจะเป็นอะแดปเตอร์ 33W และสาย USB Type-C
ดีไซน์ลายไดนามิค เล่นแสงสวยงามแบบมีชีวิตชีวา
ดีไซน์ของ Infinix HOT 30 ใช้วัสดุแบบพลาสติกที่มีความแข็งแรงพอสมควรเลยครับ งานประกอบทำได้แน่นหนาเลยทีเดียว
โดยสีสันที่อยู่ในมือเราเป็นสีขาว Sonic White ที่มีการเล่นแสงและเงาแบบไดนามิคเป็นคลื่นๆ เวลาเสงตกกระทบ ทำให้เครื่องดูมีชีวิตชีวา ไม่น่าเบื่อ ได้ความสวยงามและดูพรีเมียมในเวลาเดียวกัน
ทั้งนี้ ตัวเครื่องยังมีความบางเพียง 8.4 มม. เท่านั้น ซึ่งในราคาระดับนี้ได้ความบางเท่านี้ถือว่ายอดเยี่ยมมากๆ
หน้าจอใหญ่ คมชัดเต็มตา พร้อมไหลลื่นแบบ 90Hz
Infinix HOT 30 ใช้พาเนลหน้าจอแบบ IPS LTPS (LCD) ใหญ่ถึง 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2460 x 1080 พิกเซล) ซึ่งความสว่างหน้าจอจะอยู่ที่สูงสุด 600 นิต สามารถใช้งานในตอนกลางแจ้งได้อย่างชัดเจนครับ ทั้งยังได้ขอบด้านข้างที่บางสุดๆ ทำให้มีพื้นที่ในการใช้งานต่อหน้าจออยู่ที่ 90.7%
ในเรื่องสีสันของหน้าจอที่เป็นแบบ IPS ก็จะได้ความสดใส สีสันจัดจ้าน โดยขอบเขตสีจะอยู่ที่ 96% DCI-P3 ซึ่งเวลาที่ดูวิดีโอหรือภาพถ่ายต่างๆ จะดูสดใสแน่นอนครับ
และด้วยการที่รุ่นนี้เป็นเกมมิ่งโฟนก็แน่นอนว่าจะต้องรองรับ Refresh Rate สูงสุดอยู่ที่ 90Hz พร้อมค่า 270Hz Touch Sampling Rate เวลาเล่นเกมเราจะรู้สึกถึงความไหลลื่นและการตอบสนองได้ติดนิ้ว
พาชมรอบเครื่อง
บริเวณเหนือหน้าจอแสดงผลจะมีกล้องหน้าแบบ Punch Hole พร้อมด้วยลำโพงตัวที่ 2 (เป็นลำโพงคู่ด้วยนะ) และที่ฝั่งขวาตรงตัวขอบด้านบนจะมีไฟแฟลช LED ซึ่งจะแสดงไฟทันทีเมื่อเราเสียสายชาร์จ
ฝั่งซ้ายเครื่องจะมีช่องใส่ซิมการ์ดแบบ nanoSIM 2 ช่องพ้รอมช่องใส่ MacroSD มาให้อีก 1 ช่อง รวมทั้งหมด 3 ช่องครับ
ที่ด้านขวาจะมีปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงมาให้ พร้อมปุ่ม Power ที่รองรับการสแกนลายนิ้วมือเพื่อความสะดวกเอาไว้ด้วย
ส่วนทางด้านล่างเครื่องจะมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. ถัดมาเป็นไมโครโฟนตัวที่ 1, พอร์ต USB Type-C และลำโพงตัวที่ 1
ท้ายสุดที่ด้านหลังจะมีกรอบทรงกลมทั้งหมด 3 กรอบ ในฝั่งซ้ายจะเป็นเลนส์กล้อง 2 เลนส์ ส่วนทางขวาจะเป็นไฟแฟลช LED มาให้ถึง 4 ดวง
ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน
ระบบปฏิบัติการ XOS 12.6 มาพร้อม UI สุดไหลลื่น
Infinix HOT 30 แกะกล่องมาพร้อมระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่อย่าง Android 13 ครอทับด้วย XOS 12.6 ซึ่งเป็น UI ของทาง Infinix ที่ปรับแต่งให้ใช้งานได้อย่างไหลลื่นและประสิทธิภาพต่างๆ ก็เพียงพอต่อการเล่นเกมทั่วไปแล้วครับ ทั้งนี้ การเคลื่อนไหวของหน้าจอ ไอคอนต่างๆ ก็ทำได้สวยงาม และมีธีมให้เลือกมากมายครับ
ฟีเจอร์พิเศษ Infinix x Free Fire
โดยความพิเศษของ Infinix HOT 30 คือธีมพิเศษที่ X กับเกม Free Fire เพื่อปรับแต่งให้ทั้งไอคอน UI วอลเปเปอร์ต่างๆ รวมไปถึงกล้อง AR และริงโทนก็เป็นเกม Free Fire ทั้งหมด ใครที่เป็นสาวกเกมนี้ต้องชอบอย่างแน่นอน
ระบบความปลอดภัยมีมาให้ครบถ้วน
Infinix HOT 30 ให้ระบบเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้างตัวเครื่อง ซึ่งการตอบสนองก็ทำได้อย่างรวดเร็ว
และหากใครไม่ถนัดก็สามารถใช้สแกนใบหน้าได้เหมือนกันครับ
รุ่นราคาประหยัด มาพร้อมลำโพงคู่ DTS
ไม่น่าเชื่อมว่าสมาร์ทโฟนราคาไม่ถึง 5,000 บาท จะให้ลำโพงคู่เทคโนโลยี DTS ซึ่งปกติจะหาได้ในรุ่นราคาหลักหมื่น ใครที่เล่นเกมที่โดยเฉพาะเกม FPS จะได้ยินเสียงที่แยกซ้าย-ขวาอย่างชัดเจน ไม่ต้องใส่หูฟังให้เสียเวลาเลย
โหมดถนอมสายตา
เวลาที่เราเล่นเกมหรือจ้องหน้าจอเป็นเวลานาน ในรุ่นนี้ก็มาพร้อมโหมดถนอมสายตามาให้เปิดใช้งานกัน โดยที่เราสามารถเปิดระดับความอุ่นได้ตามใจชอบเลยครับ
ประสิทธิภาพ การเล่นเกม และแบตเตอรี่
ชิปเซ็ตเกมมิ่ง Helio G88
Infinix HOT 30 ขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผล MdiaTek Helio G88 ซึ่งเป็นชิปเซ็ตเกมมิ่งสำหรับรุ่นราคาประหยัด โดยชิปตัวนี้ให้มาแบบ Octa Core ความเร็ว Clock 2.0GHz และมีขนาดเล็ก 12nm ซึ่งอยู่ในขนาดที่ประหยัดพลังงานได้ค่อนข้างดีครับ
มาพร้อมเทคโนโลยีขยาย RAM ให้ได้รวมสูงสุดถึง 16GB
ในพื้นฐานของ Infinix HOT 30 จะให้ RAM มาที่ 8GB ซึ่งจะรองรับเทคโนโลยี RAM เสมือนหรือ RAM Extended ได้ตั้งแต่ 3GB, 5GB และสูงสุดที่ 8GB ทำให้รวมได้สูงสุดถึง 16GB ซึ่งด้วย RAM ที่เยอะขนาดนี้ ทำให้การเปิดแอปพลิเคชั่นทำได้เยอะขึ้นโดยไม่ต้องโหลดใหม่ รวมถึงการทำงานในพื้นฐานก็ทำได้มากขึ้นเช่นกันครับ
ผลคะแนนการทดสอบด้านประสิทธิภาพด้าน CPU, GPU และหน่วยความจำบน AnTuTu ได้มาที่ 204,542 คะแนน
ส่วนผลคะแนนด้าน CPU บน Geekbench 6 ทำ Single-Core ไปที่ 377 คะแนน และ Multi-Core ที่ 768 คะแนน
XArena 3.0 ศูนย์รวมความพร้อมก่อนการเล่นเกม
ในรุ่นนี้จะมีแอปพลิเคชั่นพื้นฐาน XArena 3.0 Game Space ที่เป็นแอปที่ติดตั้งมาให้อยู่แล้ว ซึ่งจะเป็นการปรับแต่งระบบภายในให้เราเล่นเกมได้ไหลลื่นมากที่สุด โดยที่เรายังเปิดฟีเจอร์การปิดกั้นการแจ้งเตือนจากแอปอื่นและปิดการปรับแสงหน้าจออัตโนมัติได้เลยทันทีเมื่อเปิดเกม
ทั้งนี้ใน XArena จะมีฟีเจอร์ Dar-Link 3.0 AI Game Booster เพื่อเร่งประสิทธิาพของการเล่นเกมให้สูงขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมความร้อน ควบคุมกราฟิกให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และการโหลดฉากที่ทำได้ไวขึ้นครับ และยังได้ฟีเจอร์ Link-Booming และ UPS Signal Boost เพื่อให้จับสัญญาณเครือข่ายได้แม่นยำมากขึ้น และจะเป็นการลดการกระตุก ลดค่า Ping ต่างๆ นั่นเองครับ
ทดสอบการเล่นเกม
Free Fire
สำหรับเกม Free Fire จะสามารถเปิดภาพกราฟิกได้สูงสุดทั้งหมดครับ โดยที่การเล่นภายในเกมโหมดปกติก็เล่นได้ไหลลื่นพร้อมกับการตอบสนองหน้าจอที่ทำได้ไว ใช้งานได้ติดนิ้วครับ
ROV
ส่วนเกม ROV จะปรับการแสดงผลได้ที่ระดับ “สูง” แต่อย่างอื่นรวมถึงเฟรมเรทสามารถเปิดได้สูงสุดทั้งหมดครับ ซึ่งเฟรมเรทที่วิ่งในเกมทำได้ระหว่าง 56-61fps
แบตเตอรี่ 5000mAh พร้อมเทคโนโลยีชาร์จไว 33W
Infinix HOT 30 ให้แบตเตอรี่มาถึง 5000mAh เพื่อให้เราใช้งานและเล่นเกมได้นานที่สุด ด้วยระบบ, CPU และซอฟต์แวร์ที่ทำงานด้วยกันได้ดีก็ช่วยให้เราใช้งานได้นาน ซึ่งจากที่ลองใช้เล่นเกม Free Fire ประมาณ 30 นาที แบตเตอรี่ลดไปประมาณ 5% เท่านั้นครับ
ส่วนเทคโนโลยีชาร์จเร็วที่ให้มาถึง 33W ก็ช่วยให้ชาร์จเร็วจาก 0% – 55% ใช้เวลาไปเพียง 30 นาทีเท่านั้น และจากนั้นก็จะมีการลดความเร็วลงเพื่อรักษาความร้อน ทำให้ชาร์จเต็มในเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที
กล้อง 50MP ถ่ายคมชัดได้ครบทุกโหมด
สำหรับ Infinix HOT 30 มีให้เราใช้งาน 2 เลนส์ ซึ่งจริงๆ สามารถใช้งานกล้องหลักได้ 1 เลนส์ เพราะอีกเลนส์เป็นเลนส์ AI ที่เข้ามาช่วยในการตรวจจับภาพให้คมชัดยิ่งขึ้น แต่ฟีเจอร์ในโหลดหลักก็มีมาให้ใช้งานครบเลย
รองรับ AI ตรวจจับฉากได้อย่างแม่นยำ
สำหรับโหมดปกติอย่าง AI CAM ก็จะเป็นการตรวจับฉากที่เราถ่าย ซึ่งจะมีการระบุวัตถุได้อย่างแม่นยำ ทั้งนี้ ในโหมดนี้จะเป็นการรวมพิกเซลให้มาอยู่ที่ประมาณ 12MP ทำให้ช่วงที่แสงน้อยก็จะได้ความสว่างเพิ่มมากขึ้นเล็กน้อยและยังได้สีสันที่สดใสมากขึ้นด้วยครับ
ถ่ายภาพบุคคลพร้อมละลายหลังด้วยโหมด Portrait
ในโหมดถ่ายภาพบุคคล ตัดขอบรอบตัวบุคคลได้ค่อนข้างดี แต่น่าเสียได้ที่เราไม่สามารถถ่ายโหมดบุคคลไปพร้อมกับการเปิดบิวตี้ได้
ถ่าย Super Night ได้สวยเกินตัว
แม้ว่าจะเป็นรุ่นที่ราคาไม่เกิน 5,000 บาท แต่ก็ยังมีโหมดถ่ายกลางคืน โดยการประมวลผลก็ทำได้ค่อนข้างไวที่ประมาณ 3 วินาที ผลลัพธ์ของภาพก็จะมีความสว่างมากขึ้นและคมชัดกว่าเดิมเมื่อเทียบกับโหมดปกติ
กล้องหน้ายังถ่ายได้สดใส
การเซลฟี่ใน Infinix HOT 30 ก็ยังคงทำได้ดีครับ ถ่ายย้อนแสงได้ค่อนข้างดี อาจจะมีฟุ้งบ้างเล็กน้อย
สรุปการใช้งาน Infinix HOT 30
จริงๆ คำสรุปง่ายๆ ในของ Infinix HOT 30 คือการเป็นสมาร์ทโฟนเกมมิ่งในราคาสุดคุ้มที่สุดรุ่นหนึ่งเลยครับ ตั้งแต่การได้เทคโนโลยีชาร์จเร็ว 33W พร้อม RAM ที่ให้มากที่สุดในรุ่นระดับเดียวกัน ทั้งยังได้หน้าจอใหญ่ 6.78 นิ้ว และลำโพงคู่อีกด้วย โดยทั้งหมดให้มาในราคาไม่ถึง 5,000 บาท ซึ่งใครที่มีงบจำกัดแต่ต้องการเล่นเกมได้อย่างไหลลื่น รุ่นนี้ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ห้ามพลาดเลยครับ
ราคาอย่างเป็นทางการ
Infinix HOT 30 มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีดำ Racing Black, เขียว Surfing Green และขาว Sonic White โดยสามารถเป็นเจ้าของได้ในราคาเพียง 4,799 บาท และสามารถสั่งซื้อได้ผ่านช่องทาง Shopee, Lazada และ TikTok Shop
