รีวิว Infinix Hot 40 Pro สมาร์ทโฟนเกมมิ่งรุ่นประหยัดที่สเปคแบบจัดเต็ม หน้าจอใหญ่ 6.78″ ไหลลื่น 120Hz ชิปเซ็ตแรง Helio G99 ผสานด้วย RAM 8GB+8GB Extended RAM คู่กับ ROM ใหญ่ 256GB และฟีเจอร์อื่นที่จัดเต็มในราคาสุดคุ้มครับ
สรุปสเปค Infinix Hot 40 Pro
- ขนาดรอบตัวเครื่อง : 168.6 x 76.6 x 8.25 มม.
- น้ำหนัก : 199 กรัม
- หน้าจอแสดงผล IPS LCD ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2460 x 1080 พิกเซล) รองรับ Refresh Rate 120Hz, 240Hz Touch Sampling Rate ความสว่างสูงสุด 500 นิต และอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 90.7%
- หน่วยประมวลผล : Mediatek Helio G99 Octa-core ความเร็วสูงสุด 2.2GHz
- GPU : Mali-G57 MC2
- RAM : 8GB LPDDR4X
- ROM : 256GB UFS 2.2 เพิ่ม MicroSD ได้สูงสุด 1TB
- กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 3 เลนส์ ดังนี้
- เลนส์หลักความละเอียด 108 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.75 เซ็นเซอร์ ISOCELL HM6
- เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- เลนส์ AI ความละเอียด 0.08 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0
- กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
- ระบบปฏิบัติการ Android 13 ครอบทับด้วย XOS 13.5
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 5 (802.11ac), Bluetooth 5, NFC และพอร์ต USB Type-C
- แบตเตอรี่ความจุ 5000mAh รองรับชาร์จเร็ว 33W
แกะกล่อง ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล
แกะกล่อง Infinix Hot 40 Pro
ตัวกล่องของ Infinix Hot 40 Pro มาในรูปแบบที่จับมือกับเกม Free Fire พร้อมด้วยสเปคหลักๆ ของรุ่นนี้ ไม่ว่าจะเป็น ROM 256GB + RAM 16GB (8GB+8GB) และใช้ชิป Helio G99 รองรับ XBOOST ENGINE โดยที่อุปกรณ์ที่ให้มาในกล่องก็จะมาให้ครบ ดังนี้
- ตัวเครื่อง Infinix Hot 40 Pro และติดฟิล์มกันรอยมาให้แล้ว
- อะแดปเตอร์ 33W
- สายชาร์จ USB Type-C
- เคสลาย Free Fire BOOYAH NOW!
- เข็มเปิดถาดซิม
- คู่มือการใช้งานเบื้องต้น
ดีไซน์สวยงามพร้อมเทคโนโลยีเกรดพรีเมียม
แม้ว่าจะเป็นรุ่นประหยัดแต่ Infinix Hot 40 Pro ให้ดีไซน์มาแบบพรีเมียมเกินเบอร์พอตัว โดยหลักๆ จะเป็นการใช้แรงบันดาลใจจากฝนดาวตก โดยสีที่เราได้มาเป็นสีทอง Horizon Gold ที่เป็นการออกแบบที่โดดเด่นด้วยความสวยงามชั้นคริสตัลที่ให้ความแวววาว และเมื่อมองลึกลงไปก็จะเห็นแส้นแสงโค้งที่คล้ายกับฝนดาวตกจริงๆ
ส่วนการสัมผัสก็จะเป็นผิวมันเพื่อให้สะท้อนแสงในมุมมองต่างๆ ตามที่เกิดการตกกระทบ และยังช่วยให้การจับถนัดมือมากขึ้น ไม่ลื่นหลุดง่ายๆ ครับ
ทั้งนี้ นอกจากสีทองแล้วก็ยังมีอีก 3 สีให้เลือก คือ สีน้ำเงิน Palm Blue, ดำ Starlit Black และสีพิเศษอย่างสีเขียว Starfall Green
หน้าจอขนาดใหญ่ 6.78″ ไหลลื่น 120Hz
Infinix Hot 40 Pro จัดหน้าจอแสดงผลมาแบบ IPS LCD ขนาด 6.78 นิ้ว ได้ความคมชัดระดับ FHD+ (2460 x 1080 พิกเซล) ใช้งานได้เต็มตาและคมชัดสูงตามมาตรฐาน โดยหน้าจอจะมีความสว่างสูงสุด 500 นิต ซึ่งก็ใช้งานในที่แสงกลางแจ้งได้ค่อนข้างดีเพราะได้เทคโนโลยี DRE เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพพื้นที่มืดภายใต้แสงแดดได้ดีขึ้น
รุ่นนี้ยังเอาใจสายเกมด้วย Refresh Rate 120Hz ควบคู่กับความไวในการสัมผัสหน้าจอหรือ Touch Sampling Rate 240Hz ที่ให้ประสบการณ์การเล่นเกมที่ติดนิ้วมากขึ้น ไหลลื่นกว่าเดิม และไม่เกิดอาการดีเลย์ใดๆ ครับ
พาชมรอบเครื่อง
มาดูกันรอบเครื่องกันต่อครับ โดยหน้าจอแสดงผลส่วนบนจะมีกล้องหน้าแบบ Punch Hole และมีลำโพงสำหรับสนทนาครับ
ทางซ้ายตัวเครื่องจะมีช่องใส่ซิมการ์ดแบบ NanoSIM 2 ช่อง โดยช่องที่ 3 จะเป็นช่องใส่ MicroSD Card ที่รองรับสูงสุด 1TB ครับ
ฝั่งขวาจะได้ปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่ม Power ที่จริงๆ จะรองรับการสแกนลายนิ้วมืออีกด้วยแม้ว่าจะเป็นปุ่มที่ยื่นออกมาให้ดูเหมือนปกติก็ตาม
ที่ด้านล่างตัวเครื่องจะมีช่องใส่หูฟังขนาด 3.5 มม. มีไมโครโฟนตัวที่ 1 พอร์ต USB Type-C และลำโพงตัวที่ 1
แต่ที่ด้านบนจะมีช่องสำหรับลำโพงตัวที่ 2 มาให้ด้วย
ท้ายสุดที่ด้านหลังจะมีโมดูลกล้องหลัง 3 เลนส์ จัดเรียงเป็นแบบสามเหลี่ยม พร้อมไฟแฟลช LED ที่อยู่ในกรอบเหมือนกัน และมีสัญลักษณ์เขียนไว้เล็กๆ ว่า “108MP TRIPLE CAMERA”
ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน
ระบบปฏิบัติการ
Infinix Hot 40 Pro แกะกล่องมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 13 และก็ครอบทับด้วย XOS 13.5 ตั้งแต่แกะกล่องครับ ซึ่งความพิเศษในรุ่นนี้ที่ขายในไทยคือการมาพร้อมธีม Free Fire ที่ใครเป็นแฟนเกมนี้ต้องชอบแน่นอนครับ ขณะที่ฟีเจอร์ต่างๆ ก็มีทั้งตัวช่วยและมีให้ใช้งานเยอะพอสมควรตามข้อมูลด้านล่างนี้เลยครับ
ระบบความปลอดภัยให้มาครบถ้วน
ในรุ่นนี้ระบบความปลอดภัยจะมีทั้งการสแกนลายนิ้วมือที่อยู่ในปุ่ม Power ซึ่งสามารถใช้งานได้สะดวกมากๆ และการตอบสนองในการตรวจับลายนิ้วมือก็ทำได้ดีด้วย
ขณะที่การสแกนใบหน้าก็ยังทำได้ดี และตรวจจับได้เร็วเช่นกันครับ
Magic Ring รูปแบบใหม่ในการรับข้อมูล
ความพิเศษใน Infinix Hot 40 Pro คือฟีเจอร์ Magic Ring ที่เป็นการแสดงข้อมูลต่างๆ เมื่อเราใช้งาน เช่น การชาร์จ การปลดล็อคด้วยใบหน้า การโทร แจ้งเตือนเมื่อชาร์จเร็ว และแบตเตอรี่เหลือน้อย โดยการแสดงจะเป็นเหมือน Pop-Up แถบที่ขยายออกมาจากกล้องหน้า Punch Hole ซึ่งเป็นลูกเล่นที่แปลกใหม่พอสมควรครับ
วอลเปเปอร์ไดนามิกแบบใหม่
เมื่อเข้าธีมเกม Free Fire ก็ยังมีวอลเปเปอร์แบบไดนามิกที่สามารถขยับได้ เพิ่มความเป็นเกมเมอร์ตามตัวละครในเกมที่ชื่นชอบได้เลย โดยหลักๆ จะมี 4 ตัว คือ Wagger, Dr.Beanie, Ottero และ Monny หรือหากใครอยากใช้ธีมปกติก็สามารถเลือกเป็นแบบ Magic Touch ที่จะแสดงเป็นควันไฟสีต่างๆ ตามการกดบนหน้าจอครับ
ลำโพงคู่สเตอริโอพร้อมระบบเสียง DTS
อีกความพิเศษที่ให้มาคือลำโพงคู่แบบสเตอริโอพร้อมด้วยระบบเสียง DTS ที่ได้ความกระหึ่มและมีมิติเช่นกันครับ เหมาะมากในการใช้ด้านความบันเทิงไม่ว่าจะดูหนังหรือเล่นเกมต่างๆ โดยเฉพาะเกมแนว FPS ที่ต้องรู้ทิศทางของศัตรูครับ
ประสิทธิภาพ การเล่นเกม และแบตเตอรี่
ชิปเซ็ตเกมมิ่งราคาสุดคุ้ม Helio G99
Infinix Hot 40 Pro ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง MediaTek Helio G99 ซึ่งเป็นชิประดับเกมมิ่งในรุ่นระดับกลางที่ให้เล่นเกมไหลลื่นแต่มาในราคาประหยัดได้เลย โดยชิปตัวนี้มีขนาดเล็กเพียง 6nm มี GPU ที่แรงขึ้น 10% และการรับส่งข้อมูลที่สูงขึ้น 28% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน
RAM Extended เพิ่ม RAM ได้อีก 8GB
ในรุ่นนี้ให้ RAM จริงมาแล้วอยู่ที่ 8GB แต่ก็ยังรองรับฟีเจอร์ RAM Extended หรือการขยาย RAM ให้สูงสุดถึง 8GB รวมเป็น 16GB ทำให้ระบบทำงานได้เร็วขึ้นกว่าเดิมและการเปิดแอพในพื้นหลังโดยไม่ต้องมารีเฟรชใหม่ก็ทำได้เยอะมากกว่าเดิมด้วยครับ
ผลการทดสอบบน AnTuTu v10 และ Geekbench 6
ผลคะแนนการทดสอบด้านประสิทธิภาพด้าน CPU, GPU และหน่วยความจำบน AnTuTu 10.1.3 ได้มาที่ 432,761 คะแนน
ผลคะแนนด้าน CPU บน Geekbench 6 ทำ Single-Core ไปที่ 731 คะแนน และ Multi-Core ที่ 2,029 คะแนน
จัดเต็มด้วย XBOOST ผู้ช่วยส่วนตัวในการเล่นเกม
ก่อนที่จะดูว่าแต่ละเกมที่ทดสอบเล่นไหลลื่นยังไงบ้าง มาดูกันตรงที่ XBOOST กันก่อนครับ หลังจากที่เราเปิดเกมมาแล้ว เมื่อปัดซ้ายจากขอบหน้าจอจะมีตัวช่วยในการเล่นเกมอย่าง XBOOST เข้ามาช่วย ซึ่งสามารถเปิดโหมดที่เน้นประสิทธิภาพเพื่อรีดความแรงของ CPU / GPU ออกมาทั้งหมดเพื่อให้เฟรมเรทวิ่งได้นิ่งขึ้น ทั้งยังควบคุมเรื่องความร้อนไม่ให้มากเกินไปด้วยครับ
ทดสอบการเล่นเกม
Free Fire
เมื่อตัวเครื่องเน้น Free Fire มาแล้ว ก็ทดสอบเล่นเกมนี้กันก่อนเลยครับ ตัวเกมสามารถเปิดกราฟิกได้สูงสุดทั้งหมด รวมถึงเฟรมเรทขั้นสูงที่ปลดล็อคได้ถึง 90fps เลย ซึ่งการเล่นภายในโหมดปกติก็ทำได้ดีมาก การสัมผัสหน้าจอทำได้ดี การกดยิงหรือเก็บของต่างๆ ก็ตอบสนองได้ไวเลยครับ
ROV
ส่วนเกม ROV จะเปิดได้สูงสุดทั้งหมด เว้นเพียงการแสดงผลที่เปิดในระดับ “สูง” เท่านั้น โดยเราลองเล่นในโหมด 5 VS 5 ปกติก็ทำเฟรมเรทได้ค่อนข้างนิ่ง อาจมีดรอปๆ ลงมาบ้างที่ 55fps แต่ก็แทบไม่ได้รู้สึกถึงการกระตุกอะไรเลยครับ
PUBG Mobile
และท้ายสุดในเกม PUBG Mobile ที่เป็นเกมแนว Battle Royale ที่ก็เล่นได้ไหลลื่นจริงๆ และไม่เจออาการกระตุกอะไรเลยครับ
แบตอึด 5000mAh พร้อมชาร์จเร็ว 33W
Infinix Hot 40 Pro ให้แบตเตอรี่มาแบบใหญ่ๆ ถึง 5000mAh ทำให้การใช้งานทั่วไปอยู่ได้ตลอดวัน ส่วนใครที่จะเล่นเกมก็อยู่ได้ราวๆ 6-7 ชั่วโมงต่อเนื่อง ทั้งนี้ การชาร์จก็จะอยู่ที่กำลังไฟ 33W สามารถชาร์จจาก 20%-75% ในเวลาประมาณ 35 นาที
กล้องหลัง AI 3 ตัว ถ่ายสวยคุ้มราคา
รีวิว Infinix Hot 40 Pro นับว่าเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นสุดคุ้มที่มาในราคาดีมากๆ และให้คุณภาพของภาพถ่ายที่ดีในระดับราคาเดียวกันด้วย โดยรุ่นนี้ให้มา 3 เลนส์ คือเลนส์หลัก 108MP เซ็นเซอร์ ISOCELL HM6 พร้อมด้วยเลนส์ Macro และเลนส์ AI ส่วนกล้องหน้าที่ให้มาก็คมชัดสูงที่ 32MP ครับ
ถ่ายด้วย AI พร้อมย้อนแสงได้สบายด้วย Auto HDR
ในรุ่นนี้สามารถถ่ายภาพที่ให้สีสันที่ค่อนข้างสดใส ไม่จืดแต่ก็ไม่จัดจนเกินไป ทำให้ภาพอยู่ในระดับที่พอดีมากๆ ส่วนเรื่องรายละเอียดของภาพก็ทำได้คม Contrast ไม่ได้เยอะมาก และที่ชอบอีกอย่างคือรองรับ Auto HDR ที่ให้ถ่ายย้อนแสงได้เลย โดยไม่ต้องกลัวภาพฉากหน้าจะมืดครับ
Portrait ทำได้ดีเกินราคา
สิ่งที่น่าประทับใจพอตัวเลยคือโหมด Portrait หรือการถ่ายภาพบุคคลทำได้ดีกว่าที่คิดไว้พอสมควรเลยครับ การตัดขอบรอบตัวบุคคลทำได้เนียน แทบไม่มีจุดไหนที่โดนเบลอทับไปเลย ส่วนการปรับแต่งบนใบหน้าที่แม้ว่าจะไม่มีระดับการปรับบิวตี้มาให้ แต่ก็เหมือนจะทำให้หน้าเนียนและดูเป็นธรรมชาติขึ้นมาอยู่ครับ ไม่ได้เป็นแบบหน้าสดหรือแบบไร้ฟิลเตอร์ไปเลย
ถ่าย Macro ได้สวยตามมาตรฐาน
อีกเลนส์ที่ให้มาจะเป็น Macro ที่ช่วยให้ถ่ายภาพระยะใกล้แบบชัดๆ ในระยะ 4 ซม. เท่านั้นครับ ซึ่งการถ่ายถ้าอยู่ในที่กลางแจ้งจะให้ภาพที่คมชัดและเห็นรายละเอียดของวัตถุได้ดีพอสมควรเลย
เปลี่ยนท้องฟ้าหม่นให้สดใสได้ด้วย Sky Remap
จุดเด่นที่อยู่ในสมาร์ทโฟนของ Infinix และก็มีให้ให้ใช้ในรุ่นนี้ด้วยคือ Sky Remap ที่จะเป็นการตรวจจับท้องฟ้า พร้อมให้เราเลือกฟิลเตอร์ได้เลยว่าต้องการท้องฟ้าแบบไหน มีทั้งแบบสดใส เปล่งประกาย และมืดๆ ที่ให้อารมณ์ที่ต่างกันไป เรียกว่าเปลี่ยนท้องฟ้าหม่นให้เป็นแบบที่เราต้องการได้เลย
Night Mode แสงน้อยก็ยอดเยี่ยม
จบการถ่ายในที่สว่างไปแล้ว ก็มาถึงการถ่ายในตอนกลางคืนหรือที่แสงน้อยกันบ้าง ใน Infinix Hot 40 Pro ก็ให้ภาพที่สวยงาม เก็บรายละเอียดในจุดที่มืดได้ดี สีสันก็มีการปรับให้สว่างและสดใสมากขึ้นกว่าเดิมครับ และที่สำคัญคือรอประมวลผลประมาณ 2-3 วินาทีเท่านั้นเอง
กล้องหน้าคมชัด 32MP พร้อมเบลอฉากหลังได้
ในกล้องหลังที่ถ่าย Portrait ได้ไปแล้ว กล้องหน้าก็ถ่ายได้สวยงามไม่แพ้กันเลยครับ สามารถเก็บภาพย้อนแสงได้ดี เห็นฉากหลังและฉากหน้าครบถ้วน รวมถึงการตัดขอบก็เนียนๆ อีกด้วย
สรุปการใช้งาน Infinix Hot 40 Pro
สรุปการใช้งาน Infinix Hot 40 Pro เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นราคาประหยัดที่ทำได้ดีเกินคาด ด้วยราคาที่จับต้องได้ไม่ถึง 6,000 บาท แต่ได้หน้าจอใหญ่ 6.78″ รองรับ 120Hz ใช้งานได้ลื่น เล่นเกมทั่วไปได้สบายๆ ผ่านชิปเซ็ต Helio G99 รวมถึงยังเล่นได้นานด้วยแบต 5000mAh ที่ชาร์จได้ไวอีก 33W และโดดเด่นด้วยดีไซน์ที่สวยงามจริงๆ
ใครที่มองหาสมาร์ทโฟนไว้ใช้งานในราคาเบาๆ รุ่นนี้ก็เป็นอีกตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้ามครับ
ราคาไทย Infinix Hot 40 Pro
Infinix Hot 40 Pro มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ ดำ Starlit Black, สีฟ้า Palm Blue, สีเขียว Starfall Green และสีทอง Horizon Gold เริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ สนนราคาเพียง 5,799 บาทเท่านั้น
