Smart Review
รีวิว Infinix HOT 50 Pro+ “พลังไร้ขีดจำกัดในดีไซน์ที่บางเบา” ด้วยชิปเซ็ต Helio G100 | จอ AMOLED 3D 120Hz | แบตฯ 5000mAh
รีวิว Infinix HOT 50 Pro+ สมาร์ทโฟนเกมมิ่งสุดคุ้มรุ่นใหม่ที่มาพร้อมสโลแกน “พลังไร้ขีดจำกัดในดีไซน์ที่บางเบา” เพราะมาพร้อมชิป MediaTek Helio G100 หน้าจอ AMOLED 3D ขนาด 6.78″ ความจุเยอะ 256GB แบตเตอรี่ 5000mAh ทั้งหมดนี้อยู่ในความบางเพียง 6.8 มม.เท่านั้น!
เป็นอีกรุ่นที่เน้นทั้งสเปคน่าสนใจกับดีไซน์เพรียวบางจาก Infinix เลยล่ะครับ ส่วนการใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร เรามาติดตาม รีวิว Infinix HOT 50 Pro+ กันเลยดีกว่าครับ!
สรุปสเปค Infinix HOT 50 Pro+
- ขนาดตัวเครื่อง : 164.1 x 74.43 x 6.8 มม.
- น้ำหนัก : 162 กรัม
- หน้าจอ : AMOLED โค้ง 3D ขนาด 6.78″
- ความละเอียด : FHD+ (2436 x 1080 พิกเซล) ความสว่างสูงสุด 1300nits
- Refresh rate : 60Hz/120Hz
- ชิปเซ็ต : MediaTek Helio G100 Octa Core 2.2GHz (6nm)
- RAM : 8GB (LPDDR4X)
- storage : 256GB (UFS 2.2) รองรับ microSD สูงสุด 2TB
- แบตเตอรี่ : 5000mAh
- ระบบชาร์จเร็ว : 33W Super Charge
- กล้องหน้า : 13MP (เซ็นเซอร์ GC13A0 ขนาด 1/3.06″) f/2.2
- กล้องหลัง : 2 ตัว
- 50MP กล้องหลัก (เซ็นเซอร์ HI-5022Q ขนาด 1/2.8″) f/1.6
- 2MP กล้อง Depth f/2.4
- ระบบปฏิบัติการ : Android 14 (XOS 14.5)
- กันน้ำกันฝุ่น : มาตรฐาน IP54
- สีสัน : Sleek Black, Titanium Grey, Dreamy Purple
แกะกล่อง Infinix HOT 50 Pro+
ก่อนจะไปเริ่มรีวิวตัวเครื่อง เรามาเช็กแพ็กเกจและอุปกรณ์ในกล่องกันก่อนดีกว่า รอบนี้เป็นพาร์ทเนอร์กับเกม Free Fire ตัวกล่องจะมาแบบ 2 ชั้น คือชั้นบนโปรโมทตัวเกมและฟีเจอร์เด่นแบบฉ่ำจริง ๆ
ส่วนที่ด้านหลังกล่องจะมีไฮไลท์สเปคของ Infinix HOT 50 Pro+ อยู่ประกอบด้วย ตัวเครื่องบาง 6.8 มม., ชิป Helio G100, หน้าจอ AMOLED โค้ง 3D 120Hz, ชาร์จเร็ว 33W คู่แบตฯใหญ่ 5000mAh, ลำโพงคู่โดย JBL และฟีเจอร์ Infinix AI
เปิดกล่องออกมาเราจะเจอกับตัวเครื่อง Infinix HOT 50 Pro+ อยู่ในซองอย่างดี ที่หน้าซองจะมีไฮไลท์ระบุไว้เด่น ๆ อีกครั้ง
ถัดลงไปจะเจอกับชุดอุปกรณ์เสริมที่ให้มาครบถ้วน ทั้งเอกสารคู่มือและการ์ดที่มี QR Code สำหรับโหลดเกม Free Fire ด้วย
นอกจากนี้ยังมีกระจกกันรอยและชุดติดตั้งมาให้ในกล่อง รวมถึงเคสใส (แบบแข็ง) ด้วย
ชุดชาร์จก็ให้มาตรงสเปคคือเป็นหัวชาร์จเร็ว 33W Super Charge และสายชาร์จแบบ USB-C to A ครับ
เบ็ดเสร็จแล้วอุปกรณ์ที่ให้มาในกล่องของ Infinix HOT 50 Pro+ ก็จะมีทั้งหมด 7 อย่างประกอบด้วย
- ตัวเครื่อง Infinix HOT 50 Pro+
- เอกสารคู่มือและการ์ดสิทธิพิเศษ
- กระจกกันรอย
- ชุดทำความสะอาดและติดตั้งกระจกกันรอย
- สายชาร์จ USB-C to A
- ที่ชาร์จเร็ว 33W Super Charge
- เข็มจิ้มถาดซิม
ดีไซน์ที่เบาและเพรียวบางที่สุด!
ได้เวลายลโฉมดีไซน์ Infinix HOT 50 Pro+ กันแล้วครับ รุ่นนี้เน้นในเรื่องของความบางและน้ำหนักที่เบาเป็นจุดขายเลย ดั่งสโลแกนที่ว่า “พลังไร้ขีดจำกัดในดีไซน์ที่บางเบา” จังหวะแรกที่หยิบเครื่องขึ้นมาก็รู้สึกถึง “ความเบา” ได้อย่างชัดเจน เพราะรุ่นนี้มีน้ำหนักแค่ 162 กรัมเท่านั้นครับ
ส่วนความบางก็บางเฉียบเพียงแค่ 6.8 มม.เท่านั้น! เป็นสมาร์ทโฟนจอ 3D ที่บางที่สุดเลยล่ะครับ Infinix เขาเคลมไว้แบบนั้น!
สีสันสุดคลาสสิก
ด้านสีสัน Infinix HOT 50 Pro+ จะมีให้เลือกถึง 3 สีคือ Sleek Black, Titanium Grey และ Dreamy Violet ซึ่งสีที่เราได้มารีวิวคือสีดำ Sleek Black ที่มีความคลาสสิก แต่ก็แฝงลูกเล่นเมื่อสะท้อนกับแสง จะมีสีน้ำเงินสะท้อนเพิ่มความเงางามให้กับฝาหลังอีกด้วย
ตำแหน่งกล้องจะวางไว้ที่มุมซ้ายบน เรียงกล้องลงมา 3 ตัวในแนวตั้ง พร้อมฐานกล้องที่มีลวดลายคล้ายเครื่องประดับ เพิ่มความเงางามและโดดเด่นขึ้นอีกพอสมควร
หน้าจอ AMOLED โค้ง 3D เต็มตาสุด ๆ
พลิกกลับมาดูที่ด้านหน้ากันบ้าง Infinix HOT 50 Pro+ มาพร้อมจอ AMOLED โค้ง 3D อย่างที่บอกไป ขนาดก็ให้มาใหญ่ถึง 6.78″ เหลือขอบหน้าจอเพียงเล็กน้อย ถ้าเราดูจากด้านหน้าตรง เห็นถึงความเต็มตาเอามาก ๆ เลยล่ะ
ส่วนความโค้งก็เป็นแบบ 3D เลยคือโค้งไปถึงด้านข้างชัดเจน มี Refresh rate สูงสุด 120Hz ช่วยให้การสัมผัสดูลื่นไหล และถ้าใช้งานร่วมกับรูปแบบการนำทางแบบ Gesture จะยิ่งรู้สึกฟินนิ้วเข้าไปอีก
ด้านการแสดงผล Infinix HOT 50 Pro+ ได้ความละเอียดมาที่ FHD+ สวยคม สว่างสูงสุดที่ 1300nits เอามาดูคอนเทนต์หรือใช้งานกลางแจ้งได้แบบไม่ติดขัด
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Always On Display ให้แสดงผลติดตลอดบนหน้าจอ จะแสดงเวลาหรือการแจ้งเตือนแบบไม่ต้องปลุกหน้าจอก็ได้ด้วย
ตำแหน่งอื่น ๆ วางได้ดี
ตำแหน่งปุ่มกดก็วางได้ดีครับ มีปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่ม Power อยู่มุมขวามือของตัวเครื่องทั้งหมด เอื้อมกดได้ง่าย และสั่งงานได้ทันใจ
ที่ด้านบนจะมีไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน มีลำโพงพร้อมโลโก้ Sound by JBL เพื่อเป็นการยืนยันว่าเสียงดีแน่! ส่วนด้านล่างจะมีพอร์ตเชื่อมต่อ USB-C ไมโครโฟนสนทนา ช่องใส่ซิมและลำโพงหลักของตัวเครื่อง
ลำโพงคู่ระบบเสียงโดย JBL
ซึ่งพอรวม 2 ลำโพงบน-ล่างเข้าด้วยกัน ก็จะให้เสียงเป็น Stereo คู่ แถมยังมีการพัฒนาระบบเสียงโดย JBL อีก ทำให้คุณภาพเสียงที่ได้จากลำโพงคู่ของ Infinix HOT 50 Pro+ นั้นยอดเยี่ยมจริง ๆ
ด้านช่องใส่ซิมก็จะเป็นแบบ Triple-Slot เลย หมายความว่าสามารถใส่ได้ทั้ง 2 ซิม และสามารถใส่ microSD เพิ่มเติมได้ด้วยสูงสุดถึง 2TB แหนะ ใครที่คิดว่าความจุในเครื่องไม่พอ เพิ่มเติมทีหลังได้นะ
มาตรฐานความปลอดภัยครบ
ระบบรักษาความปลอดภัย Infinix HOT 50 Pro+ ก็ให้มาครบทั้งสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอที่ทำงานได้รวดเร็ว หรือจะเป็นระบบสแกนใบหน้าแบบ 2D ก็มีมาให้เลือกใช้ด้วยเช่นกัน
ด้านความทนทาน Infinix HOT 50 Pro+ ก็มีมาตรฐานทนน้ำทนฝุ่น IP54 มาให้ หน้าจอก็ทนทานด้วยกระจก Gorilla Glass 5 รวมถึงตัวเครื่องเองยังมีความทนทานต่อการตกอีกด้วย
โดยรวมในเรื่องดีไซน์ก็ถือว่า Infinix HOT 50 Pro+ นั้นทำได้ยอดเยี่ยม ทั้งในเรื่องความบางที่บางเพียง 6.8 มม. หรือน้ำหนักที่เบาแค่ 162 กรัม ไหนจะมีสีสันที่เรียบง่ายแต่ดูมีอะไรอีก เป็นสมาร์ทโฟนที่เน้นเล่นเกม แต่ก็ไม่ทิ้งดีไซน์จริง ๆ WOOOW NEW HOT!
สเปคแรงสะใจด้วยชิป Helio G100
มาต่อกันที่เรื่องสเปค อย่างที่บอกว่า Infinix HOT 50 Pro+ นั้นเป็นสมาร์ทโฟนเน้นเรื่องการเล่นเกม เพราะฉะนั้นชิปเซ็ตก็เลยให้มาแบบจัดเต็ม MediaTek Helio G100 ชิป 4G ตัวท็อปที่มาพร้อมสถาปัตยกรรม 6nm มีความเร็วสูงสุด 2.2GHz กันเลย
RAM เยอะจุใจ สูงสุด 16GB
ส่วนเรื่อง RAM Infinix HOT 50 Pro+ ก็ได้มา 8GB แถมยังสามารถขยายเพิ่มแบบจำลองได้สูงสุดอีก 8GB รวมแล้วเป็น 16GB เลย จะใช้งานหลาย ๆ แอป สลับไป-มาก็ไม่ต้องห่วงว่าจะกระตุกหรือไม่ลื่นไหลแล้วล่ะครับ
ผลทดสอบเป็นไงยังไงนะ!?
ไหน ๆ ก็พูดเรื่องความแรงกันแล้ว ถ้าไม่ได้ทดสอบให้เห็นตัวเลขกันเลยก็คงไม่ได้เนาะ เราทดสอบ Infinix HOT 50 Pro+ ด้วยแอป Geekbanch 6 ได้คะแนน Single-Core ที่ 735 คะแนน และ Multi-Core ที่ 2038 คะแนนเลยครับ
ส่วนคะแนนฝั่ง AnTuTu Benchmark v10 ก็จะได้คะแนนออกมาที่ 440374 คะแนนเลยครับ ไม่ธรรมดาเลยนะเนี่ย
เล่นเกมกันเลยดีกว่า!
เห็นคะแนนเบื้องต้นกันไปแล้ว เราขอมาลองเล่นเกมจริงกันเลยดีกว่า สำหรับเกมที่เราจะใช้ทดสอบ Infinix HOT 50 Pro+ ก็คงจะเป็นอื่นไปไม่ได้นอกจาก Free Fire ที่เป็นเกมไฮไลท์ของรุ่นนี้ และเสริมด้วย ROV กับ Shadow Fight 4 ด้วยครับ
สำหรับซอฟต์แวร์สำหรับการเล่นเกม Infinix จะมีแอปชื่อ XArena ที่เข้ามาจัดการระบบให้พร้อมเล่นเกมและดึงประสิทธิภาพออกมาได้สูงที่สุด หรือขณะที่เล่นเกมก็จะมีฟีเจอร์ X-Boost ที่สามารถเร่งประสิทธิภาพได้สูงสุด มีการจัดการการแจ้งเตือนหรือความสว่างเพิ่มเติมได้จากตรงนี้ด้วย
เล่น Free Fire บน Infinix HOT 50 Pro+
เริ่มที่ Free Fire เลย แน่นอนว่าตัวเครื่องเป็นพาร์ทเนอร์อย่างเป็นทางการแบบนี้ เกมนี้ก็ต้องจัดเต็มให้สมหน่อยเนาะ เราสามารถปรับกราฟิกได้สูงสุด Ultra คู่กับเฟรมเรต High FPS ด้วย เรียกว่าจัดสเปคมาเพียงพอต่อการเล่น Free Fire ในระดับภาพสวยสุด ๆ และเฟรมเรตลื่นสุดแล้วล่ะครับ เท่าที่ลองในเกมก็สามารถเล่นได้ลื่นระดับ 78 – 90fps ได้เลย แม้จะมีจังหวะที่ยิงกันหลาย ๆ คนก็ยังอยู่ในระดับที่ราบรื่นไม่ติดขัดเลยล่ะครับ
เล่น ROV บน Infinix HOT 50 Pro+
ต่อกันที่ ROV ตัวเครื่องให้เราปรับภาพ HD ได้ที่ระดับ Ultra หรือสูงสุด คู่กับการแสดงผล สูง หรือรองสูงสุดแล้ว ด้านเฟรมเรตปรับได้ที่ High รวมถึงเอฟเฟกต์อื่น ๆ เพิ่มเติมก็ได้ครบเช่นกัน และเท่าที่ลองเล่นก็บอกเลยว่าเล่นได้สะใจมาก ภาพสวย เฟรมเรตลื่นที่ 59 – 61fps ตลอดทั้งเกม
เล่น Shadow Fight 4 บน Infinix HOT 50 Pro+
ปิดท้ายที่ Shadow Fight 4 เกมต่อสู้ 3D ภาพสวย ที่เราสามารถปรับกราฟิกได้หลากหลาย แต่ในค่าเริ่มต้นจะตั้งมาที่ Medium ซึ่งก็ถือว่าภาพสวยเพียงพอแล้ว จังหวะเล่นในเกมก็ถือว่าลื่นไหลเลยครับ การควบคุมทำได้ทันนิ้ว แตะเป็นตี เคลื่อนที่ต่าง ๆ ไม่ขัดใจแม้เล่นต่อเนื่องนาน ๆ ครับ
ด้านการเล่นเกม Infinix HOT 50 Pro+ ก็ถือว่าทำได้ยอดเยี่ยม ชิปเซ็ต Helio G100 ตัวใหม่นั้นแรงเพียงพอให้เล่นเกมฮิต ๆ ได้อย่างลื่นไหล โดยเฉพาะ Free Fire ที่พัฒนาร่วมกันได้อย่างดี ใครที่เป็นแฟนเกมนี้ อยากได้มือถือที่เล่นเกมนี้ได้ลื่นไหลที่สุด ก็หายห่วงล่ะครับ ลื่น ๆ แบบนี้ BOOYAH สบาย!
แบตเตอรี่เยอะ 5000mAh ในตัวเครื่องบางเฉียบ!
ประสิทธิภาพการเล่นเกมไม่ต้องห่วงแล้ว ความจุแบตเตอรี่ก็ยิ่งหายห่วงเข้าไปใหญ่เพราะ Infinix HOT 50 Pro+ เห็นเครื่องบางขนาดนี้ แต่ได้แบตฯมาเยอะถึง 5000mAh เลยนะ ใช้งานได้เต็มที่ จะเล่นเกมหนัก ๆ ดูหนัง ถ่ายรูป หรือเล่น Social แบตฯระดับนี้ก็ใช้งานได้เต็มวันสบาย ๆ ครับ
ระบบชาร์จเร็ว 33W Super Charge
ส่วนเรื่องการชาร์จ Infinix HOT 50 Pro+ ก็ได้ระบบชาร์จเร็ว 33W Super Charge เร็วพอที่จะชาร์จแบตฯใหญ่ระดับ 5000mAh นี้จาก 1 – 50% ได้ในเวลาเพียง 26 นาทีเท่านั้น!
หรือถ้าไม่เน้นชาร์จเร็วแบบสูงสุดระดับ Hyper ทาง Infinix เขาก็มีตัวเลือกเพิ่มเติมให้เลือกแบบ Smart ที่ให้ความสมดุลทั้งความเร็วและอุณหภูมิที่ไม่สูงจนเกินไป หรือเลือกชาร์จก่อนนอนแบบยาว ๆ ก็มีตัวเลือก Low-Temp ลดอุณหภูมิลง 3º เมื่อเทียบกับรูปแบบ Hyper อีกด้วย
ซอฟต์แวร์ตัวล่าสุด XOS 14.5 ลูกเล่นเพียบ!
มาต่อในเรื่องซอฟต์แวร์ Infinix HOT 50 Pro+ ก็มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 14 ที่ครอบทับมาด้วย XOS เวอร์ชั่น 14.5 ล่าสุดของแบรนด์ ที่มีลูกเล่นเยอะ หน้าตา UI มีความสีสันสดใสใช้งานได้อย่างราบรื่น รวมถึงการปรับแต่งที่หลากหลาย
ไม่ว่าจะเป็น Dynamic Bar ด้านบน รวมถึงฟีเจอร์ด้าน AI หลากหลายรูปแบบ อาทิ
AI Eraser Infinix HOT 50 Pro+ มีฟีเจอร์ฮิต AI ลบวัตถุมาให้ใช้งาน ลบวัตถุหรือคนที่บังเอิญติดมาในภาพได้ด้วย ส่วนความเนียนก็ยังกลาง ๆ ครับ พอลบวัตถุที่ไม่ได้อลังการมากได้อยู่
AI Wallpaper ให้เราสามารถเปลี่ยนรูปถ่ายเป็นภาพในรูปแบบต่าง ๆ ด้วย AI ด้วย อยากได้เป็นภาพการ์ตูนญี่ปุ่น, อเมริกัน, เปลี่ยนชุดเป็นชุดประจำชาติต่าง ๆ หรือจะเปลี่ยนภาพสัตว์เลี้ยงของเราเป็นรูปแบบต่าง ๆ ก็ทำได้ด้วย อันนี้เจ๋งดี แต่…จะมีโควต้าจำกัดอยู่วันละ 15 ครั้งเท่านั้นนะครับ ไม่ได้ทำได้ไม่จำกัด
กล้องหลัก 50MP ใช้งานได้ดี
ปิดท้ายกันที่เรื่องกล้อง Infinix HOT 50 Pro+ มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัวมีสเปคระบุไว้ดังนี้
- 50MP กล้องหลัก (เซ็นเซอร์ HI-5022Q ขนาด 1/2.8″) f/1.6
- 2MP กล้อง Depth f/2.4
- กล้อง AI Camera
อยากที่เห็นว่าสเปคที่ให้มาก็ถือว่าน่าสนใจ แม้ 2 ตัวเสริมจะไม่ได้ใช้งานเท่าไหร่ แต่กล้องหลักนั้นเป็น 50MP เพียงพอต่อการเก็บภาพระยะ 1x หรือ 2x ได้แบบคมชัด
ในโหมดการถ่ายภาพก็แน่นอนว่ามี AI คอยปรับภาพให้ ช่วยให้เราได้ภาพที่สวยงามได้ง่าย ๆ โทนสีของภาพจะออกมาเป็นธรรมชาติ ไม่ได้สีจัดจ้านหรือจืดชืดซะทีเดียว อยู่ในเกณฑ์กลาง ๆ ที่ใช้งานต่อได้ทันทีแบบไม่ต้องปรับแต่งเพิ่มเติมมากนัก ส่วนการซูมก็สามารถถ่ายได้ที่ 2x แบบ In-Sensor Zoom ด้วย
Portrait ถ่ายได้ 2 ระยะด้วยนะ
นอกจากโหมด AI Cam หรือ Auto จะเก่งแล้ว โหมด Portrait ก็ถ่ายได้ดีเช่นกัน แถมเรายังสามารถถ่ายได้ 2 ระยะทั้ง 1x หรือ 2x ด้วย การตัดขอบที่เนียนตาแถมยังได้ HDR ฉากหลังครบ แต่มีจุดสังเกตนิดหน่อยตรงที่ถ้าเราเลือก AI Beauty ปรับใบหน้าเนียน จะใช้งานคู่กับการเบลอหลังไม่ได้ ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้นครับ
กล้องหน้า 13MP เซลฟี่สวย ละลายหลังได้
ส่วนกล้องหน้าก็ได้ความละเอียด 13MP เพียงพอต่อการเซลฟี่แล้ว แถมมีทั้งการปรับหน้าเนียนสวย ๆ หรือ Portrait มาให้เลือกใช้ด้วย ซึ่งคุณภาพก็น่าประทับใจครับ สกินโทนดี มุมมองกว้าง แถมโหมด Portrait ก็ตัดขอบเนียนละลายสวยด้วย
วิดีโอได้ถึง 2K/30fps ทั้งหน้า-หลัง
ส่วนวิดีโอ Infinix HOT 50 Pro+ ก็ไม่ธรรมดาเพราะสามารถปรับความละเอียดได้สูงถึง 2K/30fps ทั้งกล้องหน้า-กล้องหลังเลย แม้จะไม่ได้สุดถึง 4K แต่ด้วยสเปคและเรตราคาถือว่าให้มาเยอะมากแล้ว สาย Vlog ถูกใจแน่นอน
ราคาและโปรโมชั่น Infinix HOT 50 Pro+
Infinix HOT 50 Pro+ เริ่มวางจำหน่ายแล้ววันนี้ มีให้เลือก 3 สีได้แก่ สีดำ Sleek Black (สีที่รีวิว), สีเทา Titanium Grey และสีม่วง Dreamy Purple
Infinix HOT 50 Pro+ (8GB+256GB) ราคา 6,499 บาท
โดยมีโปรโมชั่นรับฟรี Infinix HOT 50 Series Giftbox มูลค่า 999 บาท และยังได้ Free Fire Item มูลค่ากว่า 750 บาทด้วย
สรุปแล้ว “นี่คือเกมมิ่งโฟนสุดคุ้มค่าในงบไม่ถึง 6,500 บาท”
สรุปแล้ว Infinix HOT 50 Pro+ คือสมาร์ทโฟนเกมมิ่งสุดคุ้มในงบไม่ถึง 6,500 บาทจริง ๆ ด้วยสเปคที่อัดแน่นด้วยชิปตัวใหม่ MediaTek Helio G100, หน้าจอ 6.78″ 120Hz, ความจุสูงสุด 8GB + 256GB, แบตเตอรี่ 5000mAh พร้อมชาร์จไว 33W อีก เล่นเกมถูกใจทั้ง Free Fire หรือ ROV หรืออื่น ๆ แต่เท่านั้นยังไม่พอเพราะรุ่นนี้ยังมีจุดเด่นในเรื่องดีไซน์ที่บางเบา มีความบางแค่ 6.8 มม. เบาแค่ 162 กรัม ใครที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนไว้ใช้งานด้านความบันเทิง เล่นเกม ดูหนัง ถ่ายรูป แบบครบ ๆ ในราคาไม่ถึง 6,500 บาท เราว่า Infinix HOT Pro+ รุ่นนี้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจจริง ๆ ครับ!