Connect with us

Smart Review

รีวิว Infinix NOTE 40 Pro+ 5G สมาร์ทโฟนชาร์จเร็วรอบด้านที่เหนือกว่าถึง 100W l กล้อง 108MP OIS l Active Halo แสงสว่างด้วย AI และฟีเจอร์อื่นอีกเพียบ !

Published

on

รีวิว Infinix NOTE 40 Pro+ 5G สมาร์ทโฟนที่ให้ “ชาร์จเร็วรอบด้านที่เหนือกว่า” ด้วยเทคโนโลยี 100W All-Round FastCharge2.0 ที่มีความปลอดภัยด้วยชิป Cheetah X1 ที่ Infinix พัฒนาขึ้นมาเองด้วยครับ ทั้งนี้ก็ยังมีดีไวน์ที่สวยงาม พลังกล้องหลัง 108MP รองรับกันสั่น OIS และยังมีActive Halo ที่เป็นไฟ RGB ด้านหลังที่แสงสว่างด้วย AI

สรุปสเปค Infinix NOTE 40 Pro+ 5G

  • ขนาดรอบตัวเครื่อง : 164.28 x 74.5 x 8.09 มม.
  • น้ำหนัก : 190 กรัม
  • หน้าจอแสดงผล Flexible AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2436 x 1080 พิกเซล) รองรับ Refresh Rate 120Hz, Touch Sampling Rate 240Hz, 2160Hz PWM Dimming, สัดส่วนพื้นที่ต่อหน้าจอ 93.6% แสดงสี 1.07 พันล้านสี และความสว่างสูงสุด 1300 นิต
  • หน่วยประมวลผล : Mediatek Dimensity 7020 Octa-core ความเร็วสูงสุด 2.2GHz
  • GPU : IMG BXM-8-256
  • RAM : 12GB LPDDR4X
  • ROM : 256GB UFS 2.2
  • กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 3 เลนส์ ดังนี้
    • เลนส์หลักความละเอียด 108MP รูรับแสง f/1.75 รองรับกันสั่น OIS
    • เลนส์ Macro ความละเอียด 2MP รูรับแสง f/2.4
    • เลนส์ Depth ความละเอียด 2MP รูรับแสง f/2.4
  • กล้องหน้าความละเอียด 32MP รูรับแสง f/2.2
  • ระบบปฏิบัติการ Android 14 ครอบทับด้วย XOS 14
  • รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 5 (802.11ac), Bluetooth 5, NFC และพอร์ต USB Type-C
  • แบตเตอรี่ความจุ 4600mAh รองรับชาร์จเร็ว 100W All-Round FastCharge2.0

แกะกล่อง ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล

แกะกล่อง Infinix NOTE 40 Pro+ 5G

Infinix NOTE 40 Pro+ 5G มาในกล่องสีเขียวเข้มตามสไตล์ของ Infinix พร้อมด้วยชื่อรุ่นและสเปคหลักๆ ที่บอกหน้ากล่องครบถ้วนเลย

โดยภายในจะมี 2 กล่องหลักๆ คือ กล่องตัวเครื่อง Infinix NOTE 40 Pro+ 5G และกล่องสำหรับ MagPad ที่เป็นแท่นชาร์จไร้สายนั่นเองครับ

มาดูที่กล่องตัวเครื่องกันก่นดีกว่า จะเป็นกล่องหลักที่มีอุปกรณ์เสริมตั้งแต่เคสหนังแบบ MagCase ที่เอาไว้รองรับการชาร์จไร้สายแบบแม่เหล็กผ่าน MagPad ที่แถมมาในอีกกล่องด้วยครับ ขณะที่คู่มือการใช้งานเบื้องต้น กระจกกันรอย สติกเกอร์ Infinix NOTE 40 Series และเข็มเปิดถาดซิมมาให้

ถัดลงมาจะเป็นตัวเครื่อง Infinix NOTE 40 Pro+ 5G

และท้ายสุดจะเป็นอะแดปเตอร์ 100W และสายชาร์จแบบ USB Type-C ครับ

ดีไซน์สวยงามแบบไร้ที่ติด้วยวัสดุหนัง

เรื่องดีไซน์ของ Infinix NOTE 40 Pro+ 5G ได้ความสวยงามในระดับพรีเมียมที่ไร้ที่ติจริงๆ ด้วยวัสดุหนังวีแกนสวยงาม มีสัมผัสที่ละเอียดอ่อน ทั้งยังช่วยให้ไม่ให้ติดรอยนิ้วมือหรือคราบต่างๆ เลยแม้แต่นิดเดียวครับ และความสวยของผิวฝาหลังยังตัดเงาด้วยขอบสีทองที่เป็นโลหะขัดเงาในการออกแบบช่วยเพิ่มความน่าดึงดูดใจ

ตัวเครื่องก็ยังบางมากๆ เพียง 8.09 มม. เท่านั้น รวมถึงความเบาบางก็อยู่ที่เพียง 190 กรัม ช่วยให้จับได้กระชับมือและพกพาไปยังที่ต่างๆ ได้ทุกที่ไม่หนักกระเป๋าครับ

โดยสีที่เราได้มาเป็นสีเขียว Vintage Green สวยงาม ขณะที่อีกสีที่มีให้เลือกจะเป็นสีดำ Obsidian Black

มี Active Halo ไฟ AI Lighting อันดับ 1 ในเซกเมนต์

ความพิเศษใน Infinix NOTE 40 Pro+ 5G จะมีไฟ RGB ที่ใช้ชื่อเรียกเป็น “Active Halo” ที่อยู่ด้านหลังตรงโมดูลกล้องหลัง มีการขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี AI ที่ล้ำสมัย เพิ่มความน่าสนใจอย่างง่ายดายและเพิ่มความสว่างให้กับฉากต่างๆ ด้วยเอฟเฟกต์แสงตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ดังนี้

  • สายเรียกเข้า
  • การแจ้งเตือน
  • การชาร์จ
  • การเล่นเกม (ได้บางเกม)
  • กีฬา
  • การเล่นเพลง
  • ผู้ช่วยเสียง

โดยการปรับแต่งไฟ Active Halo ก็สามารถเลือกได้ 3 แบบ ได้แก่ มีชีวิตชีวา เป็นจังหวะ และ AI รวมถึงการเลือกสีสันได้ตามใจชอบหรือจะปรับเป็นสีรุ้งได้เลย !

พร้อมใช้หลายสถานการณ์ด้วยมาตรฐาน IP53

Infinix NOTE 40 Pro+ 5G รองรับมาตรฐานกันน้ำแบบกระเซ็นและฝุ่นในมาตรฐาน IP53 ทำให้เราสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องไร้กังวลครับ

หน้าจอโค้ง Super Bright AMOLED ควบคู่ความไหลลื่น 120Hz

หน้าจอแสดงผลก็จัดเต็มมาให้ด้วยการเป็น Super Bright AMOLED ที่มีความโค้ง 55 องศา ใช้งานได้ไม่กดพลาด ขนาดใหญ่ถึง 6.78 นิ้ว มีความละเอียด FHD+ (2436 x 1080 พิกเซล) โดยขอบหน้าจอก็บางมากๆ ทำให้มีสัดส่วนพื้นที่ต่อหน้าจออยู่ถึง 93.6% ทั้งนี้ สีสันก็แสดงได้มากถึง 1.07 พันล้านสี และยังมีความสว่างสูงสุดถึง 1300 นิต ให้ใช้งานกลางแจ้งได้อย่างชัดเจนเหมือนเดิม

ฝั่งของการเล่นเกมก็ช่วยให้เล่นได้ไหลลื่นด้วยการรองรับ Refresh Rate สูงสุด 120Hz พร้อม Touch Sampling Rate ที่ 240Hz

พาชมรอบเครื่อง

มาดูกันที่รอบเครื่องกันต่อเลยครับ โดยบริเวณส่วนบนของหน้าจอแสดงผลจะมีกล้องหน้า Punch Hole พร้อมลำโพงสำหรับการสนทนาอยู่ที่ขอบเล็กๆ ครับ

ฝั่งขวาจะให้ทั้งปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่ม Power มาให้

ฝั่งด้านล่างตัวเครื่องจะมีช่องใส่ซิมการ์ดแบบ NanoSIM 2 ช่อง โดยจะเป็นแบบพลิกหน้า-หลัง ไม่มีช่องใส่ MicroSD Card มาให้ ถัดไปเป็นไมโครโฟนตัวที่ 1 ตามด้วยพอร์ต USB-C และลำโพงตัวที่ 1

ที่ขอบบนจะให้มาทั้งลำโพงตัวที่ 2 ที่มีสัญลักษณ์ถึงการปรับแต่งด้วย JBL (SOUND BY JBL) พร้อมด้วยเซ็นเซอร์อินฟราเรด (IR Blaster) และไมโครโฟนตัวที่ 2 เพื่อตัดเสียงรบกวนครับ

ท้ายสุดด้านหลังจะมีโมดูลกล้องหลังขนาดใหญ่ที่มีกล้องหลัง 3 เลนส์ ที่มีไฟแฟลช LED เป็นวงกลมที่ล้มรอบไฟ Active Halo ที่อยู่ในวงกลมตรงกลางครับ

ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน

แกะกล่องด้วย Android 14 พร้อม XOS 14 อัปเดทได้ถึง Android 16

Infinix NOTE 40 Pro+ 5G แกะกล่องมาพร้อมระบบปฏิบัติการรุ่นล่าสุดอย่าง Android 14 ครอบทับด้วย XOS 14 ของ Inifnix เองครับ โดยฟีเจอร์ต่างๆ มีให้ใช้งานเพียบ รวมถึงไม่มีแอพพลิเคชั่นที่เยอะเกินไปหลังจากที่เปิดเครื่องมา ทำให้การใช้งานนั้นคลีนมากๆ ครับ ที่สำคัญรุ่นนี้ยังการันตีอัปเดท Android นาน 2 ปี ถึง Android 16 และยังรองรับแพทช์รักษาความปลอดภัยนาน 36 เดือน

ระบบความปลอดภัย

ในรุ่นนี้มาพร้อมความปลอดภัยที่รองรับการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอที่ใช้งานได้รวดเร็วและเสถียรมากๆ ครับ ทั้งนี้ก็ยังมีการสแกนใบหน้ามาให้ใช้งานกันตามปกติครับ

เปลี่ยนเป็นรีโมทได้ด้วย IR Remote Control

Infinix NOTE 40 Pro+ 5G มาพร้อมแอพเสริมอย่าง IR Remote Control ที่สามารถควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านแทนรีโมทได้เลยครับ ไม่ว่าจะเป็นแอร์ ทีวี พัดลม กล่องดิจิทัล และอื่นๆ อีกเพียบก็ใช้งานได้ครบในเครื่องเดียว

Dynamic Bar แสดงข้อมูลที่สำคัญได้แถบบนหน้าจอ !

ฟีเจอร์ Dynamic Bar จะเป็นแถบวงรีอัจฉริยะที่จะแสดงผลขึ้นมาบริเวณกล้องหน้าเมื่อมีการใช้งานที่สำคัญ ได้แก่ การปลดล็อกด้วยใบหน้า การโทร เครื่องบันทึดเสียง และการเคลื่อนไหวระหว่างการชาร์จ

ลำโพงคู่สเตอริโอเสียงกระหึ่มจาก JBL

ด้านความบันเทิงของ Infinix NOTE 40 Pro+ 5G ก็จัดจัดลำโพงแบบสเตอริโอคู่มาให้ใช้งานกันครับ เสริมความกระหึ่มด้วยปรับแต่งโดยวิศวกรของ JBL ทำให้ได้เสียงที่น่าดึงดูดและดื่มด่ำพร้อมเสียงสมดุลรอบทิศทางแลบะมีมิติมากๆ ครับ

ประสิทธิภาพ การเล่นเกม และแบตเตอรี่

ชิปเซ็ต Mediatek Dimensity 7020 ขนาดเล็กเพียง 6nm

Infinix NOTE 40 Pro+ 5G ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Mediatek Dimensity 7020 แบบ Octa-core ความเร็ว Clock สูงสุดที่ 2.2GHz โดยชิปตัวนี้มีขนาดเล็กเพียง 6nm เท่านั้น ทำให้มีการประหยัดพลังงานที่สูง และประสิทธิภาพการใช้งานต่างๆ ก็ทำได้ไหลลื่นด้วยครับ

เพิ่ม RAM ให้เป็น 24GB ด้วย MemFusion

ในรุ่นนี้ให้ RAM มาอยู่แล้วที่ 12GB ครับ ซึ่งเรายังสามารถเพิ่ม RAM เสมือนหรือ MemFusion ได้สูงสุดอีกถึง 12GB รวมมาเป็น 24GB ช่วยให้เราใช้งานแอพพลิเคชั่นต่างๆ ได้มากขึ้นกว่าเดิม โดยทำได้มากถึง 25 แอพพร้อมกัน โดยยังคงมีการทำงานในเบื้องหลังได้อยู่โดยไม่ถูกปิดเองครับ

ผลการทดสอบบน AnTuTu v10 และ Geekbench 6

  • ผลคะแนนการทดสอบด้านประสิทธิภาพด้าน CPU, GPU และหน่วยความจำบน AnTuTu 10.2.7 ได้มาที่ 480,154 คะแนน
  • ผลคะแนนด้าน CPU บน Geekbench 6 ทำ Single-Core ไปที่ 918 คะแนน และ Multi-Core ที่ 2,301 คะแนน

การควบคุมอัตราเฟรม XBOOST สุดเสถียร

Infinix NOTE 40 Pro+ 5G มาพร้อมกับฟีเจอร์ XBOOST ที่ทาง Infinix ได้ร่วมมือกับนักพัฒนาเกมชั้นนําที่ให้ปรับปรุงประสิทธิภาพในการเล่นเกมผ่านซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้เล่นได้ไหลลื่น เฟรมเรทนิ่งมากขึ้น และเพิ่มประสิทธิภาพเครือข่ายให้ด้วยทั้งหมด

ทดสอบการเล่นเกม

การเล่นเกมบนรุ่นนี้เราได้ทดสอบ 2 เกมหลักๆ คือ ROV และ PUBG Mobile โดยทั้ง 2 เกมนี้เราสามารถเปิดภาพได้ในระดับกลาง-สูงครับ โดยเฟรมเรทก็เปิดได้สูงเช่นกัน ซึ่งการเล่นทั้ง 2 เกมนี้ทำได้ดี ไหลลื่น รวมถึงการสัมผัสหน้าจอก็ทำได้ไหลลื่นและตอบสนองได้รวดเร็วเรียลไทม์เลย

แบตเตอรี่อึดพรอมชาร์จเร็วรอบด้านที่เหนือกว่าสูง 100W

จุดชูโรงใน Infinix NOTE 40 Pro+ 5G คือด้านแบตเตอรี่ที่ให้มาที่ 4600mAh ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปที่เพียงต่อแล้วแน่นอนครับ แถมยังรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วแบบรอบด้านสูงถึง 100W All-Round FastCharge 2.0 ซึ่งหากเราเปิดโหมด Hyper (และต้องใช้อะแดปเตอร์จาก Infinix เท่านั้น) ชาร์จเพียง 8 นาที ได้มาถึง 50% เลยทีเดียว รวมถึงมีการรับประกันการชาร์จที่ปลอดภัย แม้จะชาร์จไป 1,600 รอบแล้ว ก็ยังมีสุขภาพแบตที่ดีอยู่ครับ

ปลอดภัยแน่นอนด้วยชิป Cheetah X1

การชาร์จความเร็วสูงถึง 100W ก็ต้องสร้างความมั่นใจด้วยชิป Cheetah X1 ที่เป็นชิปการจัดการพลังงานที่พัฒนาขึ้นเองตัวแรกของ Infinix โดยมีการจัดการการชาร์จที่ล้ำสมัย ควบคู่กับระบบตรวจจับแหล่งจ่ายไฟที่มีความแม่นยำสูง และมีโมดูลตรวจจับแรงดันไฟฟ้าที่ปลอดภัยไว้ในชิปตัวเดียว

รองรับการชาร์จ ByPass ปลอดภัยแม้เล่นเกมไปด้วย !

เวลาที่เราเล่นเกมไปด้วยและจำเป็นต้องชาร์จเพืท่อป้องกันแบตเตอรี่หมด ก็ยังรองรับการชาร์จแบบบายพาส (ByPass) เพื่อให้จ่ายกระแสไปเข้าเมนบอร์ดได้แบบไม่ต้องผ่านแบตเตอรี่ที่อาจเกิดความร้อนที่มากเกินไปครับ

มี MagCharge ชาร์จไร้สายแบบแม่เหล็ก !

จากในกล่องของรุ่นนี้ที่มี MagCase และ MagPad มาให้ก็จะเป็นการชาร์จไร้สายแบบแม่เหล็กที่จะยึดติดกับตัวเคสแบบแน่นหนามากๆ ยกใช้แบบเล่นเกมได้ไม่มีหลุดแน่นอนครับ ซึ่งการชาร์จไร้สานจะสูงสุดที่ 20W ครับ

รองรับการชาร์จย้อนกลับเพื่อชาร์จอุปกรณ์อื่นได้

Infinix NOTE 40 Pro+ 5G รองรับเทคโนโลยีการชาร์จย้อนกลับหรือ Wireless Reverse Charge ที่ไม่จำเป็นต้องใช้ MagCase เลยครับ ใครที่มีอุปกรณ์เสริมหรือสมาร์ทโฟนที่รองรับการชาร์จไร้สายมาตรฐาน Qi ก็สามารถวางที่หลังเครื่องรุ่นนี้เพื่อชาร์จได้เลยครับ

กล้องหลัง 108MP พร้อมกันสั่น OIS

กล้องของ Infinix NOTE 40 Pro+ 5G ก็จัดมาให้ถึง 3 เลนส์ โดยรองรับทั้งฟีเจอร์ต่างๆ มากมาย เช่น การมี AI ตรวจจับวัตถุได้แม่นยำ มี Sky Shop ในการเปลี่ยนท้องฟ้าได้ตามใจชอบ รวมถึงการถ่าย Portrait ที่ทำได้สวยงามเกินราคาครับ ส่วนสเปคกล้องสรุปไว้อีกรอบ ตามนี้เลยครับ

  • เลนส์หลัก 108MP รูรับแสง f/1.75 รองรับกันสั่น OIS
  • เลนส์ Macro 2MP รูรับแสง f/2.4
  • เลนส์ Depth 2MP รูรับแสง f/2.4
  • กล้องหน้า 32MP รูรับแสง f/2.2

มี AI ปรับแสงสีได้ตามสถานการณ์ และ Lossless 3X Superzoom

มาเริ่มดูกันที่โหมดหลักเลยครับ โดยรุ่นนี้มาพร้อมกับ AI ที่สามารถระบุวัตถุที่เรากำลังถ่ายได้อย่างแม่นยำมากๆ ไม่ว่าจะเป็นท้องฟ้า อาหาร ดอกไม้ และอื่นๆ ซึ่งแต่ละฉากก็จะมีการปรับแต่งสีสันและเงาให้เหมาะสมกับแต่ละวัตถุด้วยครับ ที่สำคัญ ยังรองรับการซูมแบบ 3X Lossless Superzoom หรือซูม 3x ที่ไม่เสียรายละเอียดด้วย รวมไปถึงการถ่ายในโหมดกลางคืนของรุ่นนี้ก็ทำได้ดีสมราคา ปรับแต่งความสว่างและเก็บสีสันต่างๆ ของวัตถุได้ค่อนข้างชัดเจนครับ รวมถึง Noise ที่เห็นในภาพก็ลดน้อยลงจากเดิมเพื่อให้เราเห็นรายละเอียดต่างๆ ให้ดีขึ้นครับ

Portrait สวย ละลายหลังได้คม และรองรับการซูม 2x

โหมดการถ่ายภาพบุคคลใน Infinix NOTE 40 Pro+ 5G ก็สามารถทำได้อย่างแม่นยำ ตัดขอบต่างๆ ก็ทำได้ดีเลย ทำให้บุคคลโดดเด่นขึ้นมาจากฉากหลังได้ดี แต่มีข้อสังเกตเล็กๆ ตรงที่หากจะให้เบลอฉากหลังก็จะไม่สามารถปรับแต่งบิวตี้บนใบหน้าได้ครับ ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้นนะ

เปลี่ยนฟ้ามืดให้สว่างสวยงามด้วย Sky Shop

Infinix NOTE 40 Pro+ 5G ให้เราได้เปลี่ยนท้องฟ้าได้ตามความต้องการได้เลยครับ ยิ่งช่วงนี้ฟ้าครึ้ม ฝนตกต่างๆ ทำให้ฟ้ามืดไม่ตรงใจเรา ก็สามารถใช้ Sky Shop ในการเปลี่ยนท้องฟ้าได้ค่อนข้างเนียนตาเลย ไม่ว่าจะเป็นท้องฟ้าสีฟ้า รุ้งกินน้ำ ท้องฟ้าสีคราม พลบค่ำ ดาวตก แสงออโรร่า และพระจันทร์เป็นต้น

ถ่าย Macro เห็นได้ใกล้ในระยะเพียง 4 ซม.

อีกเลนส์ที่มาให้จะเป็น Macro ที่ให้เราถ่ายวัตถุได้ใกล้ถึง 4 เซนติเมตร ซึ่งแนะนำให้ใช้งานในตอนกลางวันหรือมีแสงแดดช่วย จะได้ภาพที่คมชัดเลย

เซลฟี่คมชัดด้วยกล้องหน้า 32MP

ในรุ่นนี้จัดกล้องหน้าให้เราถ่ายเซลฟี่ได้คมชัดสูงถึง 32MP ซึ่งรองรับการถ่าย Portrait ละลายหลังได้ แต่หากจะปรับแต่งความงามบนใบหน้าด้วย AI ก็จะไม่ได้รองรับการเบลอฉากหลังเหมือนกับการถ่ายในโหมดกล้องหลังเลย

สรุปการใช้งาน Infinix NOTE 40 Pro+ 5G

Infinix NOTE 40 Pro+ 5G เป็นสมาร์ทโฟนที่สมราคาทั้งเรื่องสเปคและดีไซน์ที่มาอยู่ในมือเราจริงๆ ครับ โดยเฉพาะในเรื่องการชาร์จที่มาแบบ “ชาร์จเร็วรอบด้านที่เหนือกว่า” ตามสโลแกนมากจริงๆ รองรับการชาร์จเร็วระดับท็อปๆ การชาร์จไร้สายด้วย MagPad + MagCase สามารถชาร์จย้อนกลับได้ด้วย รวมถึงการชาร์จแบบ ByPass ที่ป้องกันระหว่างการเล่นเกมได้เป็นอย่างดี

ขณะที่ส่วนอื่นทั้งหน้าจอแสดงผลก็ให้มาแววสวยงาม โค้ง 3 มิติได้ความพรีเมียมมากขึ้น ใช้งานเร็วแรงด้วยชิป Dimensity 7020 5G มีกล้องหลังที่ถ่ายได้คมชัดสูงสุด 108MP มีลำโพงคู่ และยังมีไฟ Active Halo ที่เพิ่มความพิเศษเข้ามาได้อย่างลงตัวจริงๆ

ราคาไทย Infinix NOTE 40 Pro+ 5G

Infinix NOTE 40 Pro+ 5G (12+256GB) วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในราคาเพียง 11,999 บาท สามารถสั่งซื้อสินค้าผ่านร้านค้าตัวแทนได้ที่ BaNANA, Jaymart,TG, IT CITY, CSC, Shopee และ Lazada

Advertisement
Android News3 ชั่วโมง ago

Caviar เปิดตัว Samsung Galaxy Z Flip6 Elegance รุ่นพิเศษสุดหรู ราคาเริ่มต้น 298,000 บาท

Caviar บริษัทจากดูไบ...

AirAsia MOVE MEGA SALE AirAsia MOVE MEGA SALE
IT News4 ชั่วโมง ago

AirAsia MOVE Mega Sale เซลที่ใหญ่ที่สุดของเดือน พร้อมส่วนลดจุใจ

AirAsia MOVE (เดิมชื...

Xiaomi Q2 financial report shows Revenue 88.9 billion RMB Xiaomi Q2 financial report shows Revenue 88.9 billion RMB
News4 ชั่วโมง ago

เสียวหมี่ รายงานรายรับไตรมาส 2 ปี 2567 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 88.9 พันล้านหยวน เติบโตด้วยตัวเลขสองหลักเป็นไตรมาสที่สามติดต่อกัน

เสียวหมี่ คอร์เปอเรช...

HUAWEI Sound Joy 2 HUAWEI Sound Joy 2
IT News4 ชั่วโมง ago

เปิดตัว HUAWEI Sound Joy 2 พร้อมดีลพิเศษก่อนใครที่ TikTok Shop

เปิดตัว HUAWEI Sound...

Smart Review6 ชั่วโมง ago

รีวิว HUAWEI Sound Joy 2 ลำโพงพกพาเสียงแจ่มด้วย 4 ดอกลำโพงดังสนั่น | บันเทิงไปได้ทุกที่ด้วยมาตรฐานป้องกันละอองนํ้าและฝุ่น IP67 | แบตเตอรี่ใช้งานยาว ๆ 26 ชม.

รีวิว HUAWEI Sound J...

Apple News9 ชั่วโมง ago

Gurman ยืนยันอีก…iPhone 16, Apple Watch ใหม่ และ AirPods 4 จะเปิดตัววันที่ 10 ก.ย.นี้!

สัปดาห์ก่อนมีลือกันแ...

Android News9 ชั่วโมง ago

เปรียบเทียบแบตเตอรี่ Pixel 9 vs Pixel 9 Pro XL vs iPhone 15 Pro Max vs S24 Ultra vs OnePlus 12 vs Xiaomi 14 Pro vs Pixel 8 Pro (มีคลิป)

ช่อง TechDroider ทำค...

Android News10 ชั่วโมง ago

มาเร็วขึ้น! จอมหลุดบอกเรือธงรุ่นแรกที่ใช้ชิป Dimensity 9400 อาจเปิดตัวกลางเดือน ต.ค.นี้เลย!?

เข้าสู่ช่วงครึ่งปีหล...

Copyright © 2012 iphone-droid.net.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ ดูเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และจัดการได้ที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึก