อินทัช จับมือ ชุมชนรอบวัดทิพย์สุคนธาราม จ.กาญจนบุรี ใน “โครงการปลูกข้าวเพื่อสุขภาพโดยอินทัช”

บริษัท อินทัช โอลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เดินหน้ายกระดับคุณภาพชีวิตชุมชนอย่างต่อเนื่อง ภายใต้ “โครงการปลูกข้าวเพื่อสุขภาพโดยอินทัช”

นายฟิลิป เชียง ซอง แทน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเริ่มดำเนินโครงการปลูกข้าวเพื่อสุขภาพ มาตั้งแต่ปี 2555 เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจของชาวนาไทยให้ดีขึ้นผ่านการส่งเสริมการปลูกข้าวที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงโดยไม่ใช้สารเคมี ซึ่งแต่ละพื้นที่ที่ได้ดำเนินการในภาคกลาง ภาคอีสาน และภาคใต้ประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี จึงได้ขยายผลโครงการสู่ชุมชนรอบวัดทิพย์สุคนธาราม ต.ดอนแสลบ จ.กาญจนบุรี เป็นพื้นที่ที่ 5

อินทัช ได้ให้การสนับสนุนองค์ความรู้อย่างครบวงจรตั้งแต่กระบวนการปลูกข้าวแบบใช้น้ำน้อย การพัฒนาผลิตภัณฑ์และการตลาดเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตข้าวดอกมะลิ 105 สร้างรายได้เสริมให้แก่ชาวนา จัดอบรมความรู้จากนักวิชาการ ปราชญ์ชาวบ้านในด้านกระบวนการปลูกข้าวโดยไม่ใช้สารเคมี, การทำปุ๋ยจากธรรมชาติ รวมถึงการศึกษาดูงานและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์จากกลุ่มสมาชิกโครงการปลูกข้าวเพื่อสุขภาพโดยอินทัชในพื้นที่ต่างๆ นอกจากนี้ยังได้สนับสนุนเครื่องสีข้าวกำลังผลิต 1 ตันต่อวัน และเครื่องแพ็คข้าวสูญญากาศ 1 เครื่อง ซึ่งมีชาวนาสนใจเข้าร่วมโครงการ 16 ครอบครัว รวมพื้นที่ 80 ไร่ โดยอินทัชกำหนดแนวทางในการดำเนินงานกับชุมชนรอบวัดทิพย์สุคนธารามไว้ 2 ปี คือ ปี 2559 ส่งเสริมการปลูกข้าวโดยไม่ใช้สารเคมี และพัฒนาข้าวหอมดอกมะลิ 105 ให้เป็นผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นของชุมชน ปี 2560 พัฒนาความเข้มแข็งของกลุ่มเป็นกลุ่มอาชีพของชุมชน

อำเภอห้วยกระเจา จ. กาญจนบุรี เป็นพื้นที่ค่อนข้างแห้งแล้ง ขาดแคลนน้ำในการทำนา จึงต้องเลือกพันธุ์ข้าวดอกมะลิ 105 ที่มีคุณสมบัติต่อสภาพแห้งแล้ง ดินเปรี้ยว ดินเค็มได้ดีพอควร โดยใช้กระบวนการปลูกข้าวด้วยวิธีหว่านสำรวย เป็นการหว่านเมล็ดพันธุ์ที่ไม่ได้เพราะให้งอกก่อนนำไปปลูกในนา เพื่อที่จะรอฝนมาทำให้เมล็ดพันธุ์เปียกและได้รับความชื้น จนงอกขึ้นมาเป็นต้นกล้า โดยจะเริ่มหวานประมาณเดือนสิงหาคมเพื่อให้รับการช่วงฤดูฝนของพื้นที่ และรอการเก็บเกี่ยวประมาณปลายเดือนพฤศจิกายน-ต้นเดือนธันวาคม

เปิดป้ายโรงเรียนชาวนา โดยเจ้าอาวาสวัดทิพย์สุคนธาราม

นอกจากนี้ กลุ่มสามาชิกได้จัดตั้งโรงเรียนชาวนาบนเนื้อที่ 1 ไร่ เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้การปลูกข้าวโดยไม่ใช้สารเคมีที่เหมาะสมกับพื้นที่ และเป็นศูนย์กลางดำเนินกิจกรรมของเกษตรกรในพื้นที่และสมาชิกโครงการ ส่วนในอนาคตจะพัฒนาเป็นแหล่งจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตรของสมาชิกและเกษตรกรในพื้นที่ เพื่อเป็นอีก 1 ช่องทางให้ผู้สนใจเข้ามาเลือกซื้อสินค้าปลอดภัยจากชุมชน โดยอินทัชได้สนับสนุนทุนในการดำเนินกิจกรรมจำนวน 50,000 บาทด้วย

ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา เกิดผลสัมฤทธิ์จากการดำเนินโครงการอย่างเป็นรูปธรรมมากมายทั้งในด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม ชุมชนมีความเข้มแข็ง ร่วมมือกันจัดตั้งวิสาหกิจชุมชน ด้านสิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศในแปลงนามีความอุดมสมบูรณ์ขึ้น

อินทัช ยังคงสานต่อโครงการอย่างต่อเนื่องในการสนับสนุนและให้โอกาสชาวนาไทยเข้าถึงความรู้ที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจที่ดี เพื่อดำรงชีวิตอย่างมีความสุขตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อสร้างชุมชนชาวนาไทยให้เข้มแข็งอย่างยั่งยืนต่อไป

เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2559 ผู้บริหาร พนักงาน สื่อมวล ชมการสีข้าว, แพ็กข้าวของสามาชิกในโครงการ และได้ทดลองแพ็กข้าวกันด้วยครับ

เยี่ยมชมแปลงนา หว่านข้าวหอมมะลิ ซึ่งวิธีการหว่านจะเป็นการหว่านแห้งนะครับ

ผลิตภัณฑ์ปลอดสารพิษจากชาวบ้านในชุมชนที่เข้าร่วมโครงการ

คุณชลาลักษณ์ บุนนาค มอบถังเก็บน้ำให้กับมูลนิธิพระพุทธเมตตาประชาไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์