iOS 15 จะมีฟีเจอร์ใหม่เพียบ และรองรับ iPhone 7 ขึ้นไป

iOS 15 ระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นถัดไปที่คาดกันว่าจะมาพร้อม iPhone 13 ที่จะเปิดตัวช่วงเดือนกันยายนปีนี้ โดยจะมีการอัปเกรดและเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ หลายอย่าง

iOS 15 เพิ่มตัวเลือกแอปเริ่มต้น

ใน iOS 14 ได้มีการเปิดตัวฟีเจอร์ที่ผู้ใช้งานรอคอยกันมานานคือการเลือกแอปเริ่มต้นของตนเอง แต่ในเวอร์ชั่นปัจจุบันทำได้เฉพาะแอปอีเมลและเบราว์เซอร์เท่านั้น คาดว่าในเวอร์ชั่นปลายปีนี้น่าจะมีการเพิ่มฟีเจอร์นี้ให้รองรับแอปหลายตัวมากขึ้น อย่างน้อยก็น่าจะมีแอปปฏิทินและแอปส่งข้อความ

FaceTime เพิ่มโหมดการนำเสนอ

ในปี 2020 ถือเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงการประชุมออนไลน์ด้วยวิดีโอ แต่น่าเสียดายที่ FaceTime ไม่มีฟีเจอร์ที่สามารถแชร์หน้าจอของอีกฝั่งได้ระหว่างการประชุมแบบวิดีโอ หากเทียบกับ Zoom หรือ Skype ที่สามารถทำได้ จึงมีความเป็นไปได้ว่า Apple จะเพิ่มฟีเจอร์ดังกล่าว และผู้ใช้งานที่ติดกับแฟลตฟอร์มเดิมก็ไม่ต้องหันไปเลือกใช้ของค่ายอื่น

วิดเจ็ตบนหน้าจอล็อก

ฟีเจอร์วิดเจ็ตเรียกได้ว่าเป็นที่ชื่นชอบมากสำหรับผู้ใช้งาน iPhone แต่ว่าในปัจจุบันสามารถทำได้เฉพาะบนหน้าจอโฮมเท่านั้น ยังไม่สามารถแสดงบนหน้าจอล็อก คาดว่าใน iOS 15 จะมีการเพิ่มความสามารถนี้ และผู้ใช้งานไม่ต้องปลดล็อคหน้าจอก็สามารถดูวิดเจ็ตที่เลือกแสดงบนหน้าจอล็อกได้

นอกจากฟีเจอร์ใหม่ๆ แล้ว สิ่งที่หลายคนรอคอยคือการรองรับการทำงานบน iPhone รุ่นใดบ้าง ซึ่งก็น่าจะใช้งานได้บน iPhone 7 และรุ่นที่ใหม่กว่า ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร เนื่องจาก iPhone 6s นั้นมีอายุมากกว่า 5 ปีแล้ว อีกทั้งฮาร์ดแวร์ที่เป็นชิปเซ็ต A9 ก็เก่าเกินไปแล้ว โดย iOS 15 จะรองรับชิปเซ็ต A10 ที่ใช้งานในรุ่น iPhone 7 และ iPod touch 7

iPhone รุ่นที่คาดว่าจะได้ไปต่อ iOS 15

• iPhone 7
• iPhone 7 Plus
• iPhone 8
• iPhone 8 Plus
• iPhone X
• iPhone XS
• iPhone XS Max
• iPhone XR
• iPhone 11
• iPhone 11 Pro
• iPhone 11 Pro Max
• iPhone SE (2020)
• iPhone 12 mini
• iPhone 12
• iPhone 12 Pro
• iPhone 12 Pro Max
• iPhone 13 ทุกรุ่น

กำหนดการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ iOS 15 คาดว่าจะถูกปล่อยออกมาในวันเปิดตัว iPhone 13 แต่โดยปกติแล้ว Apple จะเปิดเผยระบบปฏิบัติเวอร์ชั่นใหม่ในงานประจำปี WWDC ในเดือนมิถุนายน เหมือนในปีที่ผ่านมาได้มีการเผยโฉม iOS 14, iPadOS 14 และ MacOS Big Sur เป็นครั้งแรก

ที่มา : CNET