เปรียบเทียบสเปค iPad Air 2 และ iPad Air

iPad Air 2 เปิดตัวอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว มาพร้อมความบางเพียง 6.1 มม. ซึ่งบางกว่า iPhone 6 และถือเป็นแท็บเล็ตที่บางที่สุดใสขณะนี้ เพื่อให้เห็นจุดแตกต่างชัดเจนมากขึ้น เรามาดูกันว่าระหว่าง iPad Air รุ่นแรกกับ iPad Air 2 มีอะไรแตกต่างกันบ้าง

[table id=19 /]

ตัวเครื่องดีไซน์

ยังคงมีขนาดกว้าง x ยาวเท่าเดิม แต่ความบางของ iPad Air อยู่ที่ 6.1 มม. ทำให้น้ำหนักเบากว่าเดิม ซึ่งในรุ่นนี้ได้นำปุ่มปิด/เปิดเสียงออกไปเพื่อดีไซน์ให้ตัวเครื่องบางลงกว่าเดิมจนกลายเป็นแท็บเล็ตที่บางที่สุดในโลก มีทั้งรุ่น Wi-Fi และ Cellular โดยไม่มีความจุ 32GB แต่จะมีความจุ 16/64/128GB

จอแสดงผล

ทั้ง iPad Air 2 และ iPad Air มีหน้าจอแบบเดียวกันคือ Retina เป็นจอภาพ Multi-Touch แบบ LED-backlit ขนาด 9.7 นิ้ว พร้อมเทคโนโลยี IPS ความละเอียด 2048 x 1536 ที่ 264 พิกเซลต่อนิ้ว (ppi) เคลือบสารกันรอยนิ้วมือ แต่ iPad Air เป็นจอภาพแบบ Full Lamination เคลือบสารกันแสงสะท้อนมาให้ด้วย

ประสิทธิภาพการทำงาน

iPad Air 2 กระโดดมาใช้ชิป Apple A8X พร้อมสถาปัตยกรรม 64 บิต ซีพียู 3 หัวที่ความเร็ว 1.5GHz และโปรเซสเซอร์ร่วม M8 สำหรับประมวลผลการเคลื่อนไหว จากเดิมบน iPad Air ใช้ชิป A7 ซีพียู 2 หัว และ iPhone 6 ใช้ชิป A8 ซีพียู 2 หัว จึงทำให้ซีพียูประมวลผลได้แร็วแรงกว่าเดิม ในขณะที่ iPad Air 2 เพิ่มแรมให้เป็น 2GB ซึ่งถือเป็นอุปกรณ์ iOS รุ่นแรกที่มีแรมมากสุดในขณะนี้

กล้องถ่ายรูป

กล้องถ่ายรูปอัปเกรดให้มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล จากเดิม 5 ล้านพิกเซล มีระบบออโต้โฟกัส ระบบตรวจจับใบหน้า เซ็นเซอร์รับแสง ประกอบด้วยชุดเลนส์ห้าชิ้น มีรูรับแสงขนาด ƒ/2.4 มีโหมดรูปถ่าย HDR, พาโนรามา, โหมดถ่ายภาพรัวต่อเนื่อง การบันทึกวิดีโอเร่งความเร็ว (Timelapse) และวิดีโอสโลว์โมชั่นที่ความเร็ว 120 เฟรมต่อวินาที เช่นเดียวกับบน iPhone 5s

เซ็นเซอร์

iPad Air 2  มีเซ็นเซอร์ Touch ID สำหรับสแกนลายนิ้วมือที่ปุ่มโฮม และบารอมิเตอร์ เหมือนกับ iPhone 6 ซึ่งบน iPad Air จะไม่มีเซ็นเซอร์เหล่านี้

การเชื่อมต่อ

iPad Air 2 รองรับการเชื่อมต่อไร้สายผ่าน Wi-Fi มาตรฐาน 802.11a/b/g/n/ac สองช่องความถี่ (2.4GHz และ 5GHz), LTE ความเร็วสูงสุด 150 Mbps, Bluetooth 4.0 และเชื่อมต่อผ่านสาย Lightning

ราคาและวันวางจำหน่าย

คาดว่าราคาวางจำหน่ายในไทยจะเปิดเท่าเดิมกับราคาเปิดตัว iPad Air แต่จะคุ้มค่ามากขึ้นเพราะราคาความจุ 32GB เดิมจะได้ความจุเป็น 64GB สำหรับ iPad Air 2 และวันวางจำหน่ายในไทยต้องรอประกาศอย่างเป็นทางการต่อไปครับ