Apple News
แกะกล่องพรีวิว iPad รุ่นที่ 10 “สีเหลือง” สดใสแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน
iPad รุ่นที่ 10 หรือ iPad Gen 10 เริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการเรียบร้อย เช่นเคยครับ ทีมงาน iphone-droid.net ก็ไม่พลาดแกะกล่องให้ชมเครื่องจริงกันเหมือนเดิม สีที่เราได้มาเป็นสีเหลืองใหม่ ที่น่าจะถูกใจใครหลาย ๆ คนด้วย เอาเป็นว่าอย่าเสียเวลามาแกะกล่องชมเครื่องจริงไปพร้อม ๆ กันเลยครับ!
แกะกล่อง iPad รุ่นที่ 10
ตัวกล่องของ iPad รุ่นที่ 10 จะมาในโทนสีขาวที่ด้านหน้ามีภาพประกอบตัวเครื่องที่โชว์สีชัดเจนด้วย Wallpaper รอบนีตัวกล่องไม่มีพลาสติกหุ้มมาแล้ว เป็นกล่องเปล่า ๆ เหมือนกับ iPhone เลยครับ
แน่นอนว่าที่ด้านหลังจะมีสติกเกอร์ติดมา 2 ชิ้นให้เราได้ฉีกออกเหมือนกันด้วย
เปิดกล่องออกมาเราจะเจอกับตัวเครื่อง iPad รุ่นที่ 10 ที่อยู่ในซองอย่างดี ไว้ดูสีสันกันอีกทีเนาะ
ภายในจะมีเอกสารคู่มือและสติกเกอร์ Apple 2 ชิ้น และถัดลงไปก็จะมีอุปกรณ์เสริมอีก 2 อย่างคือ อะแดปเตอร์ชาร์จ 20W และสาย USB-C to C ซึ่งตัวสายก็ให้เป็นสายแบบถักแบบใหม่เลยด้วย ดูดีไม่น้อยครับ
เบ็ดเสร็จแล้วอุปกรณ์ในกล่องของ iPad รุ่นที่ 10 ก็มีมาให้ 5 อย่างดังนี้เลยครับ
- ตัวเครื่อง iPad รุ่นที่ 10
- เอกสารคู่มือ
- อะแดปเตอร์ชาร์จ 20W
- สายชาร์จ USB-C to C
- สติกเกอร์ Apple
สีเหลืองสดใสจริง ๆ
ขอเริ่มจากสีสันตัวเครื่องก่อนเลยละกัน เพราะเราว่านี่คือสิ่งที่ iPad รุ่นที่ 10 ทำได้ดีมากและโดดเด่นแบบที่แยกความแตกต่างจากรุ่นอื่น ๆ ได้ชัดเจน สีที่เราได้มาเป็นสีเหลือง มีความสดใสและแปลกตาไปจาก iPad ทุกรุ่นที่เคยออกมา ตอบโจทย์กลุ่มวัยรุ่นหรือนักเรียนนักศึกษาที่ต้องการความสนุกสนานอย่างมากเลย
โทนของสีเหลืองก็จะถึงใจ ไม่พาสเทลบาง ๆ เลย ใครที่ชอบสีเหลืองจัดน่าจะถูกใจมาก ๆ ครับ ที่ด้านหลังเราจะเห็นกล้องหลัง 1 ตัวที่ทีความนูนออกจากฝาหลังเล็กน้อย ไม่เรียบสนิทเหมือนรุ่นที่ 9 แต่ก็ดูเป็นเอกลักษณ์ของ iPad รุ่นใหม่ ๆ ดีเนาะ
ดีไซน์หน้าจอใหม่หมด ไร้ปุ่มโฮมแล้ว
พลิกกลับมาดูที่หน้าจอกันบ้าง ตรงนี้เราจะเห็นความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ iPad รุ่นเริ่มต้น เพราะได้จอเต็มไร้ปุ่มโฮมที่ด้านหน้าและขอบหน้าจอบน-ล่างหนา ๆ เรียบร้อย ใช่แล้วครับนี่คือดีไซน์แบบเดียวกับ iPad Air เลย
หน้าจอของ iPad รุ่นที่ 10 จะมีขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 10.9″ ก็คือเท่ากับ iPad Air แล้วนั่นเอง ตัวหน้าจอแสดงผลสีสันได้สวยกำลังดี แต่จะยังเป็นจอ IPS LCD ปกติ ไม่ใช่แบบ Full Lamination เราจึงเห็นชั้นของกระจกที่หนากว่าเล็กน้อยครับ
กล้องหน้าใหม่ วางแนวนอนด้วย
กล้องหน้าของ iPad รุ่นที่ 10 ก็มีการอัปเกรดใหม่ใช้เป็นกล้อง Ultra Wide ความละเอียด 12MP ที่ทีมุมกว้างพร้อมรองรับฟีเจอร์ Center Stage ด้วย และรอบนี้เหมือน Apple จะรู้ว่าการใช้งานกล้องของ iPad มักจะใช้ในแนวนอนเลยย้ายตำแหน่งมาไว้บนหน้าจอเมื่อวางแนวนอนซะเลย เราว่าดีขึ้นเยอะมาก เพราะเวลาใช้งานสายตาจะมองตรงกว่าไว้ที่มุมซ้ายน่ะนะ
บอดี้ใหม่ด้วยกรอบเหลี่ยมทั้งตัว
บอดี้โดยรวมของ iPad รุ่นที 10 ก็มีการเปลี่ยนแปลงไปเป็นแบบกรอบเหลี่ยมด้วย มีความเป็น iPad Air มากขึ้นจริง ๆ ตำแหน่งของปุ่มกดยังเหมือนเดิม ที่ด้านขวามือจะมีปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง
ส่วนด้านซ้ายจะมี Smart Connector ที่เอาไว้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมตัวใหม่อย่าง Magic Keyboard Folio ครับ เดี๋ยวเราอธิบายอุปกรณ์เสริมตัวนี้เพิ่มเติมอีกทีเนอะ
Touch ID อยู่ที่ปุ่ม Power แล้ว
เช่นเดียวกับ iPad Air กับ iPad mini บน iPad รุ่นที่ 10 จะมาพร้อมกับปุ่ม Power ที่มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือหรือ Touch ID ติดมาให้แล้ว เนื่องจากปุ่มโฮมที่ด้านหน้าถูกถอดออกไปครับ
พอร์ต USB-C มาแล้ว ในที่สุด!
ไหน ๆ ก็เปลี่ยนดีไซน์ใหม่แล้ว เปลี่ยนพอร์ตด้วยเลย iPad รุ่นที่ 10 มาพร้อมพอร์ต USB-C เรียบร้อย แม้ตามผลทดสอบที่ต่างประเทศทดสอบกันความเร็วจะไม่ได้เพิ่มขึ้น แต่ก็สะดวกในการใช้สาย USB-C เชื่อมต่อหรือชาร์จมากกว่าแบบ Lightning เดิมล่ะนะ
ลำโพงคู่ Stereo แล้วนะ
อย่างที่เห็นครับ ดีไซน์แบบใหม่ของ iPad รุ่นที่ 10 นี้จะเพิ่มลำโพงไว้ที่ด้านบนอีกตัว พอรวมกับลำโพงหลักด้านล่างจึงทำให้รุ่นนี้มีลำโพงคู่แบบ Stereo เสียงออก 2 ทิศทางเสียที ต่างจากรุ่นที่ 9 ที่มีลำโพงคู่แต่อยู่ที่ด้านล่าง 2 ตัว เวลาใช้งานแนวนอนก็ไม่ได้ให้เสียงออก 2 ทิศทาง
โดยรวมในเรื่องดีไซน์ของ iPad รุ่นที่ 10 ก็ต้องบอกเลยว่ามีความเป็น iPad Air ได้สูงมาก ทั้งดีไซน์หน้าจอแบบเต็มขึ้น ตัดปุ่มโฮมออก กรอบเครื่องแบบเหลี่ยม กล้องหลังนูน ลำโพงคู่ พอร์ต USB-C ถ้าไม่เห็นสีเหลืองเด่น ๆ แบบนี้คงยากที่จะคิดว่าเป็น iPad รุ่นเริ่มต้นแน่นอนครับ
รองรับ Apple Pencil รุ่นแรก !?
เชื่อว่าหลายคนที่เห็นดีไซน์ใหม่หมดของ iPad รุ่นที่ 10 แล้วคงดีใจว่าเราจะได้ใช้คู่กับ Apple Pencil รุ่นที่ 2 แน่ ๆ เพราะพอร์ตก็เปลี่ยนเป็น USB-C แล้ว แต่ในรุ่นนี้รองรับ Pencil รุ่นแรกอยู่
อย่างที่บอกว่าพอไม่มีพอร์ต Lightning แต่ต้องเชื่อมกันผ่าน Lightning วิธีแก้ก็คือเราต้องเชื่อมต่อ Pencil รุ่นที่ 1 ผ่านตัวแปลง USB-C ก่อนที่จะเชื่อมต่อเข้ากับตัวเครื่องนั่นเอง
ซึ่งถ้าผู้ใช้ที่มี Apple Pencil รุ่นที่ 1 อยู่แล้ว จะมาใช้งานกับ iPad รุ่นที่ 10 ก็ต้องซื้อตัวแปลงเพิ่มในราคา 390 บาทด้วย แต่หากซื้อใหม่เลยจะมีชุดตัวแปลงแถมมาในกล่องล็อตใหม่ ๆ เลยครับ
ในการเชื่อมต่อที่อาจจะดูแปลก ๆ ถ้า Apple เลือกให้แถบสำหรับเชื่อมต่อ Pencil รุ่นที่ 2 แบบ iPad Air หรือ iPad mini มาก็คงจะใช้งานได้ง่ายกว่านี้
Magic Keyboard Folio เคสคีย์บอร์ดใหม่ แยกร่างได้ด้วยนะ
แม้ Pencil จะใช้รุ่นเก่า แต่เคสคีย์บอร์ดมีอันใหม่นะ Apple เปิดตัว Magic Keyboard Folio ตัวใหม่ที่ใช้งานได้กับ iPad รุ่นที่ 10 โดยเฉพาะ เป็นเคส 2 ชิ้นที่ใช้ประกอบแบบแม่เหล็กเข้าที่ด้านหลังมีขาตั้งในตัว และอีกชิ้นเป็นคีย์บอร์ดที่เชื่อมกันผ่าน Smart Connector ที่ด้านล่างตัวเครื่องอย่างที่บอกไปครับ
ซึ่งความเก๋ก็คือตัวขาตั้งของเคสสามารถปรับองศาได้หลากหลาย แถมยังใช้เป็นขาตั้งอย่างเดียวและเก็บคีย์บอร์ดซ้อนพับกลับไปได้ด้วย
ส่วนตัวคีย์บอร์ดก็มาพร้อม TrackPad และปุ่มกดจริง ๆ ด้วย แถมตัวปุ่มกดก็ยังมีปุ่มฟังก์ชั่นให้อีก เจ๋งกว่า Magic Keyboard ของรุ่น Air หรือ Pro ไปอีกนะตรงนี้
สเปคใหม่ชิป A14 Bionic
สำหรับสเปคภายใน iPad รุ่นที่ 10 อัปเกรดชิปใหม่เป็น A14 Bionic มี RAM 4GB รองรับ Wi-Fi 6 และยังคงมีตัวเลือกความจุให้เลือก 2 ความจุคือ 64GB กับ 256GB เหมือนเดิมครับ
สรุปสเปค iPad รุ่นที่ 10
- หน้าจอ IPS ขนาด 10.9″
- ความละเอียด 2360 x 1640 พิกเซล
- Refresh rate 60Hz
- ชิปเซ็ต A14 Bionic
- RAM 4GB
- ความจุ 64GB/256GB
- กล้องหน้า 12MP f/2.4
- กล้องหลัง 12MP f/1.8
- ระบบปฏิบัติการ iPadOS 16
- การเชื่อมต่อ Wi‑Fi 6 (802.11ax), 2.4GHz และ 5GHz, ความเร็วสูงสุด 1.2 Gbps
- พอร์ต USB-C
- รองรับ Apple Pencil รุ่นแรก
- รองรับ Magic Keyboard Folio
ทั้งหมดนี้ก็เป็นพรีวิวคร่าว ๆ ของ iPad รุ่นที่ 10 กับความรู้สึกแรกเท่านั้นครับ การใช้งานจริง ประสิทธิภาพจริง ๆ คงต้องลองทดสอบกันมากกว่านี้ แต่จากการลองคร่าว ๆ ก็ถือว่าเป็น iPad รุ่นเริ่มต้นที่น่าสนใจ ทั้งดีไซน์แบบใหม่ สีสันที่น่าดึงดูด กับสเปคที่อัปเกรดขึ้นในหลายส่วนด้วย ก่อนจากกันเราขอสรุปราคาค่าตัวของ iPad รุ่นที่ 10 ให้อีกสักนิด ตามนี้เลยครับ
ราคา iPad รุ่นที่ 10
- รุ่น 64GB ราคา 17,900 บาท
- รุ่น 256GB ราคา 23,900 บาท
ราคาอุปกรณ์เสริม iPad รุ่นที่ 10
- Apple Pencil รุ่นที่ 1 (พร้อมอะแดปเตอร์) ราคา 3,900 บาท
- Magic Keyboard Folio ราคา 9,900 บาท
- Smart Folio สำหรับ iPad (รุ่นที่ 10) ราคา 3,390 บาท