Smart Review
รีวิว iPad Pro 12.9 นิ้ว ชิป M2 ปี 2022 หลังใช้งาน 1 เดือน
รีวิว iPad Pro 12.9 นิ้ว แท็บเล็ตรุ่นล่าสุดปี 2022 ที่มาพร้อมชิป M2 ยกระดับการทำงานและประสิทธิภาพไปอีกขั้นในการใช้งานคล้ายแล็ปท็อป โดยเปิดตัวพร้อมกับ iPad รุ่นที่ 10 รุ่น และเป็นอุปกรณ์ที่รองรับการทำงานร่วมกับ Apple Pencil ที่มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ด้วย
iPad Pro รุ่นใหม่ล่าสุด แม้จะไม่ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงด้านดีไซน์ใหม่ แต่ก็ได้เพิ่มชิป M2 ใหม่แทน M1 ในรุ่นก่อนหน้า รองรับการเชื่อมต่อที่เร็วขึ้นด้วย Wi-Fi 6E และมีตัวเลือกรุ่น 5G ที่ตอนนี้รองรับย่านความถี่ mmWave ที่เร็วกว่า เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
สรุปสเปค iPad Pro 12.9 นิ้ว (รุ่นที่ 6 ปี 2022)
- หน้าจอ: 12.9 นิ้ว ความละเอียด 2048 x 2732 พิกเซล Liquid Retina XDR Mini-LED LCD, 120Hz, HDR10, Dolby Vision
- ระบบปฏิบัติการ: iPadOS 16
- ชิปเซ็ต: Apple M2
- GPU: Apple GPU
- RAM: 8GB/16GB
- ความจุเครื่อง: 128GB/256GB/512GB/1TB/2TB
- microSD card: ไม่รองรับ
- กล้องหลัง 2 ตัว:
- กล้องหลักความละเอียด 12 ล้านพิกเซล f/1.8
- กล้อง Ultra-wide ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล f/2.4
- LiDAR scanner
- กล้องหน้า: Ultra-wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล f/2.4
- การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth และพอร์ต USB Type-C
- แบตเตอรี่: 10758mAh ชาร์จเร็ว 18W
ดีไซน์และจอภาพ ยังคงสวยงาม
iPad Pro เป็นแท็บเล็ตที่มีดีไซน์เพรียวบาง ยังคงมีความสวยงามในรูปลักษณ์เดิมเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า โดยมีกล้องหลังคู่พร้อม LiDAR Scanner ใช้สำหรับการสแกน AR หรือ 3D อีกทั้งลำโพงและจอแสดงผล Liquid Retina XDR Mini-LED LCD ก็มีเฉพาะในรุ่น 12.9 นิ้ว
ตัวเครื่องที่ใช้ในรีวิวนี้เป็นสีเทาสเปซเกรย์ ซึ่งมีความบางเพียง 6.4 นิ้ว และถึงจะมีขนาดตัวเครื่องกับหน้าจอที่ใหญ่ แต่เมื่อถือจับใช้งานกลับรู้สึกว่าน้ำหนักค่อนข้างเบาด้วยการกระจายน้ำหนักของตัวเครื่องที่เพรียวบาง
สำหรับการปลดล็อคหน้าจอและใช้ปุ่ม Touch ID ที่อยู่ขอบด้านข้างตัวเครื่อง โดยปุ่มเพิ่มหรือลดระดับเสียงจะอยู่ที่ขอบอีกด้านของตัวเครื่อง และพอร์ต USB-C ที่รองรับ Thunderbolt 4 อยู่ที่ขอบด้านล่างของตัวเครื่อง
iPad Pro 12.9 นิ้ว ยังคงเป็นรุ่นใหม่เพียงรุ่นเดียวที่มีเทคโนโลยีจอแสดงผล Mini-LED ที่สวยงาม ซึ่งเป็นจอแบบเดียวกับ MacBook Pro รุ่นล่าสุดของ Apple โดยในเรื่องของรีเฟรชหน้าจอทำได้สูงสุด 120Hz ที่เป็นการใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า ProMotion ของ Apple เช่นเดียวกับในรุ่น iPhone 13 Pro และ 14 Pro ทำให้การใช้งานบนหน้าจอมีความลื่นไหลและราบรื่นเวลาเลื่อนหน้าจอ
พื้นที่หน้าจอขนาดใหญ่ ช่วยเพิ่มประสบการณ์การดูวิดีโอหรือภาพยนตร์บน Apple TV, YouTube หรือรายการ Netflix ได้อย่างเต็มตา และหากเป็นคอนเทนท์ HDR จอแสดงผล Liquid Retina XDR ของ iPad Pro ก็จะได้สีสันที่ดูสวยสดโดดเด่นมากยิ่งขึ้น
ทดสอบดูคลิปตัวอย่าง Avatar: The Way of Water จะเห็นว่าภาพที่แสดงบนหน้าจอให้ความรู้สึกที่มีชีวิตชีวา ซึ่งภาพส่วนใหญ่จะเป็นโทนสีฟ้าและฉากที่มีความมืดกับสว่าง ซึ่ง iPad Pro ก็สามารถทำให้แต่ละสีดูคมชัดและโดดเด่นมากๆ
สำหรับการอ่านการ์ตูนหรือหนังสือบน iPad Pro ก็เรียกได้ว่าตอบโจทย์เช่นเดียวกัน เพราะหน้าจอขนาดใหญ่ทำให้เห็นชัดเจน รองรับการแสดงผลได้แบบเต็มหน้าหนังสือ ไม่ต้องซูมเข้า-ออกเพื่อดูรายละเอียดบางอย่างเลย
iPad รุ่นใหม่ๆ ของ Apple เริ่มได้รับการดีไซน์ไปในทิศทางเดียวกันกับ iPad Pro และให้ฟีเจอร์ต่างๆ ตามระดับราคาของแต่ละรุ่น อย่างในรุ่น iPad Air ไม่มี Face ID หรือ LiDAR Scaner หรือแม้แต่ iPad Pro 11 นิ้ว ก็ยังไม่ได้จอแสดงผลแบบ mini-LED โดยทุกรุ่นก็จะรองรับ Apple Pencil รุ่นที่ 1 หรือรุ่นที่ 2
ซอฟต์แวร์และอุปกรณ์เสริม
รีวิว iPad Pro 12.9 นิ้ว ได้รับการอัปเกรดเป็น iPadOS 16 ซึ่งมีฟีเจอร์ใหม่ๆ เพียบ ใช้งานแอปต่างๆ ได้ในระดับเดสก์ท็อป รองรับการปรับขนาดและวางแอปทับกันเพื่อการทำงานมัลติทาสก์ได้คล่องตัวมากขึ้น
Apple Pencil รุ่นที่ 2 สำหรับการใช้งานร่วมกับ iPad Pro ก็ให้สัมผัสที่ราบรื่นเวลาแตะลงบนหน้าจอ ทำให้เราสามารถเขียน สเก็ตช์ และวาดภาพด้วยความแม่นยำได้ดีขึ้น
นอกจากนี้ฟีเจอร์ยกปลายปากกาช่วยให้แอปและวิดเจ็ตบนหน้าจอโฮมขยายออกเมื่อจ่อปลาย Apple Pencil ไปอยู่เหนือสิ่งนั้นๆ และเห็นตำแหน่งก่อนแตะ เรียกได้ว่าเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้ทำสิ่งต่างๆ ด้วย Apple Pencil ง่ายยิ่งกว่าเดิม
ฟีเจอร์ยกปลายปากกาเหนือจอภาพ จะเป็นการใช้หน้าจอตรวจจับสัญญาณแม่เหล็กไฟฟ้าที่ส่งออกมาจากส่วนปลายได้ในระยะสูงสุด 12 มม. แล้วชิป M2 ก็จะแปลสัญญาณเหล่านั้นทันทีรวมถึงระบุตำแหน่งของ Apple Pencil ในแบบ 3 มิติ
อีกหนึ่งอุปกรณ์เสริมที่นำมาใช้งานร่วมกับ iPad Pro ครั้งนี้ ก็คือ Magic Keyboard ที่ออกแบบมาสำหรับการพิมพ์ที่ตอบสนองได้ฉับไว และมีแทร็คแพดในตัว ตอบโจทย์สำหรับทุกการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการปั่นรายงานสำหรับนักเรียน หรือจัดการกับอีเมลในการทำงาน เป็นต้น ซึ่งตัวคีย์บอร์ดยังเป็นปุ่มแบบแบ็คไลท์สำหรับใช้งานในที่มืดอีกด้วย
ลำโพงเสียงดังกระหึ่ม
รีวิว iPad Pro 12.9 นิ้ว รุ่นใหม่มีระบบเสียง 4 ลำโพงที่รองรับ Dolby Atmos เช่นเดียวกับรุ่นก่อนหน้า ซึ่งให้เสียงที่ดังกระหึ่มสะใจมากๆ ถ้าเปิดเสียงดังๆ ในห้อง ต้องบอกเลยว่าดังกระหึ่มทั่วห้อง และให้มิติของเสียงดีมาก
ลำโพงของ iPad Pro ถูกออกแบบมาให้ใช้งานในแนวนอน ก็จะให้มิติของเสียงมาจากด้านซ้ายและด้านขวาของตัวเครื่อง ซึ่งไม่เพียงแต่ใช้สำหรับดูหนังหรือฟังเพลงได้สะใจเท่านั้น ในเรื่องของเสียงเวลาเล่นเกมก็เพิ่มความสนุกได้ดีมากขึ้นด้วย ยิ่งถ้าเป็นเกมที่ต้องใช้ทิศทางของเสียงในการบอกตำแหน่งของศัตรู ลำโพงของ iPad Pro ตอบโจทย์มาก
กล้องถ่ายรูป
ระบบกล้องของ iPad Pro รุ่นใหม่ยังคงเหมือนกับรุ่นปีที่แล้ว ถ้าใครที่คาดหวังว่าในปีนี้จะมีการอัปเกรดเรื่องฮาร์ดแวร์กล้องก็อาจจะไม่เป็นไปตามคาด แต่ถ้าพูดถึงในเรื่องของการใช้งานก็ต้องยอมรับว่าทำได้ดีอยู่แล้ว
ในการถ่ายภาพกลางวันที่มีแสงเพียงพอ ฟ้าใส กล้องของ iPad Pro ก็ทำออกมาได้ดีมากๆ เก็บรายละเอียดได้คมชัด โทนสีใกล้เคียงกับของจริง แต่ในการถือใช้งานก็จะค่อนข้างลำบากนิดนึงด้วยขนาดตัวเครื่องที่ใหญ่
กล้องหน้าอัลตร้าไวด์ความละเอียด 12MP มาพร้อมฟีเจอร์ “จัดให้อยู่ตรงกลาง” หรือ Center Stage ทำให้การวีดีโอคอลต่างๆ ด้วยกล้องหน้าจะมีการจัดเฟรมให้เราอยู่ตรงกลางโดยอัตโนมัติ รองรับบน FaceTime และแอปอื่นๆ อย่างเช่น Zoom หรือแอป TikTok ก็รองรับแล้วเช่นเดียวกัน
iPad Pro ถูกออกแบบมาให้ใช้งานในแนวนอนมากกว่า แต่ระบบกล้องหน้าถูกติดตั้งไว้ที่ขอบหน้าจอในแนวตั้งที่มีด้านสั้นกว่า ซึ่งถ้ากล้องหน้าอยู่ที่ขอบด้านยาวกว่าก็จะทำให้ใช้งานในแนวนอนได้มุมกล้องที่สะดวกกว่า โดยเฉพาะเวลาใช้งานร่วมกับคีย์บอร์ด ใช้งานวิดีโอคอลหรือประชุมงาน เป็นต้น
ประสิทธิภาพและแบตเตอรี่
ชิป M2 เป็นชิป Apple Silicon รุ่นใหม่ที่มาพร้อม CPU แบบ 8-core มีประสิทธิภาพเร็วขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า และ GPU แบบ 10-core ที่มีประสิทธิภาพกราฟิกเร็วขึ้นด้วย อีกทั้งยังมี Neural Engine ที่เร็วขึ้น พื่อเร่งความเร็วให้กับงานด้านการเรียนรู้ของระบบ และแบนด์วิดท์หน่วยความจำที่เพิ่มขึ้น
ผลการทดสอบด้วย Geekbench 5 เพื่อทดสอบประสิทธิภาพการทำงานและการประมวลผล การทดสอบนี้จะทำการประมวลออกมาเป็นตัวเลขแบ่งออกเป็น 2 แบบคือ Single-Core และ Multi-Core หากได้คะแนนยิ่งสูงประสิทธิภาพการทำงานจะยิ่งดี โดยสามารถทำคะแนน Single-Core ได้ 1,888 คะแนน และ Multi-Core ทำได้ 8,469 คะแนน
iPad Pro 12.9 นิ้ว ออกแบบมาสำหรับการใช้งานขั้นสูง ไม่ว่จะเป็นการสร้างงานออกแบบ 3D ที่มีรายละเอียดสมจริง การสร้างโมเดล AR ที่มีความสลับซับซ้อน และการเล่นเกมที่มีคุณภาพกราฟิกระดับคอนโซลที่มีอัตราเฟรมเรทสูงได้
แบตเตอรี่ของ iPad Pro 12.9 นิ้ว มีความจุ 10758 mAh ถือว่าใช้งานได้ยาวนานทั้งวันสำหรับการใช้งานทั่วไป เข้าชมเว็บไซต์ต่างๆ เล่นโซเชียล เปิดหน้าจอเช็คข้อมูล เล่นเกมนิดหน่อย ตัดคลิปสั้นๆ และเปิดกล้องถ่ายรูปบ้าง อยู่ได้ราวๆ 9-10 ชั่วโมง
สรุป รีวิว iPad Pro 12.9 นิ้ว ชิป M2
iPad Pro 12.9 นิ้ว ชิป M2 เป็นแท็บเล็ตสำหรับผู้ใช้งานขั้นสูงที่ต้องการประสิทธิภาพสูงที่สุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ iPad ของ Apple อีกทั้งยังคงเป็นรุ่นเดียวที่มี Liquid Retina XDR Mini-LED LCD ใช้งานได้ลื่นไหลด้วย ProMotion รองรับการแสดงผลแบบ True Tone และขอบเขตสีกว้างแบบ P3 รวมไปถึงกล้องระดับโปร กล้องหน้าอัลตร้าไวด์ และรองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6E หากใครที่ใช้งาน iPad Pro ของปีที่แล้วอยู่ก็อาจไม่จำเป็นต้องใช้รุ่นใหม่ เว้นแต่จะอยากอัปเกรดประสิทธิภาพไปอีกระดับเพื่อการทำงานการออกแบบงานที่หนักๆ หรือตัดต่อวิดีโอ
สำหรับ iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว วางจำหน่ายในราคาเริ่มต้น 44,900 บาท สั่งซื้อได้แล้วที่ Apple Store, Apple Online Store และร้านค้าตัวแทนจำหน่าย