Connect with us

Apple News

พรีวิว iPad Pro ยกเครื่องภายในชุดใหญ่กับภายนอกที่คุ้นเคย

Published

on

iPad Pro รุ่นอัปเกรดใหม่ที่ปีนี้ยกเครื่องมาแบบจัดเต็มกว่าที่เคย ทั้งหน้าจอที่ยอดเยี่ยมกว่าเคย Liquid Retina XDR (ในรุ่น 12.9”) ชิปเซ็ต Apple M1 ที่แรงระดับ MacBook หน่วยความจำภายในที่เพิ่มขึ้นอย่างมากสูงสุดไป 2TB กันแล้ว 

วันนี้ทีมงาน iphone-droid.net ได้มีโอกาสสัมผัสเครื่องจริงเลยขอมาพรีวิวคร่าว ๆ ให้ชมกันสักหน่อย ถ้าพร้อมแล้ว มาเริ่มกันเลยครับ

ดีไซน์เดิม มี 2 ขนาด 11” กับ 12.9”

เริ่มต้นที่ดีไซน์อย่างที่เห็น รูปลักษณ์โดยรวมของ iPad Proในปีนี้นั้นไม่เปลี่ยนไปจากรุ่นปีที่แล้วนัก ยังคงใช้หน้าจอขอบบางเฉียบเหมือนเดิม บอดี้เป็น Metal Unibody ที่ให้ความพรีเมี่ยมสูงและแน่นอนยังมี 2 ขนาดหน้าจอเหมือนเดิมคือ 11” และ 12.9”

จอใหม่ Liquid Retina XDR

แต่จุดที่อัปเกรดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดเลยก็คือหน้าจอครับ iPad Pro รุ่น 12.9” นั้นเขยิบมาใช้จอ Mini-LED หรือที่ Apple เรียกว่า Liquid Retina XDR แล้วนั่นเอง ทำให้การแสดงผลสีสันนั้นสวยงามและมีมิติมากขึ้น

ทำให้เวลาเราดูคอนเทนต์พวก HDR นั้นจะแสดงผลได้สวยงามกว่ามาก มิติ ความลึก และคอนทราสของภาพนั้นแตกต่างกันชัดเจน สีดำนั้นดำสนิทเลย เท่าที่ลองดูคอนเทนต์ความละเอียดสูงนั้นเรียกว่าแตกต่างกันพอควรกับจอเดิมเลย แต่ทั้งนี้หน้าจอนี้จะมีอยู่แค่บน iPad Pro รุ่น 12.9” เท่านั้นนะครับ รุ่น 11” ยังใช้จอ LED ปกติอยู่

ในเรื่องการตอบสนอง iPad Pro ขึ้นชื่อเรื่องความลื่นไหลมาแต่ไหนแต่ไรด้วยการใช้หน้าจอแบบ ProMotion 120Hz เป็นเจ้าแรกของตลาดแท็บเล็ต บนรุ่นปี 2021 นี้ก็ยังคงความสมูทอย่างไร้ที่ตินี้อยู่ครับ

ลำโพง 4 ตัว เสียงยอดเยี่ยม

iPad Pro ยังมีลำโพงมาให้ 4 ตัวเหมือนเดิม มิติของเสียงบอกได้คำเดียวว่ายอดเยี่ยมครับ ดูหนังฟังเพลงหรือเล่นเกมนี่ได้อรรถรสสุด ๆ แน่นอน

พอร์ตการเชื่อมต่อแบบ Thunderbolt แล้ว

พอร์ตการเชื่อมต่อของ iPad Pro 2021 ถึงแม้จะเป็น USB-C เหมือนเดิม แต่รอบนี้อัปเกรดให้รองรับ Thunderbolt ได้แล้วด้วย ช่วยให้เราโอนถ่ายข้อมูลได้เร็วกว่าแบบเดิมมาก รวมถึงสามารถเชื่อมต่อกับหน้าจอนอกได้ถึงระดับ 6K เลยทีเดียวครับ

กล้องหลัง 2 ตัวมี LiDAR Scanner เหมือนเดิม

พลิกมาดูที่ด้านหลัง iPad Pro ก็ยังได้กล้องหลังมา 2 ตัวเหมือนเดิมคือเลนส์ Wide และเลนส์ Ultra Wide พร้อม LiDAR Scanner ที่ช่วยให้เราใช้งานพวก AR ได้แม่นยำมากขึ้น ส่วนเรื่องการถ่ายภาพเราคงไม่ได้เน้นเท่าไหร่มั้งบน iPad ทาง Apple เลยไม่ได้อัปเกรดจุดนี้มา

กล้องหน้า Ultra Wide มีฟีเจอร์ Center Stage

แต่ที่อัปเกรดเพิ่มเข้ามาจริง ๆ คือกล้องหน้านี่แหละครับ คราวนี้เพิ่มความละเอียดมาเป็น 12MP พร้อมเลนส์มุมกว้าง Ultra Wide ที่เก็บมุมมองได้กว้างแบบมหาศาลเลย 

และยังมีฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า Center Stage ที่จะคอยแพนกล้องตามใบหน้าของเราหรือขยายออกเมื่อมีผู้คนมากกว่าหนึ่งมาร่วมเฟรมด้วย แต่ฟีเจอร์นี้จะใช้ในแอปจำพวก Video Call อย่าง FaceTime หรือ Zoom เป็นหลักครับ

ขุมพลัง Apple M1

ถึงแม้รอบ ๆ ตัวเครื่องจะไม่แตกต่างจากเดิมมากนัก แต่ภายในจริง ๆ มีความต่างชัดเจนด้วยขุมพลังใหม่ Apple M1 หรือชิปเดียวกับ iMac รุ่น 24” นี่แหละ ถูกนำมาใส่บน iPad Pro เครื่องนี้เรียบร้อย แน่นอนว่าประสิทธิภาพจะต้องสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดดเลยล่ะครับ Apple เคลมว่า CPU เร็วขึ้น 50% ส่วน GPU แรงกว่าเดิม 40% เลย

อุปกรณ์เสริมชุดเดิมใช้ได้หมด

ด้วยดีไซน์ที่เหมือนเดิมแทบจะทั้งหมด อุปกรณ์เสริมทุกอย่างที่เคยใช้ได้บน iPad Pro รุ่นปีที่แล้ว ก็ยังใช้งานร่วมกับรุ่นนี้ได้หมด ทั้ง Apple Pencil 2 หรือ Magic Keyboard แม้ตัวเครื่องรุ่น 12.9” จะมีความหนาเพิ่มขึ้นมาอีกหน่อย แต่ก็ยังเชื่อมต่อกับของรุ่นก่อนได้แบบไม่มีปัญหาใด ๆ ครับ และเพิ่มเติมก็คือ Magic Keyboard รอบนี้มีสีขาวเข้ามาให้เลือกแล้วด้วยครับ

สรุปหลังลองจับ

เท่าที่ลองจับคร่าว ๆ ยังไม่เห็นความแตกต่างชัดเจนของ iPad Pro เท่าไหร่เมื่อเทียบกับโมเดลปีที่แล้ว เพราะดีไซน์และหลาย ๆ อย่างที่ใกล้เคียงกันไปหมด แต่จุดที่อัปเกรดมาได้น่าสนใจเลยก็คงหนีไม่พ้นเรื่องหน้าจอ Liquid Retina XDR ที่ช่วยให้จอสวยเด้งแบบสัมผัสได้ ใครที่รอคอย iPad Pro ที่จอสวยขึ้นอยู่ต้องถูกใจแน่นอน กล้องหน้าที่กว้างขึ้นมาก สาย Video Call ถูกใจ ส่วนนอกนั้นเรื่องชิป Apple M1 นี่ยังไม่ได้สัมผัสเต็ม ๆ ก็คงบอกอะไรไม่ได้เยอะเนาะ เอาไว้ได้ลองจริง ๆ แล้วจะมาเล่าให้อ่านแบบละเอียดอีกทีละกัน

ราคา iPad Pro ใหม่

iPad Pro ตอนนี้ก็เปิดวางจำหน่ายเรียบร้อยในประเทศไทย มีให้เลือกหลายรุ่นมากตั้งแต่ 128GB ไปจนถึง 2TB ราคาในแต่ละความจุก็ตามนี้เลยครับ

iPad Pro รุ่น 11 นิ้ว Wi-Fi

  • 128GB ราคา 27,900 บาท 
  • 256GB ราคา 31,400 บาท 
  • 512GB ราคา 38,400 บาท
  • 1TB ราคา 52,400 บาท
  • 2TB ราคา 66,400 บาท

iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว Wi-Fi

  • 128GB ราคา 37,900 บาท 
  • 256GB ราคา 41,400 บาท 
  • 512GB ราคา 48,400 บาท
  • 1TB ราคา 62,400 บาท
  • 2TB ราคา 76,400 บาท
Android News7 นาที ago

ตามคาด ! Snapdragon 8 Elite 2 จะผลิตโดย TSMC เหมือนเดิม บนกระบวนการ N3P

ปีที่แล้ว Qualcomm ไ...

Android News2 ชั่วโมง ago

ลือเร็ว…Galaxy S26 Ultra อาจได้เพิ่มความเร็วการชาร์จเป็น 65W และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ขึ้นถึง 5500mAh!?

เรียกว่าลือกันข้ามหน...

IT News3 ชั่วโมง ago

ตั้งแต่ต้นปีเลย ! Netflix บางประเทศเพิ่มราคาทุกแพ็กเกจแล้ววันนี้

วันนี้ Netflix ในปบา...

Android News4 ชั่วโมง ago

Conterpoint Research เผย vivo เป็นแบรนด์ที่ขายดีที่สุดในจีนปี 2024!

Counterpoint Researc...

Android News4 ชั่วโมง ago

รอนะเนี่ย !! เผยทีเซอร์ Nothing Phone (3) โชว์รูป Arcanine คาดจับมือกับการใช้โปเกมอน

ดูเหมือนว่าทาง Nothi...

Android News5 ชั่วโมง ago

มาแน่! ผู้บริหารยืนยัน Xiaomi 15 Ultra เตรียมเปิดตัวแบบ Global หลังช่วงตรุษจีนนี้

Xiaomi 15 Ultra อีกห...

IT News5 ชั่วโมง ago

ใช้ชั่วคราวเท่านั้น ! TikTok ในสหรัฐฯ ปลดแบน 75 วัน ก่อนต้องหาข้อยุติภายใน 5 เม.ย. นี้

ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน...

Apple News6 ชั่วโมง ago

คงมาแบบนี้ ! หลุดฝาหลัง iPhone 17 Series ปรับโฉมเป็นแถบกล้องแนวนอน

เดือนที่แล้ว เราได้เ...

Copyright © 2012 iphone-droid.net.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ ดูเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และจัดการได้ที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึก