Apple News
เทียบรุ่นใหญ่ iPhone 12 Pro Max และ iPhone 11 Pro Max ซื้อรุ่นเดิมที่ถูกกว่าหรือรุ่นใหม่ที่เทคโนโลยีจัดเต็ม
หลายคนอาจกำลังคิดถึงการซื้อ iPhone เครื่องใหม่อยู่ โดยเฉพาะตัวท็อปสุดอย่าง iPhone 12 Pro Max ที่แม้ว่าดีไซน์ภายนอกจะคล้ายกับ iPhone 11 Pro Max มาก แต่สเปคภายในก็มีความต่างกันพอสมควร แต่รุ่นเดิมก็มีราคาที่ถูกกว่าและสเปคภายในก็ใช้งานได้เร็วแรงอยู่ ในครั้งนี้เราจะมาเทียบกับให้ชมกันชัดๆ ครับ
หน้าจอแสดงผล
ด้าหน้าจอมีความคล้ายคลึงกันมากครับ โดย iPhone 12 Pro Max จะเป็นหน้าจอ Super Retina XDR ขนาด 6.7 นิ้ว ใหญ่ที่สุดของ iPhone พร้อมความละเอียด 2778 x 1284 พิกเซล 458 ppi และอัตราส่วนคอนทราสต์ 2,000,000:1 ส่วน iPhone 11 Pro Max ต่างกันตรงที่ขนาดเล็กกว่าที่ 6.5 นิ้ว และความละเอียด 2688 x 1242 พิกเซล 458 ppi ส่วนความสว่างก็เท่ากันทั้งหมดครับ ได้แก่ 800 นิต (ทั่วไป) และ 1,200 นิต (HDR)
กันน้ำและฝุ่นดีขึ้น
iPhone 12 Pro Max รองรับมาตรฐานกันน้ำแบบ IP68 เหมือนเดิมครับ แต่รองรับความลึกไม่เกิน 6 เมตร ภายในระยะเวลาสูงสุด 30 นาที
ขณะที่ iPhone 11 Pro Max ป้องกันที่ความลึกไม่เกิน 4 เมตร ภายในระยะเวลาสูงสุด 30 นาที
รองรับ 5G
แน่นอนว่า iPhone 12 Pro Max นั้นรองรับเครือข่าย 5G แบบ sub-6 GHz เพื่อความเร็วแรงในการใช้งาน ขณะที่ iPhone 11 Pro Max ยังรองรับแค่ 4G อยู่ครับ
สเปคภายใน
ฮาร์ดแวร์ภายในมีความแตกต่างกันมากอย่างที่เราทราบกัน โดย iPhone 12 Pro Max ใช้ A14 Bionic ขนาด 5 นาโนเมตรรุ่นแรกของโลก พร้อม RAM 6GB และมีความจุเริ่มต้นที่ 128GB ขณะที่ iPhone 11 Pro Max เป็นชิป A13 Bionic ที่ยังคงเร็วแรงอยู่ในปีนี้ ขณะที่เริ่มความจุเริ่มต้นที่ 64GB และมี RAM ที่ 4GB
แบตเตอรี่
iPhone 12 Pro Max มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 3687mAh รองรับ Fast Charge 20W รวมถึงการชาร์จแบบไร้สายในแบบ MagSafe และ Qi ส่วน iPhone 11 Pro Max มีแบตเตอรี่มีความจุมากกว่าที่ 3969mAh รองรับ Fast Charge 18W พร้อมการชาร์จแบบไร้สายในแบบ Qi เท่านั้น
กล้อง
ในเรื่องกล้องก็เป็นอีกส่วนที่ต่างกันพอสมควรครับ โดยรุ่นใหม่อย่าง iPhone 12 Pro Max มีกล้อง 3 เลนส์ ได้แก่ Wide, Ultra-Wide และ Telephoto ความละเอียด 12 ล้านพิกเซลเท่ากันทั้งหมดเช่นกันเดิม แต่มีเซ็นเซอร์ใหญ่กว่า iPhone 11 Pro Max แถมมีรูรับแสงกว้างกว่าที่เลนส์ Wide อยู่ที่ f/1.6 : f/1.8 พร้อมด้วย LiDar Scanner ที่เพิ่มเข้ามาใหม่ ทั้งยังรองรับถ่าย Night Mode ทุกเลนส์, ภาพถ่ายบุคคลในโหมดกลางคืน, ถ่าย Apple ProRAW ได้, บันทึกวิดีโอ HDR ในแบบ Dolby Vision สูงสุด 60fps และมีระบบกันสั่นไหวที่อยู่ในเซ็นเซอร์
ขณะที่กล้องหน้ามีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด f/2.2 เท่าเดิม แต่สามารถบันทึกวิดีโอ HDR ในแบบ Dolby Vision สูงสุด 30 fps, Night Mode และ Deep Fusion ด้วย
สำหรับ iPhone 12 Pro Max มีทั้งหมด 4 สี ได้แก่ กราไฟต์, เงิน, ทอง และแปซิฟิกบลู โดยมีราคา 3 ความจุ ได้แก่
- 128GB : 39,900 บาท
- 256GB : 43,900 บาท
- 512GB : 51,900 บาท
ที่มา : Apple