Smart Review
รีวิว iPhone 12 Pro Max หลังใช้งาน 1 เดือน เป็นอย่างไรและมีอะไรใหม่?
รีวิว iPhone 12 Pro Max หลังใช้งานไป 1 เดือน สมาร์ทโฟนที่รวมทุกเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจาก Apple ไม่ว่าจะเป็นชิปเซ็ต Apple A14 Bionic อัปเกรดกล้องถ่ายรูประดับ Pro และเป็นรุ่นแรกที่รองรับการใช้งาน 5G
สรุปข้อมูลและสเปค iPhone 12 Pro Max
- ขนาดตัวเครื่อง : 160.8 x 78.1 x 7.4 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก : 228 กรัม
- หน้าจอแสดงผล Super Retina XDR OLED กว้าง 6.7 นิ้ว (1284 x 2778 พิกเซล)
- หน่วยประมวลผล : Apple A14 Bionic
- RAM 6 GB
- ROM 128GB / 256GB / 512GB
- ระบบปฎิบัติการ iOS 14.2
- กล้องถ่ายรูปด้านหลัง
- เลนส์หลัก 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.6
- เลนส์ Telephoto 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
- เลนส์ Ultra Wide 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- LiDAR Scanner (Depth)
- กล้องหน้า 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 และ 3D Depth Sensing
- รองรับ 5G
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6, Bluetooth 5.0, NFC และพอร์ต Lightning
- แบตเตอรี่ความจุ 3687mAh ชาร์จเร็ว 20W และ Power Delivery 2.0
- ตัวเครื่องกันน้ำได้ IP68 (ความลึกไม่เกิน 6 เมตร ภายในระยะเวลาสูงสุด 30 นาที) ตามมาตรฐาน IEC 60529
แกะกล่อง ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล
iPhone 12 Pro Max มาในกล่องที่บางเบากว่าเดิม โดยอุปกรณ์ที่มีให้ในกล่องจะประกอบไปด้วยตัวเครื่อง iPhone, สาย USB‑C เป็น Lightning, เข็มสำหรับจิ้มถาดใส่ซิม และเอกสารคู่มือ
iPhone Pro 12 Pro Max มาพร้อมดีไซน์ขอบแบนใหม่ ซึ่งกรอบตัวเครื่องเป็นสแตนเลสสตีลที่มีความมันเงา ทำให้ตัวเครื่องสวยหรูและมีความพรีเมี่ยม
สำหรับกระจกด้านหลังเป็นผิวด้านและด้านหน้าแบบ Ceramic Shield ซึ่งเป็น iPhone รุ่นแรกที่มีการนำเซรามิกมาปกป้องกระจกหน้าจอ ที่ผ่านมาสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ก็จะมีรุ่นที่เป็นเซรามิกหลายรุ่น แต่ทุกรุ่นจะถูกนำมาใช้เป็นฝาหลัง
ตัวเครื่องทนนํ้าได้มาตรฐาน IP68 ทนน้ำได้ลึกถึง 6 เมตร นาน 30 นาที โดยสีที่เห็นในรีวิวนี้เป็นสีกราไฟต์และข้างๆ กันเป็นสีแปซิฟิกบลูใหม่
ขอบด้านซ้ายจะมีปุ่มเพิ่ม/ลดระดับเสียง และปุ่มเปิด/ปิดเสียง รวมไปถึงถาดใส่ซิม
ขอบด้านขวามีปุ่มด้านข้าง
ขอบด้านล่างมีไมโครโฟน, พอร์ต Lightning และลำโพง
ด้านหลังมีกล้อง 3 ตัว ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ตัวเลนส์มีขนาดใหญ่และนูนขึ้นมาเหนือฝาหลัง โดยมีเซ็นเซอร์กล้องอีกตัวคือ LiDAR Scanner และแฟลช Dual Tone
หน้าจอแสดงผลของรุ่นนี้เป็นจอภาพ Super Retina XDR ขนาดกว้าง 6.7 นิ้ว เป็นรุ่นแรกของ iPhone ที่มีหน้าจอที่ใหญ่ที่สุด และเป็นจอที่คมชัด ให้ความสว่างสูงสุดที่ 1,200 นิต อีกทั้งยังรองรับ HDR10 และ Dolby Vision ด้วย
หน้าจอของ iPhone 12 Pro Max มีอัตราส่วนคอนทราสต์ 2,000,000:1 ทำให้การแสดงผลที่เป็นสีดำให้สีดำที่ดำสนิทและแต่ละพิกเซลก็มีแหล่งกำเนิดแสงของตัวเอง จะเห็นว่าความคมชัดและสีสันบนหน้าจอนั้นสวยมากๆ ดูหนังหรือคอนเทนต์จาก Apple TV+, iTunes และแอพอื่นๆ ที่รองรับคอนเทนต์ HDR ได้สีสันที่สวยสมจริง
ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน
iPhone 12 Pro Max มาพร้อม iOS 14 เรียกได้ว่าเป็นระบบปฏิบัติการที่พลิกโฉม iPhone เลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นวิดเจ็ตที่ออกแบบใหม่บนหน้าจอโฮม การจัดระเบียบแอพโดยอัตโนมัติด้วยคลังแอพ และล่าสุดอัปเดทเป็น iOS 14.3
วิดเจ็ตได้รับการออกแบบใหม่ให้สามารถวางบนหน้าจอโฮมได้โดยตรง มีทั้งขนาดเล็ก กลาง และใหญ่ช่วยให้สามารถเลือกปริมาณของข้อมูลที่จะแสดงได้ หรือจะเป็นการซ้อนวิดเจ็ตก็ทำได้
คลังแอพจัดหมวดหมู่แอพทั้งหมดโดยอัตโนมัติ อิงตามปัจจัยต่างๆ เช่น เวลาของวันหรือตำแหน่งที่ตั้ง เป็นต้น โดยมีหมวดหมู่เพิ่มล่าสุดสำหรับแสดงแอพที่เพิ่งดาวน์โหลดมาจาก App Store รวมทั้งแอพคลิปที่เปิดใช้ล่าสุดด้วย
สายโทรเข้าและ FaceTime จะแสดงที่ด้านบนสุดของหน้าจอ ทำให้ทำงานอย่างอื่นได้อย่างต่อเนื่อง
Memoji มาพร้อมทรงผมและเครื่องประดับศีรษะใหม่ๆ มีท่าทางใหม่ด้วย เช่น ชนกำปั้น กอด หรือหน้าแดง มีตัวเลือกช่วงอายุและตัวเลือกหน้ากากป้องกันใบหน้า
iPhone 12 Pro Max รองรับการใช้งานในแนวนอนสำหรับบางแอปพลิเคชั่น เช่น แอปการตั้งค่า เมล ข้อความ และ Safari เป็นต้น
สำหรับโหมดมืด สามารถเปิดใช้งานได้ด้วยตนเองหรือตั้งเวลาได้ โดยระบบจะเปลี่ยนพื้นหลังเป็นสีดำเพื่อให้สบายตามากขึ้นและมีวอลเปเปอร์สำหรับใช้งานร่วมกับโหมดมืดด้วย
โหมด PiP หรือ Picture-in-Picture เป็นเป็นฟีเจอร์ที่หลายคนน่าจะถูกใจกันอย่างแน่นอน สำหรับย่อขนาดวิดีโอที่กำลังเล่นอยู่หรือย่อแอพอื่นๆ เช่น Apple TV, Podcasts, Safari, FaceTime, iTunes, Home, YouTube และอื่นๆ บางแอปที่รองรับ
iPhone 12 Pro Max รองรับการใช้งาน 5G และมีตัวเลือกสำหรับเปิดใช้งาน 5G เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานของแต่ละคนได้ หรือจะเลือกเปิดใช้งานโหมดข้อมูลอัจฉริยะ เมื่อความเร็ว 5G ไม่ดี ตัวเครื่องจะสลับไปใช้ LTE โดยอัตโนมัติ เพื่อประหยัดแบตเตอรี่ได้ดีกว่า
ประสิทธิภาพ การเล่นเกม และแบตเตอรี่
iPhone 12 Pro Max เป็นสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมชิปเซ็ต Apple A14 Bionic และเป็นครั้งแรกที่สร้างขึ้นโดยใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ 5 นาโนเมตร โดยผลการทดสอบด้วย Geekbench 5 เพื่อทดสอบประสิทธิภาพการทำงานและการประมวลผล การทดสอบนี้จะทำการประมวลออกมาเป็นตัวเลขแบ่งออกเป็น 2 แบบคือ Single-Core และ Multi-Core หากได้คะแนนยิ่งสูงประสิทธิภาพการทำงานจะยิ่งดี iPhone 12 Pro Max ทำคะแนน Single-Core ได้ 598 คะแนน และ Multi-Core ทำได้ 1,777 คะแนน
สำหรับสายเกมสามารถเลือกเล่นกันได้ใน Apple Arcade ซึ่งตอนนี้ก็มีเกมนับร้อยให้เลือกเล่นได้ไม่อั้นเมื่อสมัครสมาชิก ก็ขอทดลองเล่นเกม Sonic Racing เจ้าเม่นนักซิ่ง ซึ่งเป็นเกมแข่งรถประลองความเร็วที่มาพร้อมกราฟิกคุณภาพระดับคอนโซล เล่นได้ลื่นๆ ภาพสวยสะใจมากๆ
ทดสอบเล่นเกม MMORPG ภาพสวยอลังการอย่าง Dragon Raja ดูบ้าง ซึ่งเป็นเกมที่พัฒนาบน Unreal Engine 4 ทำให้กราฟฟิกสวยงามมาก สีสันบนหน้าจอสดใส และเล่นได้ลื่นๆ ไม่มีสะดุด
เกมที่จะไม่พูดถึงเลยก็คงไม่ได้อย่าง RoV ที่ฮิตกันไม่หยุดในไทย เล่นบน iPhone 12 Pro Max ได้สะใจมากขึ้นด้วยหน้าจอที่มีขนาดใหญ่ และในเรื่องของความลื่นไหลก็คงไม่ต้องพูดถึง เพราะลื่นๆ กันอยู่แล้วตั้งแต่รุ่นก่อนๆ
เกม RoV ในโหมดเฟรมเรตสูง วิ่งนิ่งมากๆ ระหว่าง 58-60fps แม้แต่ตอนเข้าร่วมทีมไฟต์ก็นิ่ง แถมเสียงเกมก็มาแบบสเตอริโอจากลำโพงซ้ายขวาอีกด้วย
สำหรับแบตเตอรี่ของ iPhone 12 Pro Max ใช้งานทั่วไปก็อยู่ได้ราวๆ ครึ่งวันหรือ 5-6 ชั่วโมง แต่ถ้าใช้เปิดกล้องถ่ายรูป เล่นโซเชียลบ่อยๆ หรือเล่นเกมต่อเนื่องสักชั่วโมงก็อยู่ได้นานประมาณ 4-5 ชั่วโมง
iPhone 12 Pro Max รองรับการชาร์จเร็ว 20W ผ่านสาย และชาร์จเร็วไร้สาย 15W ผ่านที่ชาร์จ MagSafe ซึ่งต้องใช้หัวชาร์จที่มีกำลังไฟ 20W ขึ้นไป
กล้องถ่ายรูป
iPhone 12 Pro Max มีกล้องสำหรับถ่ายรูปด้านหลัง 3 ตัว ซึ่งหลายคนอาจมองว่าเหมือนเดิม ไม่ต่างจาก iPhone 11 Pro Max แต่จริงๆ แล้ว Apple ได้อัปเกรดกล้องใหม่ โดยกล้องหลักมีพิกเซลใหญ่ขึ้น รูรับแสงที่กว้างขึ้นถึง f/1.6 รองรับ Apple ProRAW และบันทึกวิดีโอ HDR ในแบบ Dolby Vision สูงสุด 60fps
กล้องหลัก 12 ล้านพิกเซล f/1.6 และพิกเซลขนาดใหญ่ 1.7 ไมครอน ทำให้การถ่ายภาพและวิดีโอดีขึ้น โดยเฉพาะการถ่ายภาพในที่แสงน้อยหรือตอนกลางคืนจะช่วยลด Noise ได้ดีขึ้นกว่าเดิมอย่างชัดเจน และระบบกันสั่น OIS แบบใหม่ที่เป็นการปรับตำแหน่งเซ็นเซอร์ ทำให้ถือได้นิ่งมากขึ้น ถ้าใครได้ลองถือถ่ายวิดีโอจะเห็นได้เลยว่าภาพที่ได้นั้นนิ่งมากจริงๆ และรายละเอียดการเก็บแสงสีแม้ในที่แสงน้อยก็ทำได้ดี
โหมดปกติกล้องหลัก
iPhone 12 Pro Max มีกล้องตัวแรกและตัวเดียวในโลกที่บันทึกวิดีโอแบบ Dolby Vision ได้โดยตรง การบันทึกวิดีโอ HDR แบบ 10 บิตได้ ทำให้เก็บรายละเอียดสีได้มากขึ้น 60 เท่า สูงสุด 700 ล้านสี และ Dolby Vision ยังทำให้วิดีโอดูมีชีวิตชีวามากขึ้น ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังดูหนังที่ฉายในโรงภาพยนตร์ และสามารถสามารถปรับแก้วิดีโอ Dolby Vision ได้ทันทีบน iPhone
การถ่ายภาพย้อนแสงด้วยโหมด HDR ทำได้สวยและให้สีสันที่สมจริงมากขึ้น เพราะตอนนี้กล้องมีความฉลาดในการเรียนรู้เพื่อทำความเข้าใจฉากต่างๆ และปรับแต่งเฉพาะจุด และในชิปรุ่นใหม่ยังมาพร้อม Deep Fusion สามารถใช้ได้ในกล้องทุกตัวของ iPhone 12 Pro Max และมาพร้อม Neural Engine ทำให้ประมวลผลภาพได้แบบพิกเซลต่อพิกเซลเพื่อให้ได้ภาพถ่ายที่มีรายละเอียด พื้นผิว และลด Noise ได้ดีมากขึ้น
โหมดถ่ายภาพบุคคลทำได้เนียนมากขึ้น ตัดขอบเส้นผมได้ดีกว่าเดิม และตอนนี้ถ่ายสิ่งของอย่างเช่นหลอดกาแฟก็ไม่ถูกเบลอหายบางส่วนแล้ว ตัดขอบได้แม่นยำมากขึ้น
ตอนนี้ iPhone 12 Pro Max รองรับ Apple ProRAW แล้วหลังจากอัปเดทเวอร์ชั่น iOS 14.3 ซึ่งเป็นการถ่ายภาพไฟล์ RAW ทำให้สามารถแก้ไขและปรับแต่งรูปภาพได้ยืดหยุ่นระดับโปรได้
กล้อง Ultra Wide 12 ล้านพิกเซล ถ่ายภาพุมกว้างพิเศษ 120 องศา เก็บภาพในที่แคบได้ง่ายมากขึ้น และถ้าเป็นภาพวิวก็จะดูอลังการ หรือถ้าเป็นภาพตึกสูงๆ ก็เก็บได้ครบ ไม่ต้องถอยไกลๆ
กล้อง Ultra Wide ในโหมดกลางคืน ต้องบอกว่าทำได้ดีมากขึ้นชัดเจน การคอนทราสต์และการโฟกัสใบหน้าก็ทำได้ดีกว่าเดิม ในขณะที่รายละเอียดของภาพมีความคมชัดและเก็บแสงไฟในตอนกลางคืนได้ดี
สำหรับกล้อง Telephoto 12 ล้านพิกเซล เป็นกล้อง 65 มม. ซูมได้ไกล 2.5 เท่า สำหรับถ่ายแบบโคลัสอัพหรือครอปได้ดีกว่าเดิม
LiDAR Scanner เป็นเซ็นเซอร์ที่ช่วยกล้องหลักและการถ่ายภาพบุคคลในโหมดกลางคืน เก็บรายละเอียดความลึกตื้นและโฟกัสอัตโนมัติได้เร็วขึ้นแม้ในสภาพแสงน้อย ซึ่งหลายคนก็จะนับตัวนี้เป็นกล้องตัวที่ 4 ของ iPhone 12 Pro Max ด้วย
นอกจากนี้แล้ว LiDAR Scanner ก็ยังเข้ามาช่วยในเรื่องของการใช้งานร่วมกับเทคโนโลยีความจริงเสมือนหรือ AR สำหรับใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชั่นที่รองรับได้สมจริงมากขึ้น
กล้องหน้า TrueDepth ของ iPhone 12 Pro Max ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล เซลฟี่ในโหมดกลางคืน และบันทึกวิดีโอ Dolby Vision HDR ความละเอียด 4K ได้ด้วย
สรุปจุดเด่น
- iPhone 12 Pro Max มาพร้อมออกแบบที่หรูหราระดับพรีเมี่ยมและทนน้ำได้
- รองรับ 5G
- หน้าจอแสดผลชนิด OLED ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาใน iPhone และมีสีสันคมชัด
- เสียงลำโพงที่ออกมาจากลำโพงด้านบนให้ระดับเสียงที่ดังขึ้นกว่าในรุ่นก่อนๆ ทำให้เสียงสเตอริโอมีมิติมากขึ้น
- รองรับชาร์จเร็ว
- กล้องถ่ายรูปทำได้ดีมากๆ ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ รวมไปถึงมี LiDAR Scanner สำหรับใช้งานแอปพลิเคชั่นเฉพาะได้เต็มประสิทธิภาพ
จุดสังเกตเพิ่มเติม
- ไม่มีหูฟังและอะแดปเตอร์สำหรับชาร์จในกล่อง
- แบตเตอรี่ค่อนข้างหมดไว