iPhone 13 และ iPhone 13 Pro วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยเรียบร้อย รีวิวฉบับเต็มของเราก็มีแล้วด้วยที่นี่ (รีวิว iPhone 13 | รีวิว iPhone 13 Pro Max) แต่ในบทความนี้เราจะขอพาไปชมสีสันทั้งหมดของ iPhone 13 และ iPhone 13 Pro กันสักหน่อย เผื่อใครที่กำลังลังเลว่าจะสีไหนดีเนาะ พร้อมแล้วมาชมพร้อม ๆ กันเลยครับ
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/10/Preview_iPhone-13.jpg)
iPhone 13 มีให้เลือก 5 สี
ขอเริ่มที่ iPhone 13 และ iPhone 13 mini ก่อนเลยเนาะ ปีนี้ยังคงมีให้เลือกมากถึง 5 สีเหมือนเดิม แต่ชื่อสีมีการปรับใหม่อยู่ รวมแล้ว 5 สีที่ว่ามานี้จะประกอบด้วย
- ชมพู
- น้ำเงิน
- มิดไนท์
- สตาร์ไลท์
- (PRODUCT) RED
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/10/Preview_iPhone-13-01.jpg)
สีมิดไนท์
ซึ่งโทนของแต่ละสีจะมีความแตกต่างจากรุ่นก่อนอยู่ด้วยครับ ขอเริ่มที่สีมิดไนท์ก่อนเลย สีนี้ถ้าดูทั่วไปก็คงคิดว่าเป็นสีดำแบบเดิม ๆ แน่นอน แต่ถ้าตัวเครื่องมีการสะท้อนกับแสงสีจะออกโทนน้ำเงินเข้ม ๆ เข้ามาด้วย เราว่าสีดำแบบนี้ก็ดูมีอะไรดีไม่ทื่อจนเกินไป
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/10/Preview_iPhone-13-04.jpg)
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/10/Preview_iPhone-13-02.jpg)
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/10/Preview_iPhone-13-05.jpg)
สีน้ำเงิน
ต่อมาเป็นสีน้ำเงินที่ปรับโทนให้อ่อนลงจากปีที่แล้วบน iPhone 12 อีกหน่อยครับ สีจะมีความลงตัวมากขึ้น ไม่เข้มจนเกินไป ละก็ออกโทนร้อนกว่าเดิมอีกนิดทำให้เป็นสีน้ำเงินที่ดูเข้าที่เข้าทางกว่าเดิมอีก
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/10/Preview_iPhone-13-06.jpg)
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/10/Preview_iPhone-13-08.jpg)
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/10/Preview_iPhone-13-07.jpg)
สีสตาร์ไลท์
สตาร์ไลท์หรือหลายคนอาจจะเรียกว่าสีขาว ใช่ครับภายนอกถ้าเรามองจริง ๆ ก็คงคิดว่าเป็นสีขาวแต่ด้วยความที่ Apple ตั้งชื่อเป็นสตาร์ไลท์ จึงยังมีความแตกต่างอยู่นิดหน่อยตรงขอบตัวเครื่องครับ จากเดิมถ้าเป็นสีขาวจะตัดกับขอบเครื่องสีเงินอมทองนิด ๆ แต่รอบนี้จะมีความทองที่อุ่นขึ้นสดขึ้นอีกนิด ทำให้เป็นสีที่สวยขึ้นไปอีก
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/10/Preview_iPhone-13-10.jpg)
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/10/Preview_iPhone-13-09.jpg)
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/10/Preview_iPhone-13-11.jpg)
(PRODUCT) RED
(PRODUCT) RED แดงที่เข้มถึงใจเลยปีนี้ สีแดง (PRODUCT) RED บน iPhone 12 ถ้ายังจำกันได้โทนจะออกสว่างหน่อย เกือบ ๆ ไปทางส้มเข้มแล้ว แต่ในปีนี้สีแดงจะเป็นสีแดงสดที่ตัดกับขอบเครื่องสีแดงเข้ม ลงตัวขึ้นมาก ใครที่ชอบสีแดงแบบสด ๆ ต้องถูกใจ (PRODUCT) RED ของ iPhone 13 ในปีนี้แน่นอน
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/10/Preview_iPhone-13-12.jpg)
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/10/Preview_iPhone-13-14.jpg)
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/10/Preview_iPhone-13-13.jpg)
สีชมพู
ปิดท้ายที่สีชมพูที่เป็นสีใหม่ของปีนี้ ชมพูของ iPhone 13 จะมีความพาสเทลเบา ๆ แต่ก็ไม่ชมพูจ๋าจนแสบตา ออกโทนนวล ๆ ที่มีความสดน้อยมาก แทบจะเป็นเงินไปแล้ว แต่ความอ่อนนี้เราจึงคิดว่าเป็นสีที่เข้าได้กับหลายคนมากและดูหรูมีระดับกว่าแบบเข้ม ๆ ด้วยซ้ำ สวยมากครับสีนี้
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/10/Preview_iPhone-13-15.jpg)
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/10/Preview_iPhone-13-16.jpg)
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/10/Preview_iPhone-13-17.jpg)
ดูสีสันไปครบถ้วนแล้ว ขอมาดูดีไซน์ภายนอกที่แตกต่างจากรุ่นก่อนกันอีกสักนิด จุดแรกที่เราขอพูดถึงคือการวางตำแหน่งกล้องครับ ด้วยความที่เซ็นเซอร์กล้องบน iPhone 13 และ iPhone 13 mini นั้นมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น จึงไม่สามารถวางตำแหน่งเท่ากับรุ่นก่อนได้แล้ว Apple จึงเลือกว่าในแนวทะแยงซึ่งก็ช่วยให้ดีไซน์เปลี่ยนไปด้วย เพราะถ้าไม่มีตรงนี้เราคงแยกไม่ออกจริง ๆ
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/10/Preview_iPhone-13-18.jpg)
และด้วยขนาดเซ็นเซอร์ที่ใหญ่ขึ้นทำให้โมดูลกล้องด้านหลังจะมีความใหญ่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลย ยิ่งบน iPhone 13 mini ที่มีขนาดกล้องเท่ากับ iPhone 13 แต่ตัวเครื่องเล็กกว่าจะเห็นว่ากล้องนั้นเป็นขนาดที่มหึมาไม่น้อยเลย
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/10/Preview_iPhone-13-19.jpg)
ขอบตัวเครื่องแทบจะเหมือนกับรุ่นก่อนเลย ฝาหลังยังคงเป็นแบบมันวาวตัดกับกรอบอลูมิเนียมที่เป็นผิวด้านตรงนี้เรายังคงชอบมาก ๆ นะ เพราะเวลาจับถือจะไม่เก็บรอยนิ้ว แต่ความหนาของ iPhone 13 และ iPhone 13 mini จะมากกว่ารุ่นก่อนนิดหน่อย (7.65 มม. vs 7.4 มม.)
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/10/Preview_iPhone-13-20.jpg)
ส่วนด้านหน้า iPhone 13 และ iPhone 13 mini ยังมีขนาดหน้าจอ 6.1″ และ 5.4″ เท่าเดิม ทรงก็คล้ายเดิม แต่ถ้ามาสังเกตที่รอยบากบนหน้าจอแล้วจะมีความแคบกว่ารุ่นก่อน เพราะรอบนี้ Apple ได้ย้ายตำแหน่งของลำโพงสนทนาขึ้นไปด้านบนสุดชิดขอบและวางเซ็นเซอร์ Face ID กับกล้องหน้าเรียงกันเลยครับ
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/10/Preview_iPhone-13-21.jpg)
โดยรวมในเรื่องดีไซน์ของ iPhone 13 และ iPhone 13 mini ก็จะคล้ายกับ iPhone 12 เลย จะมีจุดแตกต่างอยู่นิดหน่อยทั้งการวางกล้องใหม่ รอยบากที่เล็กลง หรือที่ชัดหน่อยก็คงเป็นโทนสีใหม่นั่นเองครับ แต่ถึงแม้ภายนอกจะมีความคล้ายกันมาก แต่เราบอกตรงนี้ก่อนเลยว่าเคสเดิมที่เคยใช้บน iPhone 12 ไม่สามารถใช้ร่วมกันได้นะครับ
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/10/Preview_iPhone-13-22-600x260.jpg)
iPhone 13 Pro มีให้เลือก 4 สี
มาต่อที่รุ่น Pro กันบ้าง iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max จะมีให้เลือก 4 สีครับ มีสีใหม่ชื่อว่า เซียร์ร่าบลู (Sierra Blue) รวมกับ 3 สีที่ใช้ชื่อเดิมแล้วจะประกอบไปด้วย
- เซียร์ร่าบลู
- เงิน
- ทอง
- กราไฟต์
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/10/Preview_iPhone-13-23.jpg)
สีเซียร์ร่าบลู
เราขอเริ่มที่สีเซียร์ร่าบลูที่เป็นสีใหม่ก่อนเลยละกันครับ รอบนี้ Apple ใช้โทนสีฟ้าอ่อน ๆ แบบพาสเทลมาเลย แตกต่างจากแปซิฟิกบลูของปีที่แล้วที่จะใช้โทนเข้ม ตรงนี้น่าจะตอบโจทย์คนที่ชอบสีสว่าง ๆ แต่ก็ดูมีลูกเล่นกว่าสีเงินทั่วไปครับ เพราะนอกจากสีฟ้าอ่อน ๆ แบบละมุนของฝาหลังแบบด้านแล้ว กรอบตัวเครื่องยังมีความฟ้าแบบมันวาวอยู่ด้วย เราว่าเป็นสีฟ้าที่ดูลงตัวมากเลย ไม่แรงจนเกินไปและก็ไม่อ่อนจนไม่ชัด
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/10/Preview_iPhone-13-24.jpg)
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/10/Preview_iPhone-13-25.jpg)
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/10/Preview_iPhone-13-26.jpg)
สีทอง
มาต่อกับสีทองที่ปีที่แล้วบน iPhone 12 Pro มีการปรับโทนให้อ่อนลงมาก จนเกือบเป็นสีครีมไปแล้ว ปีนี้ Apple เลือกปรับโทนให้ดูสดขึ้นอีกหน่อย มีความเป็นทองมากขึ้น ยิ่งบวกกับกรอบเครื่องสแตนเลสที่สีทองแบบอร่ามเลยด้วย ยิ่งทำให้ดูหรูหราเข้าไปอีกครับ
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/10/Preview_iPhone-13-27.jpg)
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/10/Preview_iPhone-13-28.jpg)
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/10/Preview_iPhone-13-29.jpg)
สีเงิน
ต่อมาเป็นสีมาตรฐานอย่างสีเงิน ปีนี้ก็ยังคงความเรียบง่ายแต่ลงตัวเหมือนเดิม ความขาวของฝาหลังที่เรียกว่าคลีนเอามาก ๆ กรอบเครื่องก็เป็นสีเงินของสแตนเลสแบบเพียว ๆ เลย สีนี้ไม่ต่างจากรุ่นก่อนเท่าไหร่ ใครที่ยังชอบความขาวแบบบริสุทธิ์แบบนี้อยู่ คงถูกใจครับ
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/10/Preview_iPhone-13-30.jpg)
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/10/Preview_iPhone-13-31.jpg)
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/10/Preview_iPhone-13-32.jpg)
สีกราไฟต์
ปิดท้ายที่สีกราไฟต์ ปีนี้ก็ยังเป็นโทนเทาแบบเดิมเป๊ะ ไม่ได้เข้มขึ้นหรือปรับโทนใด ๆ เลยครับ ยังเป็นสีที่คลาสสิคที่เชื่อว่าหนุ่ม ๆ หลายคนคงเลือกได้ไม่ยากนักครับ
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/10/Preview_iPhone-13-35.jpg)
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/10/Preview_iPhone-13-34.jpg)
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/10/Preview_iPhone-13-36.jpg)
มาดูดีไซน์โดยรวมกันต่ออีกหน่อยเนาะ กล้องหลังของ iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max จะไม่ได้เปลี่ยนการวางตำแหน่งเหมือน iPhone 13 ยังคงวางเป็นสามเหลี่ยมเหมือน iPhone 12 Pro แต่จุดที่แตกต่างชัดเจนคือ “ขนาด” ของโมดูลกล้องครับ ด้วยการอัปเกรดเซ็นเซอร์กล้องใหม่ทั้ง 3 ตัว ทำให้กล้องนั้นมีขนาดใหญ่ขึ้นมากโดยเฉพาะกับ iPhone 13 Pro (ไม่ Max)
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/10/Preview_iPhone-13-37.jpg)
ที่ด้านหน้ารอยบากก็ลดขนาดลงไปอีกเช่นเดียวกับ iPhone 13 ครับ แต่ก็ไม่ได้เพิ่มการแสดงผลใด ๆ เข้ามา ตำแหน่งไอคอนที่ด้านบนยังเหมือนเดิม แม้พื้นที่จะเพิ่มมากขึ้นอีกหน่อยแต่ยังไม่มีพื้นที่ให้เปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่อยู่ดี
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/10/Preview_iPhone-13-38.jpg)
หน้าจอ ProMotion มาแล้ว! แต่จุดที่เราประทับใจที่สุดบน iPhone 13 Pro นอกจากเรื่องสีใหม่แล้วก็คือหน้าจอนี่แหละครับ แม้รอยบากจะไม่ได้ต่างจนชัดเจนมาก แต่การาตอบสนองของหน้าจอแบบ Adaptive ProMotion ที่สามารถปรับ refresh rate ได้ตั้งแต่ 10Hz – 120Hz นั้นช่วยให้เราใช้งานได้อย่างลื่นไหลจริง ๆ มันลื่นมาก!
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/10/Preview_iPhone-13-39.jpg)
ครบทุกสีแล้วนะ
เป็นอย่างไรบ้างครับ ให้ชมกันครบทุกสีแล้วสำหรับ iPhone 13 และ iPhone 13 Pro น่าจะช่วยให้ใครหลายคนตัดสินใจได้บ้างว่าสีไหนที่เหมาะกับเราเนาะ ส่วนการใช้งานจริงสามารถอ่านได้ที่รีวิวฉบับของเราได้เลยที่นี่ (รีวิว iPhone 13 | รีวิว iPhone 13 Pro Max)
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/10/Preview_iPhone-13-40.jpg)
ราคา iPhone 13 และ iPhone 13 Pro
สำหรับราคาของ iPhone 13, iPhone 13 mini, iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max ก็มีดังนี้ครับ
ราคา iPhone 13 mini
- iPhone 13 mini (128GB) ราคา 25,900 บาท
- iPhone 13 mini (256GB) ราคา 29,900 บาท
- iPhone 13 mini (512GB) ราคา 37,900 บาท
ราคา iPhone 13
- iPhone 13 (128GB) ราคา 29,900 บาท
- iPhone 13 (256GB) ราคา 33,900 บาท
- iPhone 13 (512GB) ราคา 41,900 บาท
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/09/iPhone13-Price.jpg)
ราคา iPhone 13 Pro
- iPhone 13 Pro (128GB) ราคา 38,900 บาท
- iPhone 13 Pro (256GB) ราคา 42,900 บาท
- iPhone 13 Pro (512GB) ราคา 50,900 บาท
- iPhone 13 Pro (1TB) ราคา 58,900 บาท
ราคา iPhone 13 Pro Max
- iPhone 13 Pro Max (128GB) ราคา 42,900 บาท
- iPhone 13 Pro Max (256GB) ราคา 46,900 บาท
- iPhone 13 Pro Max (512GB) ราคา 54,900 บาท
- iPhone 13 Pro Max (1TB) ราคา 62,900 บาท
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2021/09/iPhone13Pro-Price.jpg)