18 




หลังจากที่คาดการณ์กันว่า iPhone 13 Series อาจเปิดตัวในเดือนกันยายนนี้ โดยมีทั้งหมด 4 รุ่น ได้แก่ iPhone 13 mini, iPhone 13, iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max ซึ่งก็มีข่าวลือสเปคต่างๆ ออกมาให้ติดตามเรื่อยๆ ซึ่งวันนี้เราจะมาสรุปกันครับ (ทั้งหมดในบทความนี้ยังไม่ใช่ข้อมูลทางการ)

ดีไซน์
- ตัวเครื่องหนาขึ้นกว่า iPhone 12 Series จาก 7.4 มม. เป็นประมาณ 7.57 มม.
- โมดูลกล้องหลังของ iPhone 13 mini และ iPhone 13 ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม
- กล้องหลัง iPhone 13 Pro ใหญ่ขึ้นกว่า iPhone 12 Pro Max จาก 36 มม. เป็น 37 มม. (วัดแนวทแยง)
- โมดูกล้องหลังหนาขึ้นใน iPhone 13 อยู่ที่ 2.51 มม. ส่วน iPhone 13 Pro อยู่ที่ 3.65 มม. จากเดิมที่หนา 1.5 – 1.7 มม.
- ปรับตำแหน่งปุ่ม โดยปุ่ม Power, ปุ่มปิดเสียง และปุ่มระดับเสียงจะขยับลงมาเล็กน้อย
- สีใหม่ : สีดำ Graphite เข้มขึ้น และมีสีบรอนซ์

หน้าจอแสดงผล
- รอยบากเล็กลง พร้อมด้วยกล้องหน้าที่เปลี่ยนจากทางขวามาอยู่ทางซ้ายของลำโพง ส่วนลำโพงจะขยับขึ้นไปบนสุด เพื่อให้หน้าจอมีสักส่วนมากขึ้น
- หน้าจอ ProMotion รองรับ refresh Rate สูงสุด 120Hz และใช้งานแบบ LTPO เพื่อประหยัดพลังงาน (ได้เฉพาะรุ่น Pro)
- Always-on Display คล้ายกับที่อยู่ใน Apple Watch และอาจใช้ได้แค่ในรุ่น Pro เช่นกัน

หน่วยประมวลผลและการเชื่อมต่อ
- หน่วยประมวลผลหลักเป็น A15 Bionic ขนาด 5nm เพิ่มประสิทธิภาพและการประหยัดพลังงาน
- 5G ที่เร็วขึ้น ด้วยโมเด็ม Snapdragon X60 รุ่นที่ 3 สามารถใช้งาน mmWave และ sub-6GHz พร้อมกันได้เพื่อความเร็วและการครอบคลุมที่มากขึ้น
- การเชื่อมต่อผ่านดาวเทียมโคจรต่ำ (LEO) เพื่อส่งข้อความในกรณีฉุกเฉิน และไม่มีสัญญาณ 4G/5G อยู่
- รองรับ Wi-Fi 6E เพิ่มประสิทธิภาพ, ความเสถียร และความเร็วในการส่งข้อมูล
- mmWave 5G จะใช้งานได้ในหลายประเทศมากขึ้น

แบตเตอรี่และการชาร์จ
- รองรับ Reverse wireless charging ด้วยแผ่นชาร์จที่ใหญ่ขึ้นเพื่อระบายความร้อนได้ดีขึ้นและกำลังไฟมากขึ้น
- แบตเตอรี่ใหญ่ขึ้น ดังนี้
- iPhone 13 mini : 2406mAh มากขึ้นจากเดิมที่มี 2227mAh
- iPhone 13 / iPhone 13 Pro : 3095mAh มากขึ้นจากเดิมที่มี 2815mAh
- iPhone 13 Pro Max : 4352mAh มากขึ้นจากเดิมที่มี 3687mAh
- ชาร์จเร็วขึ้น เป็น 25W จากเดิมที่ชาร์จได้สูงสุด 20W
ฮาร์ดแวร์กล้อง
- ระบบกันสั่น Sensor shift ในเลนส์หลัก (Wide) ใน iPhone 13 Series ทุกรุ่น
- เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ขึ้นใน iPhone 13 Pro / 13 Pro Max เพื่อรับแสงได้มากขึ้น
- เลนส์ Ultra-Wide Angle ปรับปรุงดีขึ้น รูรับแสง f/1.8 รองรับโฟกัสอัตโนมัติ และมี 6 ชิ้นเลนส์
- เลนส์ Telephoto ดีขึ้นด้วยรูรับแสง f/2.2 ใน iPhone 13 Pro
- เลนส์ Wide ใน iPhone 13 Pro Max มีรูรับแสง f/1.5 กว้างกว่าเดิมที่มี f/1.6

ซอฟต์แวร์กล้อง
- ถ่ายวิดีโอ Cinematic Video Mode ที่จะเบลอฉากหลังเมื่อถ่ายวิดีโอ
- วิดีโอ ProRes ใช้ได้แค่ Phone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max เท่านั้น ซึ่งการใช้งานจะคล้ายกับ ProRAW
- ฟิลเตอร์ดีขึ้นที่ให้ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งได้หลากหลายกว่าเดิม
- โหมดดาราศาสตร์ (Astrophotography) เพื่อถ่ายภาพท้องฟ้าตอนกลางคืนดีขึ้น
- โหมด Image Stabilization Correction เพื่อให้โฟกัสวัตถุเสมอขณะถ่ายวิดีโอ
ฟีเจอร์อื่นๆ
- ปรับปรุง Face ID ที่อาจใช้งานได้ตอนใส่หน้ากากอนามัยหรือแว่น
- MagSafe มีแม่เหล็กที่แน่นหนาขึ้น
- ROM สูงสุด 1TB เป็นครั้งแรก
หมดแล้วครับสำหรับข่าวลือต่างๆ ของ iPhone 13 Series ที่เกิดขึ้น ซึ่งเราต้องมาลุ้นกันว่าทั้งหมดนี้จะตรงหรือไม่ และจะมีการประกาศ Apple Event ในวันไหนกันแน่
ที่มา : macrumors