Apple News
แกะกล่องพรีวิว iPhone 14 Pro Max สีม่วงเข้ม Deep Purple
มาแล้ว! แกะกล่องพรีวิว iPhone 14 Pro Max สีม่วงเข้มใหม่ เครื่องแรก ๆ ในไทย เครื่องเดินทางมาถึงมือทีมงาน iphone-droid.net เรียบร้อย เราก็ไม่พลาดที่จะแกะกล่องให้ชมกันว่าสีจริงจะสวยโดนใจแค่ไหนและฟีเจอร์ใหม่อย่าง Dynamic Island ทำอะไรได้บ้าง เอาเป็นว่าอย่ารอช้า มาชมบทความแกะกล่องพรีวิวของ iPhone 14 Pro Max สีม่วงเข้มนี้ไปพร้อม ๆ กันเลยครับ
แกะกล่อง iPhone 14 Pro Max
รอบนี้ Apple เลือกใช้กล่องสีขาวบนรุ่น Pro ต่างจากรุ่นก่อน ๆ ที่ใช้กล่องสีดำครับ ที่หน้ากล่องจะเป็นดีไซน์ด้านหน้าแทนเลยด้วย สีสันก็แยกกันตาม Wallpaper ได้เลย แน่นอนว่าเครื่องที่เราได้มาเป็นสีม่วงเข้ม Wallpaper ก็ชัด ๆ แบบนี้ครับ
ตัวกล่องยังคงไม่มีพลาสติกหุ้มมาเลย มีแถบสติกเกอร์ให้เราฉีกบน-ล่างของตัวกล่องเหมือนเดิมครับ
เปิดกล่องออกมาเราจะเจอกับตัวเครื่อง iPhone 14 Pro Max นอนคว่ำโชว์สีสันอย่างชัดเจน ซึ่งเดี๋ยวเราจะมาดูกันเต็ม ๆ อีกที
อุปกรณ์ภายในกล่องก็ให้มาเท่าเดิมครับ มีซองเอกสารชิ้นเล็กที่ภายในมีเอกสารคู่มือ เข็มจิ้มถาดซิมและสติกเกอร์ Apple ที่เหลือชิ้นเดียวแล้วเหมือนปีที่แล้ว
และสายชาร์จที่ยังคงเป็น USB-C to Lightning เหมือนเดิม อะแดปเตอร์หรือที่ชาร์จก็ไม่มีแถมแล้ว
เบ็ดเสร็จแล้วอุปกรณ์ในกล่องของ iPhone 14 Pro Max เครื่องศูนย์ไทยก็มีทั้งหมด 5 อย่างดังนี้ครับ
- ตัวเครื่อง iPhone 14 Pro Max
- เอกสารคู่มือ
- เข็มจิ้มถาดซิม
- สติกเกอร์ Apple
- สายชาร์จ USB-C to Lightning
ดีไซน์ iPhone 14 Pro Max
เอาล่ะ! ได้เวลายลโฉมตัวเครื่อง iPhone 14 Pro Max สีม่วงเข้มกันแล้วครับ เราให้ดูโทนสีใหม่ก่อนเลยดีกว่า ความม่วงของรอบนี้จะเป็นม่วงโทนเข้มที่ไม่จี๊ดจ๊าดจนเกินไป มีความอมเทาเล็ก ๆ เราว่าเข้าได้กับทั้งผู้ชายและผู้หญิงนะ
ถ้าโดนแสงก็จะขับความม่วงขึ้นมาได้แบบพอดี แต่ถ้าไม่โดนจะออกไปทางเทาคล้าย ๆ กับ Graphite ซึ่งสวยไม่หยอกเลย
ส่วนกรอบเครื่องก็จะมีความม่วงที่สว่างขึ้นมาอีกเมื่อกระทบกับแสง ตรงนี้ถือว่าเป็นม่วงที่ค่อนข้างชัดเลยครับ สมแล้วที่ Apple ใช้ชื่อเรียกว่า “ม่วงเข้ม” ครับ
ฝาหลังตัวเครื่องยังคงเป็นผิวด้านให้ความรู้สึกที่ดีเวลาจับถือ ไม่เก็บคราบรอยนิ้วมือมากนัก และสัมผัสได้เนียนมือ แต่กรอบเครื่องก็ยังคงเป็นสแตนเลสที่มีความมันวาวเหมือนเดิม ความรู้สึกก็ไม่ต่างจาก 13 Pro Max มากนัก เพราะทั้งขนาดและน้ำหนักเท่าเดิมเป๊ะครับ
พลิกกลับมาดูที่หน้าจอกันบ้าง รอบนี้เราจะพบกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ iPhone รอยบากบนหน้าจอหายไปแล้ว เหลือเพียงรูกล้องบนหน้าจอแทน ตรงนี้ Apple ใช้ชื่อเรียกว่า Dynamic Island ในนี้จะซ่อนเอากล้องหน้าและเซ็นเซอร์ Face ID ไว้ได้อย่างแนบเนียน
ซึ่งความพิเศษของ Dynamic Island ไม่ใช่แค่เปลี่ยนจากรอยบากเป็นรูกล้องเท่านั้น เพราะตัวเกาะ (Island) นี้ยังยืดหยุ่นด้วยการปรับแต่ง UI พิเศษในการใช้งานต่าง ๆ ได้ด้วย
อาทิ เมื่อเรากดฟังเพลง แล้วเลื่อนออกตัว UI จะเพิ่มลูกเล่นด้านบนให้เป็นอนิเมชั่นว่ากำลังเล่นเพลงอยู่ และเราก็สามารถแตะค้างด้านบนเพื่อสั่งงานเพิ่มเติมได้อีกด้วย
ซึ่งตัว UI นี้สามารถปรับได้ตามแอปที่รองรับมากถึง 2 แอปเช่น เราเปิดเพลงคู่กับนำทาง ตัว UI จะปรับเป็นไอคอน 2 อัน มุมซ้ายเป็นไอคอนนำทาง มุมขวาเป็นเครื่องเล่นเพลง ซึ่งเราว่าเป็นการแก้เรื่องรูกล้องบนหน้าจอหนา ๆ ได้ดีเลย
ในเรื่องของหน้าจอ นอกจาก Dynamic Island ที่เปลี่ยนไปแล้ว จอ ProDisplay XDR ที่ใช้ก็อัปเกรดในเรื่องความสว่างขึ้นมาจากรุ่นก่อนด้วย ให้ความสว่าง HDR พีคสุดที่ 1600nit และการใช้งานกลางแจ้งดันได้สูงสุด 2000nit เลยทีเดียว ลองแล้วก็รู้สึกได้เลยว่าสว่างขึ้นจริง เปิดแค่ 30% ก็รู้สึกว่าเพียงพอแล้ว
ความสามารถใหม่ของ iPhone 14 Pro Max ในปีนี้ก็คือ Always On Display หรือหน้าจอติดตลอด ที่ในที่สุดก็เพิ่มเข้ามาเสียที ตัวหน้าจอจะ Dim ความสว่างลงให้มากที่สุดให้เราได้เห็นรายละเอียดของหน้าจอล็อคอยู่ และพร้อมจะติดขึ้นมาทันทีเมื่อมีการแตะหรือยกเครื่องขึ้นมาครับ
พอร์ตการเชื่อมต่อของ iPhone 14 Pro Max ยังคงเป็น Lightning เหมือนเดิม ใครที่หวังว่ารุ่นนี้จะเปลี่ยนเป็น USB-C แล้วคงต้องผิดหวังกันไปก่อน
ในงานเปิดตัว Apple บอกว่า iPhone 14 ทั้ง 4 รุ่นในสหรัฐอเมริกาจะเปลี่ยนมาใช้ระบบ eSIM ทั้งหมดคือไม่มีถาดซิมแล้ว แต่ในรุ่นที่ขายในบ้านเรายังคงมีถาดซิมมาให้ใส่ใช้งานปกตินะครับ เรื่องนี้ไม่ต้องกังวล
โดยรวมในเรื่องดีไซน์ของ iPhone 14 Pro Max ก็ต้องบอกเลยว่ามีความเป็น 13 Pro Max สูงมาก เพียงแต่เปลี่ยนเอารอยบากบนหน้าจอออกไป เปลี่ยนมาใช้เป็น Dynamic Island แทน ซึ่งก็ถือว่าสร้างความแตกต่างได้เยอะทีเดียว เพราะซอฟต์แวร์ที่ปรับมาให้ลูกเล่นของกล้องหน้าเพิ่มมากขึ้นก็ให้ความรู้สึกที่ใหม่ดีมาก ส่วนสีสันในสีใหม่อย่างม่วงเข้มนี้ก็เป็นโทนที่เราไม่ค่อยได้เห็นบนรุ่น Pro มากนัก เป็นโทนที่ดูนุ่มลึกและเป็นมิติใหม่ดีไม่น้อยเลยล่ะครับ
กล้อง iPhone 14 Pro Max
กล้องหลังของ iPhone 14 Pro Max ขยายความใหญ่ขึ้นไปอีก เพราะรอบนี้อัปเกรดกล้องหลักขึ้นมาเป็นเซ็นเซอร์ 48MP ดูจากขนาดแม้เราจะไม่เปรียบเทียบกับรุ่นก่อนก็เห็นได้ชัดว่า ขนาดใหญ่ขึ้นมาก ไม่ใช่แค่วงกลมใหญ่ขึ้น แต่ความนูนก็มากขึ้นอย่างชัดเจน
ซึ่งกล้องหลักที่เพิ่มความละเอียดมากขึ้นระดับนี้ก็ยกระดับการถ่ายภาพทั้งแสงน้อยและกลางคืนให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงยังสามารถใช้งานซูม 2X ได้แบบไม่เสียรายละเอียดอีกด้วย ทำให้ในหน้า UI กล้องเราจะเห็นระยะเพิ่มเป็น 4 ระยะคือ 0.5x, 1x, 2x และ 3x เลยครับ สำหรับสเปคกล้องหลัง 3 ตัวในรอบนี้จะประกอบไปด้วย
- กล้องหลัก 48MP
- กล้อง Ultra Wide 12MP
- กล้อง Tele 3X 12MP
- กล้องหน้า 12MP พร้อม Autofocus
สเปค iPhone 14 Pro Max
ปิดท้ายที่สเปค iPhone 14 Pro Max อัปเกรดชิปเซ็ตใหม่เป็น Apple A16 Bionic ซึ่ง Apple เคลมว่าเป็นชิปเซ็ตมือถือที่แรงที่สุดในโลกตอนนี้ มาคู่กับความจุสูงสุดถึง 1TB ด้วยกัน นอกจากนี้ยังใช้ระบบปฏิบัติการ iOS 16 เวอร์ชั่นล่าสุดที่มีการปรับแต่งได้มากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย
สำหรับฟีเจอร์ใหม่ ๆ ของ iPhone 14 Pro Max ในรอบนี้จะเพิ่มฟีเจอร์ตรวจจับรถชนที่หากเกิดอุบัติเหตุตัวเครื่องจะมีการส่งสัญญาณรวมถึงโทรหาเบอร์ฉุกเฉินเพิ่มเติมได้อีกด้วยครับ
ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงพรีวิวแรกสัมผัสของ iPhone 14 Pro Max ก่อนวางจำหน่ายจริง บอกเลยว่ารอบนี้ก็อัปเกรดหลาย ๆ จุดมาได้อย่างน่าสนใจ ทั้งเรื่องกล้องหน้าที่เปลี่ยนเป็น Dynamic Island แล้ว สีใหม่อย่างม่วงเข้มที่ดึงดูดไม่น้อย แต่ในจุดที่อัปเกรดอื่น ๆ อย่างกล้องหลังตัวใหม่ ชิปเซ็ต A16 Bionic หรือการใช้งานแบตเตอรี่ต่าง ๆ คงต้องรอให้ไปใช้งานกันเพิ่มเติมอีกทีแล้วค่อยพบกันในรีวิวฉบับเต็ม แล้วพบกันใหม่บทความหน้าครับ!
ราคา iPhone 14 Pro
ก่อนจากกันเราขอสรุปราคาของ iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max ทุกรุ่นทุกความจุกันก่อน โดยตัวเครื่องจะวางจำหน่ายทางการในวันที่ 16 กันยายนนี้ครับผม