iPhone 15 ทั้ง 4 รุ่นวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยเรียบร้อย ก่อนหน้านี้เราก็ได้ทำบทความรีวิวแรกสัมผัสวของทั้ง iPhone 15 Plus และ iPhone 15 Pro Max ไปแล้วด้วย รอบนี้ก็มีสีสันใหม่ ๆ มาให้เราเลือกอีกเช่นเคย สำหรับใครที่กำลังลังเลว่าควรจัดสีไหนดี วันนี้เราเก็บภาพเครื่องจริงของทุกสีมาฝากกันเช่นเคย พร้อมแล้วก็มารับชมกันแบบชัด ๆ ได้ที่นี่เลยครับ!
iPhone 15 Pro | 15 Pro Max มีให้เลือก 4 สี
ขอเริ่มที่ iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max ก่อนเลย รอบนี้ยังมีให้เลือก 4 สี มาในโทนเรียบง่ายและสุขุมทั้งหมด ประกอบด้วย
- Natural Titanium (ไทเทเนียมธรรมชาติ)
- Blue Titanium (ไทเทเนียมน้ำเงิน)
- White Titanium (ไทเทเนียมขาว)
- Black Titanium (ไทเทเนียมดำ)
สี Natural Titanium (ไทเทเนียมธรรมชาติ)
เริ่มที่สีไฮไลท์ของปีนี้อย่าง ไทเทเนียมธรรมชาติในชื่อภาษาไทย มาในโทนโลหะแบบเปลือย ๆ ไม่ผ่านการปรุงสีเพิ่มเติม ฝาหลังจะเป็นโทนสีเทาแบบนวล ๆ และกรอบเครื่องเป็นสีทองอ่อน ๆ พอรวมกันแล้วคือลงตัวมาก ตัวกรอบเครื่องที่เป็นวัสดุไทเทเนียมก็จะมีลวดลาย Brush Finish เหมือนขนแปรงสวย ๆ เพิ่มมิติด้วยครับ
สี Blue Titanium (ไทเทเนียมน้ำเงิน)
นอกจากสีไฮไลท์อย่างไทเทเนียมธรรมชาติแล้ว รอบนี้ Apple ยังมีสีใหม่อย่างไทเทเนียมน้ำเงินมาอีกสีด้วย เป็นสีน้ำเงินโทนเข้มที่คมเข้มขึ้น ออกไปทางโทนเย็นที่เวลาสะท้อนกับแสงจะแสดงสีน้ำเงินได้อย่างชัดเจน แต่ถ้าหลบแสงก็จะใกล้เคียงกับดำ รวม ๆ แล้วคล้ายกับสี Midnight ของ MacBook Air M2 พอสมควร
สี White Titanium (ไทเทเนียมขาว)
ต่อมาเป็นสีมาตรฐานที่มีให้เลือกทุกปีกับไทเทเนียมขาว เอาจริง ๆ สีนี้ก็คล้ายกับไทเทเนียมธรรมชาติที่มีความสว่างและเย็นขึ้นครับ มีความเป็นขาวจริง ๆ ตัดกับกรอบเครื่องที่เป็นสีเงินล้วน ๆ ทำให้เป็นสีที่ดูสบายตาและลงตัวในแบบที่ Apple จัดมาให้สีขาวหรือ Silver มาโดยตลอด
สี Black Titanium (ไทเทเนียมดำ)
ปิดท้ายที่ไทเทเนียมดำ อีกหนึ่งสีมาตรฐานของรุ่น Pro รอบนี้ก็จะมีโทนคล้าย Space Black เดิม แต่ด้วยความที่กรอบเครื่องเป็นไทเทเนียมเลยลดความเงาลงและทำให้คมเข้มกว่าเดิม เป็นอีกสีที่ลงตัวแบบคลาสสิคจริง ๆ ครับ
โดยรวมดีไซน์ของ iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max ก็มีความเรียบง่าย ปีนี้ไม่มีสีสันที่โดดขึ้นมาอย่าง ม่วง หรือฟ้า เน้นไปแนวทางการซะมากกว่า เพราะทุกสีเป็นสีสุภาพที่เข้าได้กับทุกลุคและหรูหราเป็นอย่างมากครับ
iPhone 15 มีให้เลือก 5 สี
มาต่อกันที่ iPhone 15 และ iPhone 15 Plus รอบนี้ปรับวัสดุฝาหลังใหม่ให้เป็นแบบด้านและลดความเข้มข้นของสีลง แต่ก็เพิ่มลูกเล่นในการแทรกสีเข้าไป มีให้เลือก 5 สีประกอบด้วย
- สีชมพู
- สีเหลือง
- สีเขียว
- สีฟ้า
- สีดำ
สีชมพู
เริ่มที่สีชมพูรอบนี้มาในโทนที่หวานดีมาก โทนจะพาสเทลกว่าตอน 13 พอสมควรเลย พื้นผิวของฝาหลังจะมีความอ่อนเกือบขาว แต่ก็มีความอมชมพูเล็ก ๆ ส่วนที่ฐานกล้องจะเพิ่มความเข้มข้นเข้าไปจนโดดเด่น เป็นสีที่ดูน่ารักมาก ๆ เชื่อว่าสาว ๆ ถูกใจแน่นอนครับ
สีเหลือง
สีเหลืองก็เห็นความเปลี่ยนแปลงไปจาก 14 เยอะพอสมควร เพราะลดความจัดจ้านลงมาก เป็นโทนพาสเทลที่ดูนุ่มนวล การแทรกสีเข้าไปที่ฐานกล้องแบบไม่หนักมากนัก ทำให้โทนดูสบายตาและลงตัว เป็นสีเหลืองที่อบอุ่นมาก ๆ ครับ
สีเขียว
มาต่อกันที่สีเขียว รอบนี้สีเขียวจะเป็นโทนสีมิ้นต์คล้ายตอน iPhone 12 ครับ แต่พอเป็นโทนพาสเทลก็ได้ความรู้สึกที่อ่อนลง ไม่จัดจ้านและเรียบง่ายขึ้น เป็นอีกสีที่น่าจะถูกใจผู้ใช้ iPhone รุ่นไม่ Pro ทีเดียวครับ
สีฟ้า
ส่วนสีฟ้าก็เหมือนลดทอนลงมาจากสีน้ำเงินในหลาย ๆ รุ่นก่อนเรื่อย ๆ รอบนี้แทบจะเป็นสีขาวได้เลยครับ โทนสีเย็นแต่ก็มีสีขาวมาก น่าจะถูกใจคนที่ชอบสีขาวแต่ก็อยากได้ความสีสันเล็ก ๆ อยู่ไม่น้อย สีนี้จริง ๆ ก็ใกล้เคียงกับสีเขียวด้านบน แต่โทนจะเย็นกว่านั่นเอง
สีดำ
และปิดท้ายที่สีดำมาตรฐาน คราวนี้เป็นดำจริง ๆ แล้วไม่ดำอมน้ำเงินแบบ Midnight เดิมครับ พออยู่บนผิวด้านไปเลยก็เรียบหรูขึ้น เป็นสีที่ดูคลาสสิคเหนือกาลเวลาจริง ๆ ครับ และยิ่งได้การแต่งแต้มฐานกล้องให้เข้มขึ้นอีกหน่อยก็ช่วยให้ตัวเครื่องดูมีมิติไม่แบนจนเกินไปด้วยครับ
ก็ถือว่าเปลี่ยนโทนสีทั้งหมดให้เป็นพาสเทลไปเลยสำหรับ iPhone 15 และ iPhone 15 Plus ในปีนี้ แต่ก็เป็นแนวทางใหม่ที่เพิ่มความอ่อนโยนและน่ารักเข้าไปตั้งแต่แรกเห็นครับแบบนี้ ใครที่มาจาก iPhone 12, 13 หรือ 14 ก็น่าจะเห็นความเปลี่ยนแปลงชัดเจน
iPhone 15 ทั้ง 4 รุ่นในปีนี้ก็มีการปรับเปลี่ยนในเรื่องของสีสันไปเยอะพอสมควร อย่างรุ่น Pro ก็จะมีความสุขุมทางการขึ้น รุ่นปกติก็ลดความจัดจ้านลง พาสเทลมากขึ้น เรียกว่าสีใหม่ถ้าใครได้เห็นก็จะรู้ได้ทันทีว่านี่คือ iPhone 15 นั่นเองครับ มาถึงตรงนี้หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ใครที่กำลังตัดสินใจเลือกสีอยู่ได้ประโยชน์ไม่มากก็น้อยแหละเนาะ
ก่อนจากไปเราก็สรุปราคาของ iPhone 15 ทั้ง 4 รุ่น อีกสักครั้งตามนี้เลยครับ
