Apple News
เปิด 3 สเปคหลักที่ iPhone 16 Pro เหนือกว่า iPhone 16 แบบเห็นได้ชัด !
iPhone 16 และ iPhone 16 Pro มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้ว หลายคนอาจจะยังลังเลว่าจะซื้อรุ่นไหนดีเพราะอาจจะไม่ได้ใช้งานแบบจริงจังมากขนาดระดับสตูดิโอ หรืออาจจะเรื่องงบเป็นหลัก วันนี้เรามี 3 สเปคหลักๆ ที่ทั้ง 2 ฝั่งนี้มีความแตกต่างกันที่ทำให้ตัดสินใจง่ายขึ้น
แบตเตอรี่
ในเรื่องแบตเตอรี่มีการพัฒนามากขึ้นกว่าเดิมเพื่อให้ใช้งานได้นานขึ้นด้วยครับ เพราะมีการใช้ชิปใหม่ที่มีการประหยัดพลังงานมากกว่าเดิม ซึ่งแน่นอนว่าตัว Pro มีการใช้งานได้นานกว่าเดิมตามสเปคการรับชมวิดีโอและเล่นเสียงนี้เลยครับ !
- iPhone 16 Pro: เล่นวิดีโอได้นานสูงสุด 27 ชั่วโมง และเล่นเสียงเพลงได้นานสูงสุด 85 ชั่วโมง
- iPhone 16: เล่นวิดีโอได้นานสูงสุด 22 ชั่วโมง และเล่นเสียงเพลงได้นานสูงสุด 80 ชั่วโมง
- iPhone 16 Pro Max: เล่นวิดีโอได้นานสูงสุด 33 ชั่วโมง และเล่นเสียงเพลงได้นานสูงสุด 105 ชั่วโมง
- iPhone 16 Plus: เล่นวิดีโอได้นานสูงสุด 27 ชั่วโมง และเล่นเสียงเพลงได้นานสูงสุด 100 ชั่วโมง
ถือเห็นได้ชัดว่าตัว Pro ได้เปรียบเรื่องแบตที่ใช้ได้นานกว่า 5 – 6 ชั่วโมงเลยทีเดียว แต่หากใครไม่ได้ซีเรียสเรื่องได้ใช้งานที่ต้องต่อเนื่อง (เพราะยังไงก็ชาร์จระหว่างวันอยู่แล้ว) ก็สามารถเลือกได้ตามความชอบเลยครับ
หน้าจอแสดงผลที่ใหญ่และชัดกว่าในรุ่น Pro
มาถึงข้อนี้ น่าจะเป็นหนึ่งในสิ่งที่ทั้งรุ่นธรรมดาและรุ่น Pro ต่างกันชัดเจนมากๆ ครับ ซึ่งน่าจะทำให้ใครหลายคนเลือกซื้อใช้รุ่น Pro เพราะสเปคหน้าจอเลยทีเดียว โดย iPhone 16 Pro ได้จอใหญ่ 6.3 นิ้ว อัปเกรดสูงกว่า iPhone 16 ที่ขนาด 6.1 นิ้ว รวมถึง iPhone 16 Pro Max ที่เป็นจอใหญ่สุดของ iPhone ที่ 6.9 นิ้ว ต่างจาก iPhone 16 Plus ที่มีขนาด 6.7 นิ้ว
ที่สำคัญ ความแตกต่างกันมากๆ คือ การรองรับ ProMotion 120Hz ในรุ่น Pro ที่ทำให้ใช้งานได้ไหลลื่นมากขึ้น ต่างจากรุ่นธรรมดาที่ยังเป็นจอ 60Hz ครับ
กล้องหลังที่รุ่น Pro เหนือกว่า
กล้องหลังก็เป็นสิ่งที่ตัว Pro เหนือกว่ารุ่นธรรมดาเยอะพอสมควรเลยครับ ซึ่งสเปคกล้องหลักๆ ที่ต่างกันมีดังนี้
- ตัว Pro ทั้ง 2 รุ่นมีเลนส์ Telephoto พร้อมซูมออปติคอลสูงสุด 5 เท่า ส่วนรุ่นธรรมดานั้นไม่มีเลนส์นี้เหมือนเดิม
- รุ่น Pro มีกล้อง Ultra Wide ที่ได้รับการอัปเกรดอย่างมีนัยสำคัญ มีความละเอียด 48MP ซึ่งแตกต่างจากรุ่นที่ไม่ใช่ Pro ที่มีความละเอียด 12MP ที่แม้ว่าจะมีการพัฒนาให้ถ่ายภาพมาโครก็ตาม
- วิดีโอสโลว์โมชั่นที่ 4K สูงสุด 120 fps มีเฉพาะในรุ่น Pro
- มีไมโครโฟน 4 ตัวเพื่อใช้งานคุณภาพระดับสตูดิโอที่มีเฉพาะของรุ่น Pro
- รุ่น Pro ยังมีข้อดีของกล้องจากปีที่แล้วอีกด้วย เช่น ระบบป้องกันภาพสั่นไหวที่ดีขึ้น, แฟลช Adaptive True Tone, ภาพพอร์ตเทรตในโหมดกลางคืน, ProRAW, วิดีโอ ProRes และอื่นๆ อีกมากมาย
ดังนั้นหากใครที่ต้องการใช้กล้องเทพๆ แบบระดับโปรก็เน้นไปที่รุ่น Pro และ Pro Max ได้เลยครับ ส่วนใครที่ใช้งานทั่วไป ก็ยังใช้รุ่นธรรมดาทั้ง 2 รุ่นได้เช่นกัน
สำหรับ iPhone 16 Series ทั้ง 4 รุ่นจะเริ่มให้สั่งซื้อล่วงหน้าวันที่ 13 กันยายนนี้ เวลา 19.00 น. ตามเวลาในไทย และจะวางจำหน่ายทางการในวันที่ 20 กันยายนนี้ครับ
ที่มา : 9to5mac