พรีวิวสัมผัสแรก iPhone 16e รุ่นใหม่ล่าสุด ในราคาที่ดีที่สุด เครื่องศูนย์ไทย

โดย Surin Khiewsart (Editor)

iPhone 16e ที่เป็น iPhone รุ่นที่เข้าถึงได้ง่ายที่สุด ในราคาที่ดีที่สุด ได้มาอยู่ในมือเราแล้วครับ บอกเลยว่ารุ่นนี้น่าสนใจกว่าที่คิดเอาไว้หลังจากที่ได้ลองสัมผัสจริงๆ ซึ่งใครที่ต้องการลองประสบการณ์การใช้งาน iPhone สักครั้ง รวมถึงคนที่อยากได้ลองใช้ iPhone เป็นครั้งแรกจริงๆ หรือคนที่ใช้ iPhone รุ่นก่อนหน้าอย่าง iPhone 11, iPhone SE ก็อาจได้ขยับขึ้นมาเป็น iPhone 16e ที่ก็น่าจะเป็นตัวเลือกแรกที่ดีมากๆ ให้ลองมาเปลี่ยนใช้งานกันครับ

แกะกล่อง iPhone 16e

ตัวกล่องของ iPhone 16e ได้มาแบบเหมือนกับรุ่นอื่นๆ คือความบางของตัวกล่องและหน้ากล่องจะมีภาพดีไซน์หน้าจอของ iPhone 16e ที่เป็นแบบรอยบากมาให้ชมกันครับ รวมถึงภาพวอลเปเปอร์ที่เป็นเอกลักษณ์ของรุ่นนี้ด้วย

พลิกมาด้านหลังกล่องก็จะเป็นกระดาษที่ทำรอยไว้ให้ดึงเพื่อแกะออกตามสไตล์ของ Apple เลย ดึงออกทั้งด้านบนและล่าง

แกะออกมาชั้นแรกก็จะเจอกับตัวเครื่อง iPhone 16e ไว้ให้เลย พร้อมให้เราแกะกระดาษที่ติดกับหน้าจอไว้แล้วครับ

ส่วนอุปกรณ์ภายในกล่องที่เหลือจะเป็นแค่สายชาร์จ USB-C ยาว 1 เมตร พร้อมด้วยเข็มเปิดถาดซิม และคู่มือการใช้งานเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งรอบนี้ไม่ได้ให้สติ๊กเกอร์มาแล้วนะจ๊ะ

รวมๆ แล้วทั้งหมดในกล่องของ iPhone 16e จะมีดังนี้

  • ตัวเครื่อง iPhone 16e
  • สายชาร์จ USB-C ยาว 1 เมตร
  • เข็มเปิดถาดซิม
  • คู่มือการใช้งาน

ดีไซน์อะลูมิเนียม คลีนๆ ตามสไตล์ของ iPhone

พามาชมดีไซน์ของ iPhone 16e กันก่อนเลยครับ ที่ฝาหลังใช้งานเป็นแบบกระจกแบบด้านมาให้ โดยรอบนี้ในรุ่นประหยัดมีเพียง 2 สี คือ สีขาว และสีดำเท่านั้น สีสันแบบสดใสๆ ไม่ได้มีให้เลือกด้วยนะปีนี้ ซึ่งรุ่นที่อยู่ในมือเราจะเป็นสีดำครับ

ถ้ามองดูแล้วก็ได้ความคลาสสิกของสีดำที่ไม่ได้ดำสนิท จะออกมาเป็นสีเทาเข้มๆ มากกว่าในบางมุม ซึ่งน่าจะให้คนที่ชอบสีโทนเข้มได้เลือกสีนี้กันครับ

ในการจับถือน่าจะเหมาะกับคนที่ชอบใช้งานมือเดียวเลยครับ ตัวเครื่องอยู่ที่ 146.7 x 71.5 x 7.80 มม. และเบา 167 กรัม การเอื้อมมือในการพิมพ์หรือการกดต่างๆ ทำได้แบบพอดีๆ ไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไป

อัปเกรดรุ่นประหยัดเป็นจอ OLED

iPhone 16e ให้ความรู้สึกเก่าๆ เข้ามาเลยครับ โดยหน้าจอจะเป็นแบบรอยบากที่ให้ความรู้เหมือนกับ iPhone 14 เลย แต่หากจะรับเป็น iPhone รุ่นประหยัดก็ถือว่าเป็นการอัปเกรดจากเดิมพอตัว เพราะได้เปลี่ยนมาใช้จอภาพแบบ Super Retina XDR แบบ OLED แล้ว ถือเป็นการจบยุค LCD เรียบร้อยครับ ส่วนขนาดหน้าจออยู่ที่ 6.1 นิ้ว ความละเอียด 2532 x 1170 พิกเซล และมีความสว่างสูงสุด 1,200 นิต ซึ่งก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานกลางแจ้งครับ ส่วน Refresh Rate ก็เป็น 60Hz ตาม iPhone 16 ตัวธรรมดา ก็ถือว่าไม่ได้ผิดคาดอะไร

และแน่นอนว่าในเมื่อ iPhone 16e ใช้หน้าจอรอยบาก ในการปลดล็อคก็สามารถใช้งาน Face ID ได้เลย สิ้นสุดการใช้งาน Touch ID ไปเหมือนกัน

ความแกร่งของหน้าจอได้มาแบบ Ceramic Shield ที่ช่วยป้องกันเรื่องการขีดข่วนบนหน้าจอได้ดีขึ้น รวมถึงการทนทานต่อการตกกระแทกด้วยเช่นกันครับ

สำหรับขอบตัวเครื่อง iPhone 16e จะเป็นแบบอะลูมิเนียมที่สีนของขอบก็จะเป็นไปตามสีของฝาหลังครับ

โดยด้านซ้ายตัวเครื่องจะมีปุ่ม Action มาให้ รองรับการใช้งานฟีเจอร์ลัดต่างๆ ได้ทันทีเหมือนกับรุ่นพี่ iPhone รุ่นต่างๆ ขณะที่ฝั่งนี้ก็เป็นปุ่มเพิ่มและลดเสียงมาให้ครบที่ฝั่งนี้ครับ

ส่วนปุ่ม Power ก็จะอยู่ในตำแหน่งที่ฝั่งขวาครับ

สำหรับไมโครโฟนตัวหลัก พอร์ต USB Type-C (ไม่มีพอร์ต Lighting แล้วนะ) และลำโพงตัวหลักก็จะอยู่ที่ด้านล่าง

และท้ายสุดที่ด้านหลังจะเป็นกล้องเพียง 1 เลนส์ ไม่มีฐานกล้องมาให้ครับ ถัดไปทางด้านขวาจะมีไมโครโฟนเพื่อตัดเสียงรบกวนต่างๆ มาให้ รวมถึงไฟแฟลช LED มาให้ 1 ดวงครับ

กล้องหลัง 48MP

ที่กล้องหลังของ iPhone 16e จะให้มาเป็นเลนส์เดียว แต่เป็นความละเอียด 48MP ซึ่งเป็นสเปคเดียวกับ iPhone 16 เลยครับ ให้กันสั่น OIS มาให้ โดยฟีเจอร์บางอย่างก็หยิบยืมมาจากรุ่นพี่ iPhone 16 ตั้งแต่การภาพถ่ายความละเอียดสูงเป็นพิเศษ (24MP และ 48MP) รวมถึงมีโหมด Portrait และถ่ายวิดีโอแบบ Dolby Vision สูงสุด 4K @60fps ด้วยครับ

ส่วนการซูมจะรองรับที่ 1x และ 2x โดยไม่เสียรายละเอียด และสูงสุดแบบดิจิทัลอยู่ที่ 10x

ชิป A18 มี Apple Intelligence และชิป C1 ที่พัฒนาขึ้นเอง

และเราขอปิดท้ายจุดเด่นของ iPhone 16e คือหน่วยประมวลผล Apple A18 ซึ่งเป็นชิปเรือธงรุ่นล่าสุดที่ใช้มาใน iPhone 16 สะด้วย ได้ CPU แบบ 6 คอร์ แต่ GPU เป็นแบบ 4 คอร์ (แอบน้อยกว่ารุ่นพี่ที่ให้มา 5 คอร์ นะ แต่ก็เข้าใจได้) ขณะที่ Neural Engine ให้มาแบบ 16 คอร์ครับ แจากการที่ให้ชิปรุ่นนี้มา ก็แน่นอนว่าคือการรองรับการใช้งาน Apple Intelligence ที่ให้ใช้งานได้เหมือนกับตัวท็อปสุดของ iPhone เลย และการใช้งานก็ครบจริงๆ ตั้งแต่เครื่องมือการเขียน ข้อความที่มีความสำคัญในแอปเมล อัดเสียงและถอดเสียงออกมาเป็นข้อความ และอื่นๆ อีกเพียบเลยครับ

และที่ต้องพูดถึงคือใน iPhone 16e ยังได้ชิปโมเด็ม C1 ที่ Apple ได้ดีไซน์ขึ้นเอง เพื่อให้การใช้งาน 5G รวมถึงการใช้งานบน iOS ประหยัดพลังงานมากกว่าเดิม ซึ่งนี่ก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้รุ่นนี้เป็น iPhone จอ 6.1 นิ้วของ Apple ที่แบตเตอรี่อึดที่สุดครับ

สรุปสเปค iPhone 16e

  • ขนาดตัวเครื่อง : 146.7 x 71.5 x 7.80 มม.
  • น้ำหนัก : 167 กรัม
  • หน้าจอแสดงผล Super Retina XDR แบบ OLED ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียด 2532 x 1170 พิกเซล, 460 ppi, ขอบเขตสีกว้าง (P3), Contrast Ratio 2,000,000:1, ความสว่างสูงสุด 1,200 นิต
  • หน่วยประมวลผล : Apple A18 Hexa-core (6 คอร์)
  • Neural Engine : 16 คอร์
  • ROM : 128/256/512GB
  • กล้องหลัง 48MP รูรับแสง f/1.6 รองรับกันสั่น OIS
  • กล้อง TrueDepth 12MP รูรับแสง f/1.9 รองรับออโต้โฟกัสด้วย Focus Pixels
  • ระบบปฏิบัติการ iOS 18
  • รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6, Bluetooth 5.3 และพอร์ต USB Type-C แบบ USB 2 (สูงสุด 480Mb/s)
  • แบตเตอรี่การเล่นวิดีโอสูงสุด 26 ชั่วโมง

ราคา iPhone 16e

iPhone 16e พร้อมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ โดยมีราคาใน 3 ความจุ ดังนี้

  • 128GB : 22,900 บาท
  • 256GB : 26,900 บาท
  • 512GB : 34,900 บาท

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More