Apple News
สรุป iPhone 5 กับความบาง เบา และความสามารถที่เพิ่มขึ้น พร้อมเปรียบเทียบกับ iPhone 4S
เมื่อคืนที่ผ่านตามเวลาบ้านเรา Apple ได้เปิดตัว “iPhone 5“ อย่างเป็นทางการแล้ว ที่ Yerba Buena Center for the Arts รัฐซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา เช้านี้จะมาสรุปให้ดูกันอีกรอบสำหรับใครที่ไม่ได้ติดตามเมื่อคืนครับ
การออกแบบ iPhone 5 กับบางเพรียวบางและความสามารถที่เพิ่มขึ้น
iPhone 5 มีความบางเพียง 7.6 มิลลิเมตร น้ำหนักเพียง 112 กรัม ( เมื่อเทียบกับ iPhone 4S จะบางกว่า 18% และเบากว่า 20% ) iPhone 5 มีปริมาตร 3.31 ตารางนิ้ว (ขนาดตัวเครื่อง 123.8 x 58.6 x 7.6 มิลลิเมตร)
ตัวกรอบด้านหลังของ iPhone 5 ทำมาจาก anodized aluminium เป็นวัสดุแบบรีไซเคิล และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มาตรฐาน BFR-free และ PVC-free ซึ่งเป็นวัสดุเดียวกับ MacBook ส่วนด้านบนและด้านล่างของตัวเครื่องสีขาวทำมาจาก ceramic glass ส่วนตัวเครื่องสีดำทำมาจาก pigmented glass
หน้าจอและกล้อง
iPhone 5 มีขนาดหน้าจอ 4 นิ้ว แบบ Retina display ความละเอียดหน้าจอ 1136×640 พิกเซล (326ppi) มาพร้อมกล้อง iSight ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ตัวเซ็นเซอร์กล้องเล็กว่า iPhone 4S ถึง 25% ที่มีคุณสมบัติการทำงานได้มากขึ้น เช่น ถ่ายภาพโหมดพาโนรามา (สูงสุด 240 องศา ความละเอียดภาพสูงสุด 28 ล้านพิกเซล) และที่มีแสงน้อยแบบไดนามิก โดยพื้นผิวที่ครอบอยู่บนตัวเลนส์เป็น Sapphire Crystal ซึ่งมีค่าความแข็งแรงรองจากเพชร อีกทั้งได้มีการปรับปรุงกล้องหน้าความละเอียด 1.2 ล้านพิกเซล ให้สามารถถ่ายภาพและวิดีโอความละเอียด 720p
หูฟัง และไมโครโฟน
สำหรับ iPhone 5 มีไมโครโฟนด้วยกันทั้งหมด 3 ตัว พร้อมอุปกาณ์เสริมกับการออกแบบหูฟังใหม่ Apple EarPods ที่มีความขนาดพอดีกับหู ด้วยรูปลักษณ์ที่แตกต่างและสวยงาม
หน่วยประมวลผล การทำงาน และการเชื่อมต่อ
iPhone 5 ด้วยพลังชิป A6 ทำให้ iPhone 5 ทำงานได้เร็วขึ้น 2 เท่าเมื่อเทียบกับชิป A5 แต่มีขนาดเลกลงถึง 22% พร้อมแรม 1GB รองรับการเชื่อมต่อ LTE ความเร็วสูงสุด 100Mb, dual-band Wi-Fi ความเร็วสูงสุด 150 Mbps และ Bluetooth เวอร์ชั่น 4.0
iPhone 5 มีขนาดของ Dock connector พอร์ตเชื่อมต่อ 8 pins ซึ่งเล็กกว่าเดิมถึง 80% (ตัวเดิมเป็นแบบ 30 pins) สำหรับ Dock connector แบบเดิมนั้นสามารถใช้อุปการณ์ที่เรียกว่า Lightning สำหรับเชื่อมต่อเป็นหัวแปลงพอร์ตได้ (ขายแยก)
iPhone 5 มาพร้อม iOS 6 ที่เปิดให้นักพัฒนาได้ทดสอบใช้งานการไปแล้ว ด้วยความสามารถที่เพิ่มขึ้นอีกเพียบ สามารถอ่านเพิ่มเติมที่นี่ โดย iOS 6 ตัวไฟนอลจะปล่อยออกมาในวันที่ 19 กันยายนนี้
พลังงานและแบตเตอรี่
ยังไม่มีรายละเอียดเกียวกับความจุของแบตเตอรี่ มีเพียงรายละเอียดการทดสอบใช้งาน สแตนบายได้นานถึง 9.4 วัน สำหรับการโทรได้ยาวนาน 8 ชั่วโมงบนเครือข่าย 3G และเล่นวิดีโอได้ยาวนานถึง 40 ชั่วโมง
ราคาและวันวางจำหน่าย
iPhone 5 เริ่มเปิดให้จองตั้งแต่วันที่ 14 กันยายนนี้ และเริ่มวางจำหน่ายจริงในวันที่ 21 กันยายนนี้ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา แคนาดา สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เยอรมันนี ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ฮ่องกง และอีก 22 ประเทศ ซึ่งไม่มีประเทศไทยตามระเบียบ แต่คาดสิ้นปีนี้จะวางจำหน่ายได้ 100 ประเทศทั้วโลก
iPhone 5 รุ่น 16GB เปิดค่าตัวที่ $199, 32GB ราคา $299 และ 64GB ราคา $399 ในสหรัฐอเมริกา แบบติดสัญญา 2 ปี ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ iPhone 4 รุ่น 8GB และรุ่น 16GB ปรับลดราคาเหลือฟรี และ $99 ตามลำดับแบบติดสัญญาเช่นกัน
ที่มา : Apple