Smart Review
รีวิว iPhone 6 Plus สมาร์ทโฟนรุ่นใหญ่ สุดบางจาก Apple
iPhone 6 Plus สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดที่เปิดตัวพร้อมกับ iPhone 6 ฝาแฝดที่แตกต่างกันด้วยขนาดตัวเครื่องและหน้าจอ โดย iPhone 6 Plus มาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ 5.5 นิ้ว ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นและเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของ Apple ที่ก้าวขึ้นมามีหน้าจอใหญ่กว่า 5 นิ้วหรือที่เรียกแฟบเล็ตนั่นเอง
แกะกล่อง iPhone 6 Plus
iPhone 6 Plus มาในกล่องสีขาวเรียบไม่มีลวดลายหรือสีสันใด ๆ ข้างกล่องทั้ง 2 ด้านจะมีโลโก้ Apple และคำว่า iPhone โดยไม่มีตัวเลขบอกรุ่นใด ๆ
ด้านหลังกล่องจะมีรายละเอียดเกี่ยวกับ iPhone 6 Plus เช่น บอกความจุ โดยรุ่นที่ใช้ในการรีวิวนี้เป็นรุ่นความจุ 64GB และบอกรายละเอียดอุปกรณ์ภายกล่อง เป็นต้น
เมื่อเปิดฝากล่องออกออกจะพบกับตัวเครื่อง iPhone 6 Plus นอนหงายหน้าจอขึ้นมาตามภาพ และมีฟิล์มพลาสติกใส่ปิดทับตัวเครื่องทั้งด้านหน้าด้านหลัง เนื่องจากกล่องและฝาครอบมีขนาดพอดีกันจึงทำให้ค่อนข้างแกะยาก แนะนำให้วางกล่องกับพื้นหรือโต๊ะเพื่อป้องกันเครื่องกระเด็นออกจากกล่องครับ ^^
อุปกรณ์ภายในกล่อง
- iPhone 6 Plus สีทองแล้ว
- หูฟัง EarPod with Remote พร้อมไมโครโฟน
- สาย Lightning
- อะแด็ปเตอร์สำหรับชาร์จไฟ เนื่องจากรุ่นที่นำมารีวิวเป็นเครื่องจากฮ่องกง หัวอะแด็ปเตอร์จะเป็นแบบสามหัว
- คู่มือการใช้งาน สติกเกอร์ Apple
- เข็มจิ้มถาดใส่ซิมการ์ด
การออกแบบ
iPhone 6 Plus มีขนาดตัวเครื่องที่ใหญ่ที่สุดในบรรดา iPhone ทุกรุ่น ด้วยหน้าจอที่บางกว่าเดิมจึงทำให้ตัวเครื่องมีความบางลงกว่าเดิมด้วย กระจกจอภาพถูกออกแบบให้โค้งมาบรรจบขอบตัวเครื่องพอดีซึ่งทำให้ไม่เห็นรอยต่อ เมื่อสัมผัสจะได้ความรู้สึกราบเรียบเป็นผิวเดียวกัน
เหนือหน้าจอมีเซ็นเซอร์ปรับความสว่างหน้าจออัตโนมัติ, ลำโพงสำหรับเสียงสนทนา และเลนส์กล้องหน้าความละเอียด 1.2 เมกะพิกเซล (1280 x 960 พิกเซล) รูรับแสงขนาด ƒ/2.2 และสามารถบันทึกวิดีโอระดับ HD 720p
ด้านล่างหน้าจอมีปุ่มโฮมซึ่งมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือหรือที่เรียกว่า Touch ID เช่นเดียวกับ iPhone 5s และ iPhone 6
ขอบตัวเครื่องจะโค้งมน โดยขอบด้านล่างเริ่มจากด้านซ้ายจะมีช่องเสียบหูฟังสเตอริโอขนาดมาตรฐาน 3.5 มม., ไมโครโฟน, ช่องต่อสาย Lightning สำหรับถ่ายโอนข้อมูลและชาร์จไฟแบตเอรี่, ด้านขวาสุดที่เห็นเป็นรู 8 รูคือลำโพง
ขอบด้านข้างขวาจะมีช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดขนาด nano-SIM และปุ่มปิด/เปิดเครื่องหรือปิด/เปิดหน้าจอ โดยตัวเครื่องมีความบางเพียง 7.1 มม. ซึ่งบางกว่า iPhone 5s
ขอบด้านบนตัวเครื่องราบเรียบไม่มีปุ่มใด ๆ เนื่องจากปุ่ม Power ไม่ได้อยู่ส่วนนี้ โดยถูกย้ายไปอยู่ด้านข้างตัวเครื่องแทน
ขอบด้านข้างซ้ายจะมีปุ่มปิด/เปิดเสียง และปุ่มปรับระดับเสียง
ด้านหลังตัวเครื่องมีเลนส์กล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช True Tone ถัดลงมามีโลโก Apple และบริเวณส่วนล่างจะมีคำว่า iPhone พร้อมรายละเอียดโมเดลและสัญลักษณ์ด้านอุตสาหกรรม
กล้องหลังของ iPhone 6 Plus มีลักษณะนูนขึ้นมา
หน้าจอแสดงผล
iPhone 6 Plus มีหน้าจอแสดงผล Multi-Touch แบบ LED-backlit ขนาด 5.5 นิ้ว Retina HD ความละเอียด 1920× 1080 พิกเซล ความหนาแน่น 401 พิกเซลต่อนิ้ว ทั้ง iPhone 6 และ iPhone 6 Plus มีพิกเซลแบบ Dual-domain ช่วยให้หน้าจอคมชัดในมุมมองที่กว้างขึ้น ความสว่างสูงสุด 500 cd/m2 พร้อมเคลือบสารกันรอยนิ้วมือด้านหน้า
จากการใช้งานกลางแดดวันนี้ก็ใช้งานได้สบายครับ หน้าจอยังคงมองเห็นได้ชัดเจน ด้วยเทคโนโลยีตัดแสงสะท้อนและเป็นจอภาพ IPS
สรุปสเปค iPhone 6 Plus
[table id=16 /]
เปรียบเทียบตัวเครื่อง iPhone 6 Plus กับ iPhone 5s
เปรียบเทียบสเปค iPhone 6 Plus, iPhone 6 และ iPhone 5s
[table id=15 /]
อินเตอร์เฟซและฟีเจอร์เด่น
หน้าโฮม จะเรียงไอคอนแอพพลิเคชั่นได้ 6 x 4 แถว และบริเวณส่วนล่างจะเป็นส่วนที่เรียกว่า Dock ที่สามารถวางไอคอนแอพพลิเคชั่นได้อีก 1 แถว
หน้าจอการโทร แสดงผลเหมือนกับ iPhone รุ่นอื่น ๆ
รองรับการใช้งานในแนวนอน ด้วยขนาดหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นมากทำให้ iPhone 6 Plus รองรับการใช้งานในแนวนอนเช่นเดียวกับ iPad ทั้งหน้าจอหลักและหน้าจอแอพพลิเคชั่นพื้นฐานต่าง ๆ แต่จะยังไม่รองรับแอพพลิเคชั่นที่ดาวน์โหลดเพิ่มเติม
การใช้งานด้วยมือเดียว
เนื่องจากหน้าจอของ iPhone 6 Plus มีขนาดใหญ่ การใช้งานด้วยมือเดียวจึงค่อนข้างลำบาก แต่ Apple ก็ได้ใส่ฟีเจอร์สำหรับการใช้งานด้วยมือเดียวมาให้ด้วย โดยการแตะที่ปุ่มโฮม 2 ครั้งติดกันเพื่อเลือกใช้งานฟีเจอร์นี้ (แตะหรือเคาะที่ปุ่มโฮม 2 ครั้งติดกัน ไม่ใช่กดปุ่มโฮมนะครับ)
ก่อนใช้งานได้ต้องเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้ก่อน โดยเข้าไปที่การตั้งค่า >> ทั่วไป >> การช่วยการเข้าถึง >> แล้วเลือกเปิด “การช่วยการเอื้อมถึง”
การแสดงแบบซูม
บน iPhone 6 และ iPhone 6 Plus มีฟีเจอร์ที่เรียกว่า Display Zoom หรือแสดงการซูม เพื่อให้การแสดงผลในการดูแอพและคอนเทนต์ต่าง ๆ มีขนาดใหญ่ขึ้น เต็มตามากขึ้น
เปรียบเทียบการใช้งานในแนวตั้งกับแนวนอน
Notification Center แนวตั้ง (ซ้าย) และ แนวนนอน (ขวา)
Control Center แนวตั้ง (ซ้าย) และแนวนอน (ขวา)
Multitasking แนวตั้ง (ซ้าย) และแนวนอน (ขวา)
แอพข้อความ แนวตั้ง (ซ้าย) และแนวนอน (ขวา) ซึ่งจะแสดงเป็นสองส่วนเหมือนกับการแสดงผลบน iPad
ปฏิทิน แนวตั้ง (ซ้าย) และแนวนอน (ขวา)
แอพรูปภาพ แนวตั้ง (ซ้าย) และแนวนอน (ขวา)
การแสดผลพยาการณ์อากาศในแนวนอน
แอพนาฬิกา เมื่อแสดงผลในแนวนอน
แอพ Note เมื่อแสดงผลในแนวนอน แป้นพิมพ์จะแสดงปุ่มเครื่องมือสำหรับการคัดลอก ตัดแปะ และวางให้ด้วย
หน้าตาของ iTunes และ App Store ในแนวตั้ง (ซ้าย) และแนวนอน (ขวา)
เทคโนโลยีและประสิทธิภาพการทำงาน
iPhone 6 Plus มาพร้อมระบบปฏิบัติการ iOS 8 ชิปประมวลผล A8 ที่ใช้สถาปัตยกรรม 64 บิต รุ่นที่ 2 และโปรเซสเซอร์ร่วม M8 สำหรับประมวลผลการเคลื่อนไหวที่ดีกว่า A7 และ M7 บน iPhone 5s ซึ่งจากการทดสอบเล่นเกมทีมีกราฟิกสูง ๆ อย่าง Asphalt 8: Airborne รู้สึกได้เลยว่าลื่นไหล ไม่มีกระตุก ชมตัวอย่างเล่นเกมจากคลิปด้านล่างนี้ครับ
กล้องถ่ายรูป
iPhone 6 Plus มาพร้อมกล้อง iSight ใหม่ประกอบด้วยชุดเลนส์ 5 ชิ้น ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มีแฟลช True Tone และผลึกแซฟไฟร์ป้องกันหน้าเลนส์ มีระบบออโต้โฟกัสที่เรียกว่า Focus Pixels และรูรับแสงขนาด ƒ/2.2 โดยจุดเด่นของรุ่นนี้คือมีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคอล (OIS) ซึ่งในรุ่น iPhone 6 จะไม่มีระบบกันภาพสั่นไหวนี้
กล้องหลังสามารถถ่ายวิดีโอความละเอียดระดับ 1080p ที่ความเร็ว 60 เฟรมต่อวินาที หรือถ่ายวิดีโอแบบ Slow-Motion ที่ความเร็ว 240 และ 120 เฟรมต่อวินาที นอกจากนี้ก็ยังถ่ายวิดีโอแบบเร่งความเร็ว (Time-lapse) ได้ด้วย
ตัวอย่างภาพถ่าย (คลิกที่ภาพเพื่อดูภาพขนาดจริง)
ทีมงานได้รับเครื่อง iPhone 6 Plus มาทดสอบในระยะเวลาเพียงสั้น ๆ ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น โอกาสหน้าถ้ามีตัวเครื่อง iPhone 6 และ iPhone 6 Plus จะรีวิวเปรียบเทียบให้ดูกันใหม่นะครับ
สรุปจากรีวิว
จุดเด่น |
|
จุดสังเกตเพิ่มเติม |
|