Apple News
iPhone 6s จะมีความจุเริ่มต้น 32GB และแรม 2GB LPDDR4
รายงานจากสุดจาก TrendForce ให้ข้อมูลว่า iPhone 6s หน้าจอ 4.7 นิ้ว และ iPhone 6s Plus หน้าจอ 5.5 นิ้ว จะมีแรม 2GB LPDDR4 และความจุเริ่มต้น 32GB พร้อมเข้าสู่กระบวนการผลิตในเดือนหน้านี้
TrendForce ผู้ให้บริการทางการการตลาดเกี่ยวกับเทคโนโลยีอุตสาหกรรม ให้ข้อมูลว่า iPhone รุ่นใหม่หรือตามรายงานเรียกว่า iPhone 6s จะมี 2 รุ่นเช่นเดียวกับ iPhone 6 คือขนาดหน้าจอ 4.7 นิ้ว และ 5.5 นิ้ว โดยจะเริ่มเข้าสู่กระบวนการผลิตในช่วงเดือนมิถุนายนนี้ และเริ่มจัดส่งสินค้าในไตรมาส 3 ของปีนี้ คาดการณ์ว่าอยู่ที่ประมาณ 24 ล้านเครื่อง หากรวมไตรมาส 4 ของปีนี้ด้วยน่าจะมีการจัดส่งรวมกว่า 50 ล้านเครื่อง คิดเป็น 35% ของยอดการจัดส่ง iPhone ทั้งหมด และจะส่งผลให้ยอดขาย iPhone รวมในปี 2015 พุ่งสูงกว่า 230 ล้านเครื่อง อัตราเติบโตกว่า 20%
ข้อมูลจาก TrendForce ที่น่าสนใจคือ iPhone ทั้ง 2 รุ่นใหม่จะมีแรมประเภท LPDDR4 นอกจากจะเร็วกว่า LPDDR3 แล้วยังประหยัดพลังงานกว่าด้วย ซึ่งเหมาะกับสมาร์ทโฟนที่มีหน้าจอขนาดใหญ่ และเพิ่มขนาดจาก 1GB เป็น 2GB ใช้กระบวนการผลิตที่ 25 นาโนเมตรหรือ 20 นาโนเมตร โดยคาดการณ์ว่าความต้องการใช้แรมประเภทนี้จะเพิ่มเป็น 20,000 หน่วยต่อเดือน ในขณะที่การผลิตทั่วโลกอยู่ที่ราว 1.08 ล้านหน่วยต่อเดือน คิดเป็นสัดส่วน 2% สำหรับ iPhone รุ่นใหม่นี้
iPhone รุ่นใหม่จะมีความจุเริ่มต้น 32GB ซึ่งจะไม่มีความจุ 16GB แล้ว และเป็น NAND flash แบบ triple-level cell (TLC) แบบเดียวกับความจุ 64GB และ 128GB ที่ใช้บน iPhone 6 กับ iPhone 6 Plus ตามรายงานคาดการณ์ว่าจะมีความต้องการเพิ่มขึ้นอีกกว่า 50% คิดเป็น 18% ของปริมาณความต้องการใช้ NAND flash ทั้งหมดของปีนี้
หน้าจอสัมผัสของ iPhone รุ่นใหม่นี้จะมีเทคโนโลยีที่เรียกว่า Force Touch แบบเดียวกับบนหน้าจอ Apple Watch ความพิเศษของหน้าจอนี้คือนอกจากจะรับรู้ว่ามีการสัมผัสแล้ว ยังสามารถรับรู้ถึงแรงสัมผัสได้ด้วย โดยจะใช้อิเล็กโทรดขนาดจิ๋วรอบ ๆ จอภาพ Retina ที่มีความยืดหยุ่นเพื่อแยกแยะระหว่างการแตะเบา ๆ กับการกดแรง ๆ ซึ่งเป็นการเพิ่มมิติใหม่ให้กับอินเตอร์เฟซผู้ใช้ ตามรายงานเผยว่าบริษัทผู้ออกแบบและพัฒนาดิจิตอลชื่อดังในสหรัฐอเมริกา Analog Devices จะเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนนี้ให้กับ Apple ซึ่งก่อนหน้านี้สื่อจีนเคยออกมาเผยว่าคือ Avago Tech
ในส่วนของซอฟต์แวร์ Apple น่าจะเพิ่มความสามารถของหน้าจอแบบ Force Touch ให้ทำงานร่วมกับระบบปฏิบัติการ iOS 9 รวมถึงการทำงานร่วมกับแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ ด้วย แน่นอนว่าต้องออก API มาให้นักพัฒนาเพิ่มฟีเจอร์ให้กับแอพพลิเคชั่นของตนเองด้วย
อย่างไรก็ดี ข้อมูลทั้งหมดนี้ก็เคยมีหลายสื่อออกมาให้ข้อมูลบ้างแล้วทั้งจาก KGI และ udn ของจีน ส่วนของจริงจะมีสเปคและหน้าตาอย่างไรนั้น อีกไม่กี่เดือนคงจะเห็นกันครับ ^^