สรุป 10 ฟีเจอร์เด่น iPhone SE 3 มีอะไรใหม่?

สรุปฟีเจอร์ใหม่ iPhone SE 3 ไอโฟนที่เล็กที่สุดแต่ทรงพลังที่สุด มาในดีไซน์แบบกะทัดรัดและทนทาน มาพร้อมระบบปฏิบัติการ iOS 15 ไปดูกันว่าสมาร์ทโฟนน้องเล็กรุ่นนี้ มีอะไรน่าสนใจบ้าง

iPhone SE 3 มีอะไรใหม่?

หน้าจอขนาด 4.7 นิ้ว

iPhone SE มีวัสดุเป็นอะลูมิเนียมเกรดเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมอวกาศและดีไซน์แบบกระจกที่แข็งแกร่งที่สุดในสมาร์ทโฟนทั้งด้านหน้าและด้านหลัง แบบเดียวกับที่ด้านหลังของ iPhone 13 Pro และ iPhone 13 แถมยังได้รับการออกแบบมาเพื่อปกป้องจากของเหลวที่หกใส่ โดยมีความสามารถในการทนน้ำและฝุ่นที่ระดับ IP672

สแกนลายนิ้วมือได้

iPhone SE รุ่นที่ 3 มาพร้อมปุ่มโฮมและ Touch ID ที่หลานยคนคุ้นเคย สำหรับใช้ในการยืนยันตัวตนที่ง่าย เป็นส่วนตัว และปลอดภัย ในการล็อกอินเข้าสู่แอป อนุมัติการซื้อจาก App Store และอีกมากมาย

A15 Bionic

ในที่สุด Apple Silicon รุ่นล่าสุดอย่าง A15 Bionic ก็มาอยู่บนสมาร์ทโฟนน้องเล็กนี้แล้ว ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกพร้อมกับ iPhone 13 เพื่อประสิทธิภาพที่ดียิ่งกว่าในแทบทุกด้าน อัดแน่นด้วย CPU แบบ 6-core ทั้งยังเป็น CPU ที่เร็วที่สุดในสมาร์ทโฟน มาพร้อมคอร์ประสิทธิภาพสูงจำนวน 2 คอร์ และคอร์ประหยัดพลังงานสูงจำนวน 4 คอร์ ทำให้ iPhone SE เร็วกว่า iPhone 8 สูงสุดถึง 1.8 เท่า และเร็วยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อเทียบกับรุ่นที่เก่ากว่า

ปลดล็อคฟีเจอร์ด้วย Neural Engine

สำหรับ Neural Engine แบบ 16-core ก็ประมวลผลได้ถึง 15.8 ล้านล้านรายการต่อวินาที จึงประมวลผลเพื่อการเรียนรู้ของระบบสำหรับแอปพลิเคชันของบริษัทอื่นได้เร็วยิ่งขึ้น รวมถึงปลดล็อคฟีเจอร์สำหรับ iPhone SE อย่าง “ข้อความในภาพ” ในแอปกล้องที่มาพร้อมกับ iOS 15 และการป้อนตามคำบอกบนอุปกรณ์ได้ จึงเหมาะสำหรับการถ่ายภาพ เล่นเกม และประสบการณ์ความจริงเสริม

แบตอึด ชาร์จไร้สาย

ตัวเครื่องมีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานกว่ารุ่นก่อนหน้า และสามารถใช้งานร่วมกับเครื่องชาร์จที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน Qi สำหรับการชาร์จแบบไร้สาย ทั้งยังรองรับการชาร์จแบบเร็วอีกด้วย

กล้องดีขึ้นเมื่อใช้ร่วมกับ A15 Bionic

iPhone SE มาพร้อมระบบกล้องแบบใหม่หมดที่ใช้ขุมพลังจากชิป A15 Bionic และกล้องไวด์ความละเอียด 12 เมกะพิกเซล ที่มีรูรับแสงขนาด ƒ/1.8 รองรับการถ่ายภาพ HDR อัจฉริยะ 4, คุณสมบัติ “สไตล์ภาพถ่าย”, Deep Fusion และโหมดภาพถ่ายบุคคล

โหมดกล้องอัจฉริยะ

HDR อัจฉริยะ 4 ที่เปิดตัวพร้อม iPhone 13 Pro และ iPhone 13 จะใช้การแบ่งส่วนภาพที่ชาญฉลาดในการปรับแต่งสี คอนทราสต์ และนอยซ์ที่แตกต่างกันระหว่างตัวแบบและฉากหลัง ทำให้ใบหน้ามีความสว่างที่พอดีในสภาพแสงที่ถ่ายยาก และแต่ละบุคคลในรูปภาพจะได้รับการเรนเดอร์โดยแยกจากกัน รวมไปถึงการปรับแต่งสภาพแสงและโทนสีผิวที่ดีที่สุด

รองรับ 5G

5G ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อเครือข่ายเพื่อการอัปโหลดและดาวน์โหลดที่เร็วขึ้น ความหน่วงต่ำลง และประสบการณ์ที่ดีขึ้นในหลายที่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการโทร FaceTime ในคุณภาพสูงขึ้นระดับ HD หรือแม้แต่ในตอนที่ใช้ข้อมูลเซลลูลาร์ รวมไปถึงตอนใช้งาน SharePlay ใน iOS 15 ก็จะช่วยให้ผู้ใช้แชร์ประสบการณ์ร่วมกันได้อย่างราบรื่นไม่สะดุด

นอกจากนี้ก็ยังมีโหมด “ข้อมูลอัจฉริยะ” ที่จะช่วยประหยัดแบตเตอรี่ได้อย่างชาญฉลาดโดยการปรับความเร็วของ iPhone มาอยู่ที่ LTE เมื่อไม่จำเป็นต้องใช้ความเร็วระดับ 5G

มาพร้อม iOS 15

iOS 15 ยกระดับประสบการณ์การใช้งาน iPhone ด้วยวิธีการต่างๆ ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ต่อติดกับทุกเรื่อง พร้อมด้วยการอัปเดตที่จะช่วยผู้ใช้โฟกัส ใช้งานฟีเจอร์ที่จะช่วยให้ทำสิ่งต่างๆ ได้มากขึ้น เช่น มีโหมดโฟกัสใหม่ที่ช่วยลดสิ่งรบกวนสมาธิ รวมถึงการแจ้งเตือนโฉมใหม่ และฟีเจอร์ “ข้อความในรูปภาพ” ที่ใช้ระบบอัจฉริยะบนอุปกรณ์เพื่อตรวจหาข้อความในรูปภาพและให้ผู้ใช้ทำสิ่งต่างๆ กับข้อความนั้นได้

รักษ์สิ่งแวดล้อม

iPhone SE นั้นได้รับการออกแบบมาเพื่อลดผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อม ผลิตด้วยวัสดุรีไซเคิล ซึ่งประกอบด้วยแร่โลหะหายากที่ผ่านการรีไซเคิลทั้งหมด 100% ใน Taptic Engine และแม่เหล็กของระบบเสียง ทังสเตนรีไซเคิล 100% รวมถึงการใช้ดีบุกรีไซเคิล 100% ในบัดกรีของแผงวงจรหลัก ส่วนบรรจุภัณฑ์ที่ออกแบบใหม่นั้นก็เลิกใช้พลาสติกหุ้มชั้นนอกโดยสิ้นเชิง และทำให้ Apple เข้าใกล้เป้าหมายของบริษัทมากยิ่งขึ้น นั่นคือการเลิกใช้พลาสติกในบรรจุภัณฑ์ทั้งหมดภายในปี 2025

เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับฟีเจอร์ของ iPhone SE 3 ในปี 2022 ต้องบอกเลยว่าเป็นไอโฟนขนาดเล็กที่สุดและแรงที่สุดในตอนนี้เลย เพราะได้ชิประดับเรือธงที่ใช้ใน iPhone 13 series

iPhone SE จะวางจำหน่ายในรุ่นความจุ 64GB, 128GB และ 256GB ในสีมิดไนท์ สตาร์ไลท์ และ (PRODUCT)RED ในราคาเริ่มต้นที่ 15,900 บาท