ชิปเซ็ต Apple A11 ที่มาพร้อม iPhone 8 และ iPhone X จะมีซีพียู Hexa-core แบ่งการทำงาน 2 ระดับ และรวมการทำงานได้

ชิปเซ็ต Apple A11 ที่จะนำมาใช้งานกับ iPhone รุ่นใหม่ของปีนี้เพื่อฉลองครบรอบปีที่ 10 หรือที่เรียกว่า iPhone 8, iPhone 8 Plus และ iPhone X จะมีซีพียู Hexa-core แบ่งการทำงานออกเป็น 2 ระดับ

นักพัฒนาเจ้าเดิม Steve T-S หรือชื่อบนทวิตเตอร์ @stroughtonsmith ได้โพสต์ข้อมูลเกี่ยวกับโค้ดที่พบภายในระบบปฏิบัติการ iOS 11 ที่อ้างถึงชิปเซ็ต A11 จะมีซีพียู Hexa-core หรือ 6-core โดยแบ่งการทำงานออกเป็น 2 ระดับ คือ Dual-core ในชื่อ Monsoon สำหรับการประมวลผลที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด และ Quad-core ในชื่อ Mistral สำหรับการประมวลผลในการทำงานทั่วไป เน้นการประหยัดพลังงาน

Just to clarify on the A11: it's two high-power Monsoon cores and four low-power Mistral cores, all independently addressable. No Fusion

— Steve Troughton-Smith (@stroughtonsmith) September 10, 2017

เมื่อเทียบกับชิปเซ็ต A10 Fusion ที่ใช้ในรุ่น iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ปี 2016 มีซีพียู Quad-core แบ่งการทำงานออกเป็น 2 ระดับ คือ Dual-core สำหรับการทำงานสูงสุด และ Dual-core สำหรับการทำงานทั่วไป ในขณะที่ชิปเซ็ต A10X ที่ใช้ในรุ่น iPad Pro แบ่งการทำงานออกเป็น Triple-core Hurricane สำหรับการทำงานสูงสุด และ Tripple-core Zephyr สำหรับการทำงานทั่วไป ประหยัดพลังงาน

https://twitter.com/never_released/status/906964204757929984

นอกจากนี้ก็มีรายละเอียดที่น่าสนใจเกี่ยวกับชิปเซ็ต A11 ที่สามารถทำงานพร้อมกันหากจำเป็นในการประมวลผลที่สูงที่สุดทั้ง 6-core ซึ่งต่างไปจาก A10 Fusion ที่แยกการประมวลผลตามการใช้งาน ไม่รวมการทำงาน

กำหนดการเปิดตัว iPhone 8, iPhone 8 Plus และ iPhone X จะมีขึ้นในวันที่ 12 กันยายนนี้ รอติดตามไปพร้อมๆ กันได้ และเพื่อไม่ให้พลาดการอัปเดทต่างๆ เพื่อนๆ สามารถติดตามได้ทุกช่องทางต่างๆ ของเว็บไซต์ iphone-droid.net ทั้งหน้าเพจ iphone-droid.net, Twitter @iphone_droid ได้เช่นกันครับ