iPhone X เปิดพรีออเดอร์แล้ววันนี้ จำกัด 2 เครื่องต่อคน เริ่มต้นราว 40,000 บาท

Apple เปิดให้ลูกค้าพรีออเดอร์ iPhone X อย่างเป็นทางการวันนี้วันแรกในกลุ่มประเทศแรก และเริ่มวางขายอย่างเป็นทางการในวันศุกร์หน้า

วันนี้ 27 ตุลาคม 2017 สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ iPhone X เริ่มเปิดพรีออเดอร์ใน 55 ประเทศ และพร้อมวางขายจริงในวันที่ 3 พฤศจิกายน ได้แก่ อันดอร์รา ออสเตรเลีย ออสเตรีย บาห์เรน เบลเยี่ยม บัลแกเรีย แคนาดา จีน โครเอเชีย ไซปรัส สาธารณรัฐเช็ก เดนมาร์ก เอสโตเนีย ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี กรีซ กรีนแลนด์ เกิร์นซีย์ ฮ่องกง ฮังการี ไอซ์แลนด์ อินเดีย ไอร์แลนด์ ไอล์ออฟแมน อิตาลี ญี่ปุ่น เจอร์ซีย์ คูเวต ลัตเวีย ลีชเทนสไตน์ ลิทัวเนีย ลักเซมเบิร์ก มอลตา เม็กซิโก โมนาโก เนเธอร์แลนด์ นิวซีแลนด์ นอร์เวย์ โปแลนด์ โปรตุเกส เปอร์โตริโก กาตาร์ โรมาเนีย รัสเซีย ซาอุดีอาระเบีย สิงคโปร์ สโลวาเกีย สโลวีเนีย สเปน สวีเดน สวิสเซอร์แลนด์ ไต้หวัน สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ สหราชอาณาจักร สหรัฐฯ และเกาะเวอร์จินของสหรัฐอเมริกา

สำหรับ iPhone X ซึ่งเป็นรุ่นพรีเมียมและเป็นรุ่นฉลองปีที่ 10 ของการเปิดตัว iPhone ดูเหมือนว่าจะมีจำนวนจำกัดตามที่มีข่าวก่อนหน้านี้ โดยมีการจำกัดจำนวนในการสั่งซื้อล่วงหน้า 2 เครื่องต่อคนเท่านั้น ส่วนราคาในประเทศเพื่อนบ้านอย่างสิงคโปร์เริ่มต้น 1,648 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 40,000 บาท) สำหรับรุ่นความจุ 64GB

ฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่มาพร้อมกับ iPhone X นอกจากเรื่องของหน้าจอแสดงผลแบบ FullView และมีรอยบากแล้ว iPhone X ใช้เทคโนโลยีการจดจำใบหน้าที่เรียกว่า Face ID ในการยืนยันตัวตนแทน Touch ID ซึ่งใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับใบหน้าแบบ 3D ที่มีการตรวจจับความลึกของใบหน้าได้อย่างแม่นยำ โดยข้อมูลใบหน้าจะถูกจัดเก็บเข้ารหัสไว้ภายในชิปอย่างปลอดภัย โดยมี Apple Neural Engine ชิปที่ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการประมวลผล Face ID ได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งจากกการทดสอบโดย Apple ยืนยันแม้ทำหน้ากากจากใบหน้าเจ้าของหรือรูปถ่ายก็ไม่สามารถสแกนปลดล็อคได้

iPhone X มาพร้อมชิปเซ็ต Apple A11 Bionic ที่ทำงานได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพดีกว่าเดิมด้วยซีพียู Hexa-core หรือ 6-core โดยแบ่งการทำงานออกเป็น 2 ระดับ คือ Dual-core ในชื่อ Monsoon สำหรับการประมวลผลที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด และ Quad-core ในชื่อ Mistral สำหรับการประมวลผลในการทำงานทั่วไป เน้นการประหยัดพลังงาน และมีลูกเล่นที่เรียกว่า Animoji

เลนส์กล้องหลังของ iPhone X เป็นเลนส์คู่แนวตั้ง ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 และมีแฟลชแบบ 4 ดวง Quad-LED flash คั่นระหว่างเลนส์กล้อง 2 ตัว ในขณะที่กล้องหน้ามาพร้อมโหมด Portrait Selfie และแบตเตอรี่ของ iPhoene X ใช้งานได้ยาวนานกว่า iPhone 7 ถึง 2 ชั่วโมง โดยมีแทนชาร์จ AirPower เป็นอุปกรณ์เสริมสำหรับการชาร์จไร้สายด้วย

ในไทย iPhone X พบว่าผ่านการรับรองจาก กสทช. แล้ว คาดการณ์ว่าจะเริ่มจับจองกันได้ในช่วงสิ้นปีนี้หรืออาจต้องรอไปจนถึงต้นปี 2018 และอาจมีจำนวนจำกัดด้วย หากมีความคืบหน้าจะมาอัปเดทให้ทราบต่อไปครับ