iPhone Xs และ iPhone Xs Max ประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่จาก Apple ที่แฟนๆ รอคอยกันมานานนับปี ซึ่งในปีนี้มีความพิเศษด้วยการอัพเกรดฟีเจอร์ใหม่ๆ เพียบ
iPhone Xs และ iPhone Xs Max เรียกได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่มีดีไซน์ใกล้เคียงกันมาก แต่แผงหน้าจอและขนาดแตกต่างกัน รวมถึงสเปคตัวเครื่องที่ไม่เหมือนกันด้วย เพื่อตอบโจทย์การใช้งานของแต่ละคนในระดับราคาที่ต่างกัน
iPhone Xs และ Xs Max เป็นรุ่นไฮเอนด์ที่ใช้แผงหน้าจอ OLED หรือ Super AMOLED แต่ทาง Apple เรียกว่า Super Retina สานต่อความสำเร็จจาก iPhone X ของปีที่แล้วนั่นเอง โดยมีขนาดหน้าจอ 5.8 นิ้ว และ 6.5 นิ้ว นับเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกจาก Apple ที่มีหน้าจอใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา
บนเวทีงานเปิดตัว Apple บอกว่าเป็น iPhone ที่สวยที่สุดเท่าที่เคยมีมาด้วยกรอบตัวเครื่องมันเงาสวยหรู ผสานรวมกับตัวเครื่องกระจกอย่างลงตัว กันน้ำมาตรฐาน IP68
การดีไซน์แบบ iPhone X ทำให้ได้ขนาดหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น ในขณะที่ขนาดตัวเครื่องใกล้เคียงกับรุ่นเดิมอย่าง iPhone 8 และ iPhone 8 Plus อีกทั้งหน้าจอแบบใหม่รองรับการแสดงผล HDR ตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่ชื่นชอบการดูหนัง ด้วยอัตราส่วนคอนทราสต์สูงถึง 1,000,000:1 และมีลำโพงสเตอริโอคู่
ด้านสเปคตัวเครื่องใช้ชิพประมวลผล Apple A12 Bionic ที่มีประสิทธิภาพดีขึ้นกว่าเดิม และ Neural ชิพประมวลผลโครงข่ายปราสาท โดยตัวเครื่องรันระบบปฏิบัติการ iOS 12 เวอร์ชั่นล่าสุด และมีความจุตัวเครื่องสูงสุด 512GB
กล้องถ่ายรูปด้านหลังเป็นเลนส์คู่ ความละเอียด 12 + 12 ล้านพิกเซล เป็นเลนส์ไวด์ปกติและเลน์เทโลโฟโต้ โดยมีระบบกันภาพสั่นไหว OIS ด้วย รองรับการบันทึกวิดีโอระดับ 4K และเสียงที่บันทึกนั้นก็เป็นแบบสเตอริโอด้วย๒
Smart HDR ฟีเจอร์ที่จะช่วยให้การถ่ายภาพที่มีแสงต่างกันมากๆ ได้รายละเอียดครบถ้วน โดยการถ่ายภาพหลายเฟรมแล้วนำมารวมเป็นภาพเดียวกัน เพื่อให้ได้แสงเงาที่สวยสมจริงมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้แล้วสำหรับการถ่ายภาพ Bokeh หน้าชัดหลังเบลอ สามารถปรับค่ารูรับแสงเพื่อละลายฉากหลังได้แล้วตั้งแต่ f/1.4 ไปจนถึง f/16
iPhone Xs และ iPhone Xs Max สำหรับรุ่นวางจำหน่ายทั่วโลกจะรองรับ 2 ซิมการ์ด (ซิมแบบ eSIM + Nano SIM ปกติ) ในขณะรุ่นโมเดลที่วางจำหน่ายในจีนจะเป็นแบบถอดใส่ซิมการ์ด 2 ทั้งสองช่อง
ยังไม่หมดแค่นั้น Apple ยังได้ประกาศเปิดตัว iPhone XR ตัวเครื่องหลากสีสัน มาพร้อมเลนส์กล้องหลังขนาดใหญ่ ตัวเครื่องกันน้ำได้มาตรฐาน IP67 และมีหน้าจอแสดงผล LCD
หน้าจอแบบนี้ Apple เรียกว่า Liquid Retina มีขนาด 6.1 นิ้ว มีเทคโนโลยี Face ID สแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อคตัวเครื่องเหมือนกับรุ่นพรีเมียม และใช้ท่าทางการสัมผัสแบบเดียวกันด้วย
ชิพประมวลผลที่เลือกใช้ในรุ่นนี้เป็น A12 Bionic เช่นเดียวกับ iPhone Xs ซึ่งจุดขายรุ่นนี้คือกล้องหลังเลนส์ไวด์ 12 ล้านพิกเซล มีระบบกันภาพสั่นไหว OIS รูรับแสงกว้าง f/1.8
ราคาและวันวางจำหน่าย
- iPhone XR ราคาเริ่มต้น 749 ดอลลาร์สหรัฐ เริ่มพรีออเดอร์ 19 ตุลาคม และวางจำหน่าย 26 ตุลาคมปีนี้
- iPhone Xs ราคาเริ่มต้น 999 ดอลลาร์สหรัฐ เริ่มพรีออเดอร์ 14 กันยายน และวางจำหน่าย 21 กันยายนในกลุ่มประเทศแรก
- iPhone Xs Max ราคาเริ่มต้น 1,099 ดอลลาร์สหรัฐ เริ่มพรีออเดอร์ 14 กันยายน และวางจำหน่าย 21 กันยายนในกลุ่มประเทศแรก
เรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
- Apple Watch Series 4 เปิดตัวอย่างเป็นทางการ วัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจได้
- เช็คด่วน! อุปกรณ์ที่ติดตั้ง iOS 12 เวอร์ชั่นเต็มได้ ในวันที่ 17 ก.ย. 61
-
แอปเปิลประกาศปล่อย iOS 12 เวอร์ชั่นเต็ม ดาวน์โหลดได้วันที่ 17 ก.ย. 61