รีวิว iQOO Z9 5G และ Z9x 5G ขุมพลังไร้ขีดจำกัด ด้วยแบต 6000mAh l ชิปเซ็ต Snapdragon l ขยาย RAM 12GB + 12GB

รีวิว iQOO Z9 5G และ Z9x 5G สมาร์ทโฟนคู่หูที่มาในสโลแกน “ขุมพลังไร้ขีดจำกัด” โดยรอบนี้ทั้ง 2 รุ่นก็จัดเต็มในเรื่องของชิปประมวลผลที่คุ้มค่า ดีไซน์ที่สวยงามเหมือนรุ่นเรือธง และสเปคต่างๆ ที่ใช้งานได้เร็วแรง แต่ละรุ่นเป็นอย่างไรบ้าง เรามาดูไปควบคู่กันเลย !!

สรุปสเปค iQOO Z9 5G

• ขนาดตัวเครื่อง : 163.72 x 75.88 x 7.98 มม. 
• น้ำหนัก : 194.6 กรัม
• หน้าจอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด 1.5K+ (2800 × 1260 พิกเซล), รองรับ Refresh Rate 144Hz แสดงผลสี 1.07 พันล้านสี, Contrast ratio: 8000000:1 สัดส่วนพื้นที่ต่อหน้าจอ 93.42% และความสว่างสูงสุด 4500 นิต
• หน่วยประมวลผล : Snapdragon 7 Gen 3 Octa-core ความเร็ว 2.63GHz
• GPU : Adreno 720
• RAM : 8/12GB LPDDR4X
• ROM : 256GB UFS 2.2
• กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 2 เลนส์ดังนี้
  • เลนส์หลักความละเอียด 50MP, รูรับแสง f/1.79 เซ็นเซอร์ Sony LYT-600
  • เลนส์ Bokeh ความละเอียด 2MP รูรับแสง f/2.4
• กล้องหน้าความละเอียด 16MP รูรับแสง f/2.45
• ระบบปฏิบัติการ Android 14 ครอบทับด้วย Funtouch OS 14
• รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6, Bluetooth 5.4, 5G, NFC, IR Blaster และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่ความจุ 6000mAh รองรับชาร์จเร็ว 80W FlashCharge

สรุปสเปค iQOO Z9x 5G

• ขนาดตัวเครื่อง : 165.70 x 76.00 x 7.99 มม. 
• น้ำหนัก : 199 กรัม
• หน้าจอแสดงผล LCD ขนาด 6.72 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2408 x 1080 พิกเซล), อัตราส่วน 20.06:9 รองรับ Refresh Rate 120Hz, Contrast ratio: 1400:1 และสัดส่วนพื้นที่ต่อหน้าจอ 91.48%
• หน่วยประมวลผล : Snapdragon 6 Gen 1 Octa-core ความเร็ว 2.2GHz
• GPU : Adreno 710
• RAM : 8/12GB LPDDR4X
• ROM : 128/256GB UFS 2.2
• กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 2 เลนส์ดังนี้
  • เลนส์หลักความละเอียด 50MP, รูรับแสง f/1.79
  • เลนส์ Bokeh ความละเอียด 2MP รูรับแสง f/2.4
• กล้องหน้าความละเอียด 8MP รูรับแสง f/2.45
• ระบบปฏิบัติการ Android 14 ครอบทับด้วย Funtouch OS 14
• รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 5, Bluetooth 5.1, 5G, NFC และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่ความจุ 6000mAh รองรับชาร์จเร็ว 44W FlashCharge

แกะกล่อง ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล

แกะกล่อง iQOO Z9 5G และ Z9x 5G

ตัวกล่องของทั้ง 2 รุ่นนี้จะให้มาเหมือนกันมากๆ โดยที่ด้านหน้าตัวกล่องจะมีชื่อแบรนด์อย่าง iQOO โดดเด่นตรงกลางกล่อง พร้อมด้วยลวดลายตัว “Z” ที่เป็นซีรีส์รุ่นนี้ภายใต้ชื่อแบรนด์

สิ่งที่ให้มาในกล่องก็เกือบจะเหมือนกันทั้งหมด ตั้งแต่ตัวเครื่องที่ติดฟิล์มกันรอยหน้าจอมาให้แล้ว เปิดออกมาจะมีเคสใสมาให้ และคู่มือการใช้งานเบื้องต้น และชั้นสุดท้ายก็จะมีอะแดปเตอร์ แต่จะต่างกันตามสเปคของทั้งคู่ โดย iQOO Z9 5G ให้หัวชาร์จ 80W FlashCharge ส่วน iQOO Z9x 5G จะให้มาเป็น 44W FlashCharge ทั้งนี้สายชาร์จ USB Type-C และเข็มเปิดถาดซิมก็ยังมีมาให้ครบถ้วนเลย

ดีไซน์เบาบางพร้อมโมดูลกล้อง Porthole เสมือนรุ่นเรือธง

บอกเลยว่าดีไซน์ของทั้ง 2 รุ่นได้รับการออกแบบมาให้เสมือนกับเรากำลังใช้งานสมาร์ทโฟนเรือธงของ iQOO อย่าง iQOO 12 มากๆ เพราะได้โมดูลกล้องหลังที่เป็นเอกลักษณ์ในชื่อ Porthole ที่มีรูปแบบสี่เหลี่ยมที่แต่ละมุมจะมีความโค้งที่ลงตัวมากๆ

เรามาเจาะลึกมากขึ้นกันทีละรุ่นดีกว่าครับ เริ่มด้วยตัวรุ่นพี่ iQOO Z9 5G ที่รอบนี้เราได้สีดำแฟนทอม แบล็ค (Phantom Black) ได้ความคลาสสิก เข้มขรึม พร้อมสะท้อนถึงความลึกลับ ชวนให้ค้นหา และโดดเด่นด้วยฝาหลังเคลือบฟลูออไรต์ระดับ Micro-level ที่เป็นพื้นผิวด้าน เปล่งประกายราวกับท้องฟ้ายามค่ำคืนครับ

iQOO Z9 5G ยังมีตัวเครื่องที่ได้ทั้งความเบาและบางอีกด้วย โดยมีความบางเฉียบเพียง 7.98 มม. และน้ำหนักเบา 194.6 กรัมเท่านั้น ซึ่งเป็นตัวเลขที่น้อยมากๆ กับเทียบกับสมาร์ทโฟนที่ให้แบตเตอรี่มาถึง 6000mAh

และในรุ่นนี้ยังมีความโค้งของฝาหลังเพื่อให้เราจับได้อย่างกระชับมือและดูพรีเมียมมากขึ้นไปในเวลาเดียวกัน

มาต่อกันด้วย iQOO Z9x 5G ที่แม้จะเป็นตัวรุ่นน้อง แต่ดีไซน์แทบไม่ต่างกันเลยครับ โดยความบางเฉียบก็อยู่ที่ 7.99 มม. และเบา 199 กรัมเท่านั้น ซึ่งเป็นตัวเลขที่ไม่ต่างจาก iQOO Z9 5G เท่าไหร่

สำหรับสีของ iQOO Z9x 5G เราก็ได้มาในแบบเดียวกันคือสีดำ แต่เป็นสีดำมิสติก แบล็ค (Mystic Black) ที่ตัวสีจะออกมาเป็นเทาเกือบดำ และดูสว่างกว่า iQOO Z9 5G เล็กน้อย แต่ก็ยังให้ความคมเข้ม สื่อถึงความมืดมิดยามราตรีบนพื้นที่บริเวณละติจูดสูง มีดวงดาวระยิบระยับ และฝาหลังก็ยังเป็นผิวด้านเหมือนกันด้วยครับ

ส่วนความต่างของฝาหลังใน iQOO Z9x 5G จะเป็นแบบแบนเรียบ ไม่ได้มีความโค้งเหมือนกับ iQOO Z9 5G แต่ก็ทำให้คนที่ชอบแบบจับถือได้แน่นๆ มือได้รู้สึกว่า iQOO Z9x 5G น่าจะถนัดมือมากกว่าครับ

พร้อมใช้ทุกสถานการณ์ด้วยมาตรฐานกันน้ำ-กันฝุ่น IP64

iQOO Z9 5G และ iQOO Z9x 5G มาพร้อมกับมาตรฐานกันน้ำและฝุ่น IP64 ซึ่งป้องกันฝุ่นและละอองน้ำได้ในช่วงสถานการณ์ที่จำเป็น เช่น ตอนฝนตก หรือในช่วงที่มือเปียกน้ำ เป็นต้นครับ

หน้าจอขนาดใหญ่ คมชัดเต็มตา พร้อมรองรับ Refresh Rate สูงสุด 144Hz

มาดกูกันต่อที่หน้าจอแสดงผล ขอเริ่มกันด้วย iQOO Z9 5G เหมือนเดิม โดยรุ่นนี้จัดเต็มด้วยการใช้พาเนลหน้าจอแบบ AMOLED ขนาดใหญ่ 6.78 นิ้ว พร้อมความคมชัดระดับ 1.5K+ (2800 x 1260 พิกเซล) โดยเรื่องของสีสันบนหน้าจอก็สวยงามระดับท็อปด้วยการแสดงผลสี 1.07 พันล้านสี (10 Bit) มีค่า Contrast ratio: 8000000:1 และใช้งานในที่กลางแจ้งได้ชัดเจนด้วยความสว่างสูงสุดถึง 4500 นิต

iQOO Z9 5G ยังได้ขอบหน้าจอที่บางขั้นสุด ทำให้มีสัดส่วนพื้นที่หน้าจอมากถึง 93.42% ซึ่งได้สัดส่วนที่เยอะมากๆ ในระดับเรือธงเลยทีเดียว และยังรองรับการถนอมสายตาเวลาใช้งานนานๆ ด้วยความถี่ Pulse Wide Modulation (PWM) สูงสุดถึง 3840Hz

การใช้งานเพื่อเล่นเกมเป็นหลักก็จะมี Refresh Rate ให้เลือกได้สูงสุดที่ 144Hz ช่วยให้การตอบสนองได้ไว ไหลลื่นและติดนิ้วมากๆ ซึ่งจะเห็นได้ชัดเจนเวลาเล่นเกมครับ

ส่วนหน้าจอแสดงผลของ iQOO Z9x 5G จะใช้เป็นแบบ LCD ขนาดใหญ่ที่ 6.72 นิ้ว โดยความละเอียดจะอยู่ที่ FHD+ (2408 x 1080 พิกเซล) พร้อมมีอัตราส่วน 20.06:9 รองรับ Refresh Rate สูงสุดที่ 120Hz ทั้งยังมีค่า Contrast ratio 1400:1 และขอบหน้าจอก็บางพอตัวด้วย โดยมีสัดส่วนพื้นที่ต่อหน้าจอถึง 91.48%

ทั้งนี้ iQOO Z9x 5G มีความสว่างสูงสุดอยู่ที่ 1000 นิต ซึ่งก็เพียงพอต่อการใช้งานในที่กลางแจ้ง รวมถึงมีเทคโนโลยี Global true DC Dimming เพิ่มความเสถียรและความสม่ำเสมอของภาพ ให้หน้าจอไม่กระพริบและถนอมสายตาเวลาที่เราใช้งานนานๆ

พาชมรอบเครื่อง

พามาดูรอบๆ เครื่องของทั้ง 2 รุ่นนี้กันต่อเลย โดยจะมีความคล้ายกันในหลายจุด และก็มีบางจุดที่ต่างกัน ซึ่งสิ่งที่เหมือนกันจุดแรกคือกล้องหน้าที่มาแบบ Punch Hole ที่จัดวางตรงกลางเหมือนกันเป๊ะๆ และมีลำโพงที่ใช้งานได้ทั้งการสนทนาและเป็นลำโพงคู่ซ่อนอยู่ที่ขอบดำด้านบนด้วยครับ

ที่ด้านล่างของตัวเครื่องจะเริ่มเห็นความต่างกันแล้ว โดยริมฝั่งซ้ายใน iQOO Z9 5G จะเป็นช่องใส่ซิมการ์ด 2 ช่องแบบพลิกหน้า-หลัง และไม่มีช่อง MicroSD ส่วนในรุ่น iQOO Z9x 5G จะเป็นช่องเสียบหูฟังแบบ 3.5 มม. ถัดไปทางขวาทั้ง 2 รุ่นนี้จะเหมือนกันเลย คือ ไมโครโฟนตัวที่ 1 ตามด้วยพอร์ต USB-C และลำโพงตัวหลัก

สำหรับช่องใส่ซิมการ์ดของ iQOO Z9x 5G จะไปอยู่ทางฝั่งซ้ายตัวเครื่อง โดยจะใส่ได้ 2 ซิมเหมือนกัน แต่ช่องที่ 2 จะเป็น Hybrid ให้เลือกระหว่างซิมที่ 2 หรือ MicroSD Card สูงสุด 1TB อย่างใดอย่างหนึ่งครับ

ฝั่งขวาทั้งคู่จะเป็นปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง ตามด้วยปุ่ม Power ที่ใน iQOO Z9 5G จะเป็นปุ่มปกติ และมีเซ็นเซอร์สำหรับสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ ส่วน iQOO Z9x 5G จะใช้การสแกนลายนิ้วมือที่ปุ่ม Power

ด้านบนจะเป็นการใส่ไมโครโฟนตัวที่ 2 เพื่อตัดเสียงรบกวนมาให้เหมือนกัน แต่ iQOO Z9 5G จะใส่เซ็นเซอร์อินฟราเรด (IR) มาให้เพื่อใช้ในการควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านแทนรีโมทครับ

และที่ด้านหลังจะได้โมดูลกล้องหลังแบบ Porthole ตามที่บอกไปตอนต้น โดยในกรอบจะได้กล้อง 2 เลนส์ที่แถบซ้ายเหมือนกันเป๊ะๆ แต่ iQOO Z9 5G จะนำไฟแฟลช LED แนวตั้งไว้ที่นอกกรอบทางขวา แต่ฝั่งของ iQOO Z9x 5G จะให้ไฟแฟลชมาอยู่ในกรอบเลยครับ

ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน

ระบบปฏิบัติการ

ระบบปฏิบัติการ Android 14 บน Funtouch OS 14 รุ่นล่าสุดเหมือนกัน

ทั้ง iQOO Z9 5G และ iQOO Z9x 5G ต่างแกะกล่องมาพร้อม Android 14 บน Funtouch OS 14 เหมือนกันเลยครับ ไหลลื่นขึ้น ความเสถียรก็ดีขึ้นเช่นกัน รวมถึงจะมีฟีเจอร์ต่างๆ ที่ถูกใส่เข้ามาให้เพิ่มเติม

ระบบความปลอดภัยครบทั้ง 2 รุ่น

ในการใช้งานเรื่องความปลอดภัย ทั้ง 2 รุ่นรองรับการสแกนใบหน้าที่ทำงานได้รวดเร็ว แต่คงความเสถียรและแม่นยำ

ส่วนการสแกนลายนิ้วมือก็มีให้เหมือนกัน แต่ต่างกันตรงจุดที่สแกนครับ โดยในรุ่น iQOO Z9 5G จะอยู่บนหน้าจอแสดงผล การทำงานถือว่ารวดเร็วมากๆ ส่วน iQOO Z9x 5G จะอยู่ที่ปุ่มด้านข้าง ซึ่งก็ได้ความรวดเร็วและความถนัดกันคนละแบบ

ลำโพงสเตอริโอคู่แบบกระหึ่ม

สิ่งที่หลายคนชอบกันแน่นอนเลยคือทั้งคู่ให้ลำโพงสเตอริโอแบบคู่ ซึ่งการทำงานก็เสียงดังสะใจมากๆ แถมมีมิติ ยิ่งถ้าใครเล่นเกม FPS ที่ต้องแยกเสียงแต่ละฝั่งชัดเจนจะยิ่งหลงรักลำโพงทั้ง 2 รุ่นนี้แน่นอน

iQOO Z9x 5G ปรับระดับเสียงได้สูงสุด 300%

สำหรับฟีเจอร์นี้จะมีให้เพียงรุ่นเดียว คือ iQOO Z9x 5G ที่สามารถปรับให้ลำโพงเสียงดังได้มากถึง 300% ก็ยิ่งได้ความกระหึ่มขั้นสูงขึ้นไปอีกขั้นครับ

iQOO Z9 5G รองรับ Always on Display

ฟีเจอร์นี้ก็ได้เพราะรุ่นที่ใช้จอ AMOLED จะเป็นการแสดงข้อมูลคร่าวๆ ของระบบพื้นฐาน เช่น เวลา วันที่ แบตเตอรี่คงเหลือ และไอคอนของแอพที่มีการแจ้งเตือนเข้ามา ซึ่งรูปแบบการแสดงของ AOD ก็มีให้ปรับแต่งได้เยอะมากๆ ในการตั้งค่าเลยครับ

iQOO Z9 5G ใช้เป็นรีโมทอัจฉริยะควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าได้

เซ็นเซอร์อินฟราเรด (IR Blaster) จะมีให้ใช้งานใน iQOO Z9 5G โดยจะเป็นการใช้ตัวเครื่องแทนรีโมทเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเครื่องปรับอากาศ ทีวี พัดลม หลอดไฟ กล้องถ่ายรูป และอื่นๆ ที่ต้องมีรีโมทในการควบคุม ซึ่งเราสามารถเข้าไปตั้งค่าได้ในแอพ “รีโมทอัจฉริยะ” ที่ติดตั้งมาให้อยู่แล้ว

ประสิทธิภาพ การเล่นเกม และแบตเตอรี่

ชิปประมวลผลระดับท็อปตัวกลาง ใช้งานเร็วแรงเกินราคา

จบฝั่งซอฟต์แวร์ไปแล้ว มาดูเรื่องฮาร์ดแวร์ขุมพลังภายในทั้ง 2 รุ่นกันต่อครับ ขอเปิดกันด้วย iQOO Z9 5G ที่ใช้ขุมพลัง Snapdragon 7 Gen 3 ที่เป็นชิประดับท็อปๆ ในรุ่น Mid-Range การใช้งานเร็วแรง ไหลลื่น และทำงานได้เสมือนเรือธงเลยทีเดียว ชิปตัวนี้มาในขนาดเล็กเพียง 4nm แบบ 8 คอร์ (Octa-Core) ความเร็ว Clock สูงสุด 2.63GHz พร้อม GPU Adreno 720 ที่ได้รับการอัปเกรดใหม่และให้ประสิทธิภาพเทียบเท่ากับ Snapdragon 8 Series เลยด้วยครับ

ส่วนรุ่นน้อง iQOO Z9x 5G ก็เป็นตัวท็อปในชิปรุ่นประหยัดอย่าง Snapdragon 6 Gen 1 ที่เป็นชิป Octa-core ความเร็วสูงสุด 2.2GHz แถมยังใช้การผลิตแบบเดียวกันคือ 4nm ใช้ GPU Adreno 710 ด้วย ซึ่งการเล่นเกมและการใช้งานทั่วไปก็จัดว่าคุ้มค่าเพราะได้ความไหลลื่นมากๆ แล้วครับ

ขยาย RAM ได้สูงสุด 12GB

สำหรับ iQOO Z9 5G และ iQOO Z9x 5G รองรับเทคโนโลยีการขยาย RAM หรือ Extended RAM ที่รองรับการเพิ่มได้สูงสุดอีก 12GB ทำให้สามารถมี RAM รวมได้สูงสุดถึง 24GB เลยทีเดียว ช่วยให้เราสามารถใช้งานแอพพลิเคชั่นในพื้นหลังพร้อมกันได้มากกว่า 40 แอพแบบไม่ได้โหลดใหม่เวลาเปิดขึ้นมาครับ

ผลการทดสอบบน AnTuTu v10 และ Geekbench 6 ของ iQOO Z9 5G

• ผลคะแนนการทดสอบด้านประสิทธิภาพด้าน CPU, GPU และหน่วยความจำบน AnTuTu 10.2.4 ได้มาที่ 819,283 คะแนน
• ผลคะแนนด้าน CPU บน Geekbench 6 ทำ Single-Core ไปที่ 1,175 คะแนน และ Multi-Core ที่ 3,221 คะแนน

ผลการทดสอบบน AnTuTu v10 และ Geekbench 6 ของ iQOO Z9x 5G

• ผลคะแนนการทดสอบด้านประสิทธิภาพด้าน CPU, GPU และหน่วยความจำบน AnTuTu 10.2.4 ได้มาที่ 560,923 คะแนน
• ผลคะแนนด้าน CPU บน Geekbench 6 ทำ Single-Core ไปที่ 942 คะแนน และ Multi-Core ที่ 2,763 คะแนน

ทดสอบการเล่นเกม

การทดสอบการเล่นเกมเราจะเน้นไปที่ iQOO Z9 5G ที่สเปคจัดเต็มมากกว่าครับ (แต่บอกก่อนว่า iQOO Z9x 5G ก็เล่นได้ดีเหมือนกัน แต่จะต่างกันที่การปรับกราฟิกภายในเกมครับ)

ROV

เริ่มกันด้วย ROV สามารถเปิดภาพทุกอย่างสูงสุดได้ทั้งหมด การเล่นจริงๆ ก็ทำได้ลื่น เฟรมเรทแทบไม่มีดรอป ยิ่งในช่วงที่ใช้สกิลที่แสดงเอฟเฟ็กต์เยอะมากในเฟรมก็ทำได้เต็มที่เลยครับ

Asphalt 9: Legends

ส่วนเกมแข่งรถภาพสวยอย่าง Asphalt 9: Legends ก็เล่นได้สบายๆ พร้อมการปรับภาพระดับสูงได้เลยครับ

Genshin Impact

ท้ายสุดเป็น Genshin Impact แนะนำให้เปิดภาพระดับปานกลางก็เพียงพอครับ ซึ่งตัวเครื่องมีฟีเจอร์ระบบสั่นสะเทือนที่ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับเกม ‘Genshin Impact’ เป็นการจำลองการสั่นสะเทือนที่หลากหลายให้สอดคล้องกับสกิลตัวละครทั้ง 68 ตัว และเนื้อหาของเกมในสถานการณ์ต่างๆ ครับ

ระบบระบายความร้อนทำงานได้ดีมากๆ

จริงๆ เป็นเรื่องปกติที่เวลาใช้งานเล่นเกม หรือใช้งานกล้องนานๆ จะเกิดความร้อนของตัวเครื่อง แต่ต้องมาดูกันที่ตอนระบายความร้อนออกไปครับ ซึ่งใน iQOO Z9 5G ก็มาพร้อมระบบระบายความร้อน Vapor Chamber ขนาดใหญ่ถึง 6043mm² ซึ่งเป็นระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวขนาดใหญ่พิเศษ ใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นก่อน 1 เท่า ครอบคลุมตั้งแต่เมนบอร์ดไปจนถึงบริเวณกล้องถ่ายภาพเลยทีเดียว ยิ่งช่วงนี้แดดร้อนๆ อุณหภูมิสูงๆ อันนี้เข้ามาช่วยได้เป็นอย่างดีครับ

แบตเตอรี่อึด 6000mAh ชาร์จเร็วสูงสุด 80W FlashCharge

เรื่องแบตเตอรี่ของ iQOO Z9 5G และ iQOO Z9x 5G ให้แบตเตอรี่มาเท่ากันที่ 6000mAh เป็นความจุสูงสุดเท่าที่เคยมีมาในสมาร์ทโฟนของ iQOO ซึ่งการใช้งานจริงๆ แบบทั่วไปอยู่ได้ทั้งวันครับ ส่วนใครที่เล่นเกมหรือดูวิดีโอต่อเนื่องก็อยู่ได้ประมาณ 6-7 ชั่วโมง

และที่ต้องมีเลยคือความเร็วในการชาร์จในรุ่น iQOO Z9 5G รองรับ 80W FlashCharge ส่วน iQOO Z9x 5G นั้นรองรับชาร์จเร็ว 44W FlashCharge

กล้องถ่ายภาพคมชัดสูงสุด 50MP

สเปคกล้องหลังของทั้งคู่ให้มาที่ความละเอียด 50MP เท่ากัน พร้อมได้เลนส์ Bokeh มาเสริมเรื่องการถ่ายภาพ Portrait ให้แจ่มขึ้นไปอีกขั้นด้วยครับ แต่สิ่งที่ทำให้ต่างกันจะเป็นเรื่องของชิป ISP ที่อยู่ใน CPU ของแต่ละรุ่นที่ต่างกันออกไปครับ แต่หลักๆ จะเน้นไปที่ iQOO Z9 5G แล้วกันเนาะ

มาพร้อม AI HDR ซูม 2x แบบไม่เสียรายละเอียด

กล้องหลังของ iQOO Z9 5G จะให้มาที่ 50MP ซึ่งรองรับเทคโนโลยีการซูม 2x ในโหมดปกติด้วย ช่วยให้เราได้ภาพในระยะที่ไกลขึ้นกว่าเดิมอยู่ที่ระยะ 52mm และช่วยให้เราได้ภาพในมุมที่ต่างจากระยะ 1x ด้วย ทั้งนี้ฝั่งของ iQOO Z9x 5G ก็ยังรองรับการถ่ายภาพ 2x เช่นกันครับ

ในเรื่องของโทนสีของ iQOO Z9 5G จะเน้นเรื่องความสดใสและความอิ่มสีที่สูงเป็นหลักและมีความคมชัดที่เห็นได้ชัดเจน ส่วน iQOO Z9x 5G จะได้สีสันที่ดูเป็นธรรมชาติมากกว่า สีสันที่ไม่อิ่มจนเกินไป

เราลองมาดูภาพอื่นๆ ของ iQOO Z9 5G กันต่อเลยครับ ซึ่งการถ่ายถือว่าสนุกมากๆ ทั้งในรูปแบบ AI ธรรมดาหรือจะใส่ฟิลเตอร์ขาวดำหรือรูปบบฟิล์มก็ทำให้ภาพดูมีมิติมากขึ้นกว่าเดิมด้วยครับ

ถ่าย Portrait ละลายหลังสวย เป็นธรรมชาติ

การถ่ายภาพโหมดบุคคลหรือ Portrait ทั้ง 2 รุ่นจะให้การละลายฉากหลังที่เนียนตา มีการปรับแต่งใบหน้าที่สวยงามแบบเป็นธรรมชาติมากๆ ทั้งนี้ในรุ่น iQOO Z9 5G ยังรองรับการซูม 2x เพื่อให้ได้ระยะที่ช่างภาพต้องการและยังละลายฉากหลังให้เหมือนกล้องโปรมากขึ้นครับ

เก็บภาพกลางคืนได้คมชัดและสว่างขึ้นด้วย Super Night Mode

ในโหมดกลางคืนเราก็ยังได้ภาพที่สวยงาม โดยทั้ง 2 รุ่นรองรับโหมด Super Night ที่เพิ่มความสว่างให้ภาพและปรับความคมชัดให้ด้วย

เซลฟี่คมชัดระดับ 16MP

นอกจากกล้องหลังที่ถ่ายได้ดีแล้ว กล้องหน้าของทั้ง 2 รุ่นนี้ยังให้มาเหมือนกันที่ความละเอียด 16MP รวมถึงยังรองรับการปรับแต่งใบหน้าไม่ต่างจากการใช้กล้องหลังเลยครับ

สรุปการใช้งาน iQOO Z9 5G และ iQOO Z9x 5G

สรุปแล้ว iQOO Z9 5G และ iQOO Z9x 5G คือคู่หู “ขุมพลังไร้ขีดจำกัด” อย่างแท้จริง คุ้มค่าทั้งเรื่องราคาที่จับต้องได้และสเปคที่จัดเต็ม โดย iQOO Z9 5G จัดเต็มความคุ้มค่าตั้งแต่ชิป Snapdragon 7 Gen 3 ที่เป็นขุมพลังความแรงตัวท็อปในระดับ Mid Range ได้จอระดับเรือธงอย่าง AMOLED ขนาดใหญ่ 6.78 นิ้ว คมชัด 1.5K+ และลื่นไหล 144Hz อีกด้วย แถมยังให้แบตมาถึง 6000mAh ใช้งานเต็มวันพร้อมชาร์จเร็ว 80W FlashCharge และกล้องคมชัดถ่ายสวย 50MP

iQOO Z9x 5G ที่เป็นรุ่นน้องแต่สเปคคุ้มค่าด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 6 Gen 1 ใช้งานทั่วไปได้สบายๆ ไหลลื่น รวมถึงได้หน้าจอขนาดใหญ่ 6.72 นิ้ว ไหลลื่น 120Hz อีกด้วย ที่สำคัญเรื่องกล้องหลัง 50MP ถ่ายสวย คมชัด แถมยังรองรับลำโพงคู่สเตอริโอ เพิ่มพลังเสียงได้สูงสุด 300% และแบตเตอรี่ที่ชาร์จได้เร็ว 44W FlashCharge ไม่มีกั๊กครับ

ราคาและวันวางจำหน่าย

iQOO Z9 5G ราคาเริ่มต้นที่ 11,499 บาท รับหูฟัง iQOO TWS 1e มูลค่า 1,299 บาทฟรี ! (เฉพาะลูกค้าที่ซื้อตั้งแต่วันที่ 14 – 20 พ.ค. 67 นี้) และ iQOO Z9x 5G ราคาเริ่มต้นที่ 7,999 บาท โดยทั้ง 2 รุ่น จะได้รับสิทธิพิเศษ E-VIP ประกันตัวเครื่อง 2 ปี พร้อมประกันหน้าจอแตก 1 ปีแรก 1 ครั้ง ซื้อได้ทั้งทางออนไลน์ Shopee, Lazada หรือที่ vivo Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

ราคา iQOO Z9 5G

• 12GB + 256GB ราคา 12,499 บาท
• 8GB + 256GB ราคา 11,499 บาท

ราคา iQOO Z9x 5G

• 12GB + 256GB ราคา 9,999 บาท
• 8GB + 256GB ราคา 8,999 บาท
• 8GB + 128GB ราคา 7,999 บาท