รีวิว Jabra Elite Sport หูฟังไร้สายสำหรับออกกำลังกาย วัดการเต้นหัวใจ และติดตามการเคลื่อนไหวได้

โดย Wattana S.

Jabra Elite Sport (จาบร้า อีลิท สปอร์ต) หูฟังสเตอริโอไร้สายอย่างเต็มรูปแบบของจริงสำหรับการออกกำลังกาย ไม่ต้องมีสายเชื่อมต่อระหว่างหูฟังทั้ง 2 ข้างให้เกะกะเวลาใช้งาน และมีไมโครโฟนมากถึง 4 ตัว

 

Jabra Elite Sport อุปกรณ์ในกล่องประกอบไปด้วย

  • ตัวหูฟัง Jabra Elite Sport
  • กล่องชาร์จ
  • EarWings หรือปลอกหูฟัง 3 ขนาด
  • EarGels หรือจุกหูฟัง แบบซิลิโคนเจล 3 ขนาด และแบบยางโฟม 3 ขนาด
  • สาย micro USB สำหรับชาร์จไฟเข้ากล่องชาร์จ
  • คู่มือการใช้งานและใบรับประกัน

 

ดีไซน์ของตัว Jabra Elite Sport เป็นหูฟังไร้สายแนวเดียวกับ Gear IconX จาก Samsung และ AirPods จาก Apple คือไร้สายของจริง โดยตัวหูฟังมีการดีไซน์ให้สอดรับกับสรีระช่องหูของคนเรา

 

Jabra Elite Sport มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา สวมใส่สบาย ซึ่งผู้ใช้งานสามารถเลือกขนาดปลอกตัวหูฟัง (EarWings) กับจุกหูฟัง (Eargels) ให้มีขนาดพอดีกับหูของตนเองได้ โดยไม่ต้องกังวลว่าตัวหูฟังจะหลุดหรือร่วงจากหู เพราะจากการทดสอบใส่วิ่งหรือสะบัดหัวแรง ๆ ตัวหูฟังแทบไม่ขยับเลย ยังคงกระชับแน่นพอดีกับช่องหู

ตัวหูฟังมีคุณสมบัติกันน้ำได้ตามาตรฐาน IP67 คือกันน้ำได้ลึก 1 เมตร นานสูงสุด 30 นาที ซึ่งเหมาะสำหรับกันเหงื่อเวลาออกกำลังกาย ไม่แนะนำให้ใส่ไปดำน้ำหรือว่ายน้ำ

 

ตัวหูฟังข้างขวา (R) จะมีเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ เซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว (TrackFit Motion Counting Sensor – Tri-axis accelerometer) ปุ่ม Sport และมีปุ่ม Multi-function ซึ่งสามารถใช้งานเดี่ยวเพียงข้างเดียวได้โดยไม่ต้องใส่หูฟังข้างซ้าย

 

ตัวหูฟังด้านซ้าย (L) มีปุ่มสำหรับปรับระดับเสียง จำเป็นต้องใช้ร่วมกับหูฟังข้างขวา

 

Jabra Elite Sport มาพร้อมกล่องสำหรับเก็บหูฟังและชาร์จแบตเตอรี่ไปในตัว โดยตัวหูฟังใช้งานต่อเนื่องได้ 3 ชั่วโมง และตัวกล่องชาร์จไฟให้กับหูฟังได้ประมาณ 2 รอบ รวม ๆ แล้วก็ใช้งานได้ประมาณ 9 ชั่วโมง

 

สำหรับการติดตามการออกกำลังกายด้วยตัวหูฟัง Jabra Elite Sport เพียงเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่าน Bluetooth ด้วยแอพ Jabra Sport Life หรือจะใช้งานร่วมกับแอพพลิเคชั่นของนักพัฒนารายอื่นก็ได้ เช่น Strava, Endomondo, MapMyFitness, RunKeeper และ Runtastic ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของหูฟัง Jabra Elite Sport ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเก็บข้อมูลการออกกำลังกายต่อจากข้อมูลเดิมที่มีอยู่แล้วได้เลย

การเชื่อมต่อ Jabra Elite Sport กับแอพ Jabra Sport Life ทำตามขั้นตอนที่แนะนำบนแอพได้เลย โดยการกดค้างที่ปุ่ม Multi-function ที่ตัวหูฟังข้างขวาค้างไว้จนไฟสีฟ้าสว่างขึ้น แล้วเปิดเมนู Bluetooth บนสมาร์ทโฟนเพื่อเลือกเชื่อมต่อกับหูฟังชื่อ Jabra Elite Sport

สำหรับการเปิดใช้งานหูฟังข้างซ้าย ให้กดปุ่มลดเสียงค้างไว้ 3 วินาที เพียงเท่านี้ก็สามารถใช้งานและติดตามการออกกำลังกายไปพร้อม ๆ กับการฟังเพลงด้วยระบบเสียงสเตอริโอแล้ว

 

ปุ่ม Sport ที่ตัวหูฟังข้างขวา ใช้สำหรับการออกกำลังกายโดยเฉพาะ ซึ่งในแอพพลิเคชั่น Jabra Sport Life จะมีแนะนำการใช้งานให้ด้วย เช่น กดปุ่ม 1 ครั้ง เพื่อเปิดแอพ Jabra Sport Life เป็นต้น และทดสอบตัวเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจเพื่อให้แน่ใจว่าตัวเซ็นเซอร์ทำงานได้ดี

 

ในการออกกำลังกาย Jabra Elite Sport จะคอยตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจและแสดงผลแบบเรียลไทม์บนแอพ Jabra Sport Life พร้อมกับเสียงพูดในหูฟังเพื่อแจ้งผู้ใช้งานทราบข้อมูลเมื่ออัตราการเต้นของหัวใจถึงอัตราที่กำหนดและคอยนับจำนวนพร้อมบอกสถิติการออกกำลังกายให้ทราบด้วย

Jabra Elite Sport ยังมีฟีเจอร์ Audio Pass-through เพื่อความปลอดภัยสำหรับการออกกำลังกายกลางแจ้ง ซึ่งเป็นการเปิดไมโครโฟนที่ตัวหูฟังเพื่อให้ผู้ใช้งานได้ยินเสียงรอบๆ ตัวขณะฟังเพลงโดยไม่ต้องถอดหูฟังออก สามารถเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้ได้โดยการกดปุ่ม Multi-function ที่ตัวหูฟังข้างขวาติดกัน 2 ครั้ง

อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ Jabra Elite Sport ทำได้ดีไม่แพ้ฟีเจอร์สำหรับการออกกำลังกาย คือไมโครโฟนสำหรับคุยโทรศัพท์ที่ให้เสียงคมชัด และตัดเสียงรบกวนรอบข้างได้ดีมาก จากการทดสอบใช้งานในที่มีลมพัดแรง ๆ โดยเมื่อผู้ใช้งานพูดคุย คู่สนทนาจะได้ยินเฉพาะเสียงคู่สนทนา แทบไม่มีเสียงลมหรือเสียงรอบ ๆ เลย แต่หากผู้ใช้งานหยุดพูด คู่สนทนาจะได้ยินเสียงลมหรือเสียงรอบ ๆ นั่นก็หมายความว่าหากผู้ใช้งานเริ่มพูด ระบบตัดเสียงรบกวนจะเริ่มทำงานทันที

สรุปจุดเด่นของ Jabra Elite Sport

  • เป็นหูฟังไร้สายที่เหมาะสำหรับการออกกำลังกายทั่วไป มีเซ็นเซอร์สำหรับจัดเก็บข้อมูลการออกกำลัง และมีปลอกตัวหูฟัง (EarWings) กับจุกหูฟัง (Eargels) หลายขนาดให้เลือกใช้ให้พอดีกับหูของตนเองได้
  • เมื่อถอดหูฟังเก็บใส่กล่องชาร์จ ระบบจะตัดการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนอัตโนมัติ และเมื่อนำหูฟังออกมาใช้งาน ระบบจะเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเครื่องเดิมอัตโนมัติ
  • ตัวหูฟังกันน้ำได้ตามมาตรฐาน IP67
  • หูฟังมีไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนสำหรับการสนทนา

จุดสังเกตเพิ่มเติม

  • ปุ่มควบคุมแบบกดค่อนข้างใช้งานยาก
  • แบตเตอรี่อยู่ได้ราว 3 ชั่วโมง จึงไม่เหมาะกับการใส่วิ่งมาราธอนในระยะไกล ๆ ที่ต้องใช้เวลานาน

Jabra Elite Sport วางขายแล้วที่ iStudio, Jayamart, Power Buy, Power Mall, Lazada, Wemall และ www.gadgetthai.net ในราคา 9,700 บาท

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More