โหมดประหยัดพลังงานของ iPhone ไม่ใช่ฟีเจอร์ใหม่ ซึ่งฟีเจอร์นี้เปิดตัวพร้อมกับ iOS 9 เมื่อปี 2015 และมีผู้ใช้งานพบว่าการเปิดใช้งานโหมดนี้ทำให้ iPhone ทำงานช้าลง
โหมดประหยัดพลังงานของ iPhone ทำงานอย่างไร
Apple เพิ่มโหมดประหยัดพลังงานเพื่อช่วยให้ผู้ใช้ยืดอายุแบตเตอรี่ของ iPhone ได้ในกรณีที่แบตเตอรี่ใกล้หมดแล้วยังหาที่ชาร์จแบตไม่ได้ เมื่อเปิดใช้งานโหมดพลังงานต่ำ ระบบจะลดการใช้พลังงานโดยปิดฟีเจอร์ของซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์หลายๆ อย่างพร้อมกัน
แม้ว่า iOS จะแจ้งให้ผู้ใช้เปิดใช้งานโหมดประหยัดพลังงานเมื่อแบตเตอรี่ลดเหลือ 20% แต่สามารถเปิดใช้งานฟีเจอร์ดังกล่าวด้วยตนเองได้ตลอดเวลา
Apple อธิบายเกี่ยวกับฟีเจอร์นี้
โหมดประหยัดพลังงานจะช่วยลดปริมาณพลังงานที่ iPhone หรือ iPad ใช้เมื่อแบตเตอรี่เหลือน้อย เมื่อเปิดโหมดประหยัดพลังงาน iPhone หรือ iPad จะใช้งานได้นานขึ้นก่อนที่จะต้องชาร์จ แต่ฟีเจอร์บางอย่างอาจใช้เวลาในการอัปเดตหรือดำเนินการให้เสร็จสิ้นนานกว่า นอกจากนี้ งานบางอย่างอาจไม่ทำงานจนกว่าจะปิดโหมดพลังงานต่ำหรือจนกว่าจะชาร์จ iPhone หรือ iPad ถึง 80% ขึ้นไป
ผู้ใช้สามารถตรวจสอบว่าโหมดประหยัดพลังงานเปิดใช้งานอยู่หรือไม่ โดยดูจากไอคอนแบตเตอรี่ในแถบสถานะ หากเป็นสีเหลือง แสดงว่าอุปกรณ์อยู่ในโหมดพลังงานต่ำ
แล้วโหมดประหยัดพลังงานจะเปลี่ยนแปลงอะไรใน iPhone บ้าง ซึ่ง Apple ก็ได้ให้รายละเอียดรายการอย่างเป็นทางการบนเว็บไซต์ ดังนี้
- ปิดหรือลดการใช้งาน 5G (ขึ้นอยู่กับรุ่น iPhone)
- ตั้งค่าการล็อคอัตโนมัติเป็น 30 วินาที
- ลดความสว่างของจอภาพและจำกัดอัตราการรีเฟรชเป็น 60Hz บนอุปกรณ์ที่มี ProMotion
- ปิดการแสดงผลแบบ Always-On บน iPhone ที่รองรับ
- ลดเอฟเฟ็กต์
- หยุดกิจกรรมพื้นหลังชั่วคราว (เช่น การดาวน์โหลด การซิงค์ iCloud การสำรองข้อมูล และการดึงอีเมล)
แม้ว่ารายการจะไม่ได้กล่าวถึงประสิทธิภาพการทำงาน แต่โหมดประหยัดพลังงานจะทำให้เครื่องทำงานช้าลงเมื่อเปิดใช้งาน
หากจะให้ชัดเจน ชิปภายใน iPhone มีคอร์ประสิทธิภาพและคอร์ประหยัดพลังงานที่ทำงานหลายคอร์ร่วมกัน โดยในการใช้งานทั่วไป iPhone สามารถใช้คอร์ทั้งหมดของชิปได้พร้อมกัน โดยให้ความสำคัญกับคอร์ประสิทธิภาพเมื่อกำลังตัดต่อวิดีโอหรือเล่นเกม เมื่อเปิดโหมดประหยัดพลังงาน iPhone จะลดการใช้งานคอร์ประสิทธิภาพลง โดยจะพึ่งพาคอร์ประหยัดพลังงานสำหรับการทำงานเป็นหลัก ซึ่งคอร์เหล่านี้จะทำงานช้ากว่าแต่ใช้พลังงานน้อยกว่านั่นเอง
ในการทดสอบประสิทธิภาพการทำงานด้วย Geekbench 6 เพื่อดูผลคะแนนของชิป A18 Pro ของ iPhone 16 Pro Max เมื่อปิดโหมดประหยัดพลังงาน (คะแนนยิ่งสูงยิ่งดี):
ปิดโหมดประหยัดพลังงาน
- Single-core: 3341
- Multi-core: 8270
ปิดโหมดประหยัดพลังงาน
- Single-core: 1384
- Multi-core: 4093
อย่างที่ทุกคนเห็น การเปิดใช้งานโหมดประหยัดพลังงานจะทำให้ iPhone ทำงานช้าลง โดยพื้นฐานแล้ว อุปกรณ์จะทำงานได้เพียงครึ่งหนึ่งของประสิทธิภาพเมื่อเปิดโหมดนี้ ดังนั้นผู้ใช้อาจสังเกตเห็นว่าโทรศัพท์ทำงานช้าลง ขึ้นอยู่กับงานที่กำลังทำอยู่ ซึ่งบางคนอาจรู้สึกได้ชัดเจน และบางคนอาจไม่เคยทราบมาก่อนเกี่ยวกับเรื่องนี้
แต่อย่างน้อยการเปิดโหมดประหยัดพลังงานไว้ตลอดเวลาก็จะช่วยให้แบตเตอรี่ใช้งานได้นานขึ้น อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งาน การทดสอบหลายครั้งแสดงให้เห็นว่าโหมดประหยัดพลังงานมีประสิทธิภาพในการลดการใช้แบตเตอรี่ในโหมดสแตนด์บายมากกว่า หรือจะเลือกใช้โหมดประหยัดพลังงานเฉพาะเมื่อจำเป็นจริงๆ เท่านั้นก็ได้เช่นกัน โดยโหมดนี้ใช้งานได้ทั้งบน iPad, Mac และ Apple Watch อีกด้วย
ที่มา: 9to5mac