อัปเกรดชีวิตให้ดีได้ดั่งใจ แล็ปท็อปเกรดพรีเมี่ยมเก่งรอบด้านช่วยคุณได้!

ไม่ว่าจะในยุคไหน ชีวิตของคนทำงานก็ต้องมองไปข้างหน้า ต้องมองหาเส้นทางการอัปเกรดชีวิตอยู่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นการอัปเงินเดือน หาโอกาสใหม่ๆ ในสายงาน หรือจะเติมความสุขให้ชีวิตด้วยการเลือกช้อปของดีๆ ที่แมทช์กับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง

ของชิ้นหนึ่งที่หลายคนอาจมองข้ามไปในการอัปเกรดชีวิตก็คือแล็ปท็อป ที่ถ้าเลือกซื้อรุ่นดีๆ ระดับพรีเมียมมาสักเครื่อง ก็คงจะตัวเดียวจบ ให้ชีวิตดีได้ทั้งในวันทำงานและวันพักผ่อน มาถึงตรงนี้ อาจจะเริ่มสงสัยว่าแล็ปท็อปสักเครื่องนึงจะหรูหราอลังการได้ขนาดไหนกัน ลงทุนอัปเกรดไปแล้วจะชีวิตดีได้ยังไง ไปลองส่องกันทีละจุดดีกว่า

จัดเต็มทั้งภาพและเสียง ลุยงานกราฟฟิกก็ได้ ดูหนัง-ฟังเพลงก็ดี

หน้าจอแล็ปท็อปสมัยนี้ ดูเผินๆ อาจจะคล้ายกันไปหมด ยิ่งในรุ่นที่เน้นบาง-เบา (หรือที่เรียกกันว่า “อัลตร้าบุ๊ค”) ยิ่งดูสีสดใสเตะตาไปหมด แต่ถ้าหยุดดูดีๆ จะเห็นว่ามีแล็ปท็อปแค่ไม่กี่รุ่นเท่านั้นที่ทำการบ้านมาครบ จบได้ทุกงาน

หนึ่งในเทรนด์ใหม่ที่เริ่มจะเห็นกันมากขึ้นในแล็ปท็อปเกรดเอสำหรับคนทำงานตัวจริง คืออัตราส่วนหน้าจอแบบ 3:2 พร้อมดีไซน์แบบที่แทบจะไร้ขอบ ซึ่งนอกจากจะสวยหรูและเต็มตากว่าแล้ว ยังให้ขนาดหน้าจอที่สูงกว่าจอกว้างทั่วไป เหมาะสมกับการใช้งานจริงที่เรามักจะเลื่อนหน้าจอขึ้นลงเพื่ออ่านหรือเขียนคอนเทนต์ต่างๆ อยู่ทุกวัน ไม่ต้องอึดอัดกับสารพัดแถบเครื่องมือในแต่ละแอปที่มาบีบพื้นที่หน้าจอจนแคบไปถนัดตา

ถ้าอยากทำงานคล่องขึ้นไปอีก ลองเลือกแล็ปท็อปที่มีหน้าจอทัชสกรีนมาด้วย เพราะการยกมือจิ้มจอไม่ได้มีประโยชน์แค่สำหรับคนที่ไม่อยากพกเมาส์ไปไหนมาไหนเท่านั้น ในเมื่อแล็ปท็อปจอสัมผัสระดับพรีเมียมบางรุ่นเริ่มที่จะมีคำสั่งพิเศษที่ใช้งานได้ด้วยปลายนิ้ว เช่น การจับภาพหน้าจอด้วยการลากสามนิ้วลง ก่อนจะลากกรอบเพื่อเลือกพื้นที่หน้าจอที่จะบันทึกภาพได้เลย ทั้งเร็วกว่าและเป๊ะกว่า ไม่ต้องมานั่งตัดทีหลังให้เสียเวลา

ส่วนระบบเสียงก็เป็นจุดหนึ่งที่หลายคนมองข้ามในการเลือกแล็ปท็อป จนสุดท้ายต้องไปหาลำโพงมาต่อเองต่างหากให้พกลำบากกันไปอีก ถ้าจะให้ดี ลองมองหารุ่นที่จัดลำโพงมาให้แบบจบได้ในตัว ซึ่งแล็ปท็อประดับพรีเมียมบางรุ่นในระยะหลังก็ขนลำโพงมามากกว่าแค่สองตัวซ้าย-ขวาด้วยซ้ำ เลยให้เสียงที่ทั้งดัง ทั้งใส ใช้ประชุมทางไกลก็สบาย ดูหนังฟังเพลงก็กระหึ่มได้แบบไม่ต้องง้อใคร

สเปกแรง แบตอึด แต่ยังเพรียวบาง

เลือกซื้อแล็ปท็อปหรูๆ ทั้งที ก็ต้องเลือกรุ่นที่เอาอยู่ทุกงานด้วยสเปกแรงสมราคา แต่ไม่ใหญ่เทอะทะจนแทบไม่อยากหิ้วไปไหน แต่ถ้ามองสเปกแต่ละรุ่นแล้วหัวหมุนด้วยความงง ลองตัดช้อยส์แบบง่ายๆ ด้วยการถามหาเครื่องที่ใช้ซีพียูรุ่นล่าสุด เจนเนอเรชั่นที่ 10 ของอินเทล อัดแรมมาเหลือๆ ไม่ต่ำกว่า 16GB แค่นี้ก็สบายแล้ว จะเปิดกี่แอป ลุยกี่โปรเจ็กต์ ไม่มีกลัวเครื่องช้าให้งานสะดุดแน่นอน

เลือกสเปกมาแรงขนาดนี้แล้ว จะไม่มีการ์ดจอมาเติมพลังเผื่องานกราฟฟิกและตัดต่อวิดีโอคงไม่ได้ แต่จะให้แบกคอมที่สเปกสุดแรงแต่น้ำหนักแรงสุดไปไหนมาไหนด้วย ก็ไม่ไหวเหมือนกัน ทางที่ดี ต้องมองหาแล็ปท็อปที่ยังบางเบา แต่มีการ์ดจอแยกติดตัวมาเผื่อใช้งานยามจำเป็น แถมด้วยพอร์ต USB-C ที่รองรับการใช้งานกับอุปกรณ์เสริมประสิทธิภาพสูง สามารถต่อการ์ดจอจากภายนอกเพื่อแปลงร่างจากแล็ปท็อปสวยๆ ให้กลายเป็นคอมทำงานกราฟฟิกได้เต็มตัว

แต่ไม่ว่าจะแรงขนาดไหน จะเบาแค่ไหน ถ้าต้องแลกกับแบตเตอรี่ที่ความจุแค่นิดเดียวก็ไม่ไหวเหมือนกัน ผู้ผลิตแล็ปท็อปหลายแบรนด์เลือกที่จะวัดความอึดของแบตเตอรี่ด้วยการทดสอบเปิดวิดีโอความละเอียดสูงทิ้งไว้แบบยาวๆ ซึ่งถ้าจะให้ดีก็ต้องผ่านการทดสอบนี้ได้ด้วยเวลาที่ไม่ต่ำกว่า 10 ชั่วโมง เพื่อให้มั่นใจได้ว่าสามารถหิ้วไปทำงานได้แบบไม่ต้องเสียบชาร์จได้เกือบทั้งวัน

ลองสัมผัส MateBook X Pro แล็ปท็อปสุดพรีเมียม ก้าวข้ามทุกข้อจำกัด ให้ชีวิตดีได้ทุกวัน

แล็ปท็อปตัวท็อปของหัวเว่ยในตระกูล MateBook X Pro กลับมาอีกครั้งในปีนี้กับรุ่นล่าสุดสำหรับปี 2020 ที่มาพร้อมกับดีไซน์สุดหรูด้วยบอดี้โลหะทั้งตัวที่มีน้ำหนักเบาเพียง 1.33 กิโลกรัม คู่กับหน้าจอทัชสกรีน FullView Display แบบไร้ขอบที่เป็นเอกลักษณ์ของหัวเว่ย แต่คราวนี้มาในสัดส่วนกว้าง-ยาวแบบ 3:2 เพื่อความสบายตาในการทำงานโดยเฉพาะ ให้ภาพคมกริบที่ความละเอียดระดับ 3K แถมยังขนระบบเสียงมาชุดใหญ่กับลำโพง 4 ตัวที่แยกทั้งซ้าย-ขวาและเสียงทุ้ม-เสียงแหลม ให้ความกระหึ่มได้แบบครบทุกมิติ

ส่วนสเปกข้างใน จัดมาให้ไม่เบาเหมือนน้ำหนักกับโปรเซสเซอร์ Intel® Core™ i7-10510U เจนเนอเรชั่นล่าสุด ที่มาพร้อมกับชิปกราฟฟิก Intel® UHD Graphics สำหรับทำงานเบาๆ แบบประหยัดแบตเตอรี่ คู่กับการ์ดจอแยก NVIDIA® GeForce® MX250 เสริมความแรงสำหรับงานกราฟฟิกและตัดต่อวิดีโอแบบง่ายๆ หรือจะเปลี่ยนบรรยากาศไปเล่นเกมหลังเลิกงานก็ยังไหว ส่วนพอร์ต USB-C ที่ติดมาก็ใช้งานได้สารพัดประโยชน์ จะเสียบชาร์จเครื่อง ต่อหน้าจอเพิ่ม หรือต่อกล่องการ์ดจอแยกก็สบาย แถมยังจัดแบตเตอรี่มาเหลือๆ ดูวิดีโอต่อเนื่องได้นานถึง 13 ชั่วโมง และรองรับการชาร์จเร็วด้วยกำลังไฟ 65 วัตต์ แค่เสียบปลั๊กไว้ครึ่งชั่วโมงก็ยกไปใช้งานต่อได้ถึง 6 ชั่วโมงเต็ม

และในเมื่อเป็นแล็ปท็อปจากหัวเว่ย แน่นอนว่าต้องมาพร้อมกับอีกหนึ่งฟีเจอร์เอกลักษณ์อย่าง HUAWEI Share ให้เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนของหัวเว่ยได้แบบล้ำๆ แค่แตะมือถือกับตัวเครื่องก็ทำได้ทั้งควบคุมแอปสมาร์ทโฟนจากหน้าจอคอม ก๊อปปี้ข้อความหรือภาพ ย้ายไฟล์ข้ามไปมาได้สบายๆ หรือจะอัดวิดีโอหน้าจอแล็ปท็อปลงในมือถือก็ยังได้

ลองสัมผัสตัวจริงของ HUAWEI MateBook X Pro รุ่นล่าสุดได้แล้ววันนี้ที่ HUAWEI Experience Store ทุกสาขา หรือค้นหารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://consumer.huawei.com/th/laptops/matebook-x-pro-2020/