IT News
สรุป 13 ฟีเจอร์สุดล้ำของชิป Dimensity 9000+ จาก MediaTek
สรุป 13 ฟีเจอร์สุดล้ำของชิปเซ็ต Dimensity 9000+ โดย ดร. Yenchi Lee รองผู้จัดการทั่วไปหน่วยธุรกิจการสื่อสารไร้สายขจาก MediaTek ซึ่งเป็นชิปสมาร์ทโฟน 5G ศักยภาพสูงสุดเท่าที่เคยมีมาด้วยฟีเจอร์ระดับท็อปต่างๆ ที่ต้องมีในสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่ดังนี้
13 ฟีเจอร์สุดล้ำของชิป Dimensity 9000+
1. ชิปสมาร์ทโฟน 4nm-class ที่ประหยัดพลังงานสุดขีด
มาตรฐานความแรงเทียบเท่า MediaTek Dimensity 9000 โดยชิป Dimensity 9000+ ใช้กระบวนการผลิตชิป TSMC N4 (4nm-class) ที่ล้ำสุดในวงการ ช่วยให้ประหยัดพลังงานได้มากจนน่าทึ่ง
2. เตรียมพบกับความเร็วที่เหนือกว่า
ชิป Dimensity 9000+ ประกอบด้วย CPU ที่เร็วที่สุดของ MediaTek ที่อยู่ในชิปสมาร์ทโฟน โดย Cortex-X2 CPU มีความเร็วนาฬิกาที่ 3.2GHz ซึ่งทำความเร็วสูงสุดได้แรงทะลุพิกัด พร้อมให้ค่าเฟรมเรทที่เร็วยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเล่นเกมหรือกำลังใช้แอปพลิเคชั่นยอดนิยมอยู่ก็ตอบสนองได้ฉับพลัน
3. เอ็นจิ้นกราฟฟิกที่เร็วกว่าเดิม
ชิป Dimensity 9000+ ยังช่วยให้เอ็นจิ้นกราฟฟิก Mali-G710 MC10 ทำงานได้เร็วขึ้นกว่าที่เคยมีมา เพื่อยกระดับประสิทธิภาพเกมมิ่งให้เหนือขึ้นไปอีกขั้น
4. บิ๊กดาต้าแคช
แคชในชิปจำนวนมากจะเก็บข้อมูลสำคัญไว้ใกล้กับหน่วยประมวลผลมากที่สุด ซึ่งจะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานและการประหยัดพลังงานดีขึ้น
- หน่วยประมวลผลทั้งหมดสามารถใช้ได้แคช CPU L3 ขนาด 8MB ได้
- แคช GPU ที่รองรับเอ็นจิ้นกราฟฟิก Mali-G710 MC10
- แคช APU ใน APU 590
- แคช SLC (System cache) 6MB
โดย SLC ที่มีเฉพาะใน Dimensity สามารถแบ่งพาร์ทิชันได้ตามความต้องการของหน่วยประมวลผลแต่ละหน่วยแบบเรียลไทม์ ซึ่งสามารถใช้งานได้พร้อมกันมากกว่าหนึ่งตัว
5. การถ่ายวิดีโอ HDR ด้วยกล้องสามตัวพร้อมกัน
ผู้ใช้สามารถบันทึกภาพวิดีโอ HDR จากกล้องสามตัวพร้อมกันด้วยการออกแบบ HDR-ISP 18 บิตชั้นนำในวงการ อีกทั้งประสิทธิภาพของ HDR ที่มีความแม่นยำยิ่งขึ้น เนื่องจาก ISP สามารถประมวลผลได้ถึง 9 Gpixel/s นับว่าเป็นจุดแข็งที่ช่วยให้บันทึกภาพสภาพแสงที่มีค่า EV แตกต่างกันสามสภาพแสงได้ในแต่ละเฟรม
6. MediaTek APU 590
หน่วยประมวลผล AI รุ่นที่ 5 ของ MediaTek ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งานด้านต่างๆ ที่ประมวลผลด้วย AI ได้แก่ มัลติมีเดีย เกม กล้อง รวมถึงวิดีโอโซเชียล นอกจากนี้ ยังประหยัดพลังงานได้มากขึ้นถึง 4 เท่าเมื่อเทียบกับหน่วยประมวลผล AI รุ่นล่าสุด ความเชี่ยวชาญของ MediaTek ในด้านวิดีโอ ภาพ และการถ่ายภาพทำให้ชิปสามารถทำงานร่วมระหว่างหน่วยประมวล AI กับหน่วยประมวลผลอื่นๆ ได้ล้ำที่สุดเพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
7. MediaTek HyperEngine 5.0
เทคโนโลยีเกมมิ่ง HyperEngine รุ่นที่ 5 อันโดดเด่นของ MediaTek เป็นเทคโนโลยีจัดการแสงเงาหรือ Variable Rate Shading ที่เพิ่มประสิทธิภาพโดยใช้ AI ซึ่งช่วยให้ประหยัดพลังงานได้ดีกว่าเดิม รวมถึงเทคโนโลยี Raytracing SDK ซึ่งใช้ Vulkan สำหรับ Android โดยนักพัฒนาสามารถยกระดับความสมจริงของภาพที่ปรากฏในเกมได้
8. MediaTek Intelligent Display Sync 2.0
แม้ว่าอัตรารีเฟรชหน้าจอที่เร็วสุดขีดโดยใช้เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัสจะมอบประสบการณ์การใช้งานระดับเรือธง แต่ก็อาจทำให้แบตเตอรี่หมดเร็วได้เช่นกัน ด้วยเหตุนี้ เราจึงออกแบบเทคโนโลยี Intelligent Display Sync 2.0 ของ MediaTek เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดพลังงานสุดขีด โดยจะเร่งอัตราการรีเฟรชเองได้อย่างชาญฉลาดในกรณีที่จำเป็นเท่านั้น เพื่อให้คุณได้เพลิดเพลินไปกับการรับชมภาพเคลื่อนไหวอันราบรื่นแม้จะเป็นภาพที่ต้องใช้การประมวลผลสูงก็ตามหรือจะเป็นฉากที่ต้องการการตอบสนองที่ฉับไวมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการรับชมคัตซีน เลือกชุดปรับแต่งหรือเปลี่ยนแผนที่ในเกมอยู่ก็ตาม
Intelligent Display Sync 2.0 เพิ่มประสิทธิภาพในการกำหนดเวลาเฟรม ให้ไปป์ไลน์ GPU-to-display ประมวลผลได้ฉับพลันชั่วพริบตา รวมถึงลดความหน่วงระหว่างเฟรมทั้งหมดเมื่ออัตราการรีเฟรชเปลี่ยนไป อีกทั้งยังสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันด้วยการตอบสนองฉับพลันเพียงมิลลิวินาทีที่ส่งผลให้เกิดความแตกต่างในการเล่นเกมอีกด้วย
9. 5G ที่ใช้ไปได้อีกนานที่มาพร้อมกับ Super Upload
MediaTek เป็นผู้ออกแบบชิปรายแรกที่เปิดตัวโมเด็ม 5G มาตรฐาน 3GPP Release-16 โดย Release-16 เป็นมาตรฐานล่าสุดที่ควบคุมการเชื่อมต่อเซลลูลาร์ทั่วโลก โดยมาตรฐานจะทำให้ชิป Dimensity 9000+ มีคุณสมบัติโมเด็ม 5G ที่ใช้ไปได้อีกนานในอนาคต เช่น การรองรับ Super Upload (SUL) และอัปลิงก์ 5G-NR พร้อมการรวมย่านความถี่ (CA) ช่วยส่งผลให้การอัปโหลดดียิ่งขึ้น
10.ใช้งาน Sub-6GHz ได้เกิดประโยชน์สูงสุด
ด้วยประสิทธิภาพ Downlink ความเร็ว 7 Gbps อันน่าทึ่งที่พร้อมใช้งานเสมอ Dimensity 9000+ จึงนับว่ามีศักยภาพในการทำความเร็วได้สูงสุดได้อย่างน่าเหลือเชื่อซึ่งมาจากการเชื่อมต่อ Sub-6GHz ที่เชื่อมต่อได้ทุกที่ นอกจากนี้ การรวมย่านความถี่ขั้นสูงยังเหมาะสำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพของสัญญาณโดยเฉลี่ยในทุกๆ ที่ตั้งแต่ตัวเมืองชั้นในไปจนถึงชานเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ให้บริการสัญญานเซลลูลาร์ที่ยังใช้ย่านความถี่ 5G แบบ Non Contagious หรือมี Bandwidth Slice ที่มีขนาดเล็กกว่า
11. เทคโนโลยี Multimode Dual SIM Dual Active
MediaTek ยังคงเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีสองซิมอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2551 และถือเป็นอีกครั้งที่ MediaTek เปิดตัวเทคโนโลยี Dual SIM รุ่นล่าสุดที่เรียกว่า Multimode Dual SIM Dual Active นั่นก็คือ การเชื่อมต่อซิม โดยไม่ว่าจะเป็น 5G หรือ 4G ก็ตาม สามารถเชื่อมต่อและเปิดใช้งานได้ในเวลาเดียวกัน อัปเกรดสมาร์ทโฟนคู่ใจให้ทำงานได้หลายอย่างพร้อมกันและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้อย่างแท้จริง
12. Wi-Fi 6E 2×2 (BW160)
หากคุณกำลังคิดจะลงทุนซื้อโฮมเราเตอร์สักตัวที่มี Wi-Fi 6E (อาจเป็นเราเตอร์ที่ใช้ชิป MediaTek Filogic 830) ลองใช้ประโยชน์จาก Dimensity 9000+ ด้วยตัวชิปสามารถรองรับแบนด์วิดธ์ 6GHz รุ่นใหม่และมีแบนด์วิดท์สูงสุด 160MHz ซึ่งใช้ได้กับมาตรฐาน Wi-Fi 6E ล่าสุดได้ ทั้งยังให้ประสิทธิภาพที่เร็วที่สุดอีกด้วย ดังนั้นไม่ว่าคุณจะใช้ 5G หรือ Wi-Fi คุณก็จะได้ใช้ความเร็วที่แรงเร็วไร้ที่ติอยู่ตลอดเวลา
13. เหมาะสำหรับหูฟัง Ear Bud ที่มีความหน่วงต่ำ
ในบรรดาคุณสมบัติใหม่ๆ ด้านความปลอดภัยและการเชื่อมต่อของ Bluetooth ผู้ใช้จะสังเกตเห็นลิงก์เอียร์บัดที่มีความหน่วงต่ำซึ่งช่วยให้ระบบเสียงทำงานได้ฉับไว ยิ่งขึ้นเมื่อเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่มี BT 5.3-ready รุ่นล่าสุด เช่น อุปกรณ์ที่ใช้ชิปเซ็ต MediaTek Airoha เป็นต้น
ทั้งหมดนี้ก็เป็นฟีเจอร์ที่น่าสนใจของ Dimensity 9000+ ซึ่งเป็นชิปสมาร์ทโฟน 5G ศักยภาพสูงสุดเท่าที่เคยมีมาจาก MediaTek อย่าลืมกดติดตามแฟนเพจ @iPhoneDroid.net และทวิตเตอร์ @iPhone_Droid จะได้ไม่พลาดข่าวสารดีๆ ด้วยนะครับ