Smart Review
รีวิว Meizu MX5 บอดี้โลหะสุดบาง ขุมพลัง Helio X10 และกล้อง 20.7 ล้านพิกเซล
Meizu MX5 สมาร์ทโฟนที่มาพร้อมดีไซน์ตัวเครื่องโลหะมีความบางอยู่ที่ 7.6 มม. มาพร้อมขุมพลังจาก MediaTek Helio X10 ซีพียู 64 บิต Octa-core 2.2 GHz และกล้องถ่ายรูปความละเอียด 20.7 ล้านพิกเซล
สรุปข้อมูลและสเปค Meizu MX5
- ราคาเปิดตัว 10,990 บาท (มกราคม 2016)
- ขนาดตัวเครื่อง 149.9 x 74.7 x 7.6 มม.
- น้ำหนัก 149 กรัม
- หน้าจอ 5.5 นิ้ว AMOLED Full HD 1080p
- ระบบปฏิบัติการ Flyme 4.5 (Android 5.0.1 Lollipop)
- ชิปเซ็ต MediaTek Helio X10
- ซีพียู Octa-core 2.2 GHz Cortex-A53
- จีพียู PowerVR G6200 MP4
- แรม 3GB
- ความจุตัวเครื่อง 32GB
- กล้องหลัง 20.7 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง F/2.2 มีแฟลชแบบ Dual tone LED, รองรับการบันทึกวิดีโอ 4K
- กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล
- มีเซ็นเซอร์ลายนิ้วมือ
- ใช้งาน 2 ซิมการ์ด
- รองรับ 3G, 4G, Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 4.1
- GPS/A-GPS, GLONASS
- แบตเตอรี่ 3,150 mAh รองรับการชาร์จเร็ว
แกะกล่องและอุปกรณ์ต่าง ๆ
Meizu MX5 มาในกล่องกระดาษสีขาวเรียบ ๆ โดยตัวเครื่องซ่อนอยู่ในกล่องอีกชั้น อุปกรณ์ภายในกล่อง ได้แก่ ตัวเครื่อง MX5 พร้อมแบตเตอรี่ในตัว, สายเคเบิล micro USB, อะแดปเตอร์ Output 2.0A, เข็มจิ้มถาดใส่ซิม และคู่มือการใช้งาน
หมายเหตุ : ตัวเครื่องในรีวิวนี้เป็นรุ่นสำหรับทดสอบ อุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในกล่องอาจแตกต่างไปจากรุ่นที่วางจำหน่ายจริงในประเทศไทย
ดีไซน์ ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล
Meizu MX5 สมาร์ทโฟนมีตัวเครื่องเป็นโลหะแม็กนีเซียมอัลลอยด์ทั้งตัว 100% โดยกรอบด้านข้างโค้งเว้ามาทางด้านหลังตัวเครื่อง และเส้นเสาอากาศอากาศคู่คาดอยู่บริเวณส่วนบนและส่วนล่าง
ขอบโค้งเว้าด้านข้างทำให้การจับใช้งานกระชับมือ และด้วยตัวเครื่องที่บางเพียง 7.6 มม. ซึ่งบางกว่า MX4 ถึง 1.3 มม. อีกทั้งน้ำหนักที่เบาเพียง 149 กรัม
MX5 มีหน้าจอแสดงผลขนาด 5.5 นิ้ว AMOLED Full HD ความละเอียด 1080 x 1920 พิกเซล มีความหนาแน่นของจุดพิกเซลประมาณ 401 พิกเซลต่อนิ้ว (PPI) ซึ่งให้สัดส่วนหน้าจอมาประมาณ 74.5% ของสัดส่วนตัวเครื่อง โดยหน้าจอถูกครอบด้วยกระจก Gorilla Glass 3 เพื่อปกป้องหน้าจอจากรอยขีดข่วน
ขอบจอของ MX5 มีความบางมาก จึงทำให้รุ่นนี้แม้หน้าจอจะมีขนาด 5.5 นิ้ว แต่มีขนาดตัวเครื่องไม่ใหญ่มาก หากเป็นมือผู้ชายที่มีขนาดใหญ่ก็แทบจะใช้งานมือเดียวได้สบาย ๆ ด้วยขอบตัวเครื่องที่โค้งมนสอดรับกับอุ้งมือพอดี
เหนือหน้าจอมีช่องลำโพงเสียงสนทนา, เซ็นเซอร์วัดแสง, เลนส์กล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล และไฟแจ้งเตือนสถานะต่าง ๆ แบบ LED
ล่างหน้าจอมีปุ่มกดปุ่มเดียว ซึ่งใช้งานได้ทั้งเป็นปุ่มโฮม (กด 1 ครั้ง), ปุ่มย้อนกลับ (แตะเบา ๆ 1 ครั้ง) หรือกดค้างเพื่อปิดหน้าจอ และเป็นปุ่มสแกนลายนิ้วมือ mTouch เพื่อปลดล็อคหน้าจอ เรียกได้ว่าปุ่มเดียวทำได้ทุกอย่างแบบ All in One
ขอบด้านบนตัวเครื่องมีช่องสำหรับเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม. และไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน
ขอบด้านล่างมีไมโครโฟนสำหรับเสียงสนทนา, พอร์ตเชื่อมต่อขนาด micro USB และช่องลำโพง
ขอบด้านขวามีปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่ม Power สำปรับกดเพื่อปิด/เปิดเครื่อง หรือกดเพื่อปิด/เปิดหน้าจอ
ขอบด้านซ้ายมีช่องถาดใส่ซิมขนาด nano SIM ทั้ง 2 ช่อง (ไม่มีช่องใส่ microSD card)
ด้านหลังตัวเครื่องมีลักษณะผิวเรียบ พร้อมโลโก้แบรนด์ Meizu และไม่สามารถเปิดฝาหลังได้ โดยภายในมีแบตเตอรี่ขนาด 3,150 mAh
เลนส์กล้องหลังขนาดความละเอียด 20.7 ล้านพิกเซล ผลิตโดย Sony ประกอบด้วย 6 ชิ้นเลนส์ แล้วครอบเลนส์ด้วยกระจกแซฟไฟร์ พร้อแฟลช Dual LED แบบ Dual Tone และเลเซอร์ช่วยโฟกัส
อินเตอร์เฟซและฟังก์ชั่นการใช้งาน
Meizu MX5 รันระบบปฏิบัติการ Flyme เวอร์ชั่น 4.5.4 บนพื้นฐานระบบปฏิบัติการ Android 5.0.1 Lollipop ปลดล็อคหน้าจอโดยการแตะแล้วปัดขึ้นเพื่อเข้าสู่หน้าโฮม ซึ่งในหน้าโฮมจะเป็นหน้าสำหรับจัดเรียงแอพพลิเคชั่นทุกตัว เนื่องจากไม่มีในส่วนของ App Drawer และสามารถเพิ่มวิดเจ็ตต่าง ๆ ได้
เมื่อลากแถบบาร์ด้านบนลงมาจะเป็นในส่วนของการแจ้งเตือน และแผงไอคอนควบคุมต่าง ๆ (Control panel) หากลากลงอีกครั้งก็จะแสดงไอคอนทั้งหมดที่สามารถใช้งานได้ในส่วนนี้
การเรียกดูรายการแอพพลิเคชั่นที่ใช้งานล่าสุดเพื่อสลับไปใช้งานหรือปิดการใช้งาน สามารถทำได้โดยการลากจากขอบจอด้านล่างขึ้นมา แล้วแตะค้างที่ไอคอนเพื่อลากปิดการทำงานหรือแตะค้างไว้เฉย ๆ เพื่อล็อคการทำงาน หรือจะแตะที่ไอคอนเพื่อเปิดเข้าใช้งานก็ได้
ไอคอนแอพพลิเคชั่นของระบบจะเป็นสไตล์ของ Flyme OS ถ้าไม่ชอบหรืองงเวลาเลือกใช้งาน ก็สามารถเข้ามาปิดได้ในส่วนของการตั้งค่า
MX5 รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด ซึ่งทั้ง 2 ช่องสลับไปใช้งานได้ทั้ง 3G/4G โดยอีกช่องจะเป็น 2G อัตโนมัติ สำหรับ 3G รองรับคลื่น 900/2100 MHz และ 4G LTE รองรับคลื่น 1800/2100 MHz
การเชื่อมต่อไร้สายรองรับ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Dual-band, WiFi Direct และตั้งเป็นจุด Hotspot เพื่อแชร์สัญญาณได้ ส่วนการเชื่อมต่อ Bluetooth รองรับเวอร์ชั่น 4.1, A2DP และประหยัดพลังงาน (LE)
ในส่วนของการตั้งค่าอุณหภูมิสีการแสดงผลปรับโทนได้ทั้งอบอุ่น (จะออกสีเหลืองส้ม) และโคลด์ (จะออกสีขาวฟ้า)
แบตเตอรี่ของ MX5 ใส่มาให้ขนาด 3,150 mAh พร้อมโหมดประหยัดพลังงาน และรองรับการชาร์จเร็ว
จากการทดสอบชาร์จด้วยสายชาร์จกับอะแดปเตอร์ที่มากับเครื่อง โดยเปิดเครื่องไว้ และเปิดใช้งานทุกอย่างเหมือนใช้งานปกติ เริ่มแบตเตอรี่คงเหลือที่ 38% เมื่อผ่านไป 50 นาที พบว่าแบตเตอรี่เพิ่มขึ้น 36% แต่หากปิดเครื่องชาร์จพบว่าชาร์จเร็วกว่าการเปิดเครื่องเกือบเท่าตัว
ระบบลายนิ้วมือของ MX5 จดจำได้สูงสุด 5 ลายนิ้วมือ สำหรับใช้ปลดล็อคหน้าจอแทนการใส่รหัสผ่าน และตัวเซ็นเซอร์ทำงานเมื่อหน้าจอเปิดเท่านั้น คือปลดล็อคหน้าจอเมื่อกดเปิดหน้าจอก่อน หากหน้าจอปิดอยู่จะไม่สามารถสแกนลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อคได้
นอกจากนี้แล้ว MX5 ก็มีฟังก์ชั่นอัจฉริยะให้ใช้งานกันด้วย ได้แก่ การสั่งงานด้วยท่าทางขณะหน้าจอปิดอยู่ เช่น เคาะหน้าจอ 2 ครั้งเพื่อเปิดหน้าจอ เป็นต้น และฟังก์ชั่นปุ่ม SmartTouch สำหรับสั่งงานผ่านปุ่มที่ลอยอยู่เหนือหน้าจอ
เมนูการโทร จะแบ่งออกเป็น 4 ส่วน ได้แก่ รายชื่อติดต่อทั้งหมด, ประวัตการโทร/ค้นหา, แป้นตัวเลขการโทร และปุ่มเมนูเพิ่มเติม
เมนูข้อความ จะแสดงข้อความจากผู้ส่งเดียวกันในรูปแบบการแชทสนทนา (Conversation) และแป้นพิมพ์หรือคีย์บอร์ดที่มากับเครื่องเป็นของ TouchPal
แกลเลอรี่รูปภาพ จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก ได้แก่ แสดงแบบเรียงตามตามเวลาที่ถ่าย และแสดงตามอัลบั้ม
ตัวแก้ไขภาพรูปภาพสามารถเลือกใส่ฟิลเตอร์ และแก้ไขความสว่าง ความคมชัด เบลอบางส่วนของภาพ ได้ด้วย
เครื่องเล่นเพลง จะคล้าย ๆ กับ Google Play Music พร้อมระบบเสียง Hi-Fi ของ Dirac HD สำหรับปรับเสียงให้ได้เสียงดีที่สุดเฉพาะเมื่อฟังผ่านหูฟังเท่านั้น
เครื่องเล่นวิดีโอสามารถเล่นได้แบบเต็มจอ หรือย่อขนาดให้เล็กลงได้
แอพศูนย์ความปลอดภัย (Security app) ที่มากับตัวเครื่อง สำหรับจัดการระบบได้ง่าย ๆ ในคลิกเดียว ไม่ว่าจะลบไฟล์ขยะ หรือเปิดใช้งานโหมดประหยัดพลังงานก็ได้
ตรวจสอบเซ็นเซอร์ด้วย Android Sensor Box และมัลติทัช
- Accelerometer Sensor ช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้
- Light Sensor สำหรับตรวจวัดระดับความสว่างของสภาพแวดล้อม เพื่อปรับความสว่างของหน้าจอและแผงปุ่มกดให้เหมาะสม
- Orientation Sensor ระบบปรับมุมมองการแสดงผลหน้าจออัตโนมัติ
- Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน
- Gyro Sensor ระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวแบบ 3 แกน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และ
ความยืดหยุ่นหลากหลายในการควบคุม - Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
- Magnetic Sensor ตรวจวัดความเข้มสนามแม่เหล็ก
- รองรับมัลติทัชสูงสุด 10 จุด
ผลทดสอบคะแนน Benchmark และประสิทธิภาพการทำงาน
Meizu MX5 รันระบบปฏิบัติการ Flyme เวอร์ชั่น 4.5.4 (Android 5.0.1 Lollipop) ซึ่งเป็น 64-bit ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Mediatek MT6795T Helio X10 Octa-core 2.2 GHz Cortex-A53 ซึ่งเป็นซีพียู 64-bit ทั้งตัวระบบและซีพียูต่างก็เป็น 64-bit ทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพสูงสุด กับแรม 3GB และจีพียู PowerVR G6200
ผลการทดสอบ AnTuTu ในโหมด 64-bit ซึ่งเป็นการทดสอบการเข้าถึงการทำงานของแรม และประสิทธิภาพการทำงานของหน่วยประมวลผลกราฟิกหรือจีพียู ทำคะแนนรวมได้ 53,940 คะแนน ระดับคะแนนถือว่าเร็วแรงมากเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนในระดับราคาเดียวกัน
ทดสอบด้วย Geekbench 3 เพื่อทดสอบประสิทธิภาพการทำงานและการประมวลผลและหน่วยความจำแรม การทดสอบนี้จะทำการประมวลออกมาเป็นตัวเลขแบ่งออกเป็น 2 แบบคือ Single-Core และ Multi-Core หากได้คะแนนยิ่งสูงประสิทธิภาพการทำงานจะยิ่งดี โดยผลทดสอบของ Meizu MX5 ทำคะแนน Single-Core ได้ 908 และ Multi-Core ทำได้ 4,904 คะแนน ถือว่าคะแนนสูงมากในส่วนของ Multi-Core แซงเรือธงจากบางค่ายด้วยนะ!
กล้องถ่ายรูป
Meizu MX5 มาพร้อมเลนส์กล้องความละเอียด 20.7 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.2 เซ็นเซอร์ Sony IMX220 ตัวเดียวกับที่ใช้ในรุ่น Meizu MX4, MX4 Pro และ Sony Xperia Z3 แต่เพิ่มความสามารถด้วยระบบเลเซอร์ช่วยโฟกัส พร้อมแฟลช Dual Tone ถ่ายภาพได้หลายอัตราส่วน โดยขนาดสูงสุดคือ 5248 x 3936 พิกเซล (ประมาณ 20.65 ล้านพิกเซล) อัตราส่วน 4:3
การเลือกโหมดถ่ายภาพบน MX5 ใช้การปัดหน้าจอขณะเปิดกล้อง มีโหลดให้เลือกใช้งานหลากหลาย เช่น โหมดออโต้, โหมดพาโนรามา, โหมด Manual ปรับค่าต่าง ๆ ของกล้องได้เอง (โหมดนี้ใช้ชื่อว่า “คู่มือ” แปลได้ตรงมาก) นอกจากนี้ก็ยังมีโหมด Light Field ให้ได้ใช้งานกันด้วย เป็นการถ่ายภาพในระยะโฟกัสที่ต่างกันออกมาก่อน แล้วสามารถมาเลือกจุดโฟกัสภาพภายหลังจากการถ่ายได้
ตัวอย่างภาพจากโหมดพาโนรามา
ตัวอย่างภาพจากโหมดออโต้
MX5 สามารถแยกจุดโฟกัส และจุดวัดแสงออกจากกันได้ด้วย เพียงแตะค้างแล้วลากแยกออกมาจากจุดโฟกัส และมีฟิลเตอร์ให้เลือกก่อนถ่ายได้ด้วย นอกจากนี้แล้วแอพกล้องรองรับการแนบตำแหน่งแผนที่ลงในภาพถ่าย (Geo-tagging), แตะหน้าจอเพื่อเลือกจุดโฟกัส (Touch focus) และบันทึกวิดีโอได้สูงสุด 4K
ในส่วนของโหมด Manual สามารถปรับค่าความเร็วชัตเตอร์หรือความเร็วหน้ากล้องได้นานสุด 20 วินาที, ISO 100-1600, การชดเชยแสง +/-3 และระยะโฟกัส ทำให้มีอิสระในการถ่ายภาพมากขึ้นนั่นเอง แต่โหมดนี้กลับไม่มีให้กำหนดค่า White Balance
กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล มีโหมดหน้าสวยให้เลือกใช้งานสำหรับคนชอบเซลฟี่ด้วย ปรับตาโต หน้าเรียว ผิวขาวเนียน และรองรับการบันทึกวิดีโอ Full HD 1080p
สรุปจุดเด่น
- หน้าจอสี 5.5 นิ้ว AMOLED Full HD 1080p คมชัดและสีสันสวยงาม
- ระบบปฏิบัติการ Flyme 4.5 (Android 5.0.1 Lollipop)
- ชิปประมวลผล MediaTek Helio X10 Octa-core 2.2 GHz Cortex-A53 กับแรม 3GB ทำคะแนน Benchmark ได้ในระดับที่ดีมาก
- กล้องหลัง 20.7 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.2 มีแฟลชแบบ Dual tone LED, รองรับการบันทึกวิดีโอ 4K
- กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล โหมดหน้าสวยสำหรับคนรักเซลฟี่
- มีเซ็นเซอร์ลายนิ้วมือ
- ใช้งานได้ 2 ซิมการ์ด รองรับ 3G, 4G, Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 4.1
- แบตเตอรี่ 3,150 mAh รองรับการชาร์จเร็ว และจากการใช้งานถือว่าจัดการพลังงานได้ดีมาก ถ้าใช้งานปกติทั่วไปก็อยู่ได้เกือบทั้งวัน
จุดสังเกตเพิ่มเติม
- ไม่มีช่องใส่ microSD card
- ไม่รองรับ 3G/4G คลื่น 850 MHz
Meizu MX5 รุ่นที่นำเข้ามาวางจำหน่ายในไทยเป็นรุ่นความจุ 32GB กับแรม 3GB ตัวเครื่องมีสีเงิน, สีทอง และสีเทา ซื้อได้แล้ววันนี้ที่ Lazada
ขอบคุณ Meizu Thailand