Connect with us

Featured

รีวิวกล้อง Mi 11 สมาร์ทโฟนที่มาพร้อมนิยาม MOVIE MAGIC ถ่าย ปรับ แต่ง จบครบในเครื่องเดียว

Published

on

Mi 11 สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นล่าสุดของ Xiaomi ที่มาพร้อมจุดเด่นในเรื่องกล้องความละเอียดสูง 108MP และลูกเล่นที่หลากหลายทั้งภาพนิ่งและวิดีโอเลย วันนี้ทีมงาน iphone-droid.net ขอมารีวิวจัดเต็มเรื่องกล้องให้ชมกันแบบเน้น ๆ เลยว่า Mi 11 กับฉายา MOVIE MAGIC นี้จะสมคำร่ำลือแค่ไหน

สเปคกล้อง Mi 11

ก่อนจะไปรีวิวกล้องกันจริงจัง เราขอมาแนะนำสเปคกล้องของ Mi 11 สักหน่อย รุ่นนี้มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัวประกอบด้วย

  • 108MP กล้องหลัก f/1.85, PDAF, OIS
  • 13MP กล้อง Ultra Wide f/2.4 มุมกว้าง 123 องศา
  • 5MP กล้อง Tele macro f/2.4

โหมด Auto ก็เก่งแล้ว

เริ่มต้นด้วยการถ่ายภาพจากโหมด Auto กันก่อนเลย Mi 11 มาพร้อมระบบ AI ที่คอยจัดการภาพให้สวยอยู่เสมอ โดยระบบจะคอยวิเคราะห์แล้วเลือกซีนที่เหมาะกับภาพนั้น ๆ ขึ้นมา ให้เราได้ภาพที่สวยถูกใจโดยไม่ต้องปรับแต่งเยอะ แค่เล็งแล้วถ่ายได้เลยครับ ใช้ได้ทั้งกล้องหลักและกล้อง Ultra Wide เลยด้วย อย่างภาพอาหารก็ควรได้ภาพที่สีสันสวยสดดูน่ากิน ภาพวิวก็ควรมีท้องฟ้าที่สวยอิ่ม หรือคนก็ควรให้ใบหน้าที่เนียน เป็นต้นครับ

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องของ Mi 11

มีฟิลเตอร์ให้เลือกปรับ สวยขึ้นได้อีก

แต่ถ้าอยากได้ภาพแบบคุมโทนไปเลย ตัวกล้องจะมี Filter ให้เลือกใช้ด้วย เรียกว่าปรับโทนภาพให้เข้ากันไปเลย ถ่ายและจบได้จากหลังกล้องไม่ต้องไปปรับแต่งเพิ่มเติมผ่านแอปข้างนอกก็ทำได้ด้วย เลือกไอคอนรูปดาวที่มุมบนเท่านั้น อย่างในเซ็ตตัวอย่างด้านล่าง เราอยากได้โทนภาพแนวญี่ปุ่น เคลียร์ ๆ เลยเลือกใช้ฟิลเตอร์ Nature และ Amour ในการถ่าย ภาพที่ได้ก็ออกมาธีมญี่ปุ่นเลย โดยที่ไม่ต้องไปปรับแต่งเพิ่มเติมแล้วครับ ถ่ายจบก็โพสต์ได้เลย

108MP นี่ชัดแค่ไหน !?

ต้องเสริมหน่อยว่าในโหมด Auto ทั่วไปของ Mi 11 ที่เราได้เห็นด้านบนนั้นจะถูกบันทึกไว้ที่ความละเอียด 12.5MP เท่านั้น เพื่อให้เราใช้งานได้อย่างสะดวกและลดขนาดไฟล์ด้วย แต่ Mi 11 ก็ยังมีโหมด 108MP ให้เราได้ถ่ายแบบความละเอียดเต็ม ๆ ด้วยเช่นกัน เลื่อนไปที่ more และเลือก 108MP ได้เลยครับ แล้ว…108MP นี่ชัดแค่ไหนมีประโยชน์ยังไงเหรอ ?

คำตอบก็คือถ้าเรามีภาพความละเอียดสูงมาก ๆ อย่าง 108MP ไฟล์ที่ได้จะใหญ่ถึง 12032 x 9024 พิกเซล ทำให้เราสามารถมาครอปภาพทีหลังได้แบบไม่เสียรายละเอียด มีประโยชน์เวลาที่เราถ่ายภาพแบบกว้าง ๆ ก่อน แต่ถ้าอยากได้เฉพาะจุดในภาพก็ค่อยครอปเอาไม่เสียหายครับ

ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมด 108MP ของ Mi 11

ซูมก็ได้ความละเอียดนี้

อย่างที่บอกไปว่าความละเอียดของกล้องหลักนั้นมีมากถึง 108MP ทำให้เราสามารถใช้กล้องตัวนี้ซูมแบบ Hybrid ได้อย่างสวยงาม แม้จะเข้าไปใกล้ 2x – 5x ก็ยังคงให้ความคมชัดที่ดี โดยไม่ต้องพึ่งเลนส์ซูมจริง ๆ แต่ข้อแม้ก็คือต้องมีแสงที่เพียงพอด้วยนะ และเท่าที่ลองใช้งานจริงก็ถือว่าทำได้ดีเลย แม้สเปคกล้อง 3 ตัวจะไม่มีกล้องซูมมาเลย แต่คุณภาพก็เพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันแล้ว

Portrait ที่ลูกเล่นเยอะมาก

มาต่อกันที่เรื่องการถ่ายภาพ Portrait หรือภาพบุคคลที่ในยุคนี้กล้องมือถือทำได้ดีไม่แพ้กล้องใหญ่แล้ว บน Mi 11 ก็เป็นอีกรุ่นที่ทำเรื่อง Portrait ได้ดีมาก เพราะมีลูกเล่นในการถ่ายภาพคน พร้อมความสามารถในการปรับแต่งหลากหลาย อย่างฟิลเตอร์ก็มีให้เลือกเยอะเหมือนโหมด Auto คือเราเลือกได้เลยว่าอยากได้โทนไหน เลือกเสร็จถ่ายก็จบหลังกล้องได้เลย ปรับโทนสีมาแล้ว

หรือจะเพิ่มลูกเล่นให้ภาพถ่าย Portrait ได้แนวกว่าเดิมก็มี Cinematic Effects ให้เลือกเพียบ เลือกดี ๆ ก็ช่วยสร้างสรรค์ภาพให้อาร์ตกว่าเดิม สร้างเรื่องราวให้ภาพคนได้อีกแบบ

ส่วนผลลัพธ์ที่ได้จากโหมด Portrait ของ Mi 11 ก็ต้องยอมรับว่าทำออกมาได้ดีจริง ๆ ในภาพตัวอย่างชุดนี้เรายังคงใช้ฟิลเตอร์ Amour และ Nature เป็นหลักเหมือนเดิม โทนสีออกมาสวย การละลายฉากหลังออกมาได้ดีมาก เนียนเป็นธรรมชาติและไม่เวอร์วังจนเกินไปด้วย

ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมด Portrait ของ Mi 11

Tele macro แนวใหม่ของภาพระยะใกล้

กล้องอีกตัวที่เราชอบมากใน Mi 11 ก็คือ Tele macro ที่ช่วยให้เราถ่ายภาพระยะใกล้ได้ดีกว่าเดิม ด้วยระยะการถ่ายที่พอดิบพอดี ทำให้เวลาเราเล็งไปที่วัตถุนั้นได้ภาพที่สวยงาม ต่างจากกล้อง macro อื่น ๆ ที่มักเป็นระยะ 1x ทั่วไปเวลาเราเข้าใกล้วัตถุภาพจะเกิดความบวมและไม่เป็นธรรมชาติ การที่เป็นระยะ Tele 2x จะช่วยให้เราได้มิติภาพที่ดีกว่า แถมความละเอียดยังได้มา 5MP ทำได้ดีแม้ในสภาพแสงไม่เยอะนัก คุณภาพโดยรวมต้องยอมรับเลยว่าออกมาดีกว่าที่คิดจริง ๆ ครับ

ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมด Super macro ของ Mi 11

Long Exposure ถ่ายภาพแบบโปรได้ง่าย ๆ

Mi 11 นั้นเน้นเรื่องการถ่ายภาพที่หลากหลายและเพิ่มความง่ายให้กับผู้ใช้งานด้วยฟีเจอร์เจ๋ง ๆ ระดับโปรแต่ใช้งานได้ง่ายดาย ไม่ต้องมาปรับตั้งค่าให้วุ่นวาย อย่างโหมด Long Exposure อันนี้เราชอบมาก เพราะสามารถถ่ายภาพแนวลากไฟได้เพียงแค่เราถือกล้องนิ่ง ๆ และกดชัตเตอร์ ไม่ต้องมีความรู้เรื่องค่า Shutter Speed, ISO หรืออะไรเลยด้วย แถมความสะดวกก็คือจะถ่ายในสภาพแสงปกติหรือแสงน้อยก็ไหว

แต่ถ้าให้ดีจริง ๆ แนะนำให้ใช้ขาตั้งกล้องหน่อยจะได้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมสุด ๆ ในโหมดนี้ เราจะเจอตัวเลือกย่อยอีก 6 แบบคือ Moving Crowd, Neo Trails, Oil Painting, Light Paiting, Starry Sky และ Star Trails ในรีวิวนี้เราลอง Moving Crowd กับ Neo Trails มาให้ครับ อย่างแรกคือภาพที่มีการเคลื่อนไหวเป็นองค์ประกอบ เคยเห็นภาพที่มีคนยืนอยู่ตรงกลางและมีภาพคนอื่น ๆ เดินไว ๆ เป็นภาพเคลื่อน ๆ ไหมครับ นั่นแหละโหมดนี้เลย ส่วน Neo Trails ก็คือการลากไฟครับ

Clones ฟีเจอร์เจ๋ง ๆ แยกร่างได้

ส่วนฟีเจอร์นี้เป็นทีเด็ดที่เพิ่งเพิ่มเข้ามาบน Mi 11 นี้เลยกับ Clones ช่วยให้เราสร้างร่างแยกได้แบบเจ๋ง ๆ ใช้งานได้ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอเลยด้วย วิธีการใช้งานก็ไม่ยากครับ แค่คิดว่าจะถ่ายภาพไปในแนวไหน แยกร่างในจุดต่าง ๆ หรือเดินไปเรื่อย ๆ แล้วเปลี่ยนท่าทางก็ช่วยเพิ่มลูกเล่นความสนุกในการถ่ายภาพได้เหมือนกัน

การปรับแต่งภาพที่มหัศจรรย์

นอกจากเรื่องการถ่ายที่ทำได้ดีแล้ว การปรับแต่งภาพถ่ายของ Mi 11 ก็ยังทำได้ดีมาก ๆ ด้วย เพราะเราไม่จำเป็นต้องพึ่งแอปแยกจาก Play Store เลย เข้าแอป Gallery แล้วกด Edit ได้เลย ลูกเล่นนี้เพียบจริง ๆ ทั้งหารปรับฟิลเตอร์เพิ่มเติม การปรับแต่งท้องฟ้า ลบคน หรือจะลบลายน้ำ เพิ่ม Text ทำได้หมดจากในนี้ครับ

ปรับแต่งท้องฟ้าใหม่ได้ ไม่ง้อแสงจริง

ฟีเจอร์แรกที่อยากแนะนำแล้วว้าวมากจริง ๆ คงเป็น AI Sky ที่เราสามารถปรับเปลี่ยนท้องฟ้าได้เอง เคยไหมที่บางครั้งเราไปถ่ายภาพในวันที่ฟ้าหม่นเหลือเกิน ภาพออกมาตุ่น ๆ ไม่สว่างสดใสเอาซะเลย ปัญหานั้นจะหมดไปขอแค่เราถ่ายภาพมาชัดเจนแล้วมาเลือกปรับเปลี่ยนท้องฟ้าทีหลังด้วย AI Sky กดปุ่ม Edit ใน Gallery เลือก Sky จากนั้นเลือกท้องฟ้าแบบที่เราต้องการ เท่านี้เราก็จะได้ภาพท้องฟ้าที่สวยงามแบบที่เราอยากได้แล้ว

ซึ่งความพีคก็คือตัว AI จะปรับเปลี่ยนบรรยากาศในภาพให้ครบไม่ใช่แค่เปลี่ยนท้องฟ้าเป็นสีสว่างหรือมือเท่านั้น เพราะบรรยากาศรอบ ๆ ในภาพก็จะเปลี่ยนตามไปด้วย อย่างเช่นเราเลือกท้องฟ้าแบบดาวเต็ม ๆ ในภาพกลางวัน ภาพก็จะเปลี่ยนเป็นกลางคืนที่มีดวงดาวเต็มไปหมดได้อย่างสมจริง เดี๋ยวนี้มันขนาดนี้แล้วจริง ๆ !!

ลบคนออกจากภาพก็ได้

ฟีเจอร์ลบคนอันนี้ถือว่าทำออกมาได้ตอบโจทย์กับคนชอบถ่ายรูปแต่หามุมไม่ได้จริง ๆ หลายครั้งที่เวลาเราไปถ่ายรูปแล้วเจอกับคนที่เยอะ บางครั้งเวลาถ่ายภาพมาก็ติดมาแบบที่เราไม่อยากได้ บน Mi 11 มีฟีเจอร์ลบคนออกจากภาพได้อย่างแนบเนียนด้วย วิธีการใช้งานก็เหมือนเดิมครับ กด Edit ใน Gallery แล้วเลือก Erase ได้เลย ในนี้จะมีให้เราเลือกลบแบบ Manual เลือกจุดเอง หรือเลือกลบ

ปรับ Bokeh ใน Portrait ก็ได้

หรือจะเลือกปรับภาพที่ถ่ายมาจากโหมด Portrait เพิ่มเติมก็ได้ด้วย จะมาปรับจุดโฟกัสของภาพใหม่ เพิ่ม-ลดการละลายฉากหลังเพิ่มเติม ใส่เอฟเฟกต์การละลายฉากหลังเป็นแบบต่าง ๆ หรือเพิ่ม Cinematic Effects ตามหลังก็ตรงนี้ได้เลยครับ

กล้องวิดีโอ 8K

เข้าสู่เรื่องวิดีโอกันบ้าง Mi 11 รองรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุดถึง 8K 30fps เลย ให้รายละเอียดและความคมชัดที่สูงมาก เทียบกับความละเอียดของภาพนิ่งแล้วก็มากถึง 33MP เลยทีเดียวล่ะครับ

กันสั่นเทพ Steady Video Pro

นอกจากวิดีโอความละเอียดสูงแล้ว ลูกเล่นวิดีโอกันสั่นอื่น ๆ Mi 11 ก็มีให้ใช้งาน มีให้เลือกทั้งแบบ Steady Video และ Steady Video Pro ที่ใช้งานจากระบบ OIS พร้อมกับ EIS ทำให้วิดีโอที่ได้นั้นนิ่งมาก เนียนกริ๊บไปหมดเลยล่ะ

Movies Effects ลูกเล่นเสริม เท่ขึ้นอีก

Mi 11 มีลูกเล่น Movies Effects ที่เหมือนยกเอฟเฟกต์ของหนังฟอร์มยักษ์มาให้เราได้ถ่ายกันง่าย ๆ ผ่านกล้อง Mi 11 ยังไงยังงั้น ในโหมดนี้จะมีให้เลือก 5 หมวดย่อยคือ Magic Zoom, Slow Shutter, Time Freeze, Night Time Lapse และ Parallel World ในรีวิวนี้เราลองใช้ Magic Zoom การซูมเท่ ๆ กับ Parallel World โลกคู่ขนานมาบรรจบแบบในหนัง Inception

Vlog โหมดวิดีโอสั้นตัดต่อให้จบ

อีกฟีเจอร์ที่อยากแนะนำมาก ๆ บน Mi 11 ก็คือโหมด Vlog ที่จะเป็น Preset สำหรับการถ่ายวิดีโอแบบเท่ ๆ โดยในโหมดนี้จะมีตัวอย่างวิดีโอพร้อมธีมในแบบต่าง ๆ มาแนะนำให้เราถ่ายตามพร้อม Transition เจ๋ง ๆ ที่เราไม่ต้องทำอะไรมากอีกแล้ว แค่ถ่ายไปตามซีนนั้น ๆ หลังจากนั้นตัวระบบจะทำการตัดต่อมารวมกันเป็นผลลัพธ์วิดีโอสั้นแบบเจ๋ง ๆ ให้เลย คือเจ๋งมาก

Mi 11 MOVIE MAGIC

Mi 11 ก็ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่เน้นเรื่องการถ่ายภาพและวิดีโอสมชื่อ MOVIE MAGIC จริง ๆ ทั้งลูกเล่นในการถ่ายภาพที่ครบเครื่อง โหมด Auto ที่ทำงานร่วมกับ AI ได้อย่างฉลาด โหมดความละเอียดสูงที่สมกับเป็นรุ่นเรือธง โหมด Portrait ที่ถ่ายได้ง่ายและสนุก หรือจะเป็นวิดีโอก็มีทั้งคุณภาพความละเอียดสูงสุด 8K ฟีเจอร์กันสั่นเทพ โหมด Movie Effects เจ๋ง ๆ แต่เหนือสิ่งอื่นใด การปรับแต่งของ Mi 11 นั้นมีมาให้เราเลือกเพิ่มเติมได้อีกเยอะจริง ๆ ตัวอย่างภาพถ่ายและวิดีโอทั้งหมดที่เห็นในบทความนี้เราทำผ่าน Mi 11 เองทั้งหมด มีเพียงการใส่ลายน้ำเพิ่มเติมบนคอมเท่านั้น เรียกว่าเป็นเครื่องผลิตคอนเทนต์ที่ครบจบในตัวจริง ๆ ครับ Mi 11 รุ่นนี้

Android News1 ชั่วโมง ago

Dave2D ทำการทดสอบ Snapdragon 8 Elite ได้การประหยัดพลังงานสูงขึ้นถึง 43%

นับว่าเป็นการอัปเกรด...

Android News2 ชั่วโมง ago

คาดหวัง ! Ice Universe เผย One UI 7.0 จะมีแอนิเมชันและการเปลี่ยนฉากต่างๆ ที่ยอดเยี่ยมมาก

หลังจากที่เคยมีรายงา...

Android News3 ชั่วโมง ago

Redmi Note 14 5G Series ยืนยันเปิดตัวในอินเดียวันที่ 9 ธ.ค. มาพร้อมสโลแกน “Super Camera, Super AI”

Xiaomi ได้ประกาศวันเ...

Apple News4 ชั่วโมง ago

ลือ ! Apple กำลังสร้าง ‘LLM Siri’ ในปี 2026 บน iOS 19

ตามรายงานของ Bloombe...

Android News19 ชั่วโมง ago

เช็คกัน !! OPPO เผยตารางอัปเดต ColorOS 15 บน Android 15 ทั่วโลก

ในวันนี้ OPPO ได้เปิ...

Apple News19 ชั่วโมง ago

อย่างสวย ! YouTuber โชว์ดีไซน์ iPhone 17 Air กล้องหลัง 1 เลนส์ พร้อมจอ Dynamic Island

เราได้ยินมาแค่ข่าวลื...

HUAWEI IdeaHub HUAWEI IdeaHub
IT News20 ชั่วโมง ago

หัวเว่ยเผยโฉม IdeaHub รุ่นเรือธงพร้อมอัดโปรเด็ดหนุนผู้นำจออัจฉริยะเพื่อออฟฟิศยุคใหม่

หัวเว่ยเปิดตัว IdeaH...

Smart Review22 ชั่วโมง ago

รีวิว ASUS Vivobook S 14 OLED (S5406) โน้ตบุ๊คดีไซน์มินิมอล l Intel Core Ultra 7 258V l ใช้นานสุด 27 ชม. และคีย์บอร์ดมีไฟ RGB !

รีวิว ASUS Vivobook ...

Copyright © 2012 iphone-droid.net.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ ดูเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และจัดการได้ที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึก