Smart Review
รีวิว Mi Robot Vacuum-Mop 2 หุ่นยนต์ดูดฝุ่น-ถูพื้นอัจฉริยะ พร้อมแรงดูด 2700Pa ทำความสะอาดได้แม่นยำ และใช้งานได้นานกว่า 110 นาที
ใครที่มองหาเครื่องดูดฝุ่นอัจฉริยะไว้ในบ้านสักเครื่อง วันนี้เรามี รีวิว Mi Robot Vacuum-Mop 2 หุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัจริยะใหม่ล่าสุดจาก Xiaomi ที่ไม่ควรมองข้าม เพราะมีเทคโนโลยีที่จัดเต็ม ตั้งแต่การตรวจจับเส้นทางที่แม่นยำ, แรงดูด 2,700Pa เก็บฝุ่นได้เยอะ แถมยังมีคุณสมบัติโต้ตอบอัจฉริยะได้อีกเพียบ!
สเปค Mi Robot Vacuum-Mop 2
- ขนาดตัวเครื่อง : 353 × 350 × 81 มม.
- น้ำหนัก : 3.6 กก.
- ขนาดแท่นชาร์จ : 130 × 126 × 93 มม.
- Output : 19.8 ⎓1A
- แรงดันไฟฟ้า : 14.4V
- กำลังไฟฟ้า : 40W
- แรงดูด : 2,700 Pa
- ขนาดของถังน้ำอัจฉริยะ : 250 มล.
- ถุงเก็บฝุ่นความจุ : 500 มิลลิลิตร
- การเชื่อมต่อไร้สาย : Wi-FilEEE 802.11b/g/n 2.4GHz
- แบตเตอรี่ : 2900mAh (ความจุพิกัด) / 3200mAh (ความจุปกติ)
อุปกรณ์ภายในกล่อง
อุปกรณ์ที่ให้มาในกล่องของ Mi Robot Vacuum-Mop 2 ถือว่าครบถ้วน ดังนี้
- ตัวเครื่อง Mi Robot Vacuum-Mop 2
- แท่นชาร์จ
- เครื่องมือทำความสะอาด
- สายไฟ
- ถังน้ำ
- แผ่นถูพื้น
- แปรงด้านข้าง
- คู่มือผู้ใช้
ดีไซน์เล็กน้ำหนักเบาพร้อมฟังก์ชันครบถ้วน!
รีวิว Mi Robot Vacuum-Mop 2 ดีไซน์มาในทรงกลม ที่มีความแข็งแรงของงานประกอบมากๆ ครับ รวมถึงน้ำหนักที่ค่อนเบาเพียง 3.6 กิโลกลัมเท่านั้น ทำให้เวลายกหรือย้ายเครื่องก็ทำได้สบายครับ
ที่ด้านบนของตัวเครื่อง จะมีปุ่ม Power เพื่อเปิดหรือปิดเครื่อง พร้อมด้วยปุ่ม Home เพื่อสั่งการให้กลับไปยังที่ชาร์จ โดยทั้ง 2 ปุ่มนี้จะมีไฟ LED เพื่อบอกสถานะตัวเครื่องครับ
ถัดลงมาจะเป็นกล้องที่เป็นระบบนำทางด้วยภาพที่มีการอัปเกรดใหม่ให้เดินทางได้แม่นยำกว่าเดิมครับ
ที่ด้านบนเครื่องยังสามารถเปิดออกมาเพื่อถอดถังเก็บฝุ่นเพื่อนำไปทิ้งหรือทำความสะอาดได้ง่ายๆ และยังมีปุ่มรีเซ็ต Wi-Fi อยู่ด้วยครับ
ขณะที่ด้านหน้าจะมีเซ็นเซอร์อินฟราเรดเพื่อตรวจจับวัตถุตรงหน้า พร้อมด้วยแผ่นรับแรงกระแทก
ด้านหลังเครื่องจะมีช่องสำหรับระบายอากาศและเป็นช่องสำหรับลำโพงเสียง
สำหรับที่ด้านล่างของเครื่องจะมีระบบเซ็นเซอร์ต่างๆ, ล้อหลัก, ขนแปรงหลัก 0.1 มม., ช่องสำหรับใส่แปรงไฟเบอร์ 6 แฉกขนาดเล็ก รวมถึงมีเซ็นเซอร์กันตกจากที่สูงอยู่บริเวณส่วนหน้าและด้านข้างด้วยครับ
เริ่มใช้งานด้วย Mi Home และเริ่มติดตั้งอุปกรณ์
ก่อนเริ่มใช้งาน Mi Robot Vacuum-Mop 2 เราต้องดึงแผน cover ตัวเครื่องออกที่ด้านบนพร้อมจุกโฟมของทั้ง 2 ด้านครับ จากนั้นให้ใส่ใส่แปรงไฟเบอร์ 6 แฉกที่แถมมาให้ในกล่องลงไป
และทำการเสียบปลั๊กของแท่นชาร์จ โดยต้องมีพื้นที่ว่างด้านข้างฝั่งซ้าย-ขวาของแท่นชาร์จที่ 0.5 เมตร และด้านหน้า 1.5 เมตรครับ
เมื่อทำขั้นตอนข้างต้นเรียบร้อยแล้ว ก็ให้ทำการดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น Mi Home รองรับทั้ง Android และ iOS จากนั้นให้ทำการเพิ่มอุปกรณ์ “หุ่นยนต์ดูดฝุ่น-ถูพื้น Mi 2” และทำตามขั้นตอนที่ปรากฏบนหน้าจอได้เลยครับ
วิธีควบคุมและสถานะต่างๆ ของตัวเครื่อง
- กดปุ่ม Power ค้างไว้ 3 วินาที : เปิด/ปิดเครื่อง
- กดปุ่ม Power 1 ครั้ง : เริ่มทำความสะอาดหลังเปิดเครื่อง
- กดปุ่ม Home ค้างไว้ 3 วินาที : เริ่มทำความสะอาด
- กดปุ่ม Home 1 ครั้ง : กลับไปยังแท่นชาร์จ
สถานะไฟ LED บริเวณปุ่ม Home
- สีขาว : กำลังทำความสะอาด / ทำความสะอาดเสร็จแล้ว / แบตเตอรี่มากกว่า 15%
- กระพริบสีขาว : กลับแท่นชาร์จเพื่อชาร์จ (แบตปกติ)
- กระพริบสีขาวช้าๆ : กำลังชาร์จ (แบตปกติ)
- กระพริบสีส้ม : กลับแท่นชาร์จเพื่อชาร์จ (แบตน้อยกว่า 15%) / เกิดข้อผิดพลาด
- กระพริบสีส้มช้าๆ : กำลังชาร์จ (แบตน้อย)
สถานะไฟ LED ของ Wi-Fi
- ไฟติดตลอด : Wi-Fi เชื่อมต่ออยู่
- กระพริบช้าๆ : รอการเชื่อมต่อ Wi-Fi
- กระพริบเร็ว : กำลังทำการเชื่อมต่อ Wi-Fi
ระบบนำทางด้วยภาพแบบไดนามิก
ในการเริ่มดูดและกวาดฝุ่นครั้งแรกของ Mi Robot Vacuum-Mop 2 อาจจะยังมีการชนสิ่งของบนพื้นห้องหรือกำแพงอยู่ครับ เพราะอยู่ในขั้นตอนการบันทึกแผนที่ห้องอยู่ครับ แต่หลังจากที่ปล่อยให้รอบแรกทำงานจนเสร็จสิ้นเองอัตโนมัติ (ห้ามกดให้เครื่องเข้าที่ชาร์จด้วยตัวเราเอง) เส้นทางการทำความสะอาดถือว่าแม่นยำขึ้นและเริ่มไม่ชนสิ่งกีดขวางครับ
ความอัจฉริยะของการตรวจจับเส้นทางและสิ่งกีดขวางของ Mi Robot Vacuum-Mop 2 จะได้กล้องระบบนำทาง vSLAM ที่ตรวจจับแบบเรียลไทม์ และมีการวาดแผนผังที่แทบจะตรงกับลักษณะของห้องเราแบบใกล้เคียง 100% มากๆ ครับ ทั้งนี้ ตัวเครื่องยังได้ใช้หน่วยประมวลผล Quad-core Cortext-A53 เข้ามาเสริมความอัจฉริยะการประมวลผลด้าน AI มากขึ้นเช่นกัน
ทำความสะอาดล้ำลึกด้วยขนแปรงบางเพียง 0.1 มม. พร้อมแปรง 6 แฉกที่กวาดทุกเศษฝุ่น
เรื่องของเศษฝุ่นต่างๆ ที่อยู่บนพื้น Mi Robot Vacuum-Mop 2 ถือว่าจัดการให้เรียบร้อยเลยทีเดียวครับ พวกเศษฝุ่นผงเล็กๆ หรือเส้นผมจะถูกกวาดเข้าเครื่องได้แบบสบายๆ จากแปรง 6 แฉกและเศษฝุ่นขนาดใหญ่ขึ้นก็จะถูกกวาดด้วยแปรงไฟเบอร์หลักด้านล่างเครื่อง ซึ่งสังเกตได้ทันทีเวลาเราเดินบนพื้นที่ทำความสะอาดเรียบร้อยว่าจะไม่รู้สึกถึงเศษฝุ่นที่ติดที่เท้า
ปรับความแรงได้ถึง 4 ระดับ พร้อมแรงดูดมากถึง 2,700Pa
Mi Robot Vacuum-Mop 2 สามารถปรับโหมดทำความสะอาดได้ 4 โหมด ได้แก่ เงียบ, มาตรฐาน, แรง และเทอร์โบ โดยโหมดที่แรงที่สุดจะมีแรงดูดมากถึง 2,700Pa ช่วยให้บริเวณที่มีฝุ่นติดแน่นหลุดออกมาได้ง่ายๆ เลย ที่สำคัญการทำงานของเครื่องนี้ก็ครอบคลุมกับห้องขนาดใหญ่ถึง 150 ตารางเมตร
เข้าได้ทุกที่ด้วยขนาดที่เล็กและสูงเพียง 81.5 มม.
นอกจาก Mi Robot Vacuum-Mop 2 จะทำความสะอาดบนพื้นทั่วไปแล้ว ในส่วนของบริเวณใต้โต๊ะหรือโซฟาที่มีช่องว่างด้านล่างน้อยมากๆ ก็สามารถเข้าถึงได้แน่นอนเพราะมีความสูงของตัวเครื่องเพียง 81.5 มม. เท่านั้นครับ ทำให้เราไม่ต้องกังวลว่าเครื่องจะหมุนไปติดขอบโซฟาหรือโต๊ะเตี้ยเลย เรียกว่าทำความสะดวกได้ครอบคลุมทั่วทุกมุมจริงๆ
ข้ามสิ่งกีดขวางสูงไม่เกิน 20 มม. ได้ง่ายดาย
ไม่ใช่แค่จะเข้าถึงใต้โต๊ะใต้โวฟาได้เท่านั้น แต่ Mi Robot Vacuum-Mop 2 ยังสามารถข้ามสิ่งกีดขวางที่มีความสูงไม่เกิน 20 มม. ได้สบายๆ ได้แก่ ข้ามวงกบประตู, รางประตู และพรมได้แบบสบาย ไม่มีติดขัดแน่นอนครับ
แก้ไขแผนที่หรือจะให้ดูดฝุ่นจุดไหนก็ควบคุมได้เอง!
เมื่อเราปล่อยให้เครื่องทำความสะอาดและจบการทำงาน 1-2 รอบด้วยตัวเองโดยอัตโนมัติแล้ว เราจะได้แผนผังห้องของเราในแอปตามที่เกริ่นที่ข้างต้นครับ ซึ่งรายละเอียดที่ให้มาในแผนผังแม่นยำมากๆ มีการแยกสีของแต่ละห้อง อย่างที่เรารีวิวจะสีเหลืองจะเป็นห้องนั่งเล่นและเมื่อข้ามรางประตูไปก็จะเป็นสีน้ำเงินที่เป็นห้องนอนครับ โดยเราสามารถตั้งชื่อห้องได้ที่ฟังก์ชันแก้ไขชื่อในแอป Mi Home เลยครับ
ทั้งนี้เมื่อได้แผนผังมาแล้ว อีกฟีเจอร์ที่ถูกใจมากๆ เลยคือกำแพงเสมือนที่จะเป็นการจำกัดการทำงานของเครื่องตามพื้นที่ที่เราต้องการ หรือจะเลือกเป็นโซนได้เลยว่าห้ามเข้าดูดฝุ่นหรือถูพื้นครับ
หรือจะเลือกโซนเฉพาะจุดให้ไปทำความสะอาดก็ได้เหมือนกันครับ
สั่งการด้วยเสียงก็ยังได้!
เมื่อเราเชื่อมต่อกับ Mi Home ไปแล้ว เราก็ยังสั่งการด้วยเสียงผ่าน Google Assistant (ต้องเชื่อมต่อผ่านแอป Google Home) ได้เช่นกันครับ เช่น “เปิดหุ่นยนต์ดูดฝุ่น” หรือ “ชาร์จหุ่นยนต์ดูดฝุ่น” เป็นต้น ใครที่ถนัดสั่งด้วย Alexa ก็ทำได้เหมือนกันครับ
ไม่ได้แค่กวาดอย่างเดียวเพราะถูพร้อมกันไปเลย !
อุปกรณ์ถังน้ำพร้อมแผ่นถูพื้นที่แถมมาในกล่องเราก็ทำการเชื่อมได้ที่หลังเครื่องครับ โดยที่เราสามารถเติมน้ำเปล่าได้มากสุดถึง 250 มิลลิลิตร โดยตัวแผ่นถูพื้นจะทำปล่อยน้ำพร้อมถูพื้นได้อย่างอัจฉริยะ และยังทำการกวาดตามระบบเดิมได้ต่อเนื่อง และใครที่กลัวว่าพื้นจะเป็นรอยก็หายห่วงได้เลยครับ เพราะการทำงานค่อนข้างถนอมพื้นผิวเป็นอย่างดี ซึ่งจากที่ลองใช้ เราแทบไม่จำเป็นต้องมาถูพื้นให้เสียเวลา พวกคราบน้ำที่ติดอยู่บนพื้นก็ถูกถูออกไปได้ง่ายครับ
ทั้งนี้ เราก็ยังปรับระดับน้ำได้ 3 ระดับ ได้แก่ ต่ำ, ปานกลาง และสูง
เก็บฝุ่นได้เยอะไม่ต้องไปทิ้งบ่อยๆ
สำหรับถังเก็บฝุ่นที่ให้มาสามารถจุได้มากถึง 500 มิลลิลิตร สามารถดึงออกมาเพื่อไปทำความสะอาดหรือล้างน้ำได้ทันทีครับ แต่ก่อนที่จะใส่กลับเข้าไปในเครื่องก็รอให้ถังเก็บแห้งก่อนครับ
ฟีเจอร์อื่นๆ ให้มาเพียบ
นอกเหนือจากฟีเจอร์หลักๆ ที่เราได้บอกไปแล้ว ก็ยังมีฟีเจอร์อื่นที่ให้มาเยอะมากๆ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งเวลาเพื่อทำความสะอาด, ดูประวัติการทำความสะอาด, เปิดโหมดห้ามรบกวนตามเวลาที่กำหนดได้, ค้นหาเครื่องดูดฝุ่นได้ และสามารถตรวจสอบได้ว่าตัวกรอง แปรงด้านข้าง หรือแปรงหลักเหลืออายุการใช้งานกี่เปอร์เซ็นต์
ใช้งานได้นานหลายรอบ
Mi Robot Vacuum-Mop 2 มีแบตเตอรี่ในตัวที่ให้มาที่ 3200mAh ซึ่งสามารถใช้งานในโหมดมาตรฐานได้สูงสุดถึง 110 นาทีเลยทีเดียวครับ แต่ก็จะลดลงเล็กน้อยหากเปิดโหมดแรงหรือเทอร์โบ ทั้งนี้เมื่อตัวเครื่องแบตใกล้หมดก็จะกลับมาชาร์จได้เองโดยอัตโนมัติครับ และเมื่อมีแบตเพียงพอก็จะกลับไปทำงานต่อจากเดิมทันทีครับ
สรุปการใช้งาน
จากที่ได้ลองใช้งาน Mi Robot Vacuum-Mop 2 จริงๆ เหมาะมากสำหรับคนที่ไม่มีเวลาในการทำความสะอาดห้องบ่อยๆ ครับ ปล่อยให้เครื่องได้ทำงานเองโดยอัตโนมัติได้ ซึ่งก็ทำความสะอาดเศษฝุ่นและถ้ายิ่งเราสั่งถูให้ด้วยก็คือดีจริงๆ ครับ ประหยัดเวลาได้เยอะมาก จำกัดคราบน้ำต่างๆ ได้ดี และการใช้งานก็มีให้เลือกหลายฟังก์ชันและทำงานได้แม่นยำตามที่เราได้ตั้งค่าเอาไว้ในแอป Mi Home แต่สิ่งที่พอสังเกตได้เลยคือบริเวณฝุ่นที่อยู่ชิดกับกำแพงจะไม่ถูกดูดเข้าครับ (หรือถ้ามีก็น้อยมากๆ) เพราะตัวเครื่องที่ออกแบบให้เน้นการทำงานของห้องแบบกว้างๆ เป็นหลักอยู่แล้วครับ
ราคาและวันวางจำหน่าย
Mi Robot Vacuum-Mop 2 สนนราคาเพียง 8,499 บาท เริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 30 มกราคม 2565 ผ่านทาง Xiaomi store, ร้านค้าที่ร่วมรายการ และช่องทางออนไลน์ ดังนี้
- Shopee : https://bit.ly/3KSDR2c
- Lazada : https://bit.ly/32CX5rl
- JD Central : https://bit.ly/3IOsA1h
โดยจะมีโปรโมชันพิเศษตั้งแต่วันที่ 30 มกราคม – 13 กุมภาพันธ์ 2565 รับฟรี! Mi Body Composition Scale 2 มูลค่า 690 บาท