Xiaomi เปิดตัว MIUI 11 บนพื้นฐาน Android 10 พัฒนาฟีเจอร์ภายในเพียบ พร้อมสมาร์ทโฟนที่รองรับอีกหลายรุ่น

นอกจากจะเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ทั้ง Xiaomi Mi Mix Alpha และ Mi 9 Pro 5G ไปแล้ว เรื่องของระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ก็มีการอัปเดทเช่นกันอย่าง MIUI 11 ที่มาบนพื้นฐานของ Android 10 โดยมีฟีเจอร์ต่างๆ มากมาย

เริ่มด้วยการปรับไอคอนให้มีความเบาบางได้, สามารถเปิด Dark Mode ได้แล้ว พร้อมกับมี Mi Lan Pro ที่เพิ่มฟอนต์และพัฒนาด้าน Always-on Display รวมไปถึงการพัฒนาทั้งอนิเมชั่น, ธีม, วอลเปเปอร์ และในส่วนการแจ้งเตือน แถมด้วยเสียงธรรมชาติๆ เป็นนาฬิกาปลุก เช่น เสียงทะเล, ป่าไม้ หรือฝนตก เป็นต้น

ทั้งนี้ ยังมีฟีเจอร์ที่นักท่องเที่ยวน่าจะชอบ คือ Mi Go Travel ที่จะช่วยเราในการจองตั๋วเครื่องบินในสนามบินต่างๆ หรือการแปลงค่าเงิน และการประหยัดพลังงานขั้นสูงด้วย ขณะเดียวกัน เที่ยวแล้วก็ต้องมีทำงานด้วย โดย Mi Work จะมาเป็นฟีเจอร์ที่มีแอป WPS Office และช่วยเรื่องการจัดการไฟล์งานต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น

สำหรับ MIUI 11 จะเริ่มปล่อยอัปเดทเวอร์ชัน Beta ตั้งแต่วันที่ 27 กันยายนนี้เป็นต้นไป และจะเริ่มปล่อยแบบทางการในช่วงกลางเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งจะมีรุ่นต่างๆ ได้อัปเดทกัน ดังนี้

ช่วงที่ 1 (กลางเดือนตุลาคม)

• Mi 9
• Mi 9 Explorer
• Mi 9 SE
• Mi Mix 3
• Mi Mix 2S
• Mi 8
• Mi 8 Youth
• Mi 8 Explorer Edition
• Mi 8 In-display Fingerprint Edition
• Mi 8 SE
• Mi Max 3
• Redmi K20 Pro
• Redmi K20 Pro Premium Edition
• Redmi K20
• Redmi Note 7
• Redmi Note 7 Pro
• Redmi 7

ช่วงที่ 2 (ปลายเดือนตุลาคม)

• Mi 9 Pro 5G
• Mi CC 9
• Mi CC 9 Meitu Custom Edition
• Mi CC 9e
• Mi MIX 2
• Mi Note3
• Mi 6
• Mi 6X
• Redmi 7A
• Redmi 6 Pro
• Redmi Note 5
• Redmi 6A
• Redmi 6
• Redmi S2

ช่วงที่ 3 (ต้นเดือนพฤศจิกายน)

• Mi Mix
• Mi 5s
• Mi 5s Plus
• Mi 5X
• Mi 5C
• Mi Note2
• Mi Play
• Mi Max 2
• Redmi Note 8
• Redmi Note 8 Pro
• Redmi 5 Plus
• Redmi 5
• Redmi 5A
• Redmi 4X
• Redmi Note 5A