New iPad / iPad 3 (ไอแพด 3) [27 เม.ย] : เปรียบเทียบราคา และโปรโมชั่น The new iPad (iPad 3) จาก 3 ค่าย พร้อมราคา New iPad จากร้าน iStudio และ Apple Store

รวมโปรโมชั่น แพ็กเกจอินเทอร์เน็ต The new iPad (iPad 3) ราคา The new iPad (iPad 3) ในไทย ทั้ง 3 เครือข่าย Dtac, AIS และ Truemove H [อัพเดท เพิ่มราคาจาก Apple Store และ iStudio]

[Update 27-เมษายน-2555] ในที่สุด ไอแพด iPad 3 (The new iPad) ก็เปิดให้ผู้ที่สนใจ ได้จับจองเป็นเจ้าของเรียบร้อยแล้ว ผ่านทางผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ 3 รายใหญ่ในไทย นั่นก็คือ Dtac, AIS และ Truemove H โดยทาง Dtac นั้น ได้เปิดให้ลงทะเบียนแสดงความสนใจ ไปเมื่อวันที่ 24 เมษายนที่ผ่านมา ตั้งแต่เที่ยงวัน ยันเที่ยงคืน เพียงวันเดียวเท่านั้น ในขณะที่ทางฝั่งของ Truemove H ก็ไม่น้อยหน้า เปิดให้ลงทะเบียนแสดงความสนใจ เพื่อรับข่าวสารจากทางเว็บเช่นกัน ซึ่งวิธีการเช่นนี้ เสมือนกับเป็นการจอง ไอแพด iPad 3 (The new iPad) ล่วงหน้านั่นเองครับ ในขณะที่ฝั่งของ AIS ไม่มีการเปิดให้ลงทะเบียนผ่านทางหน้าเว็บไซต์ เพียงแต่แจ้งให้ทราบว่า ไอแพด iPad 3 (The new iPad) จะจำหน่ายในวันศุกร์ที่ 27 เมษายน 2555 นี้ เช่นเดียวกับ Dtac และ Truemove H

สำหรับ ไอแพด iPad 3 (The new iPad) ที่จะจำหน่ายผ่านทาง 3 โอเปอเรเตอร์นั้น ต้องขอแจ้งให้ทราบกันก่อนว่า มีเฉพาะรุ่น Wi-Fi + 4G เท่านั้นนะครับ เนื่องจากเป็นการจำหน่ายควบคู่ไปกับแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตนั่นเอง โดยมีครบทั้ง 3 ความจุ นั่นก็คือ 16 GB, 32 GB และ 64 GB ส่วนใครที่สนใจ ไอแพด iPad 3 (The new iPad) รุ่น Wi-Fi คงจะต้องไปจับจองกันที่ได้ร้าน iStudio และร้านอื่นๆ แทน

มาดูราคาเครื่อง ไอแพด iPad 3 (The new iPad) จากทั้ง 3 โอเปอเรเตอร์กันก่อนครับ

ถ้าหากใครที่เคยซื้อ iPad 2 มาก่อนแล้ว จะพบว่า ราคาของ ไอแพด iPad 3 (The new iPad) นั้น มีราคาสูงขึ้น รุ่นละ 600 บาทครับ จากเดิม iPad 2 Wi-Fi + 3G ความจุ 16GB นั้น จำหน่ายเพียงแค่ 19,900 บาทเท่านั้น ซึ่งราคานั้น แทบจะใกล้เคียง ไอแพด iPad 3 (The new iPad) เครื่องหิ้ว มาบุญครองกันเลยทีเดียว

ส่วนในขณะนี้ (26 เมษายน) ราคาจาก Apple Store และ iStudio ยังไม่ประกาศว่า จะเพิ่มขึ้นรุ่นละ 600 บาทด้วยหรือไม่ ถ้าหากมีความคืบหน้าอย่างไร จะแจ้งให้ทราบโดยทันทีครับ

โปรโมชั่น ไอแพด iPad 3 (The new iPad)

เนื่องจากราคาเครื่อง ไอแพด iPad 3 (The new iPad) จากทั้ง 3 โอเปอเรเตอร์นั้น เปิดตัวที่ราคาเท่ากัน ฉะนั้น สิ่งที่จะสามารถแยกความแตกต่างกันได้ ก็คือ แพ็กเกจอินเทอร์เน็ตนั่นเอง ลองมาดูโปรโมชั่นแพ็กเกจอินเทอร์เน็ต ไอแพด iPad 3 (The new iPad) จากทั้ง 3 ค่ายกันก่อนว่า เป็นอย่างไรกันบ้าง

โปรโมชั่น iPad 3 (The new iPad) จาก Dtac

สำหรับ Dtac นั้น ยังคงคอนเซปท์เดิม นั่นก็คือ ผ่อนสบายๆ 0% นาน 10 เดือน และมีแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตให้เลือก 2 แบบครับ นั่นก็คือ แบบเล่นเน็ตเยอะ กับ แบบเล่นเน็ตชิลๆ ซึ่งมีความแตกต่างกันดังนี้

แบบเล่นเน็ตเยอะ : เน้นแบบเหมาจ่าย เล่นได้ไม่จำกัดครับ แต่จำกัด 3G สูงสุดที่ 3GB หลังจากนั้นจะปรับลดความเร็วเหลือ 384 Kbps

แบบเล่นเน็ตชิลๆ : เน้นจ่ายตามการใช้งานครับ ใช้น้อย จ่ายน้อย ใช้เยอะ จ่ายเยอะ แต่สำหรับแพ็กเกจ Tablet 399 นั้น จำกัด 3G เพียงแค่ 1GB เท่านั้น เมื่อครบแล้วจะปรับลดความเร็วเหลือ 64 Kbps

แต่ทั้ง 2 แพ็กเกจนี้ สามารถใช้งาน dtac wifi ได้ไม่จำกัดครับ

โปรโมชั่น iPad 3 (The new iPad) จาก Truemove H

สำหรับแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตทางฝั่งของ Truemove H นั้น มีโปรโมชั่นผ่อน 0% นาน 10 เดือนเช่นเดียวกับ Dtac ครับ แต่ในส่วนของอินเทอร์เน็ตนั้น มีแบบแพ็กเกจเล่นคุ้มค่า และแพ็กเกจไม่อั้นแบบจุใจ ซึ่งดูภาพรวมแล้ว แพงกว่าทางฝั่งของ Dtac เล็กน้อยครับ

แต่ของ Truemove H จะได้เปรียบตรงที่ จ่ายแพงกว่าก็จริง ได้สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้นานกว่า เปรียบเทียบกับ Tablet 399 (Unlimited) ของ Dtac ใช้ได้แค่สูงสุด 1GB ในขณะที่ iPad 759 (Unlimited) ใช้ได้สูงสุด 3GB แต่จ่ายแพงกว่าเดิมเกือบเท่าตัว อันนี้ก็ต้องเลือกเอาครับ

อย่างไรก็ดี Truemove H ได้มอบข้อเสนอพิเศษให้กับลูกค้าทรูการ์ด ด้วยการรับส่วนลด The new iPad (iPad 3) ไปเลยทันที 2,000 บาทครับ ในส่วนนี้ ใครที่เป็นลูกค้าทรูการ์ดอยู่แล้ว ถือว่าได้เปรียบเล็กน้อย แต่จำเป็นต้องสมัครแพ็กเกจอินเทอร์จากทาง Truemove H ด้วย จึงจะได้รับสิทธิ์นี้นะครับ

โปรโมชั่น iPad 3 (The new iPad) จาก AIS

สำหรับฝั่งของ AIS นั้น ได้ปล่อยโปรโมชั่นแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตสำหรับ The new iPad (iPad 3) มาเพียงแค่ 3 แพ็กเกจเท่านั้นราคาต่ำสุดอยู่ที่ 420 บาท จำกัดที่ 1GB ครับ ถ้าหากใช้งานครบแล้ว จะปรับความเร็วเหลือแค่ 64 Kbps แต่ทาง AIS ได้นำบริการเสริมมาเพิ่มความน่าใช้มากขึ้น ด้วยการฟรี Wi-Fi แบบใช้งานไม่จำกัด และฟรี e-magazine 10 เล่ม รวมไปถึง e-newspaper 3 ฉบับ นาน 6 เดือน นอกจากนี้ ยังสามารถทดลองใช้งาน AIS Music Store ฟรีอีก 1 เดือนด้วย เรียกได้ว่า น่าสนใจมากทีเดียวครับ

ราคา The new iPad (iPad 3) จากร้าน Apple Store

สำหรับท่านที่ได้ลองเข้าไปในหน้าเว็บไซต์ Apple Store ในตอนนี้ คงจะได้ทราบกันแล้วว่า สามารถสั่งซื้อ The new iPad(iPad 3) ได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเปิดตัวที่ราคา 16,500 บาทสำหรับ The new iPad (iPad 3) รุ่น Wi-Fi ความจุ 16GB ครับ โดยใช้เวลาการจัดส่งประมาณ 1 สัปดาห์ ท่านใดที่ไม่อยากไปต่อคิว ไม่ได้รีบร้อน การสั่งจองผ่าน Apple Store ถือว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจครับ

ราคา The new iPad (iPad 3) จากร้าน iStudio

ส่วนราคา The new iPad (iPad 3) ที่จะจำหน่ายโดย iStudio นั้น ล่าสุด มีข้อมูลอัพเดทจากหน้า Fanpage ของ iStudio พบว่าราคาเท่ากับที่จำหน่ายโดย 3 โอเปอเรเตอร์ครับ ตามรูปด้านบน แต่สำหรับร้าน iStudio นั้น จะมีจำหน่ายครบทุกรุ่น ทั้งรุ่น Wi-Fi และรุ่น Wi-Fi + 4G โดยบุคคลที่มาตอบคำถามนั้น เป็นพนักงานท่านหนึ่งที่ทำงานในร้าน iStudio นั่นเอง

หลายท่านอาจจะสงสัยว่า ไอแพด iPad 3 (The new iPad) นั้น ที่เพิ่มการรองรับเครือข่าย 4G แต่ในขณะที่ประเทศไทยเรา มีเพียงแค่เครือข่าย 3G เท่านั้น จะสามารถใช้งาน The new iPad (iPad 3) ได้หรือไม่ ขอบอกว่า ใช้ได้นะครับ แต่สำหรับการใช้งานในประเทศไทย จะเป็นการใช้งานผ่านเครือข่าย 3G นั่นเองครับ

“The New iPad (iPad 3) หน้าจอแบบ Retina Display ละเอียดขึ้นกว่าเดิม ชิป Apple A5X แบบ Dual-core Processor และประมวลผลภาพเร็วขึ้นด้วย GPU แบบ Quad-core Processor พร้อมกล้องละเอียดขึ้น 5 ล้านพิกเซล”

[8-มีนาคม-2555] สิ้นสุดการรอคอยเสียทีครับ กับการเปิดตัว ไอแพด (iPad) รุ่นใหม่ ของปี 2012 ที่มีชื่ออย่างเป็นทางการแบบสั้นๆ ว่า ไอแพด iPad 3 (The new iPad) ซึ่ง ไอแพด iPad 3 (The new iPad) ก็เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้ว เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2012 ที่ผ่านมา เวลา 10.00 น. ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา หรือเวลาประมาณ ตีหนึ่ง ตามเวลาในประเทศไทย

สถานที่จัดงานในครั้งนี้ก็คือ Yerba, Buena Sanfrancisco

Tim Cook ซีอีโอของ Apple นำทีมมาเปิดงานด้วยตนเอง

สำหรับรูปลักษณ์การออกแบบ ไอแพด iPad 3 (The new iPad) นั้น สิ่งแรกที่เราสังเกตเห็นก็คือ หน้าตาของ ไอแพด iPad 3(The new iPad) นั้น มีหน้าตาเหมือนกับ ไอแพด 2 (iPad 2) แทบจะทุกประการ อีกทั้ง ไอแพด iPad 3 (The new iPad) ยังมีหน้าตาคล้ายกับ ภาพหลุด จากเว็บ MIC GADGET ที่มาเป็นคลิปวิดีโอ เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมานี้อีกด้วย เรามาดูกันว่า ไอแพดiPad 3 (The new iPad) มีความโดดเด่นในด้านใดบ้าง และ ไอแพด iPad 3 (The new iPad) จะเหนือกว่า ดีกว่า ไอแพด 2(iPad 2) อย่างไร มาดูกันครับ

การออกแบบตัวเครื่อง ของ iPad 3 (The new iPad)

หน้าจอแบบ Retina Display ชัดขึ้น อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

สำหรับใครที่เคยคิดว่า ไอแพด 2 (iPad 2) ก็ชัดอยู่แล้ว ดีอยู่แล้ว อาจจะต้องเปลี่ยนใจ เมื่อเจอ The new iPad (iPad 3) ครับ เนื่องจาก The new iPad (iPad 3) ใช้หน้าจอแบบ Retina Display ที่มีความละเอียดมากกว่าบน ไอแพด 2 (iPad 2) ถึง 4 เท่า ทำให้ The new iPad (iPad 3) มีระดับความละเอียดของหน้าจออยู่ที่ 2048 x 1536 พิกเซล ความหนาแน่นพิกเซลที่ 264 ppi ให้สีที่คมชัดขึ้น 44% ซึ่งละเอียดกว่า ความละเอียดระดับ HDTV เสียอีก และทำให้มุมมองของภาพกว้างขึ้นอีกด้วยครับ

เปรียบเทียบ ความละเอียดบน The new iPad (iPad 3) กับ HDTV

ชิป Apple A5X พร้อมหน่วยประมวลผลภาพ (GPU) ระดับ Quad-core Processor

The new iPad (iPad 3) ใช้ชิป Apple A5X ซึ่งเป็นชิพเซ็ทแบบ Dual-core Processor ในขณะที่ระบบประมวลผลภาพ หรือ GPU นั้น เป็นชิพเซ็ทระดับ Quad-core Processor ที่สามารถรองรับกราฟฟิค กับหน้าจอความละเอียดแบบ Retina Display ได้เป็นอย่างดี

โดย PowerVR SGX543MP4 GPU บน The new iPad (iPad 3) นั้น มีประสิทธิภาพในการประมวลผลเร็วกว่าบน ไอแพด 2 (iPad 2) ถึง 4 เท่าเลยทีเดียว

แบตเตอรี่ รองรับการใช้งานได้ 10 ชั่วโมงเท่าเดิม

ไม่น่าเชื่อว่า ด้วยคุณสมบัติที่เหลือล้นของ The new iPad (iPad 3) ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอแบบ Retina Display และ GPU ระดับ Quad-core Processor จะสามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 10 ชั่วโมงเท่าเดิม แต่ถ้าหากใช้งานผ่านเครือข่าย 4G จะใช้งานได้ประมาณ 9 ชั่วโมงครับ

กล้องด้านหลัง ละเอียดขึ้น 5 ล้านพิกเซล

The new iPad (iPad 3) น่าจะถูกใจคนที่ชื่นชอบการถ่ายรูปกันอย่างแน่นอนครับ จาก ไอแพด 2 (iPad 2) ที่มีกล้องละเอียดเพียง 0.7 ล้านพิกเซล กลายเป็น The new iPad (iPad 3) ที่มีกล้องด้านหลัง ความละเอียดถึง 5 ล้านพิกเซล ที่มีชื่อว่า iSight Camera เรียกได้ว่า หน้าจอชัดยังไม่พอ รูปถ่ายที่ได้ ยังคมชัดอีกด้วยครับ

สำหรับเลนส์บน The new iPad (iPad 3) นี้ เป็นเซ็นเซอร์แบบ Backside illumination sensor ที่ให้ภาพที่คมชัด แม้ว่าจะอยู่ในสภาวะแสงจ้า หรือแสงน้อยก็ตาม โดยเลนส์ที่ใช้ประกอบนั้น เป็นเลนส์ทั้งหมด 5 ชิ้นครับ (five-element lens) ประกอบออกมาเป็นเลนส์ 1 ชุด และมีขนาดรูรับแสงกว้างที่ ƒ/2.4 พร้อม Hybrid IR Filter สำหรับการกรองคลื่นแสงอินฟราเรด ทำให้ถ่ายภาพได้สีสดมากขึ้น โดยสามารถพบได้ทั่วไปตามกล้อง DSLR อยู่แล้ว

ส่วนการถ่ายภาพวิดีโอ สามารถบันทึกได้ขนาดสูงสุดที่ Full HD 1080p ครับ

รองรับ Smart Cover

ใครที่มี Smart Cover อยุ่แล้ว ไม่ต้องเสียดายครับ เพราะ Smart Cover บน ไอแพด 2 (iPad 2) นั้น สามารถใช้กับ The new iPad (iPad 3) ได้เช่นกัน

ความสามารถใหม่ของ iPad 3 (The new iPad)

รองรับเครือข่าย 4G LTE

เพิ่มประสิทธิภาพในการท่องโลกอินเทอร์เน็ตได้เร็วขึ้น ด้วยคุณสมบัติในการรองรับเครือข่าย 4G LTE ที่สามารถดาวน์โหลดได้เร็วถึง 73 Mbps เลยทีเดียวครับ นอกจากนี้ The new iPad (iPad 3) ยังรองรับเครือข่าย GSM/UMTS ที่สามารถใช้งานได้ทั่วโลกอีกด้วย

สามารถเป็น Hotspot ได้แล้ว

อีกหนึ่งความสามารถ ที่ใครหลายๆ คนต้องการ เพราะในที่สุด The new iPad (iPad 3) ก็สามารถใช้เป็น Personal hotspot ได้เป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ โดยสามารถเชื่อมต่อได้สูงสุดถึง 5 อุปกรณ์ด้วยกัน ผ่านทาง Wi-Fi, Bluetooth หรือ USB

มี Dictation ในตัว

ถ้าหากใครที่ใช้ ไอโฟน 4S (iPhone 4S) มาแล้ว คงจะรู้จักฟังก์ชั่น Dictation กันเป็นอย่างดี โดย Dictation นี้ จะทำหน้าที่พิมพ์แทนเรา เพียงแค่พูดครับ ซึ่งวิธีการใช้งานก็ง่ายๆ อยากให้ The new iPad (iPad 3) พิมพ์คำว่าอะไร ก็กดปุ่ม Dictation แล้วพูด ระบบจะทำการพิมพ์ให้เราโดยอัตโนมัติ ซึ่งเป็นวิธีการที่สะดวก และปลอดภัยอย่างมาก ถ้าหากใช้งานขณะขับรถอยู่ครับ

โดย Dictation สามารถรองรับได้ 6 ภาษา นั่นก็คือ ภาษาอังกฤษ (สหรัฐอเมริกา), ภาษาอังกฤษ (สหราชอาณาจักร),​ภาษาอังกฤษ (ออสเตรเลีย), ภาษาฝรั่งเศส, ภาษาเยอรมัน และภาษาใหม่ ภาษาญี่ปุ่นครับ

แอพพลิเคชั่นใหม่ บน iPad 3 (The new iPad)

iPhoto

จากโปรแกรมยอดฮิตบน Mac ได้มาสู่ The new iPad (iPad 3) เป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ กับ iPhoto หรือโปรแกรมจัดการภาพถ่าย ที่สามารถจัดการกับภาพถ่ายได้อย่างง่ายดาย และเป็นหมวดหมู่ สามารถเลือกภาพมาเปรียบเทียบกันได้ หรือตั้งเป็น favourite ก็สามารถทำได้ง่ายๆ แค่ปลายนิ้วสัมผัสครับ

นอกจากนี้ iPhoto ยังสามารถแก้ไขภาพถ่ายได้ง่ายๆ โดยที่เราไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้าน Photoshop ครับ อยากปรับสีจุดไหน อยากแก้ไขภาพตรงไหน ก็แค่แตะ แล้วลากขึ้นลงตามใจชอบ

ภาพถ่ายธรรมดาๆ คงจะดูเชยไปแล้ว มาเพิ่มลูกเล่นให้กับภาพถ่าย ด้วยเอฟเฟกซ์บน iPhoto กันครับ

ปิดท้ายการตกแต่งภาพขั้นตอนสุดท้าย ด้วย Brushes สำหรับการแต่งภาพเฉพาะจุด เช่น อยากให้ภาพสว่างขึ้น คมชัดชึ้น หรือมืดลง หรือให้ภาพมีลักษณะนวล เลือก Brushes ที่ต้องการ แล้วปาดลงไปบนจุดที่ต้องการจะแก้ไขครับ

เมื่อเราทำการตกแต่งภาพถ่าย ด้วย iPhoto เสร็จเรียบร้อยแล้ว เรามาสร้างเรื่องราวให้กับภาพต่างๆ เหล่านี้ ด้วย Photo Journals ครับ ง่ายๆ เพียงแค่เลือกกลุ่มภาพที่ต้องการจะสร้าง จากนั้น iPhoto จะทำการ จัดการเรียงภาพต่างๆ เหล่านี้ให้โดยอัตโนมัติ ซึ่งเราสามารถเคลื่อนย้ายภาพได้ตามใจชอบ พร้อมกับเพิ่มในส่วนของ Maps, ปฏิิทิน และสภาพอากาศได้ เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว สามารถอัพโหลดขึ้นแชร์บน Facebook, Twitter, Flickr หรือจะส่งเป็นอีเมล ไว้อวดเพื่อนๆ ได้เลยทันทีอีกด้วย

สำหรับราคาของ iPhoto จำหน่ายอยู่ที่ $4.99 ครับ

ราคา iPad 3 (The new iPad)

ราคา The new iPad (iPad 3) ตอนเปิดตัวนั้น เท่ากับราคา ไอแพด 2 (iPad 2) ตอนเปิดตัว โดยมี 3 ความจุให้เลือกคือ 16 GB, 32 GB และ 64 GB และ 2 โมเดลให้เลือก นั่นก็คือ Wi-Fi และ Wi-Fi + 4G โดยมีราคาเป็นดังนี้ครับ

The new iPad (iPad 3) รองรับ 3G หรือไม่?

ถึงแม้ว่า The new iPad (iPad 3) จะเพิ่มการรองรับ 4G LTE (ในต่างประเทศ) ก็ตาม แต่การรองรับเครือข่าย 3G ในบ้านเราThe new iPad (iPad 3) ก็ยังสามารถรองรับได้อยู่ครับ ไม่ต้องเป็นห่วงว่า ถ้าหากซื้อมาใช้งานจะใช้งานไม่ได้ ซึ่งถ้าหากบริเวณที่ใช้งานอยู่นั้น ไม่มีสัญญาณ 3G ก็จะปรับเป็นสัญญาณ Edge แทนนั่นเองครับ

ไอแพด 2 (iPad 2) ราคาลดลง 3,000 บาท

ตามธรรมเนียมครับ เมื่อมีการออก iPad รุ่นใหม่ iPad รุ่นก่อนหน้า จะมีการปรับราคาลง รุ่นละ $100 หรือประมาณ 3,000 บาท ทำให้ ไอแพด 2 (iPad 2) นั้น จำหน่ายที่ราคา $399 หรือประมาณ 12,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi และ $529 หรือประมาณ 15,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi + 3G และเหลือเฉพาะความจุ 16 GB อีกด้วยครับ

 อ่านต่อ บทสรุป ราคา The new iPad (iPad 3) คลิ๊กที่นี่

iPad 3 (The new iPad) วางจำหน่าย 16 มีนาคมนี้

The new iPad (iPad 3) จะวางจำหน่ายครั้งแรก ในวันที่ 16 มีนาคมนี้ ใน 10 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา, แคนาดา, สหราชอาณาจักร, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, สวิตเซอร์แลนด์, ญี่ปุ่น, ฮ่องกง, สิงคโปร์ และออสเตรเลีย

และ The new iPad (iPad 3) จะวางจำหน่ายเพิ่มอีก 26 ประเทศ ในวันที่ 23 มีนาคม นี้ ได้แก่ ออสเตรีย, เบลเยี่ยม, บัลแกเรีย, สาธารณเช็ค, เดนมาร์ก, ฟินแลนด์, กรีซ, ฮังการี, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, อิตาลี, ลิกเตนสไตน์, ลักเซมเบิร์ก, มาเก๊า, แม็กซิโก, เนเธอร์แลนด์, นิวซีแลนด์, นอร์เวย์, โปแลนด์, โปรตุเกส, เปอร์โต ริโก้, โรมาเนีย, สโลวาเกีย, สโลวาเนีย, สเปน และสวีเดน

iPad 3 (The new iPad) วางจำหน่ายในไทย 27 เมษายนนี้

สิ้นสุดการรอคอย สำหรับสาวก The new iPad (iPad 3) ในประเทศไทยแล้ว เพราะล่าสุด Apple ได้ออกประกาศแล้วว่า ในวันที่ 27 เมษายนนี้ จะมีการวางจำหน่าย The new iPad (iPad 3) ในประเทศไทยอย่างแน่นอนแล้ว โดยจะวางจำหน่ายพร้อมกันกับอีก 8 ประเทศที่เหลือ ซึ่งได้แก่
โคลัมเบีย, เอสโตเนีย, อินเดีย, อิสราเอล, ลัตเวีย, ลิทัวเนีย, มอนเตเนโกร และแอฟริกาใต้ ครับ

ส่วนก่อนหน้านั้น 20 เมษายน The new iPad (iPad 3) จะวางจำหน่ายเพิ่มอีก 12 ประเทศ ซึ่งได้แก่ เกาหลีใต้, บรูไน, โครเอเชีย, ไซปรัส, สาธารณรัฐโดมินิกัน, เอลซัลวาดอร์, กัวเตมาลา, มาเลเซีย, ปานามา, เซนต์ มาร์ติน, อุรุกวัย และเวเนซูเอลา