น่าใช้มาก! คอนเซ็ปต์ Lock screen ใหม่ของ iPhone มี AOD, การแจ้งเตือนดีขึ้น, เพิ่มทางลัดได้มากขึ้น

Lock Screen ของ iPhone นาน ๆ ทีจะปรับรูปแบบใหม่ย้อนไปตั้งแต่ iOS 6 ที่ใช้รูปแบบคลาสสิค Slide to Unlock และมีทางลัดเปิดเข้ากล้อง iOS 8 เพิ่มทางลัดให้ตอบข้อความจากหน้า Lock screen ได้ iOS 10 เพิ่มทางลัด Widget เมื่อเลื่อนหน้าจอไปทางขวา และ iOS 11 ก็เพิ่มระบบ Haptic ให้เราแตะเปิดไฟฉายหรือเข้ากล้องได้

และมาถึงปี 2022 แบบนี้ก็อาจจะถึงคราวที่ Apple จะต้องอัปเกรด Lock screen บน iOS ใหม่เสียที ล่าสุดทาง 9to5mac ก็ได้ทำภาพคอนเซ็ปต์ของ Lock screen ที่อยากให้มีบน iOS รุ่นใหม่ออกมาให้เรารับชม ซึ่งเป็นแนวคิดที่น่าสนใจมาก ๆ อาทิ

• นาฬิกาแบบใหม่
• ทางลัดเพิ่มขึ้นและปรับแต่งได้
• ใส่ Widget ใน Lock Screen
• Always On Display
• Morning Summary

นาฬิกาแบบใหม่

ตั้งแต่ iOS 9 เป็นต้นมานาฬิกาบน iPhone นั้นใช้ฟอนต์ San Francisco มาตลอด ในแนวคิดนี้จึงเปลี่ยนรูปแบบฟอนต์ของนาฬิกาไปใช้ฟอนต์ของ Apple Watch ที่มีความ minimal มากขึ้น และยังมีดีไซน์ 2 แบบให้เลือกคือแบบเข็มและดิจิทัลด้วย สวยเปลี่ยนสไตล์ไปได้เยอะเลย

เพิ่มตัวเลือกทางลัด และการปรับแต่ง

บน iOS 15 ปัจจุบันจะมีทางลัดให้ใช้แค่เปิดไฟฉายและเปิดเข้ากล้องเพียง 2 อย่างเท่านั้น ในแนวคิดนี้จึงเพิ่มให้มีทางลัดได้สูงสุด 4 อย่าง และเราสามารถเลือกได้เองด้วยว่าจะให้เป็นทางลัดอะไร ไม่ใช่แค่ไฟฉายกับเข้ากล้องอีกต่อไปครับ

ใส่ Widget ในหน้า Lock screen ได้

ตั้งแต่ iOS 14 ขึ้นไปเราสามารถเลือก Widget มาใส่ในหน้า Home screen ได้ ซึ่งในแนวคิดนี้ก็จะให้เราเพิ่ม Widget ลงบนหน้า Lock screen ได้ด้วย อาทิ ใส่ Widget สภาพอากาศเพื่อดูได้แบบทันที หรือใส่ Widget ปฏิทินเพื่อดูตารางงานได้สะดวกขึ้น

Always On Display ที่หลายคนอยากได้

และแน่นอนแนวคิดนี้ก็ยังมีเรื่อง AOD หรือ Always On Display ที่หลายคนอยากให้มีมาสักที ซึ่งจะเป็นหน้านาฬิกาแบบเดียวกับที่เราตั้งไว้ที่หน้า Lock screen เลยครับ

Morning Summary

และปิดท้ายกับฟีเจอร์สรุปแจ้งเตือนในตอนเช้าที่เหมือนการแจ้งเตือนก่อนว่าก่อนจะเริ่มเช้าวันใหม่นั้น เรามีภารกิจอะไรต้องทำบ้าง สภาพอากาศในวันนี้จะเป็นอย่างไร เป็นต้นครับ

ก็ถือว่าเป็นไอเดียที่น่าสนใจเลยครับ เชื่อว่าผู้ใช้ iPhone คงอยากได้ความแปลกใหม่ในหน้า Lock screen บน iOS เวอร์ชั่นใหม่ ๆ เหมือนกัน เห็นแบบนี้แล้วก็อยากให้ Apple หยิบไอเดียไปใช้จริงบ้างเหมือนกันเนาะ

ที่มา : 9to5mac