Nothing เปิดตัว Nothing Ear (stick) หูฟังไร้สายรุ่นใหม่อย่างเป็นทางการตามนัด มาพร้อมจุดเด่นในเรื่องดีไซน์เหมือนเดิม แต่ก็มีสเปคและคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมควบคู่กันไปด้วย มีรายละเอียดดังนี้เลยครับ
ดีไซน์เคสชาร์จของ Nothing Ear (stick) จะมาในทรงแท่งตามชื่อได้แรงบันดาลใจมาจากลิปสติกและยังคงเอกลักษณ์ของแบรนด์ด้วยดีไซน์แบบโปร่งใส เห็นถึงหูฟังภายใน รูปแบบการเปิดใช้งานก็จะเป็นการบิดเพื่อดึงฐานของตัวเคสออกมานั่นเองครับ

ส่วนตัวหูฟัง Nothing Ear (stick) ยังคงโดดเด่นด้วยหูฟังสีขาวพร้อมก้านยื่นออกมาเล็กน้อยและดีไซน์แบบโปร่งใสคล้าย Ear (1) แต่รอบนี้มาในทรง Half in-ear คือไม่มีจุกซิลิโคนมานั่นเองครับ

Nothing Ear (stick) จะไม่มีระบบตัดเสียงรบกวน (ANC) มาให้ด้วย แต่ก็จะมีฟีเจอร์ Clear Voice สำหรับคุยโทรศัพท์ใช้ประโยชน์จากไมโครโฟน 3 ตัวในหูฟังแต่ละข้าง ตัวหูฟังมาพร้อมกับระบบควบคุมแบบสัมผัสสำหรับเล่น หยุดชั่วคราว ข้าม เรียกผู้ช่วยอัจฉริยะและควบคุมระดับเสียง

ในเรื่องคุณภาพเสียง Nothing Ear (stick) มาพร้อมไดรเวอร์ขนาดใหญ่ถึง 12.9 มม.เพิ่มเสียงเบสให้แน่นขึ้น ส่วนแบตเตอรี่จากตัวหูฟังสามารถฟังต่อเนื่องได้นาน 7 ชม.และเมื่อรวมกับเคสชาร์จแล้วจะได้สูงสุดถึง 29 ชม.เลยทีเดียวครับ

ฟีเจอร์อื่น ๆ ในเรื่องการเชื่อมต่อก็รองรับ Google Fast Pair ที่เพียงเปิดเคสชาร์จแล้วนำมาใกล้ ๆ สมาร์ทโฟน Android ก็จะมี Pop Up ให้เชื่อมต่อได้ทันที และพิเศษเมื่อจับคู่กับ Nothing Phone (1) จะมีฟีเจอร์พิเศษหลายอย่าง เช่น การควบคุมผ่าน Gesture Control, การปรับการตั้งค่า EQ และฟังก์ชัน Find My Earbuds ส่วนสมาร์ทโฟน Android อื่น ๆ หรือ iOS จะต้องดาวน์โหลดแอป Nothing X เพื่อใช้ฟีเจอร์ดังกล่าวแทนครับ

Nothing Ear (stick) เปิดราคามาที่ $99 หรือประมาณ 3,800 บาท และจะเริ่มวางจำหน่ายในกว่า 40 ประเทศวันที่ 4 พฤศจิกายนนี้ครับ ส่วนบ้านเราก็วางจำหน่ายผ่าน Carnival เช่นเคย แต่ราคาคงต้องรอเปิดตัวกันอีกทีในไทยครับ
ที่มา : GSMArena